Cutscene 5 ประธานรุ่น

Cutscene 5 ประธานรุ่น

 

 

 

ตอนนี้ไอเอิร์ธมันรู้แล้วว่ากูกับไอแดนเรียนอยู่ที่ไหน แล้วถ้าถึงเวลานั้นไอเอิร์ธมันมาเข้าเรียนที่นี่เพื่อตามหามึงแล้วมึงจะทำยังไงต่อล่ะ” ธีมถามกับแชมป์ “ก็ไม่ทำยังไงว่ะ…ยังไงกูก็ไม่อยากกลับไปบ้านหลังนั้นอีกแล้ว” แชมป์พูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยและดูไร้อารมณ์ ธีมมองหน้าแชมป์ก่อนจะเริ่มพูดต่อ “มึงคิดจะเผชิญหน้ากับน้องของมึงจริง ๆ ใช่ป่ะ” แชมป์จึงได้ตอบกลับธีม “กูก็แค่อยู่ในที่ของกู…เอาไว้ถึงวันที่กูกับมันเจอกันเดี๋ยวกูก็คงรอดูแหละว่ามันจะมาไม้ไหน” ธีมก็ได้แต่ยืนทำท่าครุ่นคิดกับสิ่งที่แชมป์พูด

 

“สองคนนั้นหายกันไปพักหนึ่งแล้วคงไม่ตีกันหรอกใช่มั้ย” วิวบ่นกับทุกคน เดลจึงได้ถามวิว “ไอแชมป์มันไม่ได้เล่าเรื่องพี่ธีมกับพี่แดนให้ฟังหรือไง” วิวเหมือนจะนึกอะไรได้สักอย่างออก “จริงด้วยซิ! ก็สามคนนั้นเขาเป็นสนิทกันนี่นะ” วิวบ่นกับเดล “นั่นไง…มาโน้นละ” มิรินพูดพร้อมกับสะกิดแขนวิว เมื่อแชมป์เดินมาถึงโต๊ะที่พวกวิวนั่งอยู่ ธีมจึงได้ขอแยกตัวจากแชมป์ “กูไปก่อนนะ” ธีมกล่าวกับแชมป์ก่อนที่จะเดินจากไปแชมป์ก็ได้นั่งลงข้าง ๆ เดล “พี่ธีมเขาเรียกมึงไปมีเรื่องอะไรหรือเปล่าวะแชมป์” เดลเอ่ยปากถามแชมป์ด้วยความสงสัย “มันเรียกไปคุยเรื่องอดีตกูน่ะ…แต่ช่างเหอะมันไม่ได้สำคัญอะไร” เดลทำท่าสงสัยในสิ่งที่แชมป์พูดออกมา

 

 

แชมป์จึงถามเดล “วันที่มึงไปกับไอแดนน่ะ…ไอแดนมันเล่าอะไรให้ฟังบ้าง” เดลจึงตอบกลับแชมป์ “พี่แดนเขาแค่ฝากให้กูช่วยดู ๆ มึงหน่อย…เพราะกว่ามึงจะมาถึงจุดนี้ได้มึงต้องผ่านอะไรมาหลายอย่าง แต่พี่แดนเขาก็ไม่ได้เล่าหรอกนะว่ามึงเจออะไรมาบ้างน่ะ” แชมป์จึงได้ตอบกลับเดล “ปล่อยให้มันเป็นความลับแบบนั้นไปแหละดีแล้ว”

 

วิวที่นั่งฟังที่แชมป์กับเดลคุยกันอยู่นาน วิวก็ได้นึกถึงเรื่องที่แชมป์เคยเล่าเกี่ยวกับครอบครัวตัวเอง วิวจึงได้แต่นั่งมองหน้าแชมป์ในท่าทีที่รู้สึกห่วงหาอาทรในของตัวแชมป์ มิรินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ วิวก็ได้แอบมองวิวเช่นกัน ขิมจึงได้พูดแทรกบทสนทนาระหว่างแชมป์กับเดล “เรื่องรับน้องที่มหาวิทยาลัยของคณะเราอีกสองวันก็จะจบแล้วใช่มั้ย” มิรินจึงตอบขิมไป “ใช่ ๆ อีกสองวันก็จบแล้วล่ะ…แต่ก็ไม่รู้นะว่าสองวันที่เหลือนี้จะต้องเจออะไรบ้างอ่ะ”

 

แชมป์จึงได้ตอบทุกคนออกไปว่า “ต่อจากนี้คงไม่น่าจะมีอะไรแผลง ๆ แล้วล่ะ” มิรินจึงได้พูดต่อ “เหมือนนายจะรู้อะไรเยอะแยะเลยสินะ” แชมป์กับมิรินได้นั่งมองหน้ากันหลังจากที่ประโยคพูดของมิรินนั้นจบลง แชมป์จึงได้ลุกขึ้นและกล่าวแยกย้ายกับพวกวิว และเดลก็ได้ลุกขึ้นวิ่งตามแชมป์มาเหมือนกัน เดลที่ตามมาจนถึงตัวแชมป์แล้ว เดลจึงได้ถามกับแชมป์ “มึงกับยัยมิรินไม่ชอบขี้หน้ากันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วหรือเปล่าเนี่ย” แชมป์มองหน้าเดลก่อนจะตอบกลับเดล “ยัยนั่นคิดยังไงกูไม่รู้…แต่กูเฉย ๆ อ่ะ”

 

 

 

 

16:00 น.

 

 

“เดล…มึงเข้าชุมนุมเชียร์ไปก่อนเลยนะ” แชมป์กล่าวก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินแยกตัวจากไป เมื่อแชมป์เดินออกจากห้องไปแล้ว มิรินได้บอกกับวิวและขิม “เดี๋ยวเราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เมื่อมิรินออกจากห้องก็ได้เห็นแชมป์เดินไปทางบันไดมิรินจึงได้เดินตามแชมป์ไป แชมป์เดินไปเรื่อย ๆ จนมาถึงยังหลังตึกคณะนิเทศจากนั้นแชมป์จึงพูดขึ้นลอย ๆ “เรารู้ว่าเธอเดินตามเรามา…ข้องใจอะไรก็มาคุยกันให้มันเห็นดำเห็นแดงไปเลยว่าไงมิริน”

 

มิรินจึงได้เลิกซ่อนตัวและปรากฏตัวอยู่ด้านหลังแชมป์ “ความบังเอิญครั้งนี้มันช่างน่ารังเกียจจริง ๆ นะว่ามั้ย” มิรินเอ่ยถามแชมป์ “เธอหมายความว่ายังไง” แชมป์จึงได้ถามมิรินกลับไปด้วยความสงสัย “ถึงนายจะไม่รู้จักเรามาก่อน…แต่เรารู้จักนายดีเลยล่ะ และเราก็ไม่คิดด้วยว่าเราจะได้เจอกับนายที่นี่และนายก็ดูเหมือนจะมาฉีกกระชากหัวใจเราอีกเป็นครั้งที่สอง แต่ขอบอกไว้เลยนะว่าครั้งนี้มันจะไม่เหมือนครั้งก่อนแน่นอน” เมื่อมิรินพูดจบมิรินก็ได้หันหลังและเดินจากไป

 

แชมป์ได้แต่ยืนนิ่งด้วยความสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ แต่สิ่งที่มันคาใจของแชมป์มาตั้งแต่เจอกับมิรินครั้งแรกจนมาถึงตอนนี้ก็ทำให้แชมป์นั้นเข้าใจได้เรื่องหนึ่งทันที ว่าสิ่งที่แชมป์รู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากมิรินนั้นมันไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ แชมป์จึงหยิบโทรศัพท์จากในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาและทำท่าเหมือนกำลังพิมพ์อะไรสักอย่าง

 

ก่อนที่แชมป์จะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงและเดินออกจากหลังตึกคณะนิเทศศาสตร์เพื่อไปยังจุดรวมตัวชุมนุมเชียร์ เมื่อแชมป์มาถึงจุดรวมตัวชุมนุมเชียร์แล้ว ก็ได้เห็นว่าเพื่อน ๆ ทุกคนมารวมตัวกันหมดแล้ว “ทุกคนจัดแถว” เสียงชายคนหนึ่งที่ตะโกนเข้ามาทำให้ทุกคนรีบมายืนจัดแถวทันทีและเสียงนั้นนั่นก็คือเสียงของพี่ธีม

 

ตอนนี้เหล่ารุ่นพี่ปีสองได้มาเข้ามายืนดูอยู่รอบ ๆ ปีหนึ่งที่ยืนจัดแถวอยู่ พี่ธีมที่ยืนอยู่ตรงหน้าทุกคนจึงสั่งให้ปีหนึ่งทั้งหมดนั่งลง “ทุกคนครับ…พรุ่งนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วนะครับที่พวกเราจะจบพิธีรับน้องของคณะของเรา แต่กิจกรรมต่าง ๆ ที่ผมบอกพวกคุณไว้ในวันแรกนั้นยังคงอยู่และดำเนินต่อไป ทราบ!!!” ทุกคนจึงตะโกนตอบพร้อมกัน “ทราบ”

 

ธีมจึงอธิบายต่อถึงกิจกรรมในวันนี้ “ในวันนี้เราจะทำกิจกรรมที่ใหญ่ที่สุดของคณะเรา ในพื้นที่คณะนิเทศศาสตร์แห่งนี้จะมีความหมายของ Com Arts. ของพวกเราอยู่ จงไปนำความหมายของ Com Arts. กลับมาที่นี่และพวกคุณต้องผ่านด่านของพวกผมทั้ง 7 ด่าน ให้ได้ เพื่อที่พวกคุณนั้นจะได้เข้าถึงป้ายชื่อของคณะเราที่อยู่ในมือผมนี้ เมื่อคุณรับป้ายชื่อนี้ไปจากมือของพวกผมได้เมื่อไร ตอนนั้นเราแหละเราคือพี่น้องกันและเราก็ยินดีต้อนรับพวกคุณเข้าสู่คณะนิเทศศาสตร์ของพวกเรา เริ่ม!!!”

 

เมื่อพี่ธีมพูดจบรุ่นพี่ปีสองที่ยืนล้อมอยู่ก็ได้ไล่ต้อนให้ทุกคนลุกขึ้นยืนและรีบไปหาความหมายทั้ง 7 จากด่านทั้ง 7 กลับมาทันที ตอนนี้ทุกคนก็ได้เริ่มค้นหาด่านทั้ง 7 ทุกคนพยายามค้นหากันอย่างชัวละมุนแต่ก็หาไม่เจอจนสุดท้ายแล้วทุกคนก็กลับมารวมหน้าสแตนเชียร์ “เอาไงดีอ่ะ”

ทุกคนต่างถามกันไปกันมา จนแชมป์ได้หันไปพูดกับเดลว่า “หรือว่าด่านทั้งเจ็ดนั้นไม่ได้มีอยู่จริงแต่แรก แต่คำทั้งเจ็ดมันคือคำที่ซ่อนความหมายเอาไว้ คำที่มาจากอักษรย่อของคณะเรา” เดลจึงตะโกนขึ้น “ทุกคนฟังทางนี้หน่อยได้มั้ย” ทุกคนจึงหันไปหาเดลอย่างพร้อมเพรียงกันเดลจึงเริ่มพูดต่อ “เรากับแชมป์กำลังคิดกันว่าจริง ๆ แล้วฐานทั้งเจ็ดมันไม่ได้มีอยู่แต่แรกแต่คำทั้งเจ็ดนั้นมันคือความหมายที่แฝงอยู่ในอักษรย่อของคณะเราอยู่แล้วตั้งแต่แรก” แฟรงค์จึงพูดขึ้นว่า “งั้นพวกเราลองมาหาความหมายของอักษรย่อทั้งเจ็ดกันมั้ยล่ะ” ทุกคนจึงทำท่าทีเห็นด้วยกับสิ่งที่แฟรงค์พูด ทุกคนจึงช่วยกันระดมความคิดเพื่อแยกอักษรย่อให้ออกมาเป็นคำ ๆ ได้มาดังนี้

 

Communication - การสื่อสาร

Old - ประสบการณ์

Mentally - จิตใจ

Action - การกระทำ

Read - การอ่าน

Track - ติดตาม

Spirit - ภาวะผู้นำ

 

ทุกคนจึงต่างก็ถามกันต่อว่าใคร แล้วใครจะเป็นตัวแทนขึ้นไปเคลียร์ด่านทั้ง 7 ทุกคนเริ่มหลุดพูดชื่อเดลออกมาจนทุกคนลงความเห็นว่าจะให้เดลเป็นตัวแทนแต่เดลกลับตอบกับทุกคนไปว่า “ไอเดียร์ทั้งหมดเราได้มาจากแชมป์เราว่าในที่นี้แชมป์เหมาะที่สุด” วิวกับขิมจึงเสริมไป “แชมป์ก็ได้นะทุกคนโอเคมั้ย” ทุกคนจึงตอบ “จะเอายังไงก็เอาเถอะพวกเราต้องสามัคคีกันแล้ว” เดลจึงหันไปหาแชมป์พร้อมกับพูดว่า “ทุกคน…เราขอโหวตให้แชมป์ขึ้นเป็นประธานรุ่นของพวกเราทุกคนเห็นด้วยมั้ย”

ทุกคนต่างตอบรับกับคำถามของเดล “ฝากด้วยนะประธานรุ่นของพวกเรา” แชมป์ได้แต่ยืนทำหน้านิ่ง ๆ ก่อนที่จะหันไปทางด่านทั้ง 7 พร้อมกับถอนหายใจและก้าวเดินออกไป เพื่อไปหาด่านทั้ง 7 บนสแตนเชียร์ แชมป์เดินมาจนมายืนอยู่ตรงหน้าด่านทั้ง 7 “Communication - การสื่อสาร สิ่งที่พวกเราอยากจะสื่อสารคือพวกเราเข้าใจว่าที่พวกรุ่นพี่ที่จัดกิจกรรมรับน้องที่มีธรรมเนียมไม่เหมือนคณะอื่นเพื่อที่พวกพี่จะได้สื่อสารถึงความรักและความเป็นหนึ่งเดียวกันของพวกเราและรุ่นพี่ทุกคน เพราะงั้นผมขอผ่านด่านด้วยครับ”

 

ด่านที่ 1 คู่แฝดหญิง เฟรน เฟิร์น ยืนมองหน้าแชมป์ก่อนจะตอบแชมป์ “ด่านที่ 1 Communication ผ่านค่ะ” ทุกคนทำท่าทีดีใจโห่ร้องกัน “ป้ายชื่อ C เป็นของคุณแล้ว” เฟรนและเฟิร์นจึงเปิดทางให้แชมป์ขึ้้นมายังด่านที่ 2

 

แชมป์ก้าวขาขึ้นมายังด่านที่ 2 “Old - ในที่นี้หมายถึงประสบการณ์ พวกเรายังอ่อนประสบการณ์ต้องได้รับการเรียนรู้และเติมเต็มประสบการณ์จากรุ่นพี่ทุกคน ประสบการณ์จากรุ่นพี่ทุกคนจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อทำให้เราได้มีประสบการณ์ในการสอนรุ่นน้องต่อไปครับ ผมขอผ่านด้านด้วยครับ” นิค เบน กล่าว “Old - ประสบการณ์ ป้ายชื่อ O เป็นของพวกคุณแล้ว ผ่านครับ” นิคและเบนเปิดทางให้แชมป์ก้าวขึ้นสู่ด่านที่ 3

 

 

 

 

 

 

แชมป์ก้าวขึ้นสู่ด่านที่ 3 “Mentally - จิตใจ จิตใจของทุกคนในที่นี้ ทั้งความทุกข์และความสุขที่ไม่ว่าจะเป็นของพวกเราหรือของรุ่นพี่ จิตใจเราจะสื่อถึงกันและรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ผมขอผ่านด่านครับ” แชมป์ขอให้ริคและริฟคู่แฝดชายของคณะปล่อยให้ผ่านด่าน “จิตใจที่รวมกันเป็นหนึ่งงั้นเหรอ…พูดได้ดีนี่ไอ้น้อง เชิญ” ริคและริฟกล่าวจบก็ได้เปิดทางให้กับแชมป์พร้อมยื่นป้ายชื่อ M ให้กับแชมป์เพื่อขึ้นยังด่านที่ 4

 

แชมป์ก้าวขึ้นสู่ด้านที่ 4 “Action - การกระทำ การทำในอดีตส่งผลมายังปัจจุบัน การกระทำในปัจจุบันกำหนดอนาคต ทุกการกระทำทุกการย่างก้าวของพวกเรายังต้องให้รุ่นพี่แนะนำครับ ผมขอผ่านด่านครับ” ซาแมนทาและฮิมาวาริสองนักเรียนลูกครึ่งเธอทั้งสองได้ยืนมองหน้ากันก่อนที่จะเปิดทางให้แชมป์พร้อมยื่นป้ายชื่อ A ให้กับแชมป์ “เชิญค่ะ” ทั้งสองกล่าวเพื่อให้แชมป์ขึ้นสู่ด่านที่ 5

 

แชมป์ก้าวสู่ด่านที่ 5 “Read - การอ่าน ทุกการอ่านล้วนมีความหมาย ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ อ่านการกระทำ อ่านจิตใจ พวกเราตระหนักถึงเรื่องนี้ดีครับ ผมขอผ่านด่านครับ” เฟืองและชินทั้งสองยกมือตบไหล่แชมป์พร้อมยื่นสร้อย R ให้กับแชมป์พร้อมเปิดทางให้แชมป์สู่ด้านที่ 6

 

 

 

 

 

 

 

แชมป์ก้าวสู่ด่านที่ 6 “Track ติดตามสินะ พวกเราต้องติดตามทุกอย่างทุกเรื่องราวไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ใด ๆ ผมขอผ่านทางด้วยครับพี่อิคคิว…รองประธานรุ่นปี 2” อิคคิวมองหน้าแชมป์ก่อนจะพูดว่า “นี่คุณรู้ด้วยเหรอครับว่าผมเป็นรองประธานรุ่นอ่ะ ไอ้ธีมกับไอ้แดนบอกคุณเหรอ” แชมป์จึงตอบกลับไป “เปล่าหรอกครับ…เพราะตัว T มันคืออักษรรองสุดท้ายและมันมักจะอยู่กับรองประธานรุ่น พอยิ่งผมเห็นท่าทางของพวกพี่ผมว่าผมก็เดาได้แล้วล่ะ” อิวคิวยิ้มและพยักหน้าเบา ๆ “อย่างนี้นี่เอง…คุณนี่ช่างสังเกตุและติดตามผมพวกผมสมกับตัว T จริง ๆ นะ งั้นเอานี่ไปเชิญครับ” อิวคิวกล่าวพร้อมกับยื่นสร้อยตัว T ให้กับแชมป์ “ก่อนที่จะก้าวเข้าด่านสุดท้ายผมขอเตือนนะ…ไอ้คนข้างบนผมอ่ะมันไม่หมูนะ”

 

แชมป์ได้ก้าวขึ้นสู่ด่านที่ 7 ด่านสุดท้าย แชมป์กับพี่ธีมได้ยืนประจัญหน้ากัน ทั้งสองคนยืนมองหน้ากันอยู่ชั่วครู่ก่อนที่พี่ธีมจะถามออกไปว่า “คุณมีอะไรจะพูดมั้ย” แชมป์ยืนมองหน้าธีมก่อนจะตอบกลับไป “ตัวสุดท้ายตัว S Spirit ที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ก็เพื่อแสดงสปิริตที่จะนำเพื่อน ๆ ทุกคนเข้าสู่รุ่น ผมขอตัว S ด้วยครับ” ธีมมองหน้าแชมป์ก่อนจะตอบแชมป์ว่า “คุณคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ…ไม่ผ่านโว้ย” แชมป์ทำท่ากัดฟันพร้อมส่ายหน้าและกลับหลังหัน “ทุกคน…พวกคุณเลือกให้ผมเป็นผู้นำพวกคุณแล้ว ถ้าผมนำพวกคุณแล้วพวกคุณจะตามผมมั้ย” ทุกคนประสานเสียงอย่างพร้อมเพียง “ตาม”

 

 

 

 

 

แชมป์สั่งทุกคน “ทุกคนบูมนิเทศบูม” ทุกคนจึงบูมตามที่แชมป์สั่ง แชมป์กลับไปหาธีมและบอกว่า “นี่แหล่ะสปิริตผู้นำของผม และตลอด 4 ปีนี้ ผมจะนำทางโดยจับมือทุกคนไว้และเดินไปด้วยกัน” ธีมได้เอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงและค่อย ๆ โน้นตัวยื่นหน้าเข้ามาหาหน้าแชมป์ “คุณทำได้แค่นี้เองเหรอวะ…ผมล่ะผิดหวังกับเพื่อนร่วมรุ่นของคุณชิบหายเลยว่ะ” ธีมกล่าว แชมป์ยืนทำหน้าตาและท่าทางที่รู้สึกข้องใจเอามาก ๆ

 

แล้วธีมได้ค่อย ๆ ถอยหลังกลับไปยืนตรงที่เดิมอีกครั้งและพูดด้วยเสียงตะโกนดัง “เห้ย…พวกคุณอ่ะ! คุณจะปล่อยเพื่อนของตัวเองออกหน้ารับแทนอยู่คนเดียวอ๋อ พวกคุณแม่งไม่เห็นแก่ตัวกันไปหน่อยหรือไงวะ” ทุกคนที่ได้ฟังธีมพูดจบนั้น ได้แต่หันมองหน้ากันไปและพยายาทที่จะตีความในสิ่งที่ธีมพูด แชมป์ที่ยืนมองธีมด้วยความข้องใจอยู่นั้นก็เริ่มที่จะสงบใจลง ก่อนที่แชมป์จะกลับไปหาทุกคนด้านล่าง แชมป์ได้ท่าทางเหมือนสบดด่าอะไรในใจก่อนที่แชมป์จะก้าวขาและเริ่มวิ่งลงจากสแตนเชียร์ไปหาเพื่อน ๆ ทุกที่ยืนอยู่ข้างล่าง

 

เมื่อแชมป์วิ่งลงจากสแตนเชียร์แล้วมายืนร่วมกับเพื่อน ๆ แล้ว ธีมที่ยืนมองทุกอย่างเบื้องหน้าก็ได้พูดขึ้น “ไหนวะสปิริตของพวกคุณอ่ะ” ทุกคนจึงหันมองหน้ากันไปมาอีกครั้งก่อนที่เดลจะบอกกับทุกคนว่า “พวกเราขึ้นไปเอาสร้อยจากพี่ธีมกันเถอะ…ยกเว้นมึงนะแชมป์” ทุกคนจึงตอบรับเอาด้วยกับที่เดลพูด เดลจึงพูดด้วยเสียงดัง “พวกเราไปเอาสร้อยตัว S กันเถอะ” เท็นจึงพูดขึ้นต่อ “พวกเราลุยโว้ย” ทุกคนโห่ร้องตะโกนพร้อมกัน “เฮ้…”

 

 

ทุกคนจึงวิ่งขึ้นไปบนสแตนเชียร์ยกเว้นแชมป์ ในขณะเดียวกันรุ่นพี่ทุกคนที่อยู่บนสแตนเชียร์ก็ได้มายืนเรียงแถวกันโดยที่มีธีมอยู่ตรงกลาง ทุกคนที่ได้ขึ้นมาบนสแตนเชียร์ได้ตะโกนออกมาพร้อม ๆ กัน “พี่ธีม…พวกเราขอสร้อยตัว S ให้แชมป์ด้วยครับ/ค่ะ” ธีมที่ยืนมองทุกคนก็ได้พูดออกมา “สัปดาห์หน้ารับสร้อยป้ายชื่อประจำตัวของพวกคุณ” จากนั้นรุ่นพี่ทุกคน แล้วธีมก็เดินลงจากสแตนเชียร์

 

ธีมเดินตรงมาหาแชมป์ที่ยืนอยู่ข้างล่าง “เอานี่ตัว S เอาไปดิ” ธีมยื่นสร้อยตัว S ให้กับแชมป์ แชมป์ได้ยื่นมือออกไปรับสร้อยตัว S จากธีม แชมป์พูดขึ้นเบา ๆ “จบสักทีนะชุมนุมเชียร์” ทุกคนก็โห่ร้องด้วยความดีใจที่กิจกรรมชุมเชียรได้จบลง แชมป์ได้ยกแขนชูสร้อยตัว S ขึ้นเหนือหัว

 

 

 

 

 

19.00 น.

 

 

 

ทุกคนต่างโบกมือลาแยกย้ายกันกลับบ้าน แชมป์ก็ได้เดินไปเรื่อย ๆ จนมาถึงที่รถของตัวเอง แชมป์ก็ได้เห็นว่าธีมและแดนมายืนรออยู่ที่รถของแชมป์ “มาได้แล้วเหรอมึงอ่ะ” ธีมเอ่ยถามแชมป์ “นี่พวกมึงไม่กลับหงกลับห้องกันหรือไง…พวกมึงมายืนทำอะไรกัน” แชมป์ถามธีมและแดน “ก็ตั้งใจจะชวนไปหาข้าวกินไง” แดนเอ่ยกับแชมป์ “งั้นรอไอเดลก่อนละกัน กูจะเอาไอเดลไปด้วย” แชมป์ตอบแดนกลับไป

และแล้วเดลก็เดินเข้ามาหาพวกแชมป์ เดลได้เดินมาจนถึงตัวแชมป์แล้ว เดลจึงหันไปถามธีมกับแดน “พวกพี่ไม่กลับบ้านเหรอครับ” แดนจึงตอบเดล “มาครบกันละนะ…งั้นพวกเราไปกินข้าวกันเหอะ” แชมป์พูดมากางวงว่า “วันนี้เอาข้าวไม่เอาก๋วยเตี๋ยวนะ…เพราะกูหมดแรงจะแย่งพวกมึงกินละ” ธีมจึงพูดแซะแชมป์ขึ้นมา “แหม๊…โดนแค่นี้ร้องเหนื่อย ปีที่แล้วพวกกูโดนหนักกว่ามึงอีก กูยังไม่บ่นเลยมะ” แชมป์ได้พูดต่อ “เออ ๆ ไปกินข้าวกันได้ละกูหิว” แดนได้ขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของธีมส่วนเดลก็ขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ของแชมป์

 

ทั้งสี่คนก็ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากมหาวิทยาลัยไปยังร้านข้าวโดยมีธีมเป็นคนนำทาง ในที่สุดทั้งสี่คนก็ได้มาถึงยังร้านข้าวร้านประจำของธีมกับแดน ทั้งสี่คนก็ได้จอดรถมอเตอร์ไซค์ที่หน้าร้าน เมื่อทั้งสี่คนรวมตัวกันที่หน้าร้านแล้ว ธีมจึงพูดขึ้นมา “ถ้าสายดึกนี่คือร้านข้าวร้านประจำพวกกูเลยนะ” แชมป์ได้กรอกตามองบนก่อนจะเดินตามธีมกับแดนเข้าร้านไป

 

เมื่อทั้งสี่คนหาโต๊ะนั่งได้ธีมจึงหยิบกระดาษปากกาเริ่มเขียนออเดอร์ธีมได้เขียนว่าข้าวหมูกรอบคั่วพริกเกลือ ธีมส่งกระดาษปากกาต่อให้แดนต่อแดนเขียนข้าวผัดกุ้ง แดนส่งต่อกระดาษให้แชมป์ แล้วแชมป์ก็เขียนกระเพราหมูกรอบเผ็ดน้อยไม่ใส่กระเทียม แชมป์ยื่นกระดาษปากกาต่อให้กับเดล เดลเขียนข้าวต้มทะเล เดลส่งต่อกระดาษให้เด็กเสิร์ฟ แดนก็ได้พูดขึ้น “กูดีใจนะที่พวกเราสามคน กลับมารวมตัวกันอีกครั้งนะ และก็เพื่อน พี่ น้อง ใหม่ที่กำลังเข้ามาน่ะ” ธีมจึงถามแชมป์ “มึงเจอคนที่ใช่ยังวะ” แชมป์ตอบธีมกลับไปว่า “คนที่ใช่นะไอเชี้ย! ไม่ใช่ร้านขายของชำที่จะหาได้ทั่วไปอ่ะ”

 

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!