ผมถูกอัญเชิญมาต่างโลกกลับได้กลายเป็นลูกสาวของราชาปีศาจไปซะงั้น!?

ผมถูกอัญเชิญมาต่างโลกกลับได้กลายเป็นลูกสาวของราชาปีศาจไปซะงั้น!?

อัญเชิญผู้กล้า

บทแห่งการสูญสิ้น — แผ่นดินต้องสาปของมนุษย์

นานนับแสนปีที่โลกแห่งนี้ตกอยู่ใต้เงาอำนาจของ ราชาปีศาจสิ่งมีชีวิตที่เกินกว่าคำว่า อสูร และห่างไกลจากคำว่า เทพเขาไม่ใช่แค่ศัตรูของมนุษย์... แต่คือปฏิปักษ์ของชีวิตทุกเผ่าพันธุ์

ทุกทวีป ทุกแผ่นดิน ถูกไฟสงครามแผดเผาทุกสายเลือดถูกทำให้ขาดสะบั้นโดยเล็บของปีศาจ

เสียงร่ำไห้ เสียงคำราม และเสียงภาวนา—ไม่มีสิ่งใดไปถึงทวยเทพอีกต่อไปแม้แต่ฟ้าก็หันหน้าหนีจากมนุษย์

 

“จงสู้ด้วยเอกราชของมวลมนุษย์ชัยชาติ”

 

เสียงนั้นดังขึ้นจากกองบัญชาการที่ย่อยยับ อัศวินจำนวนมากรวมตัวกันเป็นกองทัพสุดท้ายของมวลมนุษย์ดาบและโล่ของพวกเขาอาจจะบิ่น แต่จิตใจยังเปล่งแสงสุดท้าย

พวกเขาต่างรู้ดีว่า...นี่คือการเดิมพันครั้งสุดท้ายของเผ่าพันธุ์

และในที่สุด...พวกเขาก็ ล้มลง ทีละคน ทีละกลุ่ม ทีละเมือง

 

“น่าเบื่อซะจริง การที่ฆ่าพวกสวะมนุษย์”

 

ราชาปีศาจกล่าวเสียงแผ่ว แต่แฝงไว้ด้วยความดูแคลนลึกสุดใจเบื้องหลังเขา อุกกาบาตนับร้อยกำลังตกทะลวงฟากฟ้าลงมายังผืนดินเปลวเพลิงของดวงดาวระเบิดกลางอากาศ สะเก็ดไฟกระจายเป็นหมื่นล้านเสี้ยว

โลกทั้งใบสั่นสะเทือน

 

“นี่คือความน่ากลัวของข้า จงรับมันไว้ซะ...เจ้าพวกมนุษย์”

 

เสียงของเขาเหมือนคำสาปจากนรก ทำให้แม้แต่เทือกเขาสะดุ้งไหวพื้นดินระเบิดเป็นหลุมยักษ์ เปลวไฟลุกโหมจนแผ่นดินกลายเป็นทะเลเพลิง

อัศวินหลายคนโยนอาวุธลงกับพื้นไม่มีเกียรติ ไม่มีศักดิ์ศรี—มีแต่ความสิ้นหวัง

กลางสนามรบที่ถูกแผดเผา เสียงคำรามของดินฟ้าและเสียงกรีดร้องของผู้คนหลอมรวมเป็นเสียงเดียวกัน...เสียงของความพ่ายแพ้

 

แต่แล้ว ท่ามกลางซากศพที่ร้อนระอุในเงาแห่งเปลวเพลิงที่ยังไม่ดับร่างหนึ่งค่อย ๆ ยืนขึ้น

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง... และ ความแค้นครึ่งหนึ่งของเขา—ตายไปแล้วในสงครามครั้งนี้สิ่งที่เหลืออยู่คือความเงียบงัน และความตั้งใจที่กลืนวิญญาณตนเอง

 

“ถ้าเทพไม่อยู่กับเรา... ก็จงเป็นปีศาจที่ต่อต้านปีศาจซะเอง”

 

เขาคือ คาร์เดน อัศวินดำผู้เคยสาบานต่อแสงแห่งพระเจ้าแต่วันนี้ เขาจะสาบานต่อเงาแห่งความตาย

เขาคุกเข่าลงหน้าก้อนหินเวทที่เปล่งแสงจากเศษอุกกาบาตสิ่งที่เทพห้าม สิ่งที่แม้แต่ปีศาจยังหลีกหนี

 

“มอบพลังแห่งความมืดให้ข้า...จิตวิญญาณข้าจะไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ขอเพียงข้าฆ่ามันได้—ข้ายอม!”

 

เสียงเวทของโลกใต้พิภพดังขึ้น เสียงร่ำไห้ของวิญญาณเริ่มกรีดร้องเนื้อหนังของคาร์เดนแตกออก กลายเป็นเกราะสีเทาดำ ดวงตาเรืองแสงแดงฉานร่างของเขากลายเป็นร่างครึ่งมนุษย์ครึ่งอสูร — เครื่องสังเวยแห่งการล้างแค้น

เขาลุกขึ้นอีกครั้ง มือหนึ่งจับหอกเวทที่กลั่นจากแกนอุกกาบาตพลังเวทของเขาพลุ่งพล่านจนแม้แต่พื้นที่ตายก็สั่นสะท้าน

เบื้องหน้าเขา... ราชาปีศาจยืนอยู่—สูงส่ง เยือกเย็น ไม่มีแม้รอยถลอกจากการรบและแม้จะยืนท่ามกลางนรก ก็ยังเปื้อนรอยยิ้ม

 

“ข้านึกว่าจะได้สนุกหน่อย... แต่เจ้านี่มันก็แค่สวะที่เก่งขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้น”

 

เสียงพูดผ่านหน้ากากโลหะที่ประทับแน่นบนใบหน้าดวงตาของเขาเปล่งแสงเย็นเฉียบ ราวกับแสงจันทร์ที่ฉีกผืนป่าให้แหลกเป็นเสี่ยง

เขาก้าวเพียงหนึ่งก้าว—พื้นแผ่นดินก็แยกออกจากกันเขากระดิกนิ้วเพียงครั้งเดียว—เวทพันปีที่มนุษย์เคยใช้ทั้งเผ่าพันธุ์ในการจารึก ก็กลายเป็นผุยผง

 

“ทำไมยังไม่ตายอีกล่ะ? เจ้าน่าสมเพชเกินกว่าจะเรียกว่าศัตรูนะ”

 

แต่คาร์เดนยังคงคำรามด้วยแรงเฮือกสุดท้าย เขาพุ่งไปข้างหน้า หอกเวทในมือพุ่งเป็นแสงดาวตกหมายทะลวงร่างแห่งนรก

แต่ก่อนจะถึงตัว...

ราชาปีศาจพียง มอง กลับมา

 

“...ตาย”

 

คำพูดเพียงคำเดียว—ก็กลายเป็นบทลงโทษของจักรวาล

ร่างของคาร์เดนหยุดนิ่งและในเสี้ยววินาทีถัดมา—ร่างนั้น พองบวมแตกออกเป็นเศษเนื้อและโลหิตกลางอากาศ

หอกตกลงกระทบพื้นเหมือนเสียงสุดท้ายของผู้พ่ายแพ้สงครามจบลงโดยที่ไม่มีผู้ชนะ... มีเพียง เงาแห่งความพินาศ

 

และเมื่อกาลเวลาผ่านไป...สงครามยังคงดำเนินมนุษย์ยังคงต่อต้าน แม้ไร้หนทางจนกระทั่ง วันหนึ่ง...ไม่มีแม้กระทั่ง มนุษย์ ที่เหลือให้ต่อต้านอีกต่อไป

 

ตัดมาที่ต่างโลกที่ธรรมดาๆ

เสียงนาฬิกาปลุกแบบอิเล็กทรอนิกส์ดังลั่นไปทั่วห้องนอนขนาดกลาง เต็มไปด้วยโปสเตอร์อนิเมะ เกม และหนังสือเรียนที่กองอยู่รวมกันราวกับสนามรบแสงแดดยามเช้าส่องลอดผ้าม่านที่ปิดไม่สนิท กระทบใบหน้าของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังนอนหลับลึก... ลึกมาก จนแทบไม่รู้ว่าโลกหมุนไปแล้วกี่รอบ

 

ฮิโตริ (16) เด็กหนุ่มมัธยมปลาย ผู้เชี่ยวชาญในการกดเลื่อนนาฬิกาปลุกอย่างแม่นยำ เขายังคงนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ทั้ง ๆ ที่นาฬิกาปลุกได้ดังเป็นรอบที่สามแล้ว

แต่แล้ว...

ติ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ!!!

เสียงปลุกรอบสุดท้ายแหลมขึ้นกว่าเดิมจนไม่สามารถเพิกเฉยได้อีกต่อไป

“เฮือก—!!”

 

ฮิโตริลุกพรวดขึ้นมาทันที ผมยุ่งเหยิง ใบหน้าหลับครึ่งตื่น เหงื่อแตกเพราะรู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่าง...เขาหันขวับไปมองนาฬิกา และนรกก็มาเยือนเขาอย่างเป็นทางการ

 

“8:23!!??”

 

ดวงตาของฮิโตริเบิกกว้างราวกับจะถลนออกจากเบ้าเขาตะโกนลั่นบ้านทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอน รีบกระโดดลงจากเตียงแบบไม่สนว่าเท้าจะไปเหยียบโดนหนังสือเรียนหรือกล่องขนมเขาวิ่งไถลไปที่ตู้เสื้อผ้า สวมชุดนักเรียนแบบพุ่งทะลุเเบบไม่สนกฏของฟิสิกส์ แล้วขว้าเป้สะพายขึ้นหลังแทบจะในท่าโค้ง 90 องศา

 

“แย่แล้วๆ ดันมาสายเป็นบ้าเลย ครูหักคะแนนแน่เลย!!”

 

เสียงร้องของเขายิ่งกว่าคำสาป มันเป็นเสียงของนักเรียนผู้ไร้ทางรอดจากระบบการศึกษาญี่ปุ่นเขาพุ่งออกจากบ้านโดยไม่กล่าวคำอำลาให้กับแม้แต่หมาข้างทางที่นอนแทะรองเท้าอยู่รองเท้าผ้าใบที่ใส่ผิดข้าง? ช่างมันเถอะ! 

 

“ฮิโตริ! แกสายอีกแล้วเหรอวะ!?”

 

เสียงเรียว เพื่อนสนิทตัวโย่งของเขาดังขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้ามาข้าง ๆ ทั้งที่ยังเคี้ยวขนมปังอยู่ในปาก

 

“ไม่ต้องมาถามเลยโว้ยยย!! เดี๋ยวครูหักคะแนนความประพฤติอีกแน่ๆ!!”

 

ทั้งคู่พุ่งทะยานราวกับแชมป์วิ่ง 100 เมตรระดับโอลิมปิกเสียงกริ่งสุดท้ายของโรงเรียนดังขึ้นพอดีกับที่สองร่างพุ่งทะลุประตูรั้วราวกับฉากแอ็กชันในภาพยนตร์

แต่... ก่อนที่ประตูห้องเรียนจะเปิด—ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

 

แสงสีทองจ้า!!สว่างเสียจนไม่มีสิ่งใดมองเห็นได้อีก แสงนั้นทะลวงเข้ามาทุกมิติ ราวกับโลกทั้งใบถูกกระชากไปอีกฝั่งของจักรวาล

ครืนนนน!!

พื้นห้องเรียนสั่นสะเทือนอย่างหนักเสียงหวีดร้องดังขึ้นจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนทั้งหมด 31 คน ทุกคนลอยคว้างอยู่กลางอากาศแบบไร้แรงโน้มถ่วงแม้แต่ คุณครูโฮโซกาวะ ที่กำลังสอนประโยคสมการอยู่ ก็ยังถือชอล์กค้างไว้ในมือ ดวงตาเบิกกว้าง ราวกับเวลาถูกหยุด

 

“เฮ้ยยย นี่มันบ้าอะไรวะ!! เรา... เราตายแล้วเหรอ?! หรือฝันอยู่?! อย่าบอกนะว่า... นี่คือเวทอัญเชิญแบบในเกม!!?”

 

เสียงโกลาหลปะปนกับความตื่นตระหนก กรีดร้อง ร้องไห้ และสบถทุกอย่างตีกันวุ่นวายเหมือนโลกถูกเขียนบทใหม่ด้วยมือของนักเขียนบ้าคลั่ง

และทันใดนั้น...

 

“โอ้ เหล่าผู้ถูกเลือกจากโลกอื่นเอ๋ย…”

 

เสียงทุ้มลึกดังก้องไปทั่วมิติก่อนที่แสงจะหายไปในชั่วพริบตา

ภาพที่ทุกคนเห็นคือ—

โถงบัลลังก์ขนาดยักษ์

 

เพดานสูงลิ่ว ประดับด้วยกระจกสี วิหารใหญ่ที่ราวกับอยู่เหนือเมฆตรงหน้าคือ ชายแก่ในชุดคลุมพิลึก เคราสีขาวยาวถึงพื้น หน้าตาเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่และ...ง่วงนอนเล็กน้อยเขายืนพิงไม้เท้าเวทเก่า ๆ ตรงหน้าบัลลังก์ที่ประดับด้วยอัญมณีเรืองแสง

 

“ขอต้อนรับสู่ดินแดน... เวลซาเรีย ดินแดนที่กำลังล่มสลายจากราชาปีศาจ… พวกท่านคือผู้กล้าจากต่างโลก ที่เราต้องพึ่งพา!”

 

เสียงประกาศดังกังวานสะท้อนทั่วโถงบัลลังก์ราวกับระฆังศักดิ์สิทธิ์ มันไม่ได้ดังแค่ในหู แต่สั่นสะเทือนลงไปถึงขั้วหัวใจทุกคนในชั่วขณะนั้น... เพื่อนทั้งห้องเหมือนตกอยู่ในฝันอันวิกลจริตที่ไม่มีใครเตรียมใจไว้ล่วงหน้า

 

“หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!???”

 

เสียงโวยวายระเบิดออกมาพร้อมกันอย่างไม่มีใครยั้งบางคนกุมหัว บางคนเริ่มร้องไห้ บางคนหัวเราะแห้ง ๆมีบางคนถึงขั้นลองตบหน้าตัวเองหลายทีเพื่อเช็กว่ายังอยู่ในโลกความจริงหรือเปล่า

แต่ท่ามกลางความวุ่นวายนี้...

ฮิโตริเด็กหนุ่มที่ควรจะเป็นแค่คนสายเรียนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ยืนอยู่อย่างเงียบ ๆเหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามขมับ ดวงตาจับจ้องไปยังแสงสีทองที่ยังลอยค้างอยู่ในอากาศ พร้อมกับกล่องข้อความลอยออกมาจากตัวเพื่อน ๆ ทีละคน

 

“…เอาจริงดิ แค่สายไม่ถึง 10 นาที ดันมาต่างโลกเฉย…”

 

เขาพึมพำกับตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อมือยังจับเป้สะพายไว้แน่น เหมือนไอ้เจ้าเป้ใบนี้จะช่วยพาเขากลับไปโลกเดิมได้ยังไงยังงั้น

ทีละคน…กล่องข้อความโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศต่อหน้าผู้ถูกเลือก:

 

[ทาเคชิ - นักรบแห่งสายเลือดมังกร]กล้ามขึ้นแทบทะลุเสื้อยูนิฟอร์ม ใบหน้าอึ้ง แต่ก็เท่แบบพระเอกโชเน็น

[ซาโอริ - นักเวทเงาไร้เสียง]หญิงสาวผมดำยาว แววตานิ่งเฉียบ มือประสานนิ้วร่ายเวททดลองอยู่เงียบ ๆ

[เรียว - นักธนูสายลมผู้แม่นยำ]เพื่อนซี้ของฮิโตริ ยืนงงปนเท่ มือคว้าอากาศเหมือนคิดว่าโผล่ธนูออกมาจริง ๆ

แต่เมื่อถึงตาของฮิโตริ...

[ฮิโตริ - ??? (ข้อมูลถูกปิดกั้น)]

 

“…ห๊ะ?”

 

เสียงเขาดังขึ้นเบา ๆ แต่ดังก้องในใจตัวเองยิ่งกว่าระเบิดขณะที่เพื่อนคนอื่นเริ่มกรี๊ดกร๊าดตื่นเต้นกับอาชีพแสนเท่ของตัวเอง ราวกับเปิดกาชาเจอ 6 ดาวแบบไม่เติมเพชร...

ฮิโตริกลับได้กล่องข้อความที่ไร้คำตอบ

 

“แล้วทำไมของชั้นมันขึ้นแบบนี้อยู่คนเดียวล่ะ…”

 

ทุกสายตาเริ่มหันมามอง ฮิโตริรวมถึง ชายแก่เครายาวในชุดคลุมวิจิตร ผู้แนะนำตัวว่าเป็น มหาปรมาจารย์ใบหน้าของเขาซีดลงอย่างเห็นได้ชัดสายตาเบิกกว้างและริมฝีปากสั่นเล็กน้อย ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับปีศาจโบราณในตำนาน

 

“…เป็นไปไม่ได้… เจ้า... เจ้าคือผู้สืบทอดแห่งคาร์เดน…”

 

ทั้งห้องเงียบกริบทันทีเสียงฮือฮาในโถงหยุดลงราวกับมีคนกดปุ่ม muteมีเพียงเสียงลมหายใจตื่นของนักเรียนบางคนที่ยังไม่เข้าใจว่ามันสำคัญแค่ไหน

ฮิโตริยิ้มเหวอ ๆ

“…ขอโทษครับ ใครคือคาร์เดนอะ? ผมไม่รู้จักเลยซักกะนิด…”

 

เสียงอึ้งดังลั่นโถงบัลลังก์อีกระลอกเพื่อนบางคนเริ่มกดหน้าต่างสถานะตัวเองดูอย่างเมามัน

 

“โอ๊ยยย! ฉันเป็นนักเวทแสงระดับสูงล่ะ! ใครจะมาลองดีมั้ย?”

“ฮ่า ๆ ของฉันคือ นักดาบมังกรทอง ว่ะ เท่จัด!”

“พลังขโมยความสามารถของคนอื่นเหรอ?! นี่มันโกงเกินไปแล้ว!”

 

ขณะที่ทุกคนเริ่มกรี๊ดกร๊าดกับพลังเทพของตัวเองฮิโตริยังคงจ้องมองกล่องของตัวเองอย่างหงอย ๆ:

 

[ชื่อ: ฮิโตริ (Hitori)]ระดับ: 1สายอาชีพ: ??? (ข้อมูลถูกปิดผนึก)พลัง: ไม่สามารถระบุได้คำเตือน: ไม่ควรปลุกพลังนี้ก่อนเวลาอันควร

 

“…นี่คือบัคของระบบป่ะวะเนี่ย…”

 

ชายแก่เริ่มตัวสั่น มือกำคฑาแน่นราวกับพยายามระงับอะไรบางอย่างในใจดวงตาเขาสั่นระริก ริมฝีปากเอ่ยด้วยเสียงที่แทบไม่ออกจากลำคอ

 

“…ถ้าพลังของเจ้านั่นฟื้นขึ้นมา... โลกนี้อาจถูกกลืนไปทั้งมิติอีกครั้ง…”

 

“เฮ้ ๆ เดี๋ยวก่อนครับ! ฟังดูไม่เหมือนพระเอกเลยนะครับ! ถามจริงใครมันไปยอมควบคุมง่ายขนาดนั้น!!”

 

แต่ก่อนคำแก้ตัวจะทันจบ…

มีบางสิ่งในตัวฮิโตริเริ่ม... ตื่นขึ้น

เสียงกระซิบแผ่วเบา ดังแทรกเข้ามาในหัวเขาราวกับหลุดจากฝันร้ายที่ถูกลืมไปนานแล้วเสียงนั้นไม่ใช่ของเขา แต่กลับฟังดูคุ้นเคยอย่างน่ากลัว

 

ภาพฉากหนึ่งแวบขึ้นในหัวของเขา

เลือด… สงคราม… ดินแดนที่ไหม้เกรียม…

ร่างปีศาจในชุดเกราะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ดาบสีดำปักลงบนพื้นเสียงคำรามของใครบางคนกึกก้องในความมืด

“ราชาปีศาจ… เจ้าจะชดใช้ด้วยชีวิต…”

 

ฮิโตริกุมขมับ ตัวเริ่มสั่นดวงตาเบิกกว้าง เหงื่อผุดทั่วร่าง ขาเริ่มอ่อนแรงโดยไม่รู้ตัว

เขายังไม่รู้เลยว่า…ชีวิตธรรมดาของเขาได้จบลงตั้งแต่ก่อนก้าวขาออกจากบ้านแล้ว

 

“คาร์เดน… ฆ่ามันให้หมด... เพื่อมนุษย์... หรือเพื่อสิ่งที่ไม่มีใครเหลืออยู่แล้ว...”

 

เสียงนั้นก้องกังวานในหัวของฮิโตริ ราวกับคำสาปเก่าแก่ที่ฝังแน่นในเลือดร่างของเขาเริ่มสั่นเล็กน้อย ใบหน้าเจ็บปวดกับเสียงที่ไม่ใช่ของตัวเอง

ดวงตาข้างขวาของเขา...เปล่งแสงสีแดงจาง ๆ ดั่งเปลวเพลิงจากนรกราวกับใครบางคนภายในกำลัง ลืมตาตื่นขึ้น ทีละน้อย

 

“อะไร… มันคืออะไรในหัวชั้น… ออกไปซะ…”

 

พลังบางอย่างที่ไม่มีใครรู้จักเริ่ม ปะทุขึ้นรอบตัวเขาแรงกดดันแปลกประหลาดกระแทกใส่ผนังโถงบัลลังก์เหล่าอัศวินที่เคยยืนล้อมรอบเพื่อป้องกันสถานการณ์ไม่คาดคิดถอยหลังกรูอย่างไม่ได้นัดหมาย ราวกับสัญชาตญาณกำลังกรีดร้องให้หนี

พื้นหินแกร่งใต้เท้าของฮิโตริ

แตกร้าวเป็นรัศมีวงกว้าง ราวกับไม่มีสิ่งใดรองรับพลังนั้นไหวละอองพลังสีดำปนแดงไหลวนรอบร่างเขาอย่างอันตราย

เรียว... เพื่อนสนิทที่รู้จักกันตั้งแต่ประถมมองฮิโตริด้วยดวงตาสั่นไหว พึมพำเบา ๆ แต่แฝงด้วยความจริงจัง

 

“เฮ้… ฮิโตริ... แกแน่ใจนะว่า... ไม่ใช่ตัวร้ายของเรื่องนี้น่ะ…”

 

“ชั้นเองก็เริ่มไม่แน่ใจว่ะ…”

ฮิโตริตอบด้วยรอยยิ้มฝืน ๆ ใบหน้าเหงื่อไหลราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้าย

 

หนึ่งสัปดาห์ถัดมา…อาณาจักรเวลซาเรียเริ่มขยับเตรียมรับศึกนักเรียนทั้งห้อง—อดีตเด็กมัธยมปลายจากที่ไหนไม่รู้ตอนนี้แต่ละคนกลายเป็นผู้ฝึกฝนเวท ผู้ถืออาวุธศักดิ์สิทธิ์มีอาจารย์ประจำตัว มีค่ายฝึกเฉพาะกลุ่มเสียงฝึกดาบ ฝึกเวท สะท้อนทั่วลานกว้างของอาณาจักร

 

แต่… ไม่ใช่สำหรับฮิโตริ

เด็กหนุ่มผู้ไม่มีสายอาชีพพลังถูกปิดผนึกจนไม่มีใครกล้ารับผิดชอบฝึกให้เขาเดินไปขอหัวหน้าอัศวินหญิงประจำสนามฝึก เสียงเรียบเย็นของนางตอบโดยไม่แม้แต่หันหน้ามามอง

 

“เจ้ามีพลังปิดผนึก พวกเราไม่สามารถประเมินได้ว่าจะปลอดภัยหรือไม่ หากมีการฝึกกับคนอื่น… เราจึงต้องแยกเจ้าออก”

 

ฮิโตริมองรอบ ๆเพื่อนทุกคนจับกลุ่ม ได้รับโค้ชเท่ ๆ และอาวุธเทพหรูหรา

เรียว และยูกิ อยู่กลุ่ม A ฝึกกับหัวหน้ากิลด์ผู้เก่งกาจฮานะ สาวร่าเริง เรียนเวทกับเอลฟ์ผู้ใช้แสงแต่ฮิโตริ…

 

เขาถูกโยนไปยังห้องฝึกใต้ดิน...

มันไม่ใช่ห้องธรรมดาแต่มากกว่าห้องขังของพลังลึกลับผนังเต็มไปด้วยสัญลักษณ์เวทโบราณมีเพียงไอเทมเดียวที่วางไว้กลางห้องแส้หนามสนิมเขรอะ พร้อมโน้ตเขียนด้วยหมึกเลือดว่า:

 

“ระวังอย่าให้มันกัดกลับ”

 

“...นี่มันอะไรวะเนี่ย!”

ฮิโตริโวยวาย แต่ก็ต้องฝึกต่อไปเพราะไม่มีตัวเลือกอื่น

เขาลองฝึกดาบ—ดาบหักลองร่ายเวท—วงเวทไม่ตอบสนองวิ่งฝึกต่อเนื่อง—สนามเหมือนจะกลืนเขาลงไปเอง

ทุกอย่างดูไร้ความหมาย...

จนกระทั่งเขา หลุดมือ

ไปแตะเข้ากับบางสิ่ง…

หินเวทสีดำมืด ที่ซุกอยู่ในมุมห้องราวกับเฝ้ารอการสัมผัสนั้นมานานแสนนาน

 

[ระบบปิดผนึกบางส่วนถูกคลาย]

 

ในชั่วพริบตา...เงาสีดำทะลักออกมาจากหินนั้นซึมเข้าสู่ร่างกายของฮิโตริดวงตาข้างขวาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงสนิท

 

และเบื้องหลังเขา...ร่างเงาของใครบางคนค่อย ๆ ปรากฏสูงใหญ่ในชุดเกราะดำสนิทดวงตาใต้หมวกเหล็กเปล่งแสงสีเศร้าดาบสีเลือดปักแน่นในดินเงา

 

คาร์เดน...อัศวินดำในตำนานผู้เคยเป็นผู้กล้าคนแรกของดินแดนแต่บัดนี้คือ เงา แห่งความทรงจำที่ถูกลืม

 

“เจ้าจะเดินในทางเดียวกับข้า… หรือทำลายโชคชะตานี้เสีย?”

 

เสียงนั้นแผ่วเบาแต่ทรงอำนาจในหัวของฮิโตริ ภาพของสงครามนรกแวบผ่านอีกครั้งไฟนรก, ปีศาจ, เมืองที่ถูกเผา, และเสียงกรีดร้องของผู้คน

ความร้อนผ่าวแผ่ไปทั่วร่าง

 

แต่แล้ว...

ท่ามกลางภาพนิมิตที่น่าสยดสยองนั้นฮิโตริกลับกัดฟันแน่น ดึงสติกลับมาด้วยแรงใจอันแน่วแน่

 

“ออกไปซะ... อย่ามายุ่งกับร่างกายของตูนะเว้ย!!”

 

เสียงตะโกนของเขาดังกึกก้องพลังสีดำที่วนรอบเริ่มแตกกระจายแสงแดงในดวงตาค่อย ๆ จางลงเงาของคาร์เดนค่อย ๆ จางหายไป…ก่อนจากไป เขาหันหลังกลับไปมองฮิโตริอีกครั้งด้วยสายตาที่เหมือนจะยิ้มเศร้า

 

ราวกับกำลัง ฝากอนาคต ไว้ที่เขา

พลังยังไม่ตื่นเต็มที่แต่หัวใจของเขา… ไม่ได้ถูกกลืน

 

ตัดกลับมายังปราสาทหลวงแห่งเวลซาเรียในห้องโถงลับใต้หอคอยราชวัง—ประตูเวทขนาดใหญ่เปิดออกอย่างเชื่องช้าราชาแห่งเวลซาเรียก้าวออกมาช้า ๆใบหน้าของเขาเคร่งเครียด สายตาหนักอึ้งเหมือนแบกชะตาของโลกทั้งใบไว้

 

“เด็กหนุ่มนั่น... มีจิตวิญญาณของ อัศวินสาป คาร์เดน อยู่ในตัว...”

เสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวลลึก

 

“หากพลังทั้งหมดของเขาตื่นขึ้น—อาจจะไม่ใช่ปีศาจที่ฆ่าโลก... แต่เป็นมนุษย์ต่างหาก...”

 

เหล่าขุนนางเวทและหัวหน้ากิลด์ที่ยืนล้อม ต่างเงียบงันไม่มีใครกล้าออกความเห็น

แต่สิ่งที่พวกเขา ไม่รู้เลยแม้แต่น้อย...ก็คือ... ฮิโตริได้แอบฟังทุกอย่างอยู่จากเงาด้านบนเสาหิน ด้วยเวทพรางตาที่เขาเพิ่งลองใช้

 

'แบบนี้เองสินะ... เข้าใจแล้ว'

ฮิโตริกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะดีดตัวหายวับไปจากที่ซ่อน ราวกับเงาจาง

ไม่นานหลังจากนั้น...

หัวหน้ากิลด์รีบลงมาที่ห้องฝึกใต้ดิน เพื่อตรวจสอบพลังของฮิโตริแต่สิ่งที่เขาพบ...

ความว่างเปล่าไม่มีร่องรอยเวท ไม่มีกลิ่นพลัง ไม่มีแม้แต่เงาของการมีอยู่เหมือนห้องทั้งห้องไม่เคยถูกใครเหยียบมาก่อน

 

แต่ทันใดนั้น...

“สวัสดีค้าบบบบ~ ไม่ได้เจอกันแป๊บเดียวเลยนะท่านอลัน~”

 

เสียงทักทายสุดกวนลอยมาจากด้านหลังอลันถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมอง

ฮิโตริยืนอยู่ตรงนั้น... ด้วยสีหน้ายิ้มระรื่น...คลื่นพลังรอบตัวเขานิ่งสนิท แต่แฝงความลึกเร้นจนน่าหวั่น

 

“ตกใจเลยแฮะ... ที่นายพัฒนาได้เร็วขนาดนี้”

อลันพูดเสียงเบา ขณะกุมคางพินิจดูเขาอย่างจริงจัง

 

“ก็ธรรมดาอยู่แล้วอะค้าบ~” ฮิโตริยิ้มกวน“ก็ผมเป็น ตัวเอก ของเรื่องนี่นา~”

 

เขายกมือขึ้นช้า ๆ เหมือนจะหยิบอะไรบางอย่าง

มุมกล้องค่อย ๆ เลื่อนมาโฟกัสที่หน้าของฮิโตริอย่างเท่จัด

 

“เฮ้... คนอ่านนี่ยังอ่านอยู่รึเปล่า~? อยากจะบอกว่า... ผมเนี้ยมันโคตรเท่เลยอะครับน้อน ๆ”

เขายักคิ้วสองข้างพร้อมส่งจูบปลอม ๆ ให้กล้องในอากาศ

 

“จะว่าไปแล้ว... คุยกับใคร?”

เขาหันไปพูดกับตัวเองแบบแซว ๆ

 

“ไม่บอกให้รู้หรอก~”

 

“แล้ววันนี้จะได้ออกไปเจอมอนสเตอร์จริง ๆ ไหมเนี่ย?”

 

อลันยกมือกุมหัวทันที ราวกับโดนปวดจี๊ดเข้าไปในสมอง

 

“ยะวู้วววววววววววววววววว!!! ไปกันเลย!! อยากจะซัดหน้าพวกมันเต็มทีแล้ว!!!”

ฮิโตริตะโกนก่อนจะพุ่งวิ่งขึ้นบันไดอย่างบ้าพลัง

 

“เดี๋ยว!! นายจะต้องไปกลุ่มกับพวกนั้นก่อน! เดี๋ยว! ฮิโตริ! ได้ยินไหมเนี้ย!?”

อลันตะโกนตามหลังสุดเสียง แต่เสียงฝีเท้าก็เงียบหายไปแล้ว...

เขาถอนหายใจหนัก ๆ พร้อมส่ายหัว

แต่ทันใดนั้น...

ฮิโตริโผล่มาห้อยหัวลงมาจากเพดานเหนือหัวอลัน

 

“งั้นตกลง! ไปรวมตัวกันเถอะ!”

 

อลันสะดุ้งโวยวาย “โอ๊ย!! แกจะโผล่มายังไงก็ไม่รู้จักให้สัญญาณก่อนบ้างเรอะ!!”

 

ที่นี่มีกลุ่มดิสคอร์ดเเล้วนะ อย่าลืมเข้ามากันนะ

https://discord.gg/WHDXjnG7cq

รหัสคำเชิญ WHDXjnG7cq

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!