ฝนหยุดตกในเช้าวันต่อมาท้องฟ้าเหนือขุนเขาเปิดโล่ง เสียงนกป่าร้องรับแสงแดดแรกหลังคืนฝน
ธนกรยืนอยู่หน้าระเบียงไม้ของบ้านพักครูชั่วคราวในโรงเรียน
กาแฟอุ่นในมือยังคงปล่อยไอขึ้นเบา ๆ แต่ในอกเขา...กลับอุ่นกว่า
เมื่อคืนนี้เขาฝัน
ฝันถึงสนามหญ้าเขียวที่ไม่มีอยู่ในความทรงจำใดของชีวิตนี้
ฝันถึงเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อ “ฟาเรน” ยื่นสร้อยลูกปัดมาให้
และตัวเขาในฝัน...กลับยิ้มกว้างรับมันไว้ในมือ พร้อมสัญญาอะไรบางอย่างที่ลืมไปนานแล้ว
เขาสะบัดหัวเบา ๆ เหมือนไม่อยากยอมรับว่ากำลังเชื่อในเรื่องไร้เหตุผล
แต่น้ำเสียงของฟาเรนเมื่อคืน...สายตาคู่นั้น...มันชวนให้เขาหวั่นไหว
"คุณคือคนที่เรารออยู่...มาเนิ่นนาน"
“ตื่นเช้าดีนี่ครับคุณนักธุรกิจ”
เสียงของฟาเรนดังขึ้นจากด้านหลัง
ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตตัวเดิม เพียงเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีฟ้าอ่อน พับแขนขึ้นอย่างเคย ผมเปียกนิดหน่อยจากการอาบน้ำเช้า และกลิ่นสบู่สมุนไพรจาง ๆ ก็ตีขึ้นมาแตะจมูก
“ผมชินกับการตื่นเช้า เพราะต้องประชุมกับยุโรป”
ธนกรตอบ ขณะที่สายตายังมองวิวไกลออกไป
“แล้ววันนี้จะประชุมกับอดีตของตัวเองไหมล่ะครับ?”
ธนกรหลุดขำกับคำพูดนั้น เขาหันมาสบตาอีกฝ่าย
“คุณพูดแบบนี้บ่อย ๆ ใช่ไหม?”
“เฉพาะกับคนที่เคยตายตรงหน้าเรามาแล้วครั้งหนึ่ง”
คำตอบนั้นทำให้ใจเขาสะดุด
ฟาเรนยิ้มบาง ๆ ก่อนเดินนำเขาไปที่ห้องเรียน
เด็ก ๆ นั่งล้อมวงเรียนศิลปะอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้านหลังโรงเรียน
ธนกรเดินตามเงียบ ๆ เหมือนคนแปลกหน้าที่ถูกเชิญมาในโลกอีกใบ
เขาไม่คุ้นกับความเงียบที่อบอุ่นแบบนี้
แต่ฟาเรน…คุ้นชินเหลือเกิน
ชายหนุ่มหยิบชอล์กสีขึ้นวาดบนกระดานไม้กลางสนาม
เขียนชื่อหัวข้อวันนี้ว่า “วาดคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต”
“ถ้าพวกหนูนึกไม่ออก ก็วาดคนที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นก็ได้”
ฟาเรนบอกด้วยรอยยิ้ม
เด็กหญิงคนหนึ่งยกมือ
“แล้วคุณครูล่ะคะ คนสำคัญของคุณครูคือใคร?”
ฟาเรนชะงักไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ตอบด้วยเสียงนุ่ม ๆ
“คนที่เคยจากเราไปโดยที่เรายังไม่ได้พูดคำลา”
ประโยคนั้นเหมือนลมหนาวพัดผ่านหน้าอกของธนกร
เขายืนนิ่งอยู่ตรงขอบรั้วไม้ที่ขึงเชือกกันเด็ก ๆ ไว้
จู่ ๆ เขาก็นึกถึงภาพใครบางคนที่ยื่นมือมาหาในฝันเมื่อคืนอีกครั้ง
ใครกันนะ…ที่เขาลืมไป
ใครกันที่ยังรออยู่ในใจของใครบางคนตรงหน้าเขา
คืนนั้น ฟาเรนวางสำรับกับข้าวง่าย ๆ ไว้บนโต๊ะไม้กลางบ้าน
“คุณกินเผ็ดได้ไหม?”
“กินได้ครับ”
ฟาเรนยิ้ม
“ดีเลย เพราะผัดเผ็ดปลากดนี่ ผมไม่ได้ทำให้ใครกินมาหลายปีแล้ว”
ธนกรนั่งลงช้า ๆ
มือสัมผัสจานชามไม้ที่ถูกจัดอย่างเรียบง่าย
แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยคำถาม
“ทำไมคุณถึงรอผม?”
ฟาเรนไม่ตอบทันที เขาหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่ม ก่อนวางลงช้า ๆ
“เพราะความรู้สึกมันไม่เคยหมดอายุ” เขาพูด
“ถึงคุณจะลืมผม…แต่ผมไม่เคยลืมคุณเลย”
ธนกรเงียบ
แววตาของฟาเรนจริงจังแต่ไม่บีบบังคับ
มันคือสายตาของคนที่เคยสูญเสีย แล้วได้โอกาสอีกครั้ง
ก่อนเข้านอนคืนนั้น
ธนกรเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าที่ตัวเองเอามาด้วย
มีสมุดเล่มหนึ่งที่เขาไม่เคยใส่ใจนัก เพราะมันหล่นอยู่ในกล่องเก็บของของแม่
เขาเปิดหน้าสมุดแบบไม่ตั้งใจ
แต่กลับสะดุดกับภาพวาดหนึ่ง — ภาพดินสอของเด็กสองคนใส่ชุดโบราณ
คนหนึ่งยื่นสร้อยให้ อีกคนรับไว้ด้วยรอยยิ้ม
เขานิ่งไปครู่ใหญ่
ก่อนจะวางมือลงบนภาพนั้นเบา ๆ
และเสียงหนึ่งก็แว่วขึ้นในหัว…เบาจนแทบไม่ได้ยิน
“แม้กาลเวลาจะพาเราห่างไกล
แต่ใจเราจะจำกันได้เสมอ”
ธนกรหลับตาลง
และในค่ำคืนที่หมอกบางปกคลุมขุนเขา
เขาฝันอีกครั้ง...
ฝันถึงคืนพระจันทร์เต็มดวง
ฝันถึงมือใครบางคนที่เขาเคยสาบานว่าจะไม่มีวันปล่อยไปอีก
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments