เมื่อคาโนทอรัสเดินหายไปในความมืด ทุกคนบนแพก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ อีธานก็ได้เข้าไปลูบหลังเอเดนแล้วพูดว่า
"ใจเย็นๆ ค่อยๆหายใจ เดี๋ยวช็อค"
เมื่อพูดจบคลินก็มานั่งคุยกับเอเดน ส่วนอีธานก็ไปนั่งคุยกับนาธานที่ด้านหน้าแพ
"เมื่อกี้ นายกล้ามากฉันชื่นชมเลย"
นาธานพูดกับอีธาน
"ไม่หรอก ฉันก็แค่อยากให้พวกเรารอดออกไปจากเกาะบ้านี้"
เมื้ออีธานพูดจบนาธานได้ทำหน้าซึมๆพูดทั้งน้ำตาว่า
"มันเป็นความผิดฉัน ที่ทำให้พวกนายต้องมาเจออะไรแบบนี้ "
อีธานเมื่อเห็นอย่างนั้นก็พูดว่า
"นี้......นี้(เอามือลูบหลังนาธาน) มันไม่ใช่ความผิดนายเลย เรื่องนี้พวกเราก็แค่ซวย อย่าโทษตัวเองเลย"
"รู้อะไรมั้ย....ชีวิตนี้ให้คนอื่นด่าเราก็พอ ไม่ต้องไปช่วยคนอื่นด่าหรอก ไม่งั้นมันจะเป็นจริง"
เมื่อพูดจบอีธานประคองใบหน้าของนาธานมาแล้วหน้าผากของทั้งสองสัมผัสกันเบาๆ ด้วยความนุ่มนวล เป็นเหมือนการปลอบโดยที่ไม่มีคำพูดใด คล้ายราวจะบอกว่า
"นายไม่ผิดเลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะพาพวกเรารอดไปทุกคนให้ได้"
เมื่อสัมผัสกันเสร็จ ทั้งนาธานก็ได้เช็ดน้ำตาแล้วพูดว่า
"ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉันในคืนนี้ ฉันอยากให้พวกนายไม่ต้องสนใจฉัน อยากให้พวกนายหนีไป"
อีธานเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็พูดว่า
"นี้ นายจะไม่เป็นอะไร พวกเราจะรอดออกไปด้วยกัน"
เมื้อพูดจบนาธานก็ได้พูดว่า
"ปลอดภัยสักทีนะ หวังว่าเราจะไปถึงชายฝั่งอย่างปลอดภัย"
ทว่าความสุขอยู่ได้ไม่นาน จู่ๆก็ทีเสียง โครม!!! แพสั่นไหวเหมือนถูกอะไรชน ทุกคนล้มลงไปนอนกับพื้น อีธานเงยหน้ามองไปรอบๆทิศทางก็เจอกับกระโตงขนาดใหญ่ ขอบสีเทาบริเวณข้างในเป็นสีแดง ลอยอยู่ข้างเเพ ในระดับความน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้เห็นบริเวณด้านบนของหน้ามัน หน้าของมันเหมือนจระเข้ที่ปากจะยาวและเรียวกว่า คลินก็ได้ถามว่า
"นั้นมันตัวอะไร"
อีธานก็บอกว่า
"นี้มันสไปโนซอรัส เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เห็นแล้วมั้ยละ ไอเกาะนรกนี้ จะไม่มีที่ไหนปลอดภัย"
เมื่อพูดจบมันก็ได้เอาหัวมันกระแทกกับแพ มันได้กระแทกมาเป็นช่วงๆและมันพยายามจังหวะในการกินพวกเขา แต่จังหวะมันไม่ได้ มันก็ได้ดำลงน้ำไป แพค่อยๆลอยไปตามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ทุกคนมองไปทุกๆทาง เผื่อว่ามันจะโผล่มาสักทางใดไม่ก็ทางหนึ่ง
ไม่นานกระโตงหลังของมันได้โผล่ขึ้นอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้นั้น กระโตงอยู่ที่ด้านหน้าของแพ ทุกคนมองไปที่กระโตงด้วยสายตาที่หวาดหวั่น มันว่ายไปดักข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่ช้ากระโตงนั้นก็ค่อยๆสูงขึ้น รูปร่างของมันเริ่มให้เห็นชัดขึ้น เมื้อมันยืนขึ้นทุกคนก็มีสีหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง สไปโนซอรัสได้หันมาจ้องมองที่พวกเขาด้วยสายตาของสัญชาตญานสัตว์ป่า มันก็ได้เอาหางสะบัดจนแพนั้นล่ม ทุกคนที่อยู่ใต้แพที่ล่มก็พยายามตะเกียกตะกายว่ายขึ้นเหนือน้ำและรีบว่ายเข้าฝั่งแต่มันไม่ง่ายทุกคตที่กำลังตะเกียกตะกายว่ายขึ้นฝั่งสไปโนซอรัสก็ได้มองในน้ำแบ้วพยายามที่จะกินทีละคนแต่ด้วยความมืดทำให้มันกัดไม่โดน ทุกคนนั้นว่ายขึ้นฝั่งกันหมดแล้ว แต่เหลือเพียงเอเดนที่ยังอยู่ในน้ำ เขานั้นว่ายน้ำไม่เป็นสไปโนซอรัสค่อยๆเดินไปหาเอเดนทีละนิด คลินกำลังจะไปช่วยแต่อีธานเข้ามาดันตัวเขาแล้วพูดว่า
"ไม่คลิน เราช่วยไม่ทัน"
คลินก็ได้ตอบกลับไปว่ส
"ทันสิ เรายังช่วยเอเดนทัน แกน่ะหลบไป"
เมื่อพูดจบคลินก็ได้ผลักอีธานแล้วลงน้ำเตรียมจะไปช่วย แต่ทว่ายังไม่ทันได้เริ่มว่าย เจ้าสไปโนซอรัสก็ได้กัดเอเดนไปครึ่งตัวก่อนที่จะสะบัดขึ้นฟ้า แล้วกลืนลงไปภายในคำเดียว คลินสีหน้าถอดสี ช็อคกัลสิ่งที่เกิดขึ้น
.....แต่ว่า สไปโนซอรัสได้หันมาทางพวกเขา แล้วคำราม ทุกคนก็รีบวิ่งอย่างสุดชีวิต เสียงฝีเท้าอันใหญ่โตและเสียงคำรามที่ดังไปทั่วทั้งป่ากำลังตามมาติดๆ อีธานได้พูดขึ้นมาว่า
"นั้น ข้างหน้ามีร้านสะดวกซื้อร้าง"
เมื่อพูดจบทุกคนก็รีบวิ่งอย่างรักตัวกลัวตาย เมื่อทุกคนเข้าไปในร้านดวกซื้อร้าง สไปโนซอรัสได้หยุดอยู่กับที่แล้วคำรามเสียงดังไปทั่วป่า ก่อนที่มันจะจะหันหลังค่อยๆหานไปในความมืด เมื่อมันหายไปในความมืด คลินก็ได้พลักอีธานจนล้มแล้วพูดว่า
"แกทำอะไร เมื่อกี้เราช่วยเอเดนได้ แกมันไอคนเห็นแก่ตัว"
อีธานก็ได้ค่อยๆดันตัวเองลุกขึ้นจากพื้น มื่อลุกขึ้นได้ก็พูดว่า
"ใช่ ฉันมันเห็นแก่ตัว แต่ฉันก็หาวิธีให้พวกเรารอดกันทุกคน และอีกอย่างเมื่อกี้ต่อให้ฉันไม่ดันนาย ยังไงก็ช่วยเอเดนไม่ทัน ถ้านายเข้าไปช่วนก็เหมือนไปตายเปล่าๆ ฉันทำเพื้อช่วยเราทุกคนให้รอดออกไปจากไอเกาะบ้านี้(อีธานพูดอย่างสุดเสียงด้วยอารมณ์โมโหปนเศร้า)"
เมื่อพูดจบคลินและทุกคนก็ได้ทำหน้าเศร้าโศก เพราะพึ่งเสียเพื่อนในกลุ่มไปคนนึง ไรอันก็ได้พูดขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัด แต่ทว่าในความเงียบนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
"คลิน ถ้าเมื่อกี้นายเข้าไปช่วนเอเดน นายก็จะไม่รอดเหมือนกันและจะกลายเป็นการตายที่สูญเปล่า ที่ผ่านมาอีธานพยายามจะช่วยเรา เราทุกคนให้ออกไปจากไอเกาะนรกนี้"
เมื่อพูดจบนาธานก็ได้พูดต่อว่า
"เราก็ไม่ได้ต่างจากพวกไดโนเสาร์หรอก ผู้อ่อนแอมักถูกผู้ล่าที่แข็งเเกร่งกว่าเสมอ ความอ่อนแอจะตกเป็นเหยื่อในเกาะนี้"
เมื่อพูดจบ ในบรรยากาศของความเงียบที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ไรอันก็ได้เหลือบไปเห็นกระดาษที่มีสีเขียวๆ ไรอันเดินไปเปิดดูก็พบว่ามันคือแผนที่ของเกาะนี้ ไรอันได้เรียกทุกคนมาดู เมสันก็ได้พูดว่า
"นั้น ท่าเรือที่ชายฝั่ง(ชี้ไปที่ด้านล่างของแผนที่)"
โยเซฟพูดต่อจากเมสันว่า
"มีเส้นทางที่จะไปถึงชายฝั่งเร็วกว่าทางหลักที่เราเดินทางอยู่ด้วย"
เมื่อโยเซฟพูดจบนาธานพูดว่า
"จะไปยังไง เราไม่รู้ว่าไอตัวนั้นมันยังอยู่แถวนี้รึเปล่า"
เมื่อพูดจบทุกคนก็ครุ่นคิดกันอย่างหนัก แต่ทว่าในความมืดมิดของผืนป่า จู่ๆเสียงโทรศัพน์ดาวเทียมก็ดังขึ้น ทุกคนค่อยๆหันไป ก็พบว่าคาโนทอรัส มันยืนจ้องพวกเขาอยู่ในความมืด สายตาคู่นั้นจับจ้องพวกเขาโดยไม่ละสายตา ความกลัวในจิตใจเบื้องลึกของทุกคนเริ่มแสดงท่าทีของความหวาดกลัว อีธานก็ได้เดินไปหลังเคาร์เตอร์เผื่อจะเจออะไรที่สามารถใช้ได้ เมื่อเดินไปก็เห็นปืนพลุ กับ แท่งไฟ1อัน อีธานเห็นอย่างนั้นก็รีบเปิดกล่องเช็คก็พบว่ากระสุนปืนพลุมี2ลูก แท่งไฟมี1อัน อีธานก็ได้เสนอแผนในที่จะไปให้ถึงชายฝั่ง
"ตอนนี้ปืนพลุมีกระสุน3ลูก ต้องเก็บลูกนึงไว้ใช้ยิงส่งสัญญานขอความช่วยเหลือ ส่วนอีกอันฉันจะใช้ยิงล่อคาโนทอรัสไปที่อื่น ในจังหวะนั้นพวกนายต้องรีบวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าวิ่งอยู่นอกระยะการมองเห็นของมัน เราก็รอด"
ทุกคนก็ได้พยักหน้าแต่นาธานได้เสนอตัวขอไปด้วยคน อีธานก็พยักหน้าแล้ว ก็เริ่มแผนการ อีธานค่อยๆเปิดประตูกระจกออก ใส่ลูกกระสูนแล้วค่อยๆเดินออกไปในป่าที่มืดมิด อีธานกับนาธานค่อยๆเดินเลาะไป แต่ในจังหวะนั้นพื้นดินสั่นสะเทือน เสียงบางอย่างผ่านใบไม้ค่อยๆดังขึ้น อีธานกับนาธานได้แอบอยู่หลังพุ่มไม้ แล้วค่อยๆเงยหน้าออกมาดู คาโนทอรัสค่อยๆเดินมาข้างหน้าจุดที่เขาอยู่ ปากของมันคาบแรปเตอร์ที่ยังไม่ตายสนิทอยู่ มันคายแรปเตอร์ลงพื้น ค่อยๆดม แรปเตอร์ก็ฟื้นพยายามจะหนีแต่มันได้เอาเท้ากดทับไว้ มันได้ดมด้วยความกระหาย ไม่ช้ามันก็ได้กัดหัวของแรปเตอร์ขาดสะบั้น อีธานได้พูดกระซิบกับนาธานว่า
"การล่าของมัน มันไม่ได้ล่าเพื่อความอยู่รอด แต่มันล่าเพื่อความสนุก"
และนาธานก็กระซิบบอกว่า
"การล่าเหยื่อของมัน มีการเล่นกับเหยื่อก่อนค่อยกิน"
เมื่อพูดจบเสียงฝีเท้าค่อยๆดังขึ้น เสียงใบไม้ที่ถูกอะไรผ่านค่อนๆดังขึ้น คาโนทอรัสค่อยๆเงยหน้า อีธานมองไปอีกฝากที่มันมอง ก็เห็นสไปโนซอรัสคาอยๆออกมาจากความมืด เมื่อทั้งสองเจอกันก็ทำเสียงขู่ใส่กัน คาโนทอรัสได้คำรามใส่สไปโนซอรัส เสียงนั้นดังกังวาลไปทั่วป่าอีธานแบะนาธสนได้เอามือปิดหู เพราะเสียงมันดังเกินไป เมื่อมันคำรามเสร็จสไปโนซอรัสก็ได้เดินถอนหลังหายไปในความมืด อีธานได้หันไปกระซิบบอกนาธานว่า
"สัตว์ใหญ่ทั้งคู่ แต่เป็นสไปโนซอรัสที่ถอย"
นาธานก็กระซิบบอกว่า
"งั้นแสดงว่า มันคือจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร"
ไม่รอช้าอีธานได้หยิบปืนพลุแล้วยิงไปทางที่สไปโนซอรัสเดินมา แสงพลุสีแดงลอยขึ้นฟ้าค่อยๆตกลงพื้น
คาโนทอรัสเงยหน้า เมื่อมันเห็นแสงสีแดงจากพลุก็ค่อยๆเดินไป อีธานและนาธานได้ใช้จังหวะนั้นออกมาจากจุดนั้นแล้วรีบวิ่งไปยังเส้นทางลัดที่วางแผนกันไว้
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments