เช้าวันใหม่มาถึงพร้อมไอหมอกอ่อน ๆ ไลอานั่งพิงต้นไม้ใหญ่ ใบหน้ายังหม่นอยู่เล็กน้อยแต่สายตาเริ่มแน่วแน่ขึ้นกว่าคืนก่อน
เธอมองฝ่ามือของตัวเอง มันยังอุ่นอยู่ ราวกับเปลวเพลิงที่ออกมาจากร่างเธอเมื่อคืน...ไม่เคยจากไปไหน
“รู้สึกอย่างไร?” อีเรนถาม เขานั่งอยู่บนก้อนหินฝั่งตรงข้าม กำลังลับกระบี่เวทด้วยแผ่นหินเวทมนตร์
“แปลก...” ไลอาพึมพำ
“มันไม่ใช่แค่เวท แต่มันเหมือน...ส่วนหนึ่งของตัวฉันที่เคยถูกปิดไว้ แล้วเพิ่งตื่นขึ้น”
อีเรนพยักหน้า
“เพราะเวทของเจ้ามาจากสายเลือด...ไม่ใช่การเรียนรู้ ไม่ใช่การฝึกฝนจากตำรา มันคือเวทโบราณของมังกรดั้งเดิม”
“แล้วหุบเขาแห่งแสงคืออะไร?” ไลอาถามอย่างสงสัย
“ทำไมยายถึงบอกว่าฉันต้องไปที่นั่น?”
อีเรนวางกระบี่ลงแล้วพูดช้าๆ
“หุบเขาแห่งแสง...คือดินแดนเดียวที่เหล่าผู้ร้อยเวทยังเหลืออยู่ มันถูกซ่อนไว้หลังม่านมนตรา ใครก็ตามที่ไม่มีสายเลือดมังกร...จะไม่มีวันหาเจอมันได้”
“และมันยังเป็นที่เดียว...ที่สามารถฝึกฝนเวทของเจ้าอย่างปลอดภัย ก่อนที่เงาจะกลืนเจ้าทั้งเป็น”
ไลอาขมวดคิ้ว
“เงานั่นคืออะไรกันแน่?”
อีเรนมองไปยังผืนฟ้า ดวงตาแฝงแววเจ็บปวด
“สิ่งที่พวกเรารู้จักในนาม ‘เงา’ แท้จริงแล้วคือเวทมนตร์เช่นกัน...เวทมนตร์ที่ถูกบิดเบือนด้วยความกลัว ความแค้น และการทรยศ”
“มันเริ่มจากผู้วิเศษกลุ่มหนึ่งในอดีต...ที่หวังจะควบคุมพลังของมังกรโดยไม่สนคำเตือน พวกเขาสร้าง ‘คำสาปแห่งเงา’ ขึ้นเพื่อทำลายพลังแสง และควบคุมผู้ร้อยเวททั้งหมด”
“และตอนนี้ พวกมันรู้ว่าเจ้าคือคนสุดท้ายของสายเลือดนั้น”
เสียงฟ้าร้องเบาๆ ด้านทิศตะวันออกเตือนถึงพายุใกล้เข้ามา
อีเรนหยัดกายขึ้นพร้อมสะพายกระบี่
“เราต้องไปถึงจุดเปลี่ยนเส้นทางก่อนค่ำ ที่นั่นจะมี ผู้ส่งสารแห่งแสง รออยู่”
“ใคร?” ไลอาถาม
“เอลฟ์”
คำเดียวที่หลุดออกจากปากของอีเรน ทำให้หัวใจของไลอากระตุกเล็กน้อย เพราะเธอเคยได้ยินแค่ในตำนานเท่านั้น
พวกเขาออกเดินทางต่อผ่านแนวป่าเบญจพรรณที่เริ่มมืดลงเรื่อย ๆ กลิ่นหมอกคลุ้ง ความชื้นจากพายุใกล้เข้ามา และในที่สุด...พวกเขาก็มาถึงหน้าผาสูงชัน
ด้านล่างคือหุบเหวที่เต็มไปด้วยไอสีเงินเรืองแสงลอยวนอยู่ราวกับม่านน้ำค้าง
อีเรนชี้ไปที่วงแหวนหินกลางหุบเหว ซึ่งมีเสาต้นหนึ่งตั้งอยู่
บนเสามีแสงสีทองอ่อน ๆ ลอยอยู่เหนือปลายยอดไม้
“นั่นคือ ตราแห่งอีราเวล ถ้าเราสัมผัสมัน...ผู้ส่งสารจะปรากฏ”
แต่ทันใดนั้นเองเสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
ฟิ้ววววว!
ลูกธนูแสงเฉียดแก้มของไลอาไปไม่ถึงหนึ่งคืบ
อีเรนคว้าแขนเธอลงหลบ พร้อมสบถทันที
“เราช้าไป…”
ชายร่างสูงในเสื้อคลุมลายมอสก้าวออกจากเงาต้นไม้ ใบหน้าคมคายแต่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ดวงตาสีเขียวมรกตแวววาวเหมือนรู้ทันทุกคำลวงบนโลกนี้
เขาควักธนูใหม่อีกลูก แล้วเอ่ยเสียงเรียบแต่แข็งกระด้าง
“ห้ามสัมผัสตราใดทั้งสิ้น...จนกว่านางจะพิสูจน์ตัว”
“ผู้ร้อยเวทหรือผู้ลวงต้องผ่านบททดสอบแห่งแสงเสียก่อน!”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments