2

“ความลับของพี่…คือที่ที่หนูอยากอยู่ตลอดไป”

คำพูดนั้นย้อนวนอยู่ในหัวอี้เจินหลานขณะที่เธอเดินเข้ามาในห้องทำงานตัวเองในเย็นวันหนึ่ง ฝนเพิ่งตกใหม่ๆ กลิ่นชื้นของหิน กระจก และดินใต้คอนกรีตคลุ้งขึ้นมาพร้อมกับอากาศเย็นที่แทรกเข้ามาทางรอยเปิดของหน้าต่าง

เธอเหนื่อย

ทั้งจากการประชุมและการที่ต้อง “รักษาระยะ” ตลอดทั้งวัน

มันเหนื่อยยิ่งกว่าออกคำสั่ง…เพราะสิ่งที่ต้องกดไว้ไม่ใช่แค่คนอื่น แต่มันคือ “ตัวเอง”

เสื้อสูทถูกพาดไว้ที่เก้าอี้ เธอปลดกระดุมสองเม็ดบนสุดของเชิ้ตสีขาว สูดลมหายใจยาว ก่อนจะหมุนตัวตั้งใจจะเปิดคอมพิวเตอร์

แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิด…คือ “คนที่ไม่ควรอยู่ตรงนี้” กลับยืนอยู่ตรงหน้าต่างในเงามืด

ซูเหยียน—ยืนพิงกระจกสูง มองแสงเมืองเบื้องล่าง ราวกับโลกนี้ไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้ว

“เธอเข้ามาได้ยังไง?”

เสียงของเจินหลานนิ่ง แต่มีรอยแปลกใจผสมอยู่

เด็กสาวหันมาช้าๆ

แสงจากตึกสูงภายนอกสะท้อนดวงตาของเธอเป็นสีอำพันอ่อน

“พี่ลืมปิดระบบล็อก…หรือบางทีอาจตั้งใจลืมก็ได้นะคะ”

อี้เจินหลานไม่ได้ตอบ เธอกลับเดินเข้ามาใกล้

“เธออยากอะไรจากฉันกันแน่…?”

“แค่อยากอยู่ใกล้…แค่นั้นไม่ได้เหรอคะ?”

น้ำเสียงนั้นไม่ได้อ้อนวอน

แต่มันแนบเนียนเหมือนมีดที่แหลมคมและมีไออุ่นของนิ้วมืออยู่ที่ด้าม

ซูเหยียนเดินเข้ามาใกล้ทีละก้าว จนอีกไม่ถึงเมตร

“พี่รู้ไหมคะ ห้องนี้มีอะไรแปลกอย่างนึง”

“มันคือ ‘ที่หลบ’ ของพี่…ไม่ใช่ ‘ที่ทำงาน’”

เจินหลานเบี่ยงหน้าเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะไม่เข้าใจ แต่เพราะเธอไม่อยากให้เห็นแววตาสั่นไหวในตอนนั้น

“ห้องนี้ไม่มีกล้อง ไม่มีระบบบันทึกเสียง ไม่มีใครกล้าขอเข้ามา…นอกจากหนู”

เด็กสาวขยับเข้าไปใกล้ช้าๆ กลิ่นหอมอ่อนจากน้ำหอมลอยมากระทบประสาทรับรู้

มันไม่ใช่กลิ่นแรงแบบที่ผู้หญิงแต่งตัวจัดจะใช้

แต่มันคือกลิ่นที่ทำให้คิดถึงห้องหนังสือ กลิ่นอุ่นของกระดาษ กลิ่นผิวหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ

“หนูบุกมาถึงที่แบบนี้…พี่จะไล่มั้ยคะ?”

“ควรจะไล่”

“แต่พี่ไม่พูด”

เงียบ

เงียบเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน

และในความเงียบ

ซูเหยียนเดินไปวางฝ่ามือลงบนอกเสื้อเชิ้ตของประธานหญิง…ตรงหัวใจที่เต้นแรง

“คืนนี้…ขอแค่คืนนี้”

“ให้หนูอยู่ใน ‘พื้นที่ที่ไม่มีใครกล้าเข้า’ ของพี่…ได้มั้ย”

อี้เจินหลานหลับตา

เธอไม่ใช่คนอ่อนแอ

แต่การที่เธอไม่ตอบ ไม่ต่อต้าน ไม่หนี—มันคือคำว่า ‘ยอม’ ที่เธอไม่มีวันพูดออกมา

นาทีถัดมา

เธออยู่ในห้องพักส่วนตัว ด้านหลังห้องทำงาน

ฝนเริ่มตกอีกครั้ง คราวนี้แรงกว่าเดิม ฟ้าครามเบื้องนอกแปรเปลี่ยนเป็นเทาเข้ม

ซูเหยียนอยู่ในเสื้อเชิ้ตของเธออีกครั้ง

ผมเปียกบางส่วนจากฝนถูกซับด้วยผ้าขนหนูในมือของเจินหลานอย่างเบาๆ

ไม่มีคำพูด

ไม่มีการล้อเล่น

มีเพียงสายตา ที่ยิ่งเงียบยิ่งชัดเจน

“หนูจะไม่ถามนะคะ…ว่าพี่รู้สึกยังไง”

“เพราะทุกครั้งที่พี่มองหนู มันชัดกว่าอะไรทั้งหมด”

เจินหลานหยุดเช็ดผม มองดวงหน้าเด็กคนนั้นใกล้ๆ

ใบหน้าที่ใครๆ มองว่าอ่อนเยาว์ แต่สำหรับเธอกลับเปี่ยมไปด้วยอำนาจแปลกประหลาด

เธอควบคุมทีมงานนับพันได้

แต่ไม่สามารถหยุดมือตัวเอง…ไม่ให้สัมผัสแก้มเนียนนั่น

“เธอทำให้ฉันอ่อนแอ”

“หนูอยากเป็นที่พักของพี่ค่ะ…”

“แค่พี่ไม่ผลักหนูออก หนูก็จะไม่ไปไหนเลย”

ประโยคนั้นทำให้บางอย่างในอกเจินหลานสั่น

ไม่ใช่ความหวั่นไหวแบบเด็ก

แต่มันคือความอบอุ่นที่…กลัวจะกลายเป็น ความเจ็บ ในวันหนึ่ง

พวกเธอจูบกัน

ไม่ใช่จูบแบบเร่าร้อน

แต่เป็นจูบแบบที่ “ไม่กล้าพูดคำว่ารัก”

เป็นจูบของคนที่ยอมให้กันเงียบๆ โดยไม่รู้ว่าจะมีพรุ่งนี้อีกมั้ย

ฝ่ามือของซูเหยียนลูบผ่านเอวของหญิงสาวอย่างเบาๆ

เธอไม่เร่ง ไม่รุกแบบโจ่งแจ้ง

แต่ร่างกายกลับใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

เหมือนน้ำที่ซึมผ่านกำแพง

ไม่ต้องทลาย แต่ทำลายได้มากกว่า

เจินหลานไม่ได้ห้าม

แม้จะพยายามบอกตัวเองซ้ำๆ ว่า “อย่าเผลอไปอีก”

แต่ทุกสัมผัสกลับราวกับปลดโซ่ตรวนที่เธอแบกมานานนับสิบปี

“ฉัน…เหนื่อยเหลือเกิน…”

เสียงในใจที่ไม่มีใครเคยได้ยิน

ซูเหยียนเห็นความเปราะบางนั้น

และเธอก็ไม่พูดอะไร

เธอเพียงสวมกอดอีกฝ่ายไว้แน่นๆ ใต้ผ้าห่มสีเทาเข้ม

ในอ้อมกอดที่ไม่เร่งเร้า ไม่สัญญา ไม่พูดคำว่า ‘แฟน’

แต่เธอกระซิบเบาๆ ข้างใบหูว่า

“คืนนี้หนูจะเงียบ…และอยู่ตรงนี้ให้พี่ฝันดี”

ไม่มีการร่วมรัก

ไม่มีร่างกายใดถูกเปิดเผยเกินไป

มีเพียงความใกล้ ที่แนบแน่นกว่าร่างกาย

เจินหลานหลับไปในอ้อมกอดนั้น

เหมือนคนที่ไม่เคยได้รับการพักผ่อนเลยตลอดชีวิต

และในความมืด

ซูเหยียนลืมตา

มือหนึ่งยังลูบแผ่นหลังของคนในอ้อมแขนอย่างแผ่วเบา

“พี่น่ะ…ไม่ได้รู้เลย ว่าใครกันแน่ที่ควบคุมเรื่องนี้”

เธอยิ้มเบาๆ

ดวงตานิ่ง…ไม่ใช่ดวงตาของนักศึกษาธรรมดาอีกต่อไป

เช้าวันถัดมา ฝนหยุดตกไปแล้ว แต่กลิ่นความชื้นยังไม่จางหายไปจากอากาศ ลมอ่อนๆ พัดใบไม้ไหวอยู่ริมระเบียงกระจกของชั้น 49 ที่ซึ่งประธานหญิงมักเปิดออกเพียงช่วงสาย ก่อนแดดจะแรงเกินไป แสงแดดสีอ่อนลอดผ่านกระจกเข้ามากระทบพื้นหินอ่อนและขอบพรมเนื้อนุ่ม อี้เจินหลานยังคงอยู่ในห้องนั้น ดวงตาเรียวนิ่งมองเอกสารตรงหน้า แต่ไม่มีสักบรรทัดที่เธออ่านเข้าใจเลยจริง ๆ เธอไม่ได้ปฏิเสธว่าเธอเหนื่อยจากงาน — นั่นคือข้ออ้างที่ปลอดภัย แต่สิ่งที่เธอเหนื่อยจริง ๆ คือการต้องวางระยะห่างกับคนคนหนึ่งที่กำลังค่อย ๆ ละลายเส้นนั้นลงทุกวันโดยที่เธอไม่ได้พูดว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” แค่เพียงไม่ได้ผลักไส แล้วปล่อยให้มันเกิดขึ้นเองเรื่อย ๆ

เธอหลับตาลง กลั้นหายใจไว้ชั่วขณะ ภาพจากคืนก่อนยังวนอยู่ในหัว กลิ่นกาย กลิ่นสบู่ กลิ่นหอมจาง ๆ บนเสื้อเชิ้ตของตัวเองที่ถูกอีกฝ่ายใส่ไว้ — ร่างในอ้อมแขนที่อบอุ่นเกินกว่าจะอธิบาย มือนั้นที่วางบนหน้าอกเธออย่างเงียบ ๆ ใบหน้าซุกอยู่ตรงซอกคอโดยไม่เอ่ยคำว่ารัก แต่สื่อทั้งหมดผ่านความเงียบ แล้วเธอก็หลับไปในอ้อมกอดนั้น ทั้งที่ไม่เคยยอมหลับต่อหน้าคนอื่นเลยสักครั้งในชีวิต

เสียงเคาะประตูทำลายบรรยากาศนั้นทันที เธอลืมตาขึ้น

“ประธานคะ เลขามาแจ้งว่ากลุ่มนักศึกษาฝึกงานพร้อมเข้าอบรมเช้านี้แล้วค่ะ มีการจัดบรรยายรวมที่ชั้น 47”

อี้เจินหลานเพียงพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนหยิบสูทขึ้นมาสวมช้า ๆ เธอเดินไปยังกระจกสูงข้างห้อง จัดปกเสื้อให้เรียบเฉียบ แล้วสบตาตัวเองในเงาสะท้อน — ผู้หญิงที่ควรจะสงบนิ่ง เยือกเย็น และเป็นเจ้าของทุกการควบคุม

เธอไม่มีสิทธิ์อ่อนแอ ไม่มีสิทธิ์ลังเล และไม่มีสิทธิ์ “มีความลับ” กับใคร

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือ — เธอมีความลับอยู่ในบริษัทตัวเอง

และความลับนั้น…กำลังเดินอยู่ในชุดนักศึกษาพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ที่ไม่มีใครล่วงรู้

ที่ชั้น 47 ห้องอบรมขนาดกลางซึ่งสามารถจุคนได้ประมาณ 30–40 คน เริ่มมีเสียงพูดคุยเบา ๆ จากกลุ่มนักศึกษาฝึกงานที่นั่งรออาจารย์ภายใน ก่อนวิทยากรจะมาเปิดเซสชันช่วงเช้า ข้างหน้ามีป้ายกระดานดิจิทัลแสดงหัวข้อ “กระบวนการบริหารองค์กรและการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์”

แต่ในบรรดานักศึกษาทั้งหมด มีอยู่คนหนึ่งที่นั่งนิ่งกว่าคนอื่น มือข้างหนึ่งเปิดสมุดจด ส่วนอีกข้างจับปากกาดำไว้แน่น ชุดนักศึกษาของเธอสะอาดเรียบ ผมรวบไว้อย่างเป็นระเบียบ แต่สายตาไม่เคยเหลือบไปมองเพื่อนฝึกงานคนไหนเลย

เธอมองไปที่ประตู

เพราะเธอรู้ว่าอีกไม่เกินห้านาที — คนที่เธออยากเห็นหน้าที่สุดจะปรากฏตัว

และเมื่อเสียงรองเท้าส้นแหลมแตะกับพื้นทางเดินดังขึ้นจากด้านนอก ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบโดยอัตโนมัติ ประตูเปิดออกพร้อมร่างในชุดสูทสีดำตัดกับเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด เส้นผมดำสนิทยาวระดับกลางหลังถูกรวบเรียบ ดวงตาคมเรียบนิ่งปรากฏขึ้นพร้อมกับออร่าที่ทำให้ทุกคนในห้องเผลอกลั้นหายใจ

อี้เจินหลานเดินเข้ามาเงียบ ๆ สายตาเธอกวาดผ่านทุกคนเหมือนเช็คความเรียบร้อย

แต่เธอก็รู้ดี — ว่าดวงตาคู่หนึ่งมองเธออยู่ก่อนแล้ว

และเมื่อเธอสบตานั้นเพียงวินาทีเดียว บางอย่างในอกก็เหมือนจะเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย

ซูเหยียนไม่หลบตา เธอยิ้มบางๆ เพียงเสี้ยววินาที ก่อนโน้มหน้าลงเล็กน้อยราวกับเคารพ

ไม่มีใครในห้องรู้ว่ามันไม่ใช่การแสดงความเคารพธรรมดา

แต่เป็นคำทักทายจากใครบางคนที่ “ได้กอดเธอมาแล้วเมื่อคืนนี้”

“ยินดีที่ได้พบพวกคุณทุกคน ฉันคืออี้เจินหลาน ประธานบริหารกลุ่มบริษัทลู่ซิ่ว และวันนี้จะเป็นผู้บรรยายเกี่ยวกับการบริหารระดับสูง”

เสียงของเธอยังคงมั่นคงและเรียบนิ่งทุกคำ

ทุกคนตั้งใจฟัง

ยกเว้นซูเหยียน ที่ตั้งใจมอง

ทุกคำพูดที่หลุดจากริมฝีปากนั้น ทุกการสบตาสั้น ๆ ทุกท่าทางการเดินหน้าเวที — เธอจดจำไว้หมดราวกับบันทึกลงในร่างกาย

เธอไม่ได้ตกหลุมรักอี้เจินหลานในฐานะ “ผู้หญิงคนหนึ่ง”

แต่ตกหลุมรักในฐานะ “จักรวาล” หนึ่งที่เธออยากครอบครอง

ทั้งแรงกดดัน ความเย็นชา ความเก็บกด และทุกเศษเสี้ยวที่ไม่มีใครเคยได้เห็นนอกจากเธอ

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป บรรยายจบแล้ว นักศึกษาทยอยลุกขึ้นยืน

ซูเหยียนรอจนคนสุดท้ายเดินออกไป

ก่อนจะลุกจากที่นั่ง เดินเข้าไปยังมุมหนึ่งของเวที และกระซิบเบา ๆ ข้างหูอีกฝ่ายขณะหยิบเอกสารจากโต๊ะ

“วันนี้พี่เก่งมากเลยค่ะ…ทั้งที่เมื่อคืนหลับในอ้อมแขนหนูแท้ ๆ”

อี้เจินหลานหันขวับ ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจเล็กน้อย แต่เธอรีบเก็บมันไว้ในพริบตา

“อย่าทำแบบนี้ในที่สาธารณะ”

“แต่พี่ทำแบบนั้นในห้องส่วนตัวเมื่อคืนนี้นะคะ…”

“หนูเงียบแล้ว พี่เองก็อย่าเผลอเผยตัวสิ”

เจินหลานกำหมัดแน่น ไม่มีใครเคยพูดแบบนี้กับเธอมาก่อน

ไม่มีใครกล้าหยอกเธอในจุดที่เธอไม่กล้าแม้แต่จะพูดออกมา

แต่เด็กคนนี้ทำได้ — และยิ่งไปกว่านั้น…เธอไม่มีแรงจะหยุดมันได้เลย

คืนนั้น

ในห้องพักชั้นบนสุดของตึกใหญ่ เจินหลานยืนมองออกนอกหน้าต่างยาวนาน มือถือของเธอมีข้อความใหม่จากเบอร์ที่ไม่มีชื่อขึ้น:

“คืนนี้ไม่เข้าไปนะคะ พี่ควรพักบ้าง หนูเองก็ไม่ใจร้ายทุกคืนหรอก :)”

เธอมองจอ แล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน

ไม่ใช่หัวเราะเพราะตลก

แต่เพราะ “เข้าใจแล้วว่า…ถูกครอบครองทั้งใจตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตัว”

เธอเก็บมือถือไว้ในลิ้นชักอย่างเงียบๆ แล้วปิดไฟ

แสงสุดท้ายของวันดับลง

แต่ความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครล่วงรู้ — กลับเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในความเงียบงัน

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 5

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!