เสียงลมทะเลพัดเข้ามาทางหน้าต่างร้านกาแฟ มินตรานั่งอยู่ที่มุมเดิมเหมือนเช่นเคย มือขีดเขียนรูปดอกไม้ในสมุดสเก็ตช์เล็กๆ ที่เธอพกติดตัวไปทุกที่
ท้องฟ้าวันนี้ต่างไปจากวันก่อน เมฆสีเทาเริ่มก่อตัวหนาทึบ แสงแดดที่เคยสดใสกลับถูกกลืนหายไป ความชื้นในอากาศบอกเป็นนัยว่าฝนกำลังจะมา
มินตราเงยหน้ามองร้านดอกไม้ตรงข้ามที่เธอเฝ้ามองอยู่บ่อยครั้ง ประตูไม้สีขาวเปิดอยู่ เผยให้เห็นชายหนุ่มเจ้าของร้านที่กำลังจัดช่อดอกไม้เหมือนทุกวัน
อธิษฐ์… เธอเผลอเรียกชื่อเขาในใจเหมือนเป็นนิสัย
⸻
เพียงไม่นาน เสียงฟ้าร้องก็ดังครืน ฝนเม็ดโตเริ่มโปรยลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ผู้คนที่เดินอยู่บนถนนรีบวิ่งหาที่หลบตามร้านรวงข้างทาง
มินตราถอนหายใจเบาๆ เมื่อมองกระเป๋าของตัวเอง—ไม่มีร่มเลยสักคัน เธอคิดว่าจะนั่งรอให้ฝนหยุดก่อน แต่เมื่อเห็นผู้คนยังคงวิ่งวุ่น เสียงฝนตกหนักลงเรื่อยๆ ใจเธอก็เริ่มกังวล เพราะถ้ารอนานเกินไปอาจกลับห้องช้า
ในที่สุด เธอก็ตัดสินใจวิ่งออกจากร้านกาแฟพร้อมสมุดสเก็ตช์ที่กอดแน่นไว้แนบอก รองเท้าผ้าใบเปียกฝนทันทีที่ก้าวออกมา
ฝนหนักจนมองเห็นไม่ชัด แต่ในจังหวะนั้นเอง ประตูร้านดอกไม้ตรงข้ามถูกเปิดออก พร้อมเงาร่างสูงที่ก้าวออกมาพร้อมร่มสีดำในมือ
“คุณครับ!” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นท่ามกลางสายฝน
มินตราเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ อธิษฐ์ยื่นร่มมาเหนือหัวเธอโดยไม่พูดอะไรเพิ่มเติม เพียงเท่านั้นหัวใจของเธอก็สั่นระรัว
“ค…คุณ” เธอพูดติดขัดเล็กน้อย น้ำฝนไหลอาบแก้มจนเธอแยกไม่ออกว่าหน้าร้อนเพราะอากาศหรือเพราะความใกล้ชิดที่ไม่ทันตั้งตัว
“ฝนตกหนัก เดี๋ยวไม่สบาย” เขาพูดเรียบง่าย แต่แฝงความห่วงใย
มินตราพยักหน้าเบาๆ แล้วปล่อยให้เขาเดินนำ เธอก้าวตามไปอย่างเงียบๆ ใต้ร่มคันเดียวที่ทั้งสองต้องเบียดไหล่กันอยู่ใกล้ๆ
⸻
เสียงฝนตกกระทบผืนถนนดังระรัวเป็นจังหวะ ร่มสีดำบังสายฝนเหนือศีรษะ แต่ไม่อาจปิดกั้นความรู้สึกอบอุ่นที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของมินตราได้
เธอเหลือบตามอง横ใบหน้าของชายหนุ่มที่เดินเคียงข้าง เขาดูสงบเหมือนปกติ แต่แววตาของเขาเมื่อหันมามองเธอชั่วขณะกลับทำให้เธอใจเต้นแรง
“ร้านคุณอยู่ใกล้แค่นี้เองสินะคะ” มินตราพยายามชวนคุย
“ครับ” อธิษฐ์ตอบสั้นๆ แต่แค่เสียงทุ้มต่ำของเขาในระยะใกล้ก็ทำให้ใจของเธอสั่นได้ง่ายเหลือเกิน
⸻
เมื่อทั้งคู่ถึงร้านดอกไม้ อธิษฐ์เปิดประตูให้ เธอก้าวเข้าไปท่ามกลางกลิ่นหอมของดอกไม้สดที่อบอวลไปทั่ว ความเย็นจากฝนถูกแทนที่ด้วยความอบอุ่นทันที
เขาหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กจากหลังร้านแล้วยื่นให้ “เช็ดผมก่อน เดี๋ยวจะไม่สบาย”
มินตรารีบรับมา ดวงตาสบกับเขาเพียงชั่วครู่ก็ต้องหลบเพราะความเขินอาย “ขอบคุณค่ะ”
เธอนั่งลงที่เก้าอี้ไม้เล็กๆ ในร้าน พลางเช็ดผมไปอย่างเก้อเขิน หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด
อธิษฐ์หันกลับไปจัดดอกไม้ต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ความเงียบในร้านกลับอบอุ่นกว่าที่เคย มันเต็มไปด้วยเสียงฝนข้างนอกที่ตกกระทบหลังคา และเสียงหัวใจของใครบางคนที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
⸻
กว่าฝนจะซาเป็นเพียงละอองเล็กๆ เวลาก็ผ่านไปเกือบชั่วโมง มินตราลุกขึ้นเตรียมกลับ พลางหันไปยิ้มให้เขา “วันนี้…ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่ได้ร่มของคุณ ฉันคงเปียกจนไข้ขึ้นแน่ๆ”
อธิษฐ์เพียงพยักหน้ารับ ไม่พูดอะไร แต่ในสายตานั้นกลับมีประกายอบอุ่นที่ทำให้มินตรารู้สึกเหมือนถูกโอบกอดทั้งหัวใจ
และเมื่อเธอก้าวออกจากร้านไปพร้อมร่มคันนั้นที่เขายืนยันให้ยืมติดมือไปด้วย เธอก็รู้แล้วว่า…เสียงฝนวันนี้ไม่ใช่เพียงแค่สายฝนธรรมดา แต่มันคือจังหวะเล็กๆ ที่ทำให้หัวใจของเธอและเขาได้ใกล้กันมากขึ้น
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments