นักล่าเงา”

ชายหนุ่มชื่อ ศศิธร (หรือที่เพื่อนเรียกสั้น ๆ ว่า “ศศิ”) เป็นนักเขียนอิสระที่สนใจเรื่องลี้ลับและตำนานพื้นบ้าน

วันหนึ่งเขาได้ยินข่าวลือในวงการว่า มีสมุดบันทึกเก่าแก่เล่มหนึ่งเคยอยู่ในครอบครองของ ดร.เกรียงไกร ผู้ตายปริศนาเมื่อสิบปีก่อน

สมุดเล่มนี้ถูกกล่าวขานว่า มีวิธีผูกพลังชีวิตมนุษย์เข้ากับวัตถุ

ความอยากรู้อยากเห็นทำให้ศศิเริ่มสืบเรื่องราว

เขาพบว่าหลังการตายของดร.เกรียงไกร สมุดบันทึกเล่มนั้นหายไป ไม่มีใครรู้ว่าตกไปอยู่ที่ใคร

---

หลายเดือนผ่านไป ศศิได้เบาะแสจากพ่อค้าโบราณวัตถุคนหนึ่ง

พ่อค้าพูดเสียงสั่น ๆ ว่า

> “มันไม่ใช่สมุดธรรมดา…ใครเปิดอ่านนาน ๆ จะเริ่มฝันเห็นไฟสีแดงกะพริบ เหมือนหัวใจใครบางคนกำลังเต้นอยู่ในความมืด”

ศศิยิ่งฟังก็ยิ่งอยากได้ เขาจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อให้พ่อค้า ยอมบอกว่าสมุดบันทึกเล่มนั้นอยู่ที่ไหน "มันอยู่ในบ้านไม้หลังนึง ใกล้ป่าช้า "พ่อค้าบอกต่อ "แต่ข้าว่าอย่าไปตามมันดีกว่ามันรู้สึกได้ว่าเราพูดถึงมันอยู่ ถ้าคุณจะไปจริงๆหระก็มันคงรอคุณอยู่แล้วหระ"

---

คืนนั้น ศศิเดินเข้าไปในบ้านไม้ผุพัง กลิ่นชื้นอับคละคลุ้ง

บนโต๊ะเก่า ๆ มี สมุดปกหนังสีดำแตกลายงา วางอยู่

ทันทีที่เขาแตะ สมุดเล่มนั้นเย็นเยียบเหมือนจับศพ

เขาเปิดหน้าแรก…

ตัวหนังสือบิดเบี้ยวเหมือนถูกเขียนด้วยหมึกสีเลือด และมีร่องรอยภาพสัญลักษณ์คล้ายวงเวทย์

ในสมุดยังเขียนบันทึกบางตอนของดร.เกรียงไกร:

“พลังชีวิตคือเชื้อเพลิงนิรันดร์…แต่ต้องมีผู้สืบทอด หากข้าตาย สมุดนี้จะหาผู้แบกรับต่อไป”

---

ศศิรีบถ่ายภาพเอกสารด้วยมือถือ แต่ทันใดนั้น ไฟในห้องกะพริบแรง

มือถือของเขาแบตเหลือเพียง 12% ทันใดนั้นเอง แบตเตอรี่สำรองสีดำ ก็ค่อย ๆ เลื่อนออกมาจากใต้โต๊ะ

ไฟแดงกะพริบถี่ เหมือนดีใจที่เจอเจ้าของใหม่