สายลมยามเช้าของวันที่สามพัดผ่านต้นขุนพลับจนใบไม้สั่นไหว
แสงแดดที่ลอดผ่านเรือนยอดไม้กระทบกระจกหน้าต่างพอดีกับแววตาของชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดเรียบ ๆ
ธนกรยืนอยู่หน้ากระจกเงาในห้องน้ำของบ้านพัก
มือหนึ่งถือผ้าเช็ดหน้า
อีกมือหนึ่งยกสัมผัสสร้อยลูกปัดขาดเส้นนั้นที่ห้อยอยู่ที่คอเขา
ความรู้สึกบางอย่างค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น
มันไม่ใช่แค่ฝัน
ไม่ใช่แค่จินตนาการ
มันคือสิ่งที่เคยเกิดขึ้น
แม้จะผ่านมากี่ภพกี่ชาติ
“คุณดูเหมือนนอนไม่พอ”
เสียงของฟาเรนเอ่ยขึ้นเบา ๆ ขณะเดินเข้ามาพร้อมขนมปังปิ้งในมือ
“ผมฝันอีกแล้ว” ธนกรพูดช้า ๆ “แต่ครั้งนี้…ผมเห็นหน้าคุณชัดเจน”
ฟาเรนหยุดเดิน
“ในฝัน เราอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง…คุณนั่งวาดภาพ ผมห่มผ้าให้คุณ เพราะอากาศเริ่มหนาว”
ธนกรเล่าช้า ๆ น้ำเสียงเรียบนิ่ง
“คุณหันมามองผม…แล้วพูดว่า ‘อย่าให้เราต้องรออีกเลย’”
ฟาเรนเม้มริมฝีปากแน่นเล็กน้อย
แววตาที่ปกติอ่อนโยน ตอนนี้ซ่อนบางอย่างไว้ลึกยิ่งกว่าเดิม
“เพราะเราเคยต้องรอกันจริง ๆ” ฟาเรนพูดเบา ๆ
“คุณตายในอ้อมแขนผม ในช่วงเวลาที่พวกเขาไล่ล่าคนที่รักเพศเดียวกัน...เพียงเพราะมันไม่ตรงตามกฎของโลก”
ธนกรเงียบงัน
“…ผมไม่อยากให้คุณจำหรอกนะ” ฟาเรนเอ่ยเบา ๆ “เพราะมันเจ็บ”
แต่เขากลับยื่นมือไปจับข้อมือของฟาเรนไว้แน่น
“ต่อให้มันเจ็บ…ผมก็อยากรู้”
ช่วงบ่ายของวันนั้น
ฟาเรนพาธนกรเดินลัดเลาะไปยังที่แห่งหนึ่งในป่า
มันไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว
ไม่มีป้าย ไม่มีทางเดิน
มีเพียงต้นไม้สูงใหญ่ราวสิบต้นล้อมรอบพื้นที่หนึ่งที่เหมือนลานเล็ก ๆ กลางป่า
ตรงกลางนั้น มี ศิลาจารึกเก่าแก่ ที่แหว่งวิ่น
บนผิวนั้นมีอักษรโบราณเลือนลาง
และภาพสลักจาง ๆ ของชายสองคนที่ยืนเคียงข้างกัน
“ที่นี่คือจุดที่เราเคยสาบานว่าจะไม่พรากจากกันอีก”
เสียงของฟาเรนสั่นเล็กน้อย
“คุณชื่อธนลักษณ์ในชาติก่อน”
“ผม…ยังเป็นฟาเรนเหมือนเดิม”
“คุณบอกว่าจะปกป้องผม จะไม่ปล่อยมือผมแม้ในวันที่โลกต่อต้านเรา”
“…แต่คุณกลับโดนแทงข้างหลัง จากคนในตระกูลของคุณเอง”
ธนกรก้มลงมองศิลาสลักนั้น
มือวางลงบนอักษรจาง ๆ
ทันใดนั้น ภาพหนึ่งก็พรั่งพรูเข้ามาในหัว —
เสียงโห่ร้อง
เปลวไฟ
และมือที่กำลังสั่น
ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงหนึ่งตะโกน
“หนีไปฟาเรน! อย่าหันกลับมา!”
น้ำตาเขาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
ฟาเรนยืนมองเขาเงียบ ๆ
เขาไม่พูด
ไม่ปลอบ
ไม่แม้แต่จะเช็ดน้ำตาให้
เพราะเขารู้ดีว่า...นี่คือการปล่อยให้ความทรงจำทำหน้าที่ของมัน
ค่ำวันนั้น
ฟ้าเหนือหมู่บ้านปิดลงอีกครั้ง
ฟาเรนวางเสื้อนอนสีเทาให้ธนกรบนเตียงไม้
ขณะอีกฝ่ายยังคงเงียบอยู่ในความคิด
“ถ้าคุณจำได้มากขึ้น…แล้วจะไปจากที่นี่ไหมครับ”
ธนกรเงยหน้าขึ้นมองตาเขา
“ผมมาที่นี่โดยไม่มีเหตุผล แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามีเหตุผลให้ผมอยู่ต่อ”
ฟาเรนหัวเราะเบา ๆ แววตาเปียกนิด ๆ
“งั้นอยู่จนกว่าผมจะวาดรูปคุณเสร็จ”
“…รูปไหน?”
“รูปที่เคยวาดค้างไว้เมื่อร้อยปีก่อน”
ในห้องเรียนที่เงียบสงบ
ฟาเรนตั้งผ้าใบวาดภาพไว้กลางห้อง
เขากำลังวาดคน ๆ หนึ่งในท่าก้มหน้ากับรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้า
เขาเคยวาดภาพนี้เมื่อหนึ่งศตวรรษก่อน
วาดไปครึ่งเดียว ก่อนคนในภาพจะจากไป
และวันนี้…ฟาเรนนั่งลงใหม่
ในแสงไฟสลัวของห้องเรียนเก่า
ขณะที่เงาเงียบของคนรักจากอดีต นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ตัวเดิม
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments