กลิ่นของเนื้อหอมกรุ่นหลังจากขึ้นจากเตาอีก0รอบและถูกจัดวางไว้ที่โต๊ะอาหารตามเดิม
คูโรซยังคงกินอาหารได้เอร็ดอร่อยทั้งที่เจอเหตุการณ์น่าสยดสยองมา นี่เป็นปฏิกิริยาที่ซาดีคาดไม่ถึง เด็กสี่ขวบจะไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อยเลยหรือ
"กินหมดแล้วครับ!...ท่านพี่ไม่กินหรอขอรับ"คูโรซมองเนื้อในจานของซาดีก่อนจะถามออกมา
"เจ้า...ไม่กลัวหรือ"
"กลัว...เรื่องเมื่อเข้าหรือขอรับ ข้าบอกได้เลยว่าข้ากลัวขอรับแต่..."น้ำเสียงของคูโรซไม่มีความสั่นไหวเลยสักนิด มันเต็มไปด้วยความซื่อตรงตามฉบับเด็กที่ยังไม่รู้จักการเสแสร้ง
"อืม...ข้าคงคิดมากไปเอง เจ้าอิ่มรึยังกินของข้าได้นะ"ซาดีเลื่อนจานอาหารของตนให้เด็กน้อยตรงหน้า
"ขอบคุณนะขอรับ"คูโรซหั่นเนื้ออย่างพิถีพิถันก่อนจะใช้ช้อนจิ้มเนื้อที่หั่นไว้แล้วนำมาจ่อปากของซาดีอย่างตั้งใจ
"ท่านคงจะกินไม่ลงเพราะคิดมากใช่ไหมขอรับ ให้ข้าป้อนท่านสิขอรับมันช่วยได้นะครับแฮะๆ"ซาดีนิ่งเงียบมองเนื้อที่กำลังจ่ออยู่ที่ริมฝีปากของตนก่อนจะค่อยๆอ้าปากและงับเนื้อเข้าปากอย่างว่าง่าย
"เป็นไงขอรับ!"เด็กชายยิ้มกว้างจนตาขึ้นรูปสระอิ
"ก็ดี"ซาดียังคงกอดอกกินเนื้อเงียบๆโดยมีคูโรซคอยป้อนอยู่ไม่ห่าง
หลังจากเหตุการณ์นั้นก็ผ่านมาสัปดาห์นึงแล้ว การฝึกยังคงดำเนินต่อไป
ข้อสังเกตที่ซาดีมองเห็นจากการฝึกคูโรซช่วงนี้ แม้เขาจะมีร่างกายของเด็กสี่ขวบแต่กลับจดจำสิ่งที่ข้าสอนได้รวดเร็ว...ทั้งที่ข้าก็พึ่งเรียนจากระบบเองเช่นกัน แต่ดูเหมือนเด็กนี่จะไปไกลกว่าข้าพอสมควร
เจ้าเด็กคนนี้ยังเด็ก แต่กลับจิตใจเหมือนผู้ใหญ่...หรืออาจเป็นเจ้าแค่พยายามมากกว่าคนอื่น
"ข้าจะพาเจ้าไปประลองฝีมือกับเด็กวัยเดียวกัน"ที่โลกนี้ยังมีเด็กอีกมากมายที่เป็นอัจฉริยะ ต้องให้เขาไปเจอด้วยตัวเอง
"หลังจากนี้หากเจ้าโตขึ้นแล้วข้าจะพาเจ้าไปฝึกในป่าของพวกสัตว์ปีศาจ"ซาดีเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ ไม่สบตาราวกับแค่แจ้งกำหนดการฝึกธรรมดาๆ เขาไม่แสดงท่าทีตื่นเต้นหรือห่วงใย ไม่มีคำพูดปลอบโยนหรือคำชมจากการฝึกที่นานๆครั้งจะได้
แต่คูโรซสังเกตได้ว่า เขาเอ่ยคำว่า"หากเจ้าโตขึ้นแล้ว"ด้วยเสียงแผ่วกว่าปกติ
คูโรซยิ้มกว้างแบบที่ใครเห็นก็ต้องนึกว่าเด็กคนนี้ช่างไร้เดียงสาจริงๆ
แต่ในแววตานั้น กลับฉายประกายเจ้าเล่ห์จางๆ ราวกับกำลังจับไต๋บางอย่างได้
ริมฝีปากเล็กๆ คลี่ยิ้มสดใส แต่หางคิ้วกระตุกขึ้นเล็กน้อย บ่งบอกว่าเจ้าตัวรู้อะไรมากกว่าที่พูดออกมา
“ข้าจะโตให้ไวเลยขอรับ!”
เด็กชายตัวน้อยพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง แต่ดวงตาไม่ละไปจากใบหน้าของซาดีที่แสร้งทำเฉยชาของซาดี
ซาดีเหลือบมองคูโรซแวบหนึ่งราวกับไม่ใส่ใจ
"อย่าพูดให้น่ารำคาญนัก แค่ดาบเจ้ายังจับให้ตรงไม่ได้เลย"เขาบ่นเสียงเรียบพร้อมกับมือที่ยื่นกระบอกน้ำให้คูโรซที่ไม่รู้ว่าไปหยิบมาตอนไหน
คูโรซยิ้มกว้างกว่าเดิมและตอบรับว่า"งั้นข้าจะจับดาบให้ตรงที่สุดในโลกเลยขอรับ!"
ซาดีเงียบแต่แววตาใต้เงาผมกลับอ่อนลงเล็กน้อย ราวกับรอยยิ้มที่ไม่ยอมเผย
.
.
.
เมื่อวันสิ้นสุดลงและราตรีเริ่มต้นด้วยแสงจันทร์เงาของร่างหนึ่งก้าวออกจากตัวเรือนอย่างเงียบงัน...
"ระบบ"หลังจากส่งเสียงเรียกระบบก็ส่องแสงเรืองรองออกมา
"เจ้าอยากฝึกเพิ่มใช่ไหม"
"อืม"
"ข้าจะอธิบายให้เจ้าและจะคอยบอกเจ้าว่าผิดพลาดตรงไหนแล้วกัน ฟังให้ดีล่ะ..."
ค่ำคืนเดินไปช้าๆมีเพียงจันทร์เงียบงันที่ส่องแสงเหนือยอดไม้และร่างหนึ่งที่เคลื่อนไหวอย่างไร้เสียง
ซาดีกวัดกระบอง ฟาดลงอากาศ สะบัดปลายไม้ราวกับลมหายใจของตน หยาดเหงื่อปลิวกระจายตามแรงเหวี่ยงในแต่ละท่วงท่า ทิ้งไว้เพียงเสียงหอบแผ่ว และเงาไหวบนพื้นดิน
เม็ดฝนแรกโปรยลงจากฟากฟ้าอย่างเงียบงัน
ตามมาด้วยสายฝนบางเบา ที่ไม่ได้น่ากลัว ไม่ได้หนาวเหน็บ
กลับให้ความรู้สึก…เหมือนอ้อมแขนของใครบางคน ที่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ
ซาดีไม่ได้หยุดฝึก เขาปล่อยให้เม็ดฝนไหลไปตามไรผม แผ่นหลัง และแขนที่ยังเคลื่อนไหว
ดวงตาเขามองตรง ไม่ใช่เพราะอยากชนะใครแต่เพราะมีใครคนหนึ่ง...ที่กำลังเดินตามหลังเขามาอย่างสดใสเหลือเกิน
เขาอยากเก่งขึ้น ไม่ใช่เพื่อแข็งแกร่งกว่าแต่เพื่อเป็นคนที่คู่ควรกับรอยยิ้มของเด็กคนนั้น
และฝนที่ตกลงมาในคืนนี้…ไม่ใช่ฝนของความเศร้าแต่เป็นสายฝนของชีวิตต่อจากนี้
.
.
.
“แค่กๆๆ…”เสียงไอโขลกดังขึ้นจากเตียงด้านใน ซาดีขยับตัวพลางยกมือขึ้นกุมหน้าอกเบาๆ
ดูเหมือนผลจากการฝึกใต้สายฝนเมื่อคืนจะเริ่มแสดงตัวแล้ว
“ฝนแค่นี้ก็ทำเอาป่วยเลยแฮะ...อ่อนแอเสียจริง”เสียงพึมพำของชายหนุ่มแทรกมาในความเงียบของยามเช้า
เขาไอเบาๆ หนึ่งครั้งก่อนจะยันตัวลุกจากที่นอนโดยไม่ลังเล
ร่างกายอาจเพลีย...แต่เขายังจำได้ดีว่ามีใครคนหนึ่งรออยู่
มื้อเช้าจะต้องพร้อมก่อนเจ้าตัวเล็กจะตื่นขึ้นมา
ซาดีจึงฝืนตัวเองเดินไปยังครัว ราวกับมันเป็นเรื่องปกติที่เขาทำมาตลอดชีวิต
ซาดีจุดเตาเบาๆ ไฟอ่อนค่อยๆ ลามไล้ใต้หม้อเหล็ก เขาโยนรากสมุนไพรที่ฝานไว้ตั้งแต่เมื่อวานลงไป โดยไม่ลืมตักน้ำสะอาดใส่ตาม
กลิ่นจางๆ ของใบเครื่องเทศเริ่มลอยขึ้นพร้อมไอน้ำ เขานั่งลงอย่างเงียบๆ ข้างหม้อ ใช้ช้อนคนไปช้าๆ เสียงตะหลิวกระทบขอบหม้อเบาๆ ดังก้องในครัว
เขาเหยาะเกลือเล็กน้อย ชิม และเติมอีกนิดตามความเคยชิน
ไม่มีสูตร ไม่มีตำรา มีเพียงความทรงจำของรสชาติที่เด็กคนนั้นชอบ
แม้ดวงตาจะปรือเล็กน้อยเพราะพิษไข้จากเมื่อคืนแต่มือของเขายังคงนิ่งแน่ว ไม่ต่างจากใจที่สงบลงอย่างประหลาด
กลิ่นซุปหอมอ่อนๆ ค่อยๆ ลอยออกมาจากครัว เหมือนประกาศว่าเช้าวันใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว
"ท่านพี่ขอรับ!วันนี้ทำอะไรกินหรือ หอมจนถึงในห้องของข้าเลยขอรับ"คูโรซวิ่งดุกดิ้กเข้ามาในห้องครัวด้วยความเคยชิน
"ซุปไก่สมุนไพรอ่อน..."
“ท่านพี่...เสียงท่านแหบแปลกๆ นะขอรับ”
“หืม? คงแค่ตื่นเร็วไปหน่อยน่ะ”
“เมื่อคืน...ฝนตกขอรับ”
“อืม...”
ซาดีไม่พูดอะไรอีก แต่ใบหน้าที่ปรากฏตอนกำลังเทซุปลงชาม ก็บอกทุกอย่างแทนคำพูดแล้ว
"ท่านพี่ซาดี วันนี้ท่านคงจะต้องพักผ่อนนะขอรับ"
"พักผ่อน?ทำไมล่ะ"ซาดีถามเสียงนิ่ง เหมือนไม่สนใจคำแนะนำ
คูโรซยกคิ้ว ขยับช้อนในมือแล้วเอียงคอมองท่านพี่ของตน
"ก็เมื่อเข้าท่านไอแค่กๆ น่ะขอรับ ข้าเกือบคิดว่าท่านจะแปลงร่างเป็นปีศาจไอเสียอีก"
ซาดีปรายตามองเด็กน้อยทันที ไอ้เด็กนี่ไปฝึกคำพูดเรียกบาทามาจากไหนกัน"พูดมากนัก เดี๋ยวข้าส่งไปฝึกกลางฝนแทน"
คูโรซยิ้มกว้างไม่สะทกสะท้าน ยักไหล่อย่างรู้ทัน
"อย่างน้อยข้าก็ไม่เดินลากขาเหมือนคนหมดแรงตอนเช้าหรอกขอรับ"
ซาดีถอนหายใจเบาๆ ไม่ปฏิเสธ แค่ลุกขึ้นรินน้ำให้
"ข้าแค่ลืมวอร์มร่างกายก่อนฝึกเท่านั้นเอง"
"งั้นพักซักหน่อยสิขอรับ แค่พักเฉยๆ นะ ไม่ต้องนอนก็ได้"
คูโรซพูดเสียงใส ทำเป็นมองซุป แต่หางตาแอบจับสีหน้าของซาดีไม่ให้คลาด
"ข้าบอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร" ซาดีพูดพร้อมนั่งลงข้างเด็ก
แต่ดันเอามือเท้าคางนิดๆ คล้ายหมดแรงกลายๆ
คูโรซกระตุกยิ้ม ก่อนจะพึมพำเบาๆ
"ท่านพี่ก็ปากแข็งเหมือนเดิมเลยนะขอรับ...ดีที่ข้าชินแล้ว"
"ข้าเนี่ยนะปากแข็ง?"
ซาดีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย สีหน้ายังดูนิ่ง แต่หางคิ้วกระตุกเบาๆ
คูโรซยิ้มกว้างทันทีเหมือนรอจังหวะนี้อยู่แล้ว
"ขอรับ ท่านพี่เป็นอันดับหนึ่งเลย ปากบอกไม่เป็นอะไร แต่ตัวแทบจะทรุดเวลายืน"ซาดีพูดพลางตักซุปกินต่ออย่างอารมณ์ดี
"เจ้า...เด็กน้อยนี่มัน..."ซาดีพึมพำเบาๆ แล้วเอื้อมมือจะบิดแก้มคูโรซ แต่เจ้าตัวดันเบี่ยงตัวหลบได้
คูโรซหัวเราะคิกคัก
"โอ๊ย! ท่านพี่ไม่สบายอยู่ห้ามใช้กำลังนะขอรับ เดี๋ยวจะป่วยหนักกว่าเดิม!"น้ำเสียงยังล้อๆ แต่สายตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วงอย่างจริงใจ
ซาดีถอนหายใจยาว พึมพำเหมือนพูดกับตัวเอง
"ข้าเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าใครเป็นพี่กันแน่..."ซาดีพึมพำพลางยกถ้วยซุปขึ้นซดจนหมด ก่อนจะวางลงกับโต๊ะด้วยเสียง กึ้ง อย่างไม่พอใจนัก
เขาลุกพรวดอย่างรวดเร็วแต่ร่างกายที่ยังไม่ฟื้นจากพิษไข้กลับทรยศ
"อ—"ซาดีเซเล็กน้อย แขนขวาเอื้อมไปจับขอบโต๊ะพยุงตัว แต่แรงที่เคยมั่นคงกลับสั่นนิดๆ
"ท่านพี่!"คูโรซรีบลุกพรวดเข้ามาคว้าแขนซาดีไว้ได้ทันแม้จะตัวเล็กกว่า แต่ท่าทางเอาจริงเต็มที่
"นี่ข้าไม่ได้บอกให้พักหรือขอรับ! ไม่เชื่อฟังกันเลย!"เด็กชายมองสบตาเขาอย่างไม่ยอมแพ้
ซาดีเบือนหน้าไปทางอื่น พึมพำเบาๆ
"ข้าแค่...จะเก็บถ้วย..."น้ำเสียงแผ่วจนแทบฟังไม่ได้ว่าอ้างหรืออาย
คูโรซยังจับแขนซาดีไว้แน่น ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
"ถ้าท่านพี่ล้มลงไปตรงนี้ ข้าจะหอบไปวางที่เตียงเลยนะขอรับ แบบไม่เกรงใจเลยด้วย"
"...ข้าไม่ต้องให้เด็กตัวกระเปี๊ยกแบกหรอกน่า"
ซาดีตอบกลับเสียงเบา แต่ไม่สะบัดแขนออก
คูโรซหัวเราะนิดๆ ก่อนจะพูดอย่างนุ่มนวล
"ถ้างั้น...อย่างน้อยวันนี้ ท่านพี่ขอรับ ฝากเรื่องเก็บถ้วยกับข้าเถอะนะ"
ดวงตาสีใสของเด็กชายยังจับจ้องด้วยแววตั้งใจเต็มเปี่ยม
"...ก็แล้วแต่เจ้า"ซาดีตอบเสียงเบาอย่างยอมจำนน ก่อนจะไม่พูดอะไรต่ออีก
ลากสังขารของตนไปที่ห้องนอน ช้าๆ หนักๆ เหมือนร่างกายกดทับด้วยก้อนหิน
พอหัวถึงหมอนก็แทบจะจมหายลงไปทันที
ฟุ่บ
เสียงหมอนรองศีรษะดังเบาๆ ขณะเปลือกตาปิดลงอย่างหมดแรง
แต่แม้จะหลับตาแล้ว ความรู้สึกถึงสายตาคู่นั้น...ก็ยังไม่หายไป
เงาของเด็กชายตัวเล็กยืนอยู่หน้าประตูอย่างเงียบๆ
ในมือถือตะกร้าเล็กๆ ใส่ผ้าขนหนูกับยาสมุนไพรที่พอหาได้ในบ้าน
“ท่านพี่เนี่ย...ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองเหนื่อยเลย”คูโรซพึมพำเบาๆ ราวกับกลัวจะรบกวนการพักผ่อนนั้น
ก่อนจะเดินเข้าไปเงียบๆ วางผ้าเช็ดตัวพาดไว้ที่ข้างเตียง และจัดหมอนอีกใบให้อย่างเบามือ
เขายืนนิ่งมองใบหน้าที่ตอนนี้อ่อนโยนลงเพราะหลับสนิทแล้วกระซิบเบาๆ อย่างแทบไม่ได้ยิน
“ข้าจะโตให้ทัน...แล้วคอยดูแลท่านพี่เอง”
จากนั้นก็หันหลังกลับออกจากห้องทิ้งไว้เพียงความเงียบ และเสียงหายใจสม่ำเสมอของชายผู้ปากแข็ง แต่ใจอ่อนเพราะเด็กคนหนึ่ง
...----------------...
...❤️ขอบคุณที่อ่านจนจบ❤️...
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments