เช้าวันถัดมา ธามไทตื่นขึ้นพร้อมกับความรู้สึกหนักแน่นในร่างกาย พลังในตัวเขานิ่งสงบแต่ยังแผ่คลื่นอ่อน ๆ อยู่ใต้ผิวหนัง ราวกับน้ำที่ยังคงไหลเวียนแม้ในยามสงัด
แสงแดดส่องลอดหน้าต่างลงมากระทบใบหน้า เขาพลิกตัวอย่างเกียจคร้าน แต่ก่อนที่เขาจะได้งีบต่อ เสียงเคาะประตูดังขึ้นตามด้วยเสียงเข้มของวาริณ
“ธามไท ลงมาเดี๋ยวนี้ มีเรื่องสำคัญ!”
ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้น ล้างหน้า และเดินลงไปยังโถงชั้นล่าง
วาริณยืนกอดอกอยู่ข้างจอเวทฉายภาพ ซึ่งในขณะนั้นกำลังแสดงแผนที่ของเมืองวาโยธาราและพื้นที่โดยรอบ บนแผนที่ปรากฏสัญลักษณ์สีแดงกระพริบอยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ” ธามไทถาม
“เมื่อคืนมีคลื่นพลังประหลาดปรากฏขึ้นที่เขตหวงห้ามของอุทยานน้ำศักดิ์สิทธิ์” วาริณกล่าว พลางชี้ไปยังจุดสีแดง “ที่นั่นเคยเป็นศาลเจ้าของพรายน้ำ แต่ตอนนี้ไม่มีใครดูแลมานานหลายสิบปี”
“เธอคิดว่ามันคืออะไรอ่ะ”
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ราชินีให้เจ้าลงไปตรวจสอบ”
ธามไทเบิกตากว้าง “ผมเนี้ยนะ! เพิ่งจะปลุกพลังเมื่อวานเองนะ!”
“ใช่ นายเป็นคนเดียวที่พลังสอดคล้องกับสถานที่นั่นที่สุด” วาริณว่าเสียงเรียบ ก่อนจะยื่นคริสตัลสีฟ้าเล็ก ๆ ให้เขา “นี่คือหินอัญเชิญ หากเกิดอะไรขึ้น กดมันแล้วเราจะรู้ทันที”
“โอเค...ผมจะลองดู” ธามไทรับหินมาใส่กระเป๋าเสื้อก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ
บ่ายวันนั้น เขาออกเดินทางไปยังอุทยานด้วยรถเวทซึ่งเคลื่อนที่ด้วยพลังธาตุน้ำ เส้นทางเงียบสงบแต่ภายในใจเขากลับเริ่มสั่นคลอนเล็กน้อย เสียงที่ได้ยินในพิธีคืนก่อนยังดังก้องอยู่ในหู
“ผู้แบกโชคชะตา...” เขาพึมพำเบาๆ
เมื่อไปถึงอุทยาน ธามไทพบว่าทางเข้าเก่าๆ ถูกปิดด้วยไม้ระแนงผุๆ และป้ายเตือนห้ามเข้า แต่เขาก็ปีนเข้าไปอย่างไม่ลังเล
ภายในอุทยานเต็มไปด้วยต้นไม้น้ำขึ้นปกคลุม ผิวน้ำสงบนิ่งเกินปกติ เสียงนกเงียบสนิท อากาศเย็นยะเยือกแม้จะเป็นยามบ่าย
เขาก้าวเดินอย่างระมัดระวังผ่านสะพานไม้ไปยังศาลเจ้ากลางบึง ศาลเก่าทรุดโทรม แต่ยังมีร่องรอยของพลังเวทหลงเหลืออยู่ วงเวทจางๆ สลักอยู่บนพื้นหิน ดอกไม้แห้งที่ถูกทิ้งไว้ราวกับเพิ่งถูกบูชาเมื่อไม่นานมานี้
ทันใดนั้น ลมเย็นวูบหนึ่งพัดผ่าน เขาสะดุ้ง แล้ววงเวทใต้เท้าเขาก็เรืองแสงขึ้นเอง
“มีบางอย่างอยู่ที่นี่...” เขาพึมพำ ก่อนจะยกมือขึ้นเตรียมเวทป้องกัน
เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังมาจากหลังศาล เขาหันขวับ—แต่ไม่พบใคร
จากเงามืดด้านหนึ่ง เงาร่างคล้ายหญิงสาวค่อยๆ ปรากฏขึ้น ผิวของเธอซีดขาว ดวงตาคล้ายมีม่านน้ำปกคลุม เธอสวมชุดคล้ายพรายน้ำแต่กลับมีไอพลังแปลกประหลาดแผ่ออกมา
“...เจ้าคือ ผู้สืบสายเลือดแท้...” เสียงของนางเบาราวกับลมพัด
“คุณเป็นใครกัน” ธามไทถามอย่างระแวดระวัง
“ข้าเคยเป็น...ผู้เฝ้าศาลนี้ แต่ขณะนี้...ข้าไม่อาจควบคุมตนเองได้อีกต่อไป”
ทันใดนั้น สีหน้าเธอเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว และวงเวทมืดก็ปรากฏใต้เท้าของนาง พลังเวทสีดำพุ่งออกมาเป็นคลื่น!
ธามไทตั้งเวทป้องกันแทบไม่ทัน คลื่นแรกปะทะโล่ของเขาจนสะเทือนร่าง เขาถอยกรูดแต่ยังยืดแขนอีกข้างเพื่อควบคุมน้ำรอบตัว ก่อเป็นหอกน้ำพุ่งสวนกลับไป
การปะทะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว แต่ในสายตาของธามไท เขากลับเห็นแวบหนึ่งของน้ำตาไหลจากดวงตาของหญิงสาว
“ช่วยข้า...ปลดปล่อยข้า...”
หัวใจของเขาเต้นแรง ธามไทพยายามเปลี่ยนพลังโจมตีเป็นพลังล้อมแทน เขาควบคุมน้ำให้กลายเป็นม่านปิดกั้นพลังเวทของเธอ ก่อนจะใช้หินอัญเชิญกดส่งสัญญาณกลับหอพัก
ภายในไม่ถึงนาที วาริณก็ปรากฏตัวพร้อมพรายน้ำอีกสองตน พวกเขาช่วยกันปิดผนึกพลังของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว
หลังจากทุกอย่างสงบลง วาริณมองธามไทด้วยสายตาทึ่งปนเป็นห่วง
“นายจัดการกับพลังระดับนั้น...โดยไม่คิดจะสู้จนอีกฝ่ายสลายไป นั่นมันไม่ธรรมดาเลย”
ธามไทมองร่างหญิงสาวที่สลบอยู่ในม่านพลัง ก่อนจะกล่าวเบาๆ
“เธอยังไม่หมดหวัง...ฉันรู้สึกได้”
และนั่นคือภารกิจแรกของเขา—ไม่ใช่เพียงเพื่อทดสอบพลัง แต่เพื่อเรียนรู้ว่าในโลกของเวทมนตร์...ไม่ใช่ทุกอย่างจะมีแค่ขาวกับดำ
...(โปรดติดตามตอนต่อไป...)...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 10
Comments