หนึ่งพานพบ สองผูกผัน
บ้านหลังเดี่ยวสองชั้นตั้งอยู่บนเนินเขาเด่นหราภายใต้รมเงาของต้นไม้ใหญ่หนึ่งต้น
ในบ้านหลังนี้มีผู้อาศัยเพียงผู้เดียวเท่านั้น
ไม่มีใครรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นโผล่มาจากไหนและโผล่มาได้ยังไงและไม่มีใครที่คิดจะสงสัยใคร่รู้แม้แต่น้อย
"นั่นคือมุมมองของคนภายนอกที่มีต่อข้าสินะ"เด็กหนุ่มนั่งลงที่ระเบียงหน้าบ้านของตนพลางพิงเสาไปพลางในขณะที่กำลังคุยกับหน้าต่างโปร่งแสงสีฟ้า
สิ่งที่หลายๆคนเรียกว่าระบบ
"ใช่นั่นคือมุมมองของคนภายนอก เจ้าควรไปสำรวจหมู่บ้านที่ข้างล่างเนินเขาตรงนั้นซะนะ"
"คำพูดโบราณคร่ำครึชะมัด"เด็กหนุ่มทำหน้าหน่ายก่อนจะลุกและพร้อมเดินไปที่หมู่บ้านตามที่ระบบแนะนำ
"ที่ชาวบ้านไม่สงสัยเจ้าต้องขอบคุณการมีอยู่ของระบบนี้ซะนะ อีกอย่างเจ้าเลิกใช้ภาษาของโลกที่แล้วด้วย เจ้าคือปรมาจารย์แห่งชาติเชียวนะ"
"ปรมาจารย์แห่งชาติกับผีน่ะสิ นอกจากทำงานบ้านก็ทำอย่างอื่นไม่เป็นสักอย่าง"
"ปรมาจารย์ด้านการทำความสะอาดไง เป็นพ่อบ้านดีๆนี่เอง สิ่งที่ขึ้นชื่อว่า 'สวะ' จะถูกเจ้ากำจัดได้อย่างง่ายดาย"
"เหอะ ก็แค่นั้น"เด็กหนุ่มพูดกับระบบจนถึงในตัวหมู่บ้าน
หมู่บ้านแห่งนี้คือหมู่บ้านฟิวส์ หมู่บ้านที่ชาวบ้านสามัคคีและปรองดองกันอย่างแน่นแฟ้น พวกเขามักจะร่วมกันเผชิญหน้าและแก้ปัญหาด้วยกัน หากมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งก็มักจะมีผู้ไกล่เกลี่ยช่วยหยุดฉนวนของความรุนแรงเอาไว้ได้
"พ่อหนุ่ม พึ่งย้ายมาใช่ไหม เอ้านี่ของฝาก คงเป็นคนที่มีฝีมือดีล่ะสิท่าถึงได้หอบบ้านมาทั้งหลังขนาดนั้น"
"ฮะๆ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอขอรับ"เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งพลางรับของจากผู้ใหญ่"คราหน้าข้าจักเตรียมผักเตรียมปลามาให้ท่านบ้างนะขอรับ"
"ได้สิจ้ะพ่อหนุ่ม ข้าต้องกลับแล้วขอตัวก่อน"
"ขอรับเดินกลับดีๆนะขอรับ"
"ว้าวเจ้าปรับตัวกับภาษาของที่นี่ไวมาก"
'ก็เพราะว่าข้าอ่านนิยายย้อนยุคมาเยอะน่ะสิ แล้วก็ชอบการสวมบทบาทด้วย'
เด็กหนุ่มพูดกับระบบด้วยการอ่านใจพลางมองบนใส่หน้าจอโปร่งแสงสีฟ้า
"ข้ากลับเรือนล่ะ"
"ห๊า!เดินสำรวจแค่นี้อ่ะนะ"
"ก็ใช่ไง มาแล้วกลับแค่นี้ก็จบ"
ในขณะที่กำลังพูดกับระบบเด็กหนุ่มก็รู้สึกถึงสายตาของใครบางคนจึงเหลียวกลับไปมองทันที
เด็ก?มาทำอะไรตรงนี้
พรึ่บ
!
"ข้าว...ขอข้าวหน่อยได้ไหม"เด็กชายตัวเล็กมอมแม่มอายุราวสี่ขวบวิ่งเข้ามากอดขาใต้ร่มผ้าของเด็กหนุ่มที่อายุมากกว่าตนเองกว่าสิบปีหวังใช้เป็นลูกอ้อนใส่คนอายุมากกว่า
"เห้อ...ก็ได้ แต่ข้ายังไม่มีเงินที่จะจ่ายตลาดได้หรอกนะ มีข้าวอยู่ที่บ้านข้าตามมา"ทันทีที่พูดจบเด็กหนุ่มก็สะบัดขาสะบัดผ้าคลุมเดินหันหลังให้กับเด็กน้อยตัวมอมแม่มทันที
แม้คำพูดจะดูเย็นชาแต่การกระทำหาใช่ไม่ เห็นดังนั้นเด็กชายตัวน้อยถึงยิ้มร่าออกมาก่อนจะวิ่งตามปรมาจารย์หนุ่มไปทันที
"อร่อย...ฝีมือของเจ้าไม่เลวเลยนะ!"เด็กน้อยพูดไปกินไปอย่างมูมมาม
"เลอะเทอะ"ได้รับคำชมด้วยแหละ เพราะไอ้สกิลพ่อบ้านนั่นแหละ
ที่นี่มีของให้กินด้วยก็เพราะสกิลนี่เช่นกัน ปลูกผักทำอาหาร หรือทำอะไรอย่างอื่นอีกมากมายที่เกี่ยวกับงานพ่อบ้าน แม้แต่ช่างไม้ช่างตีเหล็กก็ยังเป็นได้
'เด็กนี่พูดคล่องเกินไวนะเจ้าระบบ'
"คงจะเป็นเด็กชนชั้นสูงน่ะสิ ขั้นสูงอย่างเดียวไม่พออาจจะเป็นอัจฉริยะด้วยก็ได้ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าไม่มีใครอัจฉริยะเท่าเจ้าแล้วแหละ "
"ท่านปรมาจารย์ข้ามีนามว่า คูโรซ แล้วท่านล่ะนามว่าอะไรจ้าขอทราบได้หรือไม่"
"ซาดี"นี่คือชื่อที่ข้าได้รับหลังจากมาโลกนี้
"ช่างไพเราะยิ่งนัก...หากไม่เป็นการรบกวนข้าขออยู่ที่นี่ไหมท่าน"
เด็กนี่ตรงไปตรงมาดี
"ข้าจะได้ผลประโยชน์อย่างไร"
"แน่นอนว่าข้าสามารถทำงานหาเงินให้ท่านได้ หรือจะทำงานบ้านงานเรือนให้ท่านก็ได้เช่นกัน"คูโรซกล่าวด้วยแววตามุ่งมั่น
ข้าก็ไม่อยากจะทำลายความมุ่งมั่นหรอกนะแต่ว่า ข้าไม่รู้ว่าข้าจะเลี้ยงเด็กได้ดีหรือไม่ ข้าอบรมสั่งสอนไม่เก่งเท่าไหร่นัก
"เจ้าเห็นสภาพบ้านของข้าหรือไม่ มันมีส่วนไหนให้เก็บบ้าง"ก็ข้าเก็บไปหมดแล้วยังไงล่ะ...จิตวิญญาณพ่อบ้าน
"...ว่าแล้วสินะ คงไม่ได้จริงๆ"หลังจากมองสำรวจรอบๆเด็กชายก็ทำหน้าผิดหวังพลางพูดเสียงแผ่ว
"..."อย่าทำหน้าแบบนั้นสิฟะ ก็ไม่อยากรู้หรอกว่าเจอเหตุการณ์แบบไหนมา แต่จะยอมให้เด็กนี่อาศัยไปก่อนก็ได้
"ก็ได้ข้าจะให้เจ้าอาศัยอยู่ที่นี่ หากแต่ข้าไม่สามารถเลี้ยงเจ้าได้ดีพอเจ้าก็อย่ามาโทษข้าแล้วกัน และอีกอย่างหากเจ้าโตพอที่จะใช้ชีวิต เจ้าต้องออกไปเดินด้วยลำแข้งของตัวเอง"
"เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้วครับ!ข้าจะทำให้ดีที่สุดนะครับท่านปรมจารย์!"
"เรียกข้าซาดีก็พอ"
"ท่านพี่ซาดี!"
แล้วไหงถึงมีคำว่าพี่มาด้วยล่ะเนี้ย เห้อ
.
.
.
หลังจากนั้นก็ผ่านมาแล้วสองเดือนได้ คูโรซปรับตัวให้เข้ากับตารางชีวิตของข้าได้เป็นอย่างดี เขามักจะคอยช่วยงานเล็กๆน้อยๆเท่าที่ตนเองทำได้อย่างการรดน้ำผักที่ปลูกไว้กิน และทำความสะอาดเล็กๆน้อยๆ
เขาเป็นเด็กเรียนรู้ไว พอเวลาผ่านไปซาดีก็เริ่มเปิดใจมากขึ้น เขาซื้อของขวัญให้คูโรซอย่างแรกคืือสมุดหนึ่งเล่มกับปากกาหมึกอีกหนึ่งแท่ง
คูโรซใช้ตัวอักษรได้เป็นอย่างดี นอกจาหนี้เขายังคำนวณเลขเป็นด้วย สมกับเป็นชนชั้นสูง
"ท่านพี่ซาดี ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าท่านมาจากที่ใด"ทันทีที่จบประโยคใบหน้าของเด็กหนุ่มก็แปรเปลี่ยนเป็นอึกครึมทันที
ข้าก็อยากบอกอยู่หรอกเพราะไม่อยากเก็บไว้คนเดียว แต่มันจะวุ่นวายซะเปล่าอีกอย่างข้ามีระบบอยู่ด้วยคงไม่จำเป็นต้องตอบคำถาม
"ไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้ขอรับ...ข้าผิดเองที่ถาม อ๊ะจริงด้วย วันนี้...ข้าขอนอนกับท่านได้หรือไม่"เด็กชายมองหน้าทำตาปริบๆเหมือนกับลูกสุนัขเวลาขออาหาร
"เพราะเหตุใด"
"มะ...ไม่มีเหตุใดขอรับ ข้าแค่...."
"เจ้าก็ให้เจ้าเด็กนี่นอนๆไปเถอะซาดี เจ้าเด็กนี่ถึงจะเป็นอัจฉริยะแต่ก็ยังเป็นเด็ก เขายังโหยหาความรัก"
ระบบได้ให้คำตอบทีสมเหตุสมผลให้กับซาดี เห็นดังนั้นจึงพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับคำขอของเด็กน้อย
นั่นทำให้เด็กน้อยยิ้มร่าก่อนจะเก็บจานข้าวที่ทานหมดแล้วไปล้างและเตรียมตัวอาบน้ำเข้านอน
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเด็กชายก็ค่อยๆเปิดประตูห้องนอนของซาดีและลังเลที่จะเดินเข้าไป
"เจ้าจะนอนหรือไม่"
"นะ...นอนขอรับ!"
"งั้นก็รีบเข้ามา พระจันทร์ขึ้นจะค่อนคืนแล้วมัวชักช้า"
"..."
อะไรน่ะ ทำไมถึงเงียบ
ความเงียบเข้าครอบงำทั้งห้อง เหลือเพียงเสียงหายใจเบาๆและเสียงไม้ลั่นตามจังหวะการเดิน
"เตือน พบปีศาจไม่ทราบสายพันธุ์อยู่ภายในเรือน ระบบทำำการผิดพลาด ไม่สามารถคำนวณเจตนาที่แท้จริงของอีกฝ่ายได้ ระบบการป้องกันตัวไม่สามารถทำงาน"
ห๊า ปีศาจ อย่าบอกนะ เจ้าหนูเกิดอะไรขึ้น! แล้วไหนจะไม่มีการป้องกันตัวอีก ไอ้ปีศาจนั่นไม่อันตรายงั้นหรอ ระบบไม่เคยเตือนแบบนี้มาก่อนเลย
ซาดีลุกพรวดขึ้นจากเตียงและหันไปมองทางประตูที่เด็กชายก้าวเข้ามาทันที แต่กลับไม่พบสิ่งใด
"คูโรซ!"
พรึ่บ
"อึก!"ไม่ทันได้หันกลับร่างของซาดีก็ถูกดึงกลับไปนอนราบกับฟูกหนานุ่มตามเดิมโดยมีร่างของชายแปลกหน้าคร่อมตัวของเขาอยู่
"เจอแล้ว...ยอดรักของข้า"
"เจ้า...เป็นใคร!ข้าพึ่งมาที่นี่ข้าจักไปเป็นยอดรักของเจ้าได้อย่างไร!!"ซาดีพยายามตะเกียกตะกายออกจากอ้อมกอดของคนแปลกหน้าทว่า ระบบปรมาจารย์กลับไม่ทำงานทำให้ไม่มีแรงแม้แต่จะสู้กลับ
"ทำไมต้องมาผิดพลาดตอนนี้ด้วยฟะเพราะแกใช่ไ-อุ๊บ..อื้อ!"
...----------------...
...❤️ขอบคุณที่อ่านจนจบ❤️...
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments