4

บ่ายวันจันทร์ ห้องประชุมชั้น 50 เต็มไปด้วยทีมงานจากฝ่ายกลยุทธ์, การเงิน และนักศึกษาฝึกงานที่ถูกคัดเลือกมาร่วมงานนำเสนอแผนงานใหม่ต่อผู้บริหารระดับสูง

ซูเหยียนนั่งอยู่แถวหลังสุด ข้างชายหนุ่มผมสั้นจากแผนกกลยุทธ์ชื่อ “เฉินหรง” ซึ่งได้รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเธอในโปรเจกต์นี้

เขาเป็นคนอัธยาศัยดี ยิ้มเก่ง และค่อนข้างจะขี้เล่นในระดับที่ไม่ล้ำเส้น

ในระหว่างที่ผู้บริหารบางคนยังไม่เข้าห้อง เฉินหรงก็ชวนเธอคุยเรื่องชื่อบริษัทที่ออกเสียงยากในสไลด์

“นี่ๆ ซูเหยียน เธอช่วยออกเสียงชื่อบริษัทฝรั่งเศสนี้ให้หน่อยสิ ฉันพูดผิดมาหลายรอบแล้ว”

ซูเหยียนหลุดหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะโน้มตัวไปดูสไลด์บนแท็บเล็ตที่เขายื่นมาใกล้

เสียงหัวเราะนั่นไม่ดัง

ไม่หวานเกินไป

แต่ก็เพียงพอจะทำให้บางคนที่ยืนเงียบ ๆ อยู่ที่ประตู…หรี่ตาลง

อี้เจินหลาน

ยืนอยู่ตรงนั้น ห่างออกมาหลายเมตร

เธอไม่ได้เข้าไปทันที

ไม่ได้ขัดจังหวะอะไร

เพียงแต่ยืนนิ่ง ฟัง และมองทุกการเคลื่อนไหวผ่านกระจกของบานประตูที่สะท้อนภาพด้านใน

สายตาของเธอ…เยือกเย็นราวกับฤดูหนาวที่ไม่มีวันจบ

ซูเหยียนไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเธอทำอะไรผิด

หรืออาจจะรู้…แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ก็ได้

สามทุ่ม

ห้องประธาน ชั้น 49

แสงไฟในห้องนอนเปิดเพียงครึ่งเดียว

บรรยากาศเงียบเกินปกติ และอุณหภูมิเย็นลงกว่าทุกวัน

ซูเหยียนนั่งอยู่ขอบเตียงในชุดนอนเรียบร้อย แต่ฝ่ามือของเธอชื้นเล็กน้อย

เธอรู้…ว่าพี่เจินหลานกลับมาตั้งแต่ทุ่มหนึ่ง

รู้…ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ลงมาทานอาหารเย็น

และรู้…ว่าเธอกำลัง “ถูกปล่อยให้รอ”

ในที่สุด ประตูห้องน้ำก็เปิดออกช้า ๆ

อี้เจินหลานเดินออกมาในชุดคลุมผ้าไหมสีดำ ปลายผมยังเปียกอยู่เล็กน้อย ดวงตาภายใต้แสงไฟดูเรียบสงบ แต่ฝีเท้า…เยือกเย็นเกินกว่าคนที่ไม่คิดอะไร

เธอหยุดยืนอยู่ตรงหน้าซูเหยียน

มองลงมา

ไม่พูดอะไร

ซูเหยียนกลืนน้ำลายเบา ๆ

“วันนี้พี่ประชุมเหนื่อยมากเลยใช่ไหมคะ…”

เงียบ

“หนูรอพี่อยู่ทั้งเย็นเลย…”

เจินหลานเอื้อมมือขึ้น

ปลายนิ้วเรียวแตะแก้มของอีกฝ่ายเบา ๆ

“เธอหัวเราะให้เขา”

“…”

“แล้วยังโน้มตัวเข้าไปใกล้อีก”

“มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะพี่…เขาแค่ถามชื่อบริษัทในสไลด์ แล้วหนูก็แค่…”

“ขอฉันเตือนเธออีกครั้งนะ ซูเหยียน”

เสียงของเธอแผ่ว แต่น้ำเสียงนั้นไม่เปิดโอกาสให้ต่อรอง

“เธอไม่มีสิทธิ์ ‘โน้มตัวเข้าไปใกล้’ ใครทั้งนั้น ยกเว้นฉันคนเดียว”

ซูเหยียนเม้มริมฝีปากแน่น

เธอรู้ว่าต้องหยุด

แต่ความรู้สึกภายใน…มันร้อนวูบขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว

“แล้วพี่ล่ะคะ…”

“ตอนที่ผู้หญิงในแผนกบัญชียื่นน้ำให้พี่ แล้วพี่ยิ้มให้ เธอก็โน้มตัวเข้ามาใกล้เหมือนกัน—”

เจินหลานโน้มตัวลงทันที

มือหนึ่งบีบคางของซูเหยียนไว้แน่นพอให้เธอหยุดพูด

“หยุด”

ซูเหยียนจ้องตาเธอแน่น

เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเมื่อพูดออกมา:

“หนูหวงพี่นะคะ…”

“ฉันรู้”

“หนูเกลียดทุกคนที่มองพี่แบบนั้น”

“แต่เธอไม่มีสิทธิ์มาควบคุมฉัน”

ซูเหยียนเบิกตากว้าง

มือของเธอกำชายเสื้อนอนแน่น

“ทำไมคะ…”

“เพราะฉันเป็นคนลงโทษ ไม่ใช่คนถูกลงโทษ”

พูดจบ อี้เจินหลานดึงแขนของอีกฝ่ายขึ้น

ลากเบา ๆ ไปจนถึงโซฟายาวริมกระจก แล้วบังคับให้นั่งลง

เธอนั่งซ้อนหลัง

สวมเสื้อคลุมผ้าไหมไว้ตลอด แต่ก้มลงกระซิบชิดใบหูอีกฝ่าย

“คืนนี้เธอไม่มีสิทธิ์พูดคำว่า ‘ไม่’ เข้าใจไหม”

“…”

“บทลงโทษที่หนึ่ง — ฉันจะไม่ให้เธอกลับห้องจนกว่าฉันจะพอใจ”

“…”

“บทลงโทษที่สอง — เธอต้องนอนข้างฉันบนโซฟาโดยไม่มีหมอนหรือผ้าห่ม”

“…”

“บทลงโทษที่สาม — เธอต้องตอบทุกคำถามของฉันโดยไม่หลบตา แม้แต่คำถามที่เธอไม่กล้าตอบ”

ซูเหยียนเงยหน้าขึ้นช้า ๆ

น้ำในตาเริ่มเอ่อ แต่ยังไม่ไหล

“พี่ไม่เมตตาหนูเลย…”

“ไม่เมตตา”

เจินหลานตอบทันที

“เพราะฉันไม่เคยคิดจะให้เธอเป็นแค่ความลับของฉัน — แต่เป็นของฉันทั้งหมดต่างหาก”

ค่ำคืนนั้น

เจินหลานไม่ได้แตะต้องเธอในแง่ร่างกายมากนัก

แต่กลับใช้คำถาม, สายตา, และการควบคุมแบบเงียบงัน ทำให้ซูเหยียนรู้สึกเหมือนถูก ‘จับขังไว้ทั้งใจ’

ซูเหยียนทำได้เพียงยอม

และยิ่งยอม เธอก็ยิ่งรู้ว่าตัวเอง…หนีไม่พ้นไปจากผู้หญิงคนนี้ได้อีก

แม้จะหวง

แม้จะกลัว

แต่เธอก็ยังอยากถูกลงโทษอยู่ดี

และตอนตีสอง

เมื่อเจินหลานโน้มตัวลงหอมหน้าผากของเธอเบา ๆ

ซูเหยียนก็ยอมกระซิบกลับด้วยเสียงที่แทบไม่ได้ยิน:

“พี่…ห้ามยิ้มให้ใครอีกนะคะ…”

อี้เจินหลานยิ้มมุมปาก

แต่ไม่ตอบ

เพราะเธอรู้ — คำสัญญาไม่จำเป็นสำหรับเจ้าของ

แต่สำหรับคนเป็น ‘ของรัก’ อย่างซูเหยียน…

แค่สายตาเดียว ก็เพียงพอให้เธอจำยอมทั้งหัวใจ

เสียงดนตรีแจ๊สเบา ๆ ลอยอยู่ในอากาศ

กลิ่นไวน์ฝรั่งเศสปะปนกับกลิ่นน้ำหอมจากแขกผู้เข้าร่วมงาน ทำให้บรรยากาศหรูหราและเป็นทางการมากกว่า “งานเลี้ยงบริษัทปลายปี” ทั่วไป

คืนนี้ เจินหลานปรากฏตัวในชุดราตรียาวสีน้ำเงินเข้มคอปิด ผมรวบเรียบร้อย เครื่องเพชรบนคอวาวระยับ สง่างามราวราชินี

เธอเดินผ่านผู้บริหารระดับสูงและแขกจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มาร่วมแสดงความยินดีต่อความสำเร็จประจำปีของกลุ่มลู่ซิ่ว

รอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าเธอไม่มีที่ติ

ข้างเธอ ไม่มีใคร

เธอมาเพียงลำพัง

และในมุมห่างจากแสงไฟบนเวที

นักศึกษาฝึกงานคนหนึ่งยืนอยู่เงียบ ๆ ใกล้เคาน์เตอร์ไวน์

ซูเหยียนในชุดเดรสสีขาวครีมที่ถูกเลือกให้โดยแผนก HR — เรียบร้อยเกินไป ไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่ได้แต่งหน้าแบบมืออาชีพ และยืนอยู่คนเดียวโดยไม่มีใครกล้าเข้ามาคุยด้วย

แต่ดวงตาของเธอไม่ได้มองใคร

เธอมองแค่คน ๆ เดียว ที่กำลังยิ้มพูดคุยอยู่ในวงล้อมของนักธุรกิจชั้นนำ

อี้เจินหลาน…

คนที่เธอกอดไว้ทุกคืน

แต่ในคืนนี้…เหมือนห่างออกไกลเกินไป

และที่ทำให้ซูเหยียนนิ่งเงียบไปทั้งคืน ไม่ใช่เพราะความวุ่นวาย

แต่เพราะช่วงที่เธอเดินสวนกับอีกฝ่ายใกล้บันไดเลื่อนเมื่อครู่

เจินหลานเพียงแค่ “หันหน้าไปอีกทาง”

แล้วเดินผ่านเธอไปเหมือนเป็นแค่นักศึกษาคนหนึ่งในบรรดาหลายสิบคน

แม้เพียงวินาที

ซูเหยียนก็รู้ว่า…เธอคือ “ความลับ” ที่ไม่มีตัวตน

ห้าทุ่ม

แขกเริ่มทยอยกลับ

ผู้บริหารบางคนเริ่มถอดสูท ผ่อนคลาย แต่เจินหลานยังคงยืนอยู่ในมุมสงบ เหมือนกำลังรอให้ทุกอย่างจบลงโดยไม่แสดงความเหนื่อย

จนกระทั่ง…

เสียงฝีเท้าเบา ๆ เดินมาหยุดตรงหน้า

เธอเงยหน้าขึ้น

สบตากับซูเหยียนที่ยืนอยู่ตรงนั้น — ไม่ก้มหัว ไม่หลบตา ไม่พูดอะไร

ไม่มีใครอยู่ใกล้พอจะได้ยิน

มีเพียงแสงไฟที่กระทบแววตาของเด็กคนนั้นที่เปลี่ยนไปอย่างเงียบ ๆ

“พี่เก่งนะคะ”

เสียงของซูเหยียนเบา แต่ชัดเจน

“พี่แสดงเก่งมากเลย ไม่มีใครรู้เลยว่าหนูคือใคร…”

เจินหลานนิ่ง ไม่พูดอะไร

“ในห้องนอน หนูคือของพี่”

“แต่ที่นี่ หนูเป็นแค่ ‘ใครก็ไม่รู้’ ที่พี่เดินผ่าน”

“ซูเหยียน…”

“ไม่ต้องพูดค่ะ”

เธอยิ้มเล็กน้อย ริมฝีปากสั่น

“หนูเข้าใจพี่ดีนะ ว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะเปิดเผย แต่…”

เสียงเธอเบาลงอีก

“ถ้าหนูเป็นแค่ความลับ…จะมีวันที่พี่กล้าบอกใครไหมคะ ว่ารักหนู?”

เจินหลานกำมือแน่น

เธอกำลังพยายามควบคุมตัวเอง

แต่น้ำเสียงของซูเหยียนช่างนิ่งเกินไป

สงบเกินไป

เหมือนคนที่เริ่ม “วางใจไว้ข้างนอก” แล้ว

“พี่ไม่ต้องตอบตอนนี้ค่ะ”

เธอก้าวถอยออกไปหนึ่งก้าว

“คืนนี้หนูจะกลับเอง ไม่ต้องพี่ไปรับ ไม่ต้องพี่อธิบายอะไร”

“ซูเหยียน…”

“ถ้าพี่ต้องการให้หนูเป็นความลับต่อไป…”

“งั้นช่วยให้หนูหายไปบ้างบางคืนได้ไหมคะ”

“จะได้ไม่ต้องเจ็บทุกครั้งเวลาพี่เดินผ่านแล้วไม่เห็นหนูเลย”

พูดจบ

เธอก้มศีรษะเล็กน้อย

หันหลัง เดินออกไปช้า ๆ

เจินหลานยังคงยืนอยู่ตรงนั้น

น้ำแข็งที่เธอสร้างไว้ในใจ เริ่มร้าวทีละนิด

เที่ยงคืน

เสียงเปิดประตูห้องชั้น 49 เบา ๆ ดังขึ้น

เจินหลานเดินเข้าห้องตัวเอง

ในมือเธอมีแค่ขวดไวน์แดง และแก้วใบเดียว

ห้องว่างเปล่า

ไร้เงาของซูเหยียนที่มักจะนั่งรออยู่ตรงโซฟา

เธอเปิดไฟเพียงดวงเดียว

นั่งลงที่โต๊ะกระจกกลางห้อง

เทไวน์ให้ตัวเอง

ดื่ม…แล้วหลับตา

ทำไมถึงยังไม่พอ?

ทำไมถึงไม่พาเธอออกจากเงาเสียที?

เธอถามตัวเอง

แต่ไม่มีคำตอบ

หรือคำตอบนั้นคือ…เธอไม่เคยกล้าพอที่จะให้ใครมองว่า “ประธานหญิงอี้เจินหลาน กำลังมีความสัมพันธ์ลับกับนักศึกษาฝึกงานหญิง”

แม้ในใจจะรักจนไม่เหลือที่ให้ใครอื่น

และเมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง

เธอก็พบว่า…สายตาของตัวเอง มองไปที่หมอนข้างที่ว่างเปล่า

ว่าง

และเย็น

เย็นเหมือนเธอ

ที่ยังเลือกจะปกป้องชื่อเสียง

มากกว่ากอดคนที่อยากกอดให้แน่นที่สุดในโลก

และเธอเพิ่งรู้ในคืนนี้

ว่าของรักที่ไม่มีชื่อ

คือของที่ “อาจหลุดมือ” ง่ายที่สุดแล้ว

ทุกอาทิตต่อตอน

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 5

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!