ช่วงสายของวัน...
หลังจากคาบเรียนในช่วงเช้าจบลง
ธีธัชเก็บอุปกรณ์กลับไปยังออฟฟิศประจำคณะพร้อมกับแฟ้มสอนและโน้ตบุ๊กของเขา
ในห้องประชุมเล็กของออฟฟิศอาจารย์
อาจารย์หลากหลายสาขาทยอยเข้ามาร่วมประชุมตามนัด
เป็นการประชุมรายเดือนประจำคณะ เพื่อสรุปผลการสอนและวางแผนกิจกรรมต่างๆ
ธีธัชนั่งอยู่ริมสุดของโต๊ะ
นิ่งเงียบ ไม่ได้พูดอะไรมากนัก เว้นแต่ช่วงที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดนิทรรศการศิลปะประจำปี
“ถ้าจะใช้พื้นที่โถงกลาง ผมแนะนำให้จัดวางผลงานแบบเดินหมุนเวียนรอบแท่นกลาง จะให้บรรยากาศแกลอรี่มากกว่าแบบเรียงผนังครับ”
เขาพูดเรียบๆ พร้อมภาพสเก็ตช์คร่าวๆ บนแท็บเล็ตที่ถูกแชร์ขึ้นหน้าจอ
เสียงของธีธัชอาจไม่ดัง
แต่เมื่อเขาเอ่ยปาก ทุกคนก็มักจะหยุดฟัง
...—...
บ่ายโมงตรง
ธีธัชมาถึงห้องเรียนอีกห้องซึ่งเป็นคลาสของนักศึกษาปี 4
บรรยากาศในห้องต่างจากคลาสของรุ่นน้องอย่างเห็นได้ชัด
ปี 4 บางคนทำงานศิลปะไป ฟังเพลงเบาๆ ไปด้วย และบางคนก็กำลังลงสีกับผืนผ้าใบขนาดใหญ่
ธีธัชเดินดูผลงานอย่างเงียบๆ
ให้คำแนะนำสั้นๆ แต่เฉียบคม
“ลองลดน้ำหนักแสงตรงมุมล่างดูหน่อย... มันจะไม่ไปแย่งจุดโฟกัสของคนดู”
“ลายเส้นช่วงนี้ดูรีบร้อนไปนิด หายใจช้าลงตอนลงเส้น… งานจะนิ่งขึ้น”
เขาไม่ใช่อาจารย์ที่เจ้ากี้เจ้าการ
แต่ทุกคำพูดของเขา กลับทำให้นักศึกษาหยุดคิด
แล้วลงมือแก้ไข...ด้วยความเชื่อมั่น
...—...
เมื่อแดดเริ่มคล้อยลงทางตะวันตก
ธีธัชเก็บของลงกระเป๋า พร้อมหันไปทบทวนตารางในมือถือ
ไม่มีสอนตอนเย็น
ไม่มีประชุม
ไม่มีนัดกับใคร
เขาลุกขึ้น หยิบกระเป๋าสะพาย แล้วเดินออกจากมหาวิทยาลัย
ก่อนจะขับรถเลียบถนนสายหลักของเมือง
ปลายทางของเขาคือห้างใจกลางเมือง
ธีธัชซื้อตั๋วหนังเรื่องที่ตั้งใจจะดูไว้ล่วงหน้า รอบหกโมงเย็น
ก่อนหนังจะเริ่มอีกประมาณ 30 นาที เขาแวะไปยังจุดที่ใครๆ ก็ไม่ค่อยรู้ว่าเป็นของเขา
THIT GALLERY
แกลอรี่ขนาดกลางตั้งอยู่ริมถนนสายรองภายนอกดูเรียบง่าย แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ
ทั้งงานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ และผลงานจากนักศึกษาที่เขาให้โอกาสมาจัดแสดง
พนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์ยกมือไหว้ทันทีที่เห็นเขา
“สวัสดีค่ะอาจารย์ธีธัช แวะมาดูงานหรือคะ?”
“ใช่ครับ... แวะก่อนดูหนัง”
เขายิ้มเล็กน้อย เดินผ่านห้องโถงหลักตรงไปยังผลงานที่เพิ่งนำมาจัดวางใหม่เมื่อวาน
บรรยากาศในแกลอรี่เงียบสงบ
เสียงเท้ากระทบพื้นไม้เป็นจังหวะเบาๆ
สายตาของธีธัชมองผ่านงานศิลปะเหล่านั้น…เหมือนกำลังมองอะไรที่มากกว่าภาพบนผืนผ้าใบ
เขาชอบแบบนี้
ช่วงเวลาแบบนี้...
ที่เขาได้เป็นแค่ “ธีธัช”
ไม่ใช่อาจารย์ ไม่ใช่เจ้าของแกลอรี่
แต่เป็นแค่คนธรรมดาที่หลงใหลในศิลปะ
...—...
ก่อนออกจากแกลอรี่
เขาหยุดมองรูปภาพหนึ่งเป็นพิเศษ
เป็นภาพวาดเส้นของนักศึกษาที่ลงประกวดไว้เมื่อปีก่อน
ภาพนั้นชื่อว่า แผล
ธีธัชมองมันนิ่งๆ
ก่อนจะหันหลังกลับ…เดินออกจากประตูแกลอรี่ไปยังโรงภาพยนตร์…พร้อมหัวใจที่ยังว่างเปล่า
......................
...เขาเดินไปที่โรงภาพยนตร์ชั้นบนบัตรหนังในมือระบุที่นั่ง R12ข้างๆ ไม่มีใครนั่งเลย
คนรอบตัวมากันเป็นคู่บางคู่นั่งพิงไหล่กัน บางคนหัวเราะคุยกับคนข้างๆแต่เขานั่งนิ่ง…เพียงลำพัง
มือข้างหนึ่งถือถังป๊อปคอร์น ส่วนอีกข้าง... วางอยู่บนตักตัวเอง เงียบ
แสงในโรงเริ่มมืดลง
ภาพยนตร์เริ่มฉาย...
แต่ในหัวของเขากลับไม่มีเสียง ไม่มีบทสนทนา
มีเพียงเสียงลมหายใจของตัวเอง และความว่างเปล่าที่นั่งอยู่ข้างๆ
มีเพียงความเหงา... ให้นั่งข้างๆ เท่านั้น
ไม่มีเสียงใดกระซิบข้างหู
ไม่มีมือไหนจับไว้แน่นๆ
ไม่มีใคร... ที่นั่งติดกันเวลาดูหนัง
จะกิน จะเดิน จะนอน ก็เหงา
ไม่มีใครเคียงข้างกาย
ไม่มีใครเลย...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments