Cutscene 4 เบื้องหลังของแชมป์
เมื่อวิวเธอถามเสร็จเธอก็ได้นั่งทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่อไป “ไอ้ธีมน่ะเหรอ…จริง ๆ แล้ว เรา ธีม แดน เราสามคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้นแล้วล่ะ สมัยเรียนพวกเราสามคนถูกเพื่อน ๆ เรียกว่าสามทหารเสือหรือจะเรียกได้ว่าเป็นตัวแสบประจำรุ่นเลยก็ว่าได้”
วิวเธอจึงได้หยุดกิจกรรมกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพร้อมกับถามแชมป์กลับไปว่า “เพราะแบบนี้เองใช่มั้ยนายถึงกล้างัดกับสองคนนั้นน่ะ…แล้วว่าแต่ทำไมนายถึงเพิ่งเข้ามาเรียนปีนี้ล่ะ ทั้งที่เพื่อน ๆ นายก็มาเข้าเรียนกันตั้งแต่ปีที่แล้ว?” เมื่อแชมป์ได้ฟังคำถามของวิวจบแล้ว สีหน้าของแชมป์ตอนนี้คือนิ่งและดูไร้อารมณ์ “เราขอโทษนะ” วิวกล่าวขอโทษแชมป์พร้อมทำหน้าเหมือนรู้สึกผิด
“อันที่จริงแล้วเราก็อยากมาเรียนพร้อมกับเพื่อน ๆ เรานั่นแหละ แต่พ่อเราต้องการให้เราเรียนบริหารหรือการตลาดเพื่อให้ไปช่วยกิจการที่บ้านน่ะ แต่เราไม่อยากถูกบังคับเราอยากเลือกความฝันของเราด้วยตัวเองน่ะ เราจึงออกจากบ้านโดยที่หายไปและไม่ติดต่อใครอีกเลยไม่ว่าจะเป็นแม่ น้องชาย หรือเพื่อน ๆ ในรุ่น มีเพียงแค่ธีมกับแดนเท่านั้นที่รู้เรื่องของเราและคอยช่วยเราอยู่ตลอด เราก็เลยออกทำงานเพื่อหาเงินมาเรียนเองน่ะ มันก็เลยทำให้เราได้มาเรียนทีหลังเพื่อนของเรา แต่ถึงแม้เราจะมาเรียนทีหลังเพื่อนของเรา แต่เราดีใจนะที่ได้เรียนพร้อมกับเธอน่ะ”
แชมป์ได้เล่าเรื่องราวของตัวเองให้กับวิวได้ฟัง วิวเธอก็ถึงกับอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับแชมป์ “ประโยคสุดท้ายนี่เหมือนจะขอจีบกันเลยนะ…แต่เธอคงต้องผ่านอะไรหลาย ๆ อย่างมามากสินะ แต่ขอบใจนะที่เธอยอมเล่าเรื่องที่สำคัญขนาดนี้ให้เราฟังน่ะ เอาเป็นว่านี่คือความลับระหว่างเราสองคนก็แล้วนะ” เมื่อวิวเธอพูดจบวิวก็ได้ยิ้มอย่างสดใสให้กับแชมป์
แชมป์ก็ยิ้มบาง ๆ พร้อมกับพยักหน้าตอบรับสิ่งที่วิวได้พูดมา และแชมป์ก็ได้ตั้งคำถามกับวิวกลับไป “เธอกับขิมเพื่อนของเธอก็ดูจะเป็นเพื่อนกันมาก่อนมาเรียนที่นี่แล้วสินะ” วิวจึงตอบกลับแชมป์ทันที “ใช่…ก็เหมือนกับนายนั่นแหล่ะ เรากับขิมเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่มัธยมต้นแล้วล่ะ ตอนแรกขิมจะไปเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับพี่พิณพี่สาวของขิมน่ะ แต่เพราะเราตื้อขิมจนขิมคงรำคาญเราแหล่ะมั้ง สุดท้ายขิมก็เลยยอมมาเรียนที่นี่กับเรา แต่เอาจริง ๆ นะในหมู่เพื่อนที่เรียนมัธยมมาด้วยกันเรากลับไม่อยากให้ใครรู้อ่ะว่าเราจะไปเรียนที่ไหน และเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเราถึงคิดแบบนั้น”
แชมป์ทำท่าทางครุ่นอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับวิว “เธออาจจะไม่ได้สนิทกับใครเท่ากับขิมและเธอก็อาจจะไม่ไว้ใจใครเท่าไหร่ และก็อาจจะมีแค่ขิมล่ะมั้งที่ดีกับเธอและรักเธออย่างเสมอต้นเสมอปลายน่ะ” วิวได้ทำท่าทางครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับแชมป์ “คงงั้นแหล่ะมั้ง” จากนั้นแชมป์ก็ได้ลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ และหันหน้ามองวิวก่อนจะถามวิวไปว่า “ไปนั่งรถเล่นกันมั้ย” วิวได้ทำท่าทางครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับแชมป์ “ก็ได้…ไปสิ” ทั้งสองคนจึงไปนั่งรถเล่นด้วยกัน
21:49 น.
“จะสี่ทุ่มแล้วเหรอเนี้ย…เรากลับกันเลยมั้ย” เสียงของวิวที่ได้ถามกับแชมป์ ทั้งสองคนได้มานั่งตากลมเล่นกันที่ถนนแห่งหนึ่งซึ่งไม่ได้ไกลจากหอพักมากนัก “จริง ๆ เราก็อยากจะอยู่อย่างนี้อีกสักหน่อยนะ…แต่ช่างเหอะเรากลับหอกันเลยเถอะ” แชมป์พูดกับวิวก่อนที่จะเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์และวิวก็ได้เดินตามโดยมองไปที่แผ่นหลังของแชมป์
ตอนนี้ทั้งสองคนได้นั่งรถจนกลับมาถึงหน้าทางเข้าหอพัก แชมป์ได้จอดรถมอเตอร์ไซค์เพื่อให้วิวได้ลงก่อน เมื่อวิวลงจากรถมอเตอร์ไซค์ไปแล้วแชมป์จึงขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปยังที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ข้างหอพักเพื่อเอารถมอเตอร์ไซค์ไปเก็บ เมื่อแชมป์จอดรถมอเตอร์ไซค์เรียบร้อยแล้ว แชมป์ก็ได้ยืนนิ่ง ๆ อยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับบ่นกับตัวเองเบา ๆ ว่า “ยัยนั่นคงขึ้นห้องไปแล้วล่ะมั้ง”
เมื่อแชมป์เดินมาจนถึงทางเข้าหอพักก็ปรากฎว่าวิวนั้นก็ยังคงยืนรอแชมป์อยู่ “ช้าจังนะนายน่ะ” วิวบ่นแชมป์ “เรานึกว่าเธอคงขึ้นห้องไปแล้วซะอีก…ไม่คิดว่าเธอจะยังรออยู่” แชมป์ตอบกลับวิวด้วยท่าทางอ้ำอึ้ง “เราขึ้นห้องกันเถอะ” วิวพูดกับแชมป์พร้อมกับหันหลังเดินไปทางบันได แชมป์ที่ได้เดินตามวิวเพื่อที่จะเดินตามวิวขึ้นบันได ตอนนี้ทั้งสองคนนั้นได้เดินมาจนถึงห้องของตัวเองแล้ว วิวจึงได้หันหน้ามาทางแชมป์พร้อมกับพูดกับแชมป์ “ขอบคุณสำหรับทุก ๆ อย่างในวันนี้นะ…ตอนนี้เราคงเรียกได้ว่าพวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วสินะ”
แชมป์ได้หันหน้ามองวิวก่อนจะตอบกลับวิว “เราก็ขอบคุณนะที่เธอยอมรับฟังเราน่ะ” หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันเข้าห้องของตัวเอง เมื่อวิวนั้นเข้าห้องของตัวเองมาแล้ว วิวก็มุ่งหน้าเดินมายังเตียงนอนพร้อมกับเปิดลิ้นชักตู้เล็ก ๆ ข้าง ๆ หัวเตียง วิวได้หยิบสมุดและปากกาขึ้นมาจากลิ้นชักนั้นพร้อมกับเปิดสมุดไปยังหน้าที่ต่อจากหน้าที่ถูกเขียนข้อความบางอย่าง
สมุดนี้คือสมุดไดอารี่ของวิวที่วิวจะคอยจดบันทึกเรื่องราวของตัวเองในทุก ๆ วัน และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่วิวก็จะเขียนไดอารี่เป็นกิจวัตรอย่างเช่นทุกวัน แต่ในวันนี้วิวกลับไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเขียนจากที่ตรงไหนเพราะในหัวของวิวตอนนี้มีแต่เรื่องของแชมป์เต็มไปหมด ในอีกด้านแชมป์เองก็ได้แต่นั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังเปิดรูป ๆ หนึ่งอยู่ มันเป็นรูปที่แชมป์แอบถ่ายวิวตอนที่วิวเผลอ ตอนไปนั่งตากลมเล่นกันนั่นเอง เหมือนว่าตอนนี้ทั้งสองคนต่างก็วางเรื่องของกันและกันไม่ได้เลย
Days 4
07:27 น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก “วิว…แกตื่นยังอ่ะ” ขิมได้มายืนเคาะประตูห้องวิวพร้อมกับเรียกทักวิว “เสร็จแล้ว ๆ กำลังไป” วิวได้ตอบกลับตามเสียงเรียกทักของขิม วิวได้เปิดประตูห้องออกมาด้วยท่าทางที่เร่งรีบ “ตื่นสายหรือไงคะคุณเพื่อน” ขิมถามวิว “ก็นิดหน่อยอ่ะแก” วิวตอบกลับขิม ขิมจึงได้ยืนทำท่าทางสงสัยในตัวเพื่อนของเธอก่อนจะที่จะพูดต่อ “ไปเรียนกันได้ละเดี๋ยวจะไปสายเอา”
วิวได้ก้าวเท้าออกจากห้องพร้อมล็อคและปิดประตูห้องโดยที่สายตาของวิวก็ได้แอบมองไปยังประตูห้องของแชมป์ ขิมและวิวก็ได้เดินออกจากหอพักเพื่อตรงไปยังมหาวิทยาลัยด้วยกัน แต่ขิมก็ยังรู้สึกสงสัยกับเรื่องที่วิวบอกว่าตัวเองตื่นสายอยู่ และแล้วความสงสัยนั้นมันก็ได้หลุดออกมาเป็นคำพูด “วิว…ที่แกว่าแกตื่นสายเนี่ยแกไปทำอะไรมา” วิวที่ได้ยินคำถามของขิมก็เกิดมีอาการอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ก้มหน้าก้มตา “เอิ่ม…คือว่า” วิวเองไม่รู้ว่าจะบอกกับขิมดีไหม จะบอกกับขิมยังไงดี ได้แต่ทำท่าทางอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ “น่าสงสัยสุด ๆ เลยนะ…แกมีอะไรปิดฉันอยู่ใช่มะ”
ขิมถามวิวด้วยท่าทีราวกับว่ากำลังสอบสวนผู้ต้องสงสัย “ฉันก็ไม่ได้อยากจะปิดอะไรแกหรอก…ก็มันไม่รู้ว่าเริ่มจากตรงไหนอ่ะ” วิวตอบกลับขิม “แกยิ่งมีอาการแบบนี้ฉันยิ่งสงสัยนะ…เราเป็นเพื่อนมาตั้งกี่ปีก็รู้ ๆ นิสัยกันอยู่แล้วป่ะ” ขิมยังคงสอบสวนเค้นความลับจากวิวต่อไป
“เมื่อวานฉันคุยอีตาแชมป์นั่นอ่ะ…และก็ไปนั่งรถเล่นด้วยกันมาด้วย” วิวตอบด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบาที่ยังพอฟังได้รู้เรื่องอยู่ ขิมที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับอึ้งไปชั่วครู่ “แกทำเอาฉันตกใจมาก ๆ เลยนะคะคุณเพื่อน” ขิมพูดไปพร้อมกับท่าทางที่ยังคงอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินจากวิวอยู่ แต่ตอนนี้ขิมได้เริ่มสังเกตภาษากายของวิวก็ได้เห็นชัดว่าวิวนั้นมีอาการเสียทรง เขินอาย หน้าแอบแดงแบบเห็นได้ชัด ขิมเลยเดาว่าตอนนี้วิวน่าจะคิดกับแชมป์แบบผู้ชายคนหนึ่งแล้วล่ะ เพราะทั้งที่ตั้งแต่รู้จักกันมาขิมไม่เคยเห็นวิวมีอาการแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลย
“วิว…ฉันถามแกจริง ๆ นะ แกชอบอีตานั่นใช่มะ” ขิมได้ถามวิวพร้อมกับดูอาการของวิวไปด้วย “มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงล่ะแก…ฉันไม่ได้คิดอะไรถึงขนาดนั้นสักหน่อย” วิวตอบกลับขิมด้วยท่าทางรุกรี้รุกรน ตอนนี้ทั้งสองคนได้เดินมาจนถึงมหาวิทยาลัยแล้ว “ขิม วิว สวัสดี” เสียงจากชายคนหนึ่งที่ทักวิวและขิมจากด้านหลัง
เมื่อวิวและขิมหันไปด้านหลังตามเสียงนั้น “สวัสดีนะเดล” วิวและขิมหันกลับไปทักเดลและทั้งสามคนก็เดินไปยังคณะนิเทศศาสตร์ด้วยกัน “เดล…เราถามหน่อยดิได้ป่ะ” ขิมได้ตั้งคำถามกับเดล “ได้สิ…อยากรู้อะไรก็ถามมาได้เลย” เดลตอบรับขิม “นายรู้อะไรเกี่ยวแชมป์บ้าง” ขิมถามเดล
“ทำไมเธอถึงอยากรู้ล่ะขิม” เดลได้ถามขิมด้วยท่าทีที่ค่อนข้างจะตกใจ “ก็เราเห็นพวกนายนั่งอยู่ด้วยกัน…แถมอีตานั่นก็ยังช่วยนายที่โดนพี่ว้ากแกล้งไว้อีกนี่นะ” ขิมได้บอกเหตุผลที่ตั้งคำถามกับเดล ในใจเดลตอนนี้รู้สึกสงสัยว่าคนที่ไม่ค่อยจะสนใจใครอย่างขิมทำไมถึงได้ถามถึงคนอย่างแชมป์ขึ้นมา “สรุปนายรู้อะไรบ้างเล่ามาดิ๊” ขิมย้ำถามเดลที่กำลังเหม่อเพราะกำลังคิดหาเหตุผลกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เสียงของขิมได้กระตุ้นให้เดลรู้สึกตัว เมื่อเดลรู้สึกตัวเดลจึ่งได้เริ่มเล่า “ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา 4 วัน เรารู้สึกได้นะว่าแชมป์เป็นเพื่อนที่ดีอ่ะ แต่ก็มีบางอย่างที่เราเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน” ขิมจึงได้ถามแทรกเดล “สงสัยเรื่องอะไรเหรอ” เดลได้ทำท่าทางครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “เรารู้สึกเหมือนว่าแชมป์มันมีอะไรในใจสักอย่าง ที่มันไม่คิดจะเล่าให้ใครฟัง แต่เราก็เดาว่าเรื่องมันน่าจะเป็นใหญ่อยู่นะ แต่ถ้ามันเก็บเงียบไว้แบบนี้เราก็ไม่รู้ว่ามันจะทนอยู่กับสิ่ง ๆ นั้นได้ยังไงโดยที่ไม่ระเบิดออกมา”
เมื่อขิมได้ฟังสิ่งที่เดลพูดจบแล้ว ขิมจึงได้หันหน้าไปหาวิวและถามวิวว่า “แล้วเมื่อวานพวกแกสองคนคุยอะไรกัน” เดลจึงถามแทรกขิมขึ้นมาว่า “เกิดอะไรขึ้นระหว่างวิวกับแชมป์เหรอ” ขิมได้หันหน้ากลับมาทางเดลก่อนจะตอบกลับเดล “เมื่อวานเพื่อนเรากับเพื่อนนายได้เปิดปากคุยกันน่ะสิ” วิวจึงพูดแทรกบทสนทนาของขิมและเดลทันที “ไม่มีอะไรหรอกหน่า…เราก็คุยกันเรื่องทั่ว ๆ ไป ไม่ได้คุยอะไรลึกซึ้งกันสักหน่อย”
ขิมที่หันหน้ากลับหามาวิว ก็ได้สังเกตอาการเพื่อนของตัวเอง ก็ได้เห็นว่าวิวนั้นกำลังรุกรี้รุกรนอย่างเห็นได้ชัด “ถ้าแกจะไม่เล่าตอนนี้ก็ได้นะคะคุณเพื่อน…แต่ถ้าแกไม่เล่าฉันจะเค้นจนกว่าแกจะเล่าแน่นอน” ขิมพูดกับวิว “รู้แล้วล่ะหน่า…เอาเป็นว่าถ้าพร้อมแล้วจะเล่าให้ฟังตกลงนะ” วิวตอบกลับขิม และแล้วทั้งสามคนก็เดินมาถึงที่ตึกคณะนิเทศศาสตร์แล้ว
“วิว ขิม สวัสดี” เสียงเรียกทักวิวและขิมจากผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ ณ เบื้องหน้าทั้งสามคน “นี่เธอมายืนรอพวกเราเหรอมิริน” วิวได้เอ่ยถามมิริน “ใช่น่ะสิ” มิรินตอบกลับวิว เดลจึงพูดแทรกขึ้นมา “แชมป์มันอยู่นั่นไง…เดี๋ยวเราไปก่อนนะ” เมื่อเดลพูดจบเดลจึงได้ยกมือขึ้นมาโบยมือลาวิวกับขิม หลังจากที่เดลได้เดินจากไปแล้วมิรินจึงถามวิวและขิม “พวกเธอไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ” ขิมจึงได้ตอบมิริน “อ่อเปล่าหรอก…แค่บังเอิญเจอกันหน้ามหาวิทยาลัยแล้วก็เลยเดินมาด้วยกันเฉย ๆ น่ะ” มิรินจึงได้ชวนวิวและขิมไปห้องเรียน
เดลที่เดินมาจนถึงตัวแชมป์ก็ได้เอ่ยปากถามแชมป์ว่า “มึงมานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียวเนี่ยแชมป์” ในขณะเดียวกันแดนก็เดินมาพอดีแดนจึงได้ถามทั้งสองคนไปว่า “นี่ยังไม่ไปเข้าเรียนกันอีกเหรอ” แดนยืนมองแชมป์ก่อนจะพูดต่อ “มึงเป็นอะไรหรือเปล่าแชมป์” แชมป์นั่งมองหน้าแดนก่อนจะตอบแดนกลับไป “เปล่าอ่ะ…ก็ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่กำลังคิดเรื่องเก่า ๆ นิดหน่อย”
จากนั้นแชมป์จึงได้ลุกขึ้นยืนและก็เดินจากทั้งสองคนไป เดลที่กำลังจะออกเดินตามแชมป์ไปแดนก็ได้พูดกับเดล “พี่ฝากดูไอ้แชมป์มันด้วยนะ” เดลพยักหน้ารับในสิ่งที่แดนพูดก่อนจะวิ่งตามหลังแชมป์มา “เมื่อวานก่อนมึงกับไอ้แดนคุยอะไรกันเหรอ” แชมป์ถามเดลด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “พี่เขาแค่พยายามจะอธิบายเรื่องรับน้องและอยากให้เราเข้าใจพวกเขาน่ะ” เดลตอบคำถามของแชมป์ก่อนที่เดลจะถามกลับไป “เมื่อวานมีอะไรหรือเปล่า…เมื่อกี้ขิมมันเค้นกูใหญ่เลยนะ” แชมป์จึงได้ตอบเดลกลับไป “กูก็แค่พาวิวไปนั่งรถเล่นแค่นั้นแหละ…ไม่ได้มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น” เดลที่ได้ยินแบบนั้นก็แทบจะไม่อยากเชื่อหูของตัวเองเลย “มึงรู้ใช่มั้ยว่ากู ไอ้ธีม ไอ้แดน เป็นเพื่อนกันน่ะ ไอ้แดนคงบอกมึงแล้วใช่ป่ะ” แชมป์ถามเดลด้วยท่าทีที่เรียบเฉย
“อ่า…รู้แล้วพี่แดนบอกมาแล้ว” เดลตอบกลับแชมป์ จากนั้นแชมป์จึงได้พูดต่อ “แล้วมึงรู้เหตุผลที่ไอ้ธีมมันแกล้งกูกับวิวหรือเปล่า” เดลทำท่าทางครุ่นคิดก่อนจะตอบคำถามของแชมป์ “ไม่รู้สิ…พี่แดนเขาก็ไม่ได้เล่าให้ฟังด้วยอ่ะ” แชมป์จึงได้พูดต่อจากเดล “ก็เพราะวิวคือผู้หญิงในสเปคกูไง…ไอ้ธีมมันถึงแกล้งพวกกูสองคน”
เดลทำท่าทีตกใจนิด ๆ ก่อนที่จะถามแชมป์กลับไป “แล้วมีงชอบวิวหรือเปล่า” แชมป์หันมามองหน้าเดลอย่ทงช้า ๆ ก่อนจะตอบเดล “คนมืดมนอย่างกูใครจะมาสนใจ…แต่ถ้าเกิดวันนั้นมันเกิดขึ้นจริง ๆ กูอาจจะกลับมาเป็นคนเดิมที่เคยเป็นได้ก็ได้”
ตอนนี้แชมป์กับเดลได้เดินมาจนถึงห้องเรียนแล้ว แชมป์ที่มองเข้าไปในห้องก็ได้เห็นว่า วิว ขิม มิริน นั่งอยู่ด้วยกัน และแชมป์จึงเดินเลยผ่านตรงที่พวกวิวนั่งอยู่ เพื่อไปนั่งหลังห้องที่เดิมโดยที่มีเดลเดินตามมาด้วย เมื่อทั้งสองคนนั่งลงและวางกระเป๋าเสร็จ อาจารย์วรรณวารีก็ได้เดินเข้ามาในห้องเมื่ออาจารย์วรรณวารีเดินมาถึงโต๊ะที่นั่งของอาจารย์จึงได้ถามทุกคนว่า “เรื่องกิจกรรมรับน้องน่ะ…ทุกคนไม่โดนทำอะไรแปลก ๆ กันใช่ไหมเอ่ย” ทุกคนจึงตอบพร้อมกันว่า “ไม่มีครับ/ค่ะ” อาจารย์วรรณวารีจึงได้พูดต่อ “ไม่มีก็ดีละ…มาเรียนกันต่อเถอะ” เหมือนว่าอาจารย์วรรณวารีนั้นจะได้รับรู้อะไรบางอย่างมาเหมือนกัน อาจารย์วรรณวารีจึงได้ถามทุกคนออกไปแบบนั้น
12:00 น.
“ได้เวลาพักเที่ยงแล้ว” เดลกล่าวพร้อมตบไหล่แชมป์เบา ๆ “มึงจะดีใจอะไรขนาดนั้นวะ” แชมป์ได้ถามเดลก่อนที่จะหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายบ่า “กูว่ามึงก็ตึงเกินไปนะเพื่อน” เดลกล่าวกับแชมป์ และแล้วทั้งสองคนก็ได้ลุกจากโต๊ะเพื่อที่จะเดินไปยังประตูห้อง เมื่อแชมป์เดินมาถึงตรงที่วิวนั่งอยู่ วิวก็ได้ลุกขึ้นยืนและหันมามแงทางแชมป์ “พวกเธอสองคนอ่ะไปกินข้าวด้วยกันมั้ย” วิวได้ออกปากชวนแชมป์กับเดลให้ไปทานข้าวด้วยกัน แชมป์หยุดยืนและมองหน้าวิวก่อนจะตอบวิวว่า “โอเค…ไปก็ไป” วิว ขิม มิริน ทั้งสามคนก็ได้หยิบของและลุกขึ้นและทั้งห้าคนก็เดินออกจากห้องเรียนมาด้วยกัน
ตอนนี้แชมป์กับวิวได้เดินอยู่ข้าง ๆ กัน โดยข้าง ๆ ทั้งสองคนก็มี ขิม เดล มิริน ที่เดินอยู่ข้างหน้า วิวได้ทำท่ากระซิบก่อนจะถามแชมป์ “นายเป็นอะไรหรือเปล่า…ดูนายเหมือนจะไม่โอเคมาตั้งแต่เช้าแล้วนะ” แชมป์ไดหันมามองหน้าวิวอย่างช้า ๆ ด้วยความสงสัยก่อนที่จะถามวิวกลับไป “นี่เธอสังเกตเราด้วยเหรอ” วิวจึงตอบกลับแชมป์ “ก็จังหวะที่เราจะได้มาเดินคุยกันแบบนี้มันมีน้อยนี่นะ”
แชมป์เดินอย่างนิ่งเงียบและไม่ได้ตอบอะไรวิวกลับไป ตอนนี้ทั้งห้าคนก็เดินมาได้เดินมาถึงโรงอาหารแล้ว ธีมที่เห็นพวกแชมป์เดินมาจึงได้หันไปบอกกับหว่าหวาว่า “เดี๋ยวเค้าไปคุยกับไอ้แชมป์มันแปปนะที่รัก” หว่าหวาจังตอบกลับธีม “อื้ม~” ธีมได้ลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วก็เดินมาทางแชมป์และเมื่อธีมเดินมาจนถึงตรงหน้าทั้งห้าคน ตอนนี้ทุกคนหยุดและยืนมองหน้ากัน “ไอแชมป์…กูขอคุยด้วยหน่อยดิ” ธีมพูดขึ้นท่ามกลางความงุนงงของทุกคน “เออ” แชมป์ตอบกลับธีมด้วยท่าทีที่นิ่งเฉย
แชมป์และธีมจึงได้แยกตัวเดินออกมาด้วยกัน และทั้งสองคนก็ได้มาหยุดยืนอยู่ที่ต้นไม้ด้านนอกโรงอาหาร “มึงมีอะไรก็ว่ามาไอ้เพื่อนตัวแสบ” แชมป์เอ่ยถามธีม “มึงมันก็แสบไม่ต่างจากกูมั้ยล่ะ…แต่ที่กูอยากจะพูดน่ะไม่ใช่เรื่องนี้หรอกหน่า” แชมป์ยืนโดยมือข้างหนึ่งยืนท้าวเอวและทำท่าทางว่าสงสัยว่าธีมจะพูดอะไร “ไอ้ต้ารุ่นน้องพวกเราอ่ะมันบอกมาว่าตอนนี้ไอ้เอิร์ธมันพยายามตามหามึงอยู่
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments