ศศิยืนตัวแข็ง มือยังจับสมุดบันทึกโบราณไว้แน่น
เสียงกระซิบที่เล็ดรอดออกมาจากแบตเตอรี่สีดำยังดังก้องในหัว
“อ่านต่อสิ…เจ้าจะได้ครองพลังนิรันดร์”
แต่แทนที่เขาจะเปิดอ่านต่อ เขาค่อย ๆ ปิดสมุดลง ลมหายใจหนัก
“ไม่…ข้าไม่ใช่คนโง่แบบแก” เขาพึมพำตอบกลับในความมืด
เขาเก็บสมุดใส่กระเป๋า แล้วเดินถอยห่างออกจากโต๊ะโดยไม่แตะแบตเตอรี่นั้นเลย
ไฟแดงยังคงกะพริบเหมือนหัวใจที่เต้นรัว แต่มันไม่ได้ขยับตามมา
ศศิเลือกจะไม่เป็น ‘เจ้าของ’…แต่จะเฝ้ามันห่าง ๆ
วันรุ่งขึ้นเขาได้กลับไปหาพ่อค้าแต่ก็ไม่พบแล้ว เจอแต่ความว่างเปล่า
---
หลายวันต่อมา ศศิเริ่มบันทึกทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
เขาตามข่าว ผู้เสียชีวิตปริศนา ที่มือถือแบตเต็ม 100% อยู่เสมอ
ทุกครั้งศพเหล่านั้นจะมีแบตเตอรี่สีดำวางใกล้ ๆ เหมือนมันกำลัง “เลือกเหยื่อ” เอง
เขาไม่เข้าไปขวาง ไม่แตะต้อง เพียงแค่จดทุกอย่างลงสมุด และสืบหาต้นทาง
แต่ยิ่งสืบเขาก็ยิ่งรู้สึกได้…
แบตเตอรี่นั้น รับรู้ถึงสายตาของเขา
บางคืน เขามักฝันเห็นไฟสีแดงกะพริบอยู่ที่ปลายเตียง
แม้เขาจะไม่เคยแตะมัน แต่มันก็เหมือนจะรู้ว่าเขาเป็น “ผู้สืบทอดตัวจริง”
---
คืนหนึ่ง ศศิสะดุ้งตื่นเพราะเสียงแจ้งเตือนมือถือ
ทั้งที่เขาไม่ได้เสียบชาร์จ แต่แบตกลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเต็ม 100%
บนหน้าจอปรากฏข้อความที่ไม่ควรจะมีใครส่งมาได้
“เลิกตามเถอะ…ไม่งั้นเจ้าจะเป็นคนต่อไป”
ศศิหายใจติดขัด
เขายังไม่ยอมแพ้ แต่ก็รู้แล้วว่า สิ่งนี้กำลังมองเห็นเขาอยู่เหมือนกัน
ศศิใช้เวลาหลายสัปดาห์เฝ้าติดตาม “การปรากฏตัว” ของแบตเตอรี่สีดำ
เขาเริ่มวาดแผนที่ เชื่อมโยงจุดเกิดเหตุการตายที่เหมือนกันทุกครั้ง—
มือถือเต็มแบต ศพซีดขาว และกล่องสีดำวางเงียบ ๆ
ยิ่งตามนานเท่าไร ร่างกายเขายิ่งทรุดโทรม
เขาไม่ค่อยนอน ตาแดงคล้ำ และเริ่มได้ยินเสียงกระซิบแม้ในตอนกลางวัน
“เจ้าหนีข้าไม่พ้น…เพราะเจ้าคือผู้สืบทอดที่แท้จริง”
คืนนั้น ศศิเดินตามข่าวการตายของหญิงสาวในหอพักราคาถูก
ห้องมืดสนิท มีกลิ่นอับและความเย็นเยียบ
บนเตียง ศพของหญิงสาวยังคงนอนอยู่ มือจับมือถือที่แบตเต็ม 100%
และที่พื้นข้างเตียง… แบตเตอรี่สำรองสีดำ กำลังกะพริบไฟถี่ ราวกับหัวใจที่ดีดดิ้น
ทันใดนั้น ศศิรู้สึกแรงดึงมหาศาลในอก หัวใจเต้นผิดจังหวะ เหมือนพลังชีวิตถูกสูบออกมา
เขาทรุดลงกับพื้น มือสั่น หายใจไม่ออก
---
ขณะที่สติใกล้ดับ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นกลางความมืด
“อย่าจ้องมัน!”
เสียงนั้นมาพร้อมแสงไฟฉายแรงสูงที่สาดเข้าห้อง
ชายชราห่มจีวรยืนอยู่ตรงประตู เป็นพระสงฆ์จากวัดใกล้ ๆ
ท่านก้าวเข้ามา สวดมนต์เสียงดังก้อง “ติวุโลกะสัง เทวะมะนุสสานัง สัตถา...” เสียงสวดนั้นทำให้ไฟสีแดงบนแบตเตอรี่เริ่มกระพริบช้าลง…ช้าลง
เหมือนหัวใจปีศาจกำลังอ่อนแรง
ศศิพยายามเงยหน้ามอง พระชราเอ่ยเสียงเข้มว่า
“สิ่งนี้ไม่ใช่เพียงวัตถุ…มันคือ ‘สัญญา’ ที่ผูกด้วยชีวิตผู้สร้าง เจ้าอย่าได้ยึดติดหรือเดินเข้าใกล้เกินไปอีก”
---
ศศิรอดชีวิตมาได้หวุดหวิด แต่ในใจเขากลับเต็มไปด้วยคำถาม
พระชรารู้จักสิ่งนี้มาก่อน?
แล้ว “สัญญา” ที่ว่า…จริง ๆ แล้วคืออะไร?
ไฟแดงของแบตเตอรี่ยังคงกะพริบอยู่ แม้อ่อนแรง
และศศิก็รู้ว่า—มันยังไม่ถูกทำลาย เพียงแค่ถูกข่มไว้ชั่วคราว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
Charan Wiri
ขอบคุณครับ
2025-08-28
0
Maximilian Jenius
แอดเขียนเก่งมากๆ รูปแบบนิยายน่าดึงดูดมากเลยค่ะ👏🎉📝📖
2025-08-28
0