Cutscene 3 เปิดใจ
ธีมจึงหันมองซ้ายทีหันมองขวาทีมองหน้าทีหันมองหลังที ธีมหันไปเจอแดนที่นัดทานข้าวด้วยกันกำลังยืนสั่งอาหารอยู่พอดีธีมจึงทำหน้าเหมือนคิดแผนร้ายอะไรสักอย่างได้ “เอางี้…คุณเห็นพี่แดนรุ่นพี่คุณมั้ย” ธีมกล่าวพร้อมหันหน้ามาหาเดล เดลเริ่มทำหน้าเจื่อน ๆ ก่อนจะตอบกลับ “ครับ”
ธีมจึงชี้ไปหาแดนที่กำลังเดินมาทางนี้แล้วบอกกับเดลว่า “งั้นคุณรีบวิ่งไปยืนตรงหน้าพี่แดนรุ่นพี่ของคุณนะ และไปสารภาพรักกับพี่แดนของคุณนะ เอาแบบว่าเอาให้ดัง ๆ ลั่น ๆ โรงอาหารแห่งนี้ไปเลย อ่อ…ผมขอสักสามครั้งนะ คงไม่ยากเกินไปใช่ป่ะ” เดลตอบรับคำขอของธีม “ครับ” จากนั้นเดลจึงรีบไปหาแดน
ตอนนี้เดลกับแดนได้ยืนประจัญหน้ากันแล้ว เดลมีอาการหอบเล็กน้อยส่วนแดนก็ทำหน้าฉงนสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น “พี่แดนครับ…ผมรักพี่ผมชอบพี่เรามาเป็นแฟนกันนะครับ” เดลตะโกนสารภาพรักแดนตามคำสั่งของธีมครั้งที่หนึ่ง แดนจึงทำท่าทางอึ้งและยืนนิ่งมองหน้าเดล “พี่แดนครับ…ผมรักพี่ผมชอบพี่เรามาเป็นแฟนกันนะครับ”
เดลตะโกนสารภาพรักแดนตามคำสั่งของธีมครั้งที่สอง แดนจึงรีบเรียกสติตัวเองกลับมาพร้อมกับตะโกนถามเดลกลับว่า “เฮ้ย…นี่มันอะไรกันครับน้อง” เดลจึงทำท่ากระซิบอยู่ตรงหน้าแดนพร้อมกับบอกแดนไปว่า “พี่ธีมสั่งมาครับ…ผมขอโทษด้วยนะครับพี่” แดนได้หันไปมองทางที่ธีมนั่งอยู่ ในขณะที่ธีมก็นั่งหัวเราะอย่างสนุกชอบใจอยู่
ส่วนแชมป์ที่มองดูเพื่อนตัวเองกำลังแกล้งคนอื่นอยู่ก็ได้แต่ยืนส่ายหน้า “พี่แดนครับ…ผมรักพี่ผมชอบพี่เรามาเป็นแฟนกันนะครับ” เดลตะโกนสารภาพรักแดนตามคำสั่งของธีมครั้งที่สาม แดนจึงรีบตะโกนใส่หน้าเดลว่า “ไปวิ่งรอบโรงอาหารเทียบรุ่นนี่คือคำสั่ง” แชมป์ที่ยืนมองอยู่ไกล ๆ ก็บ่นออกมาเบา ๆ กับตัวเองว่า “เป็นอย่างที่คิดไว้เป๊ะ”
แชมป์จึงได้เดินเข้าไปหาธีมในขณะเดียวกันแดนก็อยู่ตรงหน้าแล้วแดนก็ได้ถามธีมออกไปว่า “ไอ้ธีมนี่มึงเล่นบ้าอะไรของมึงวะ” ธีมก็จึงตอบกลับไปพร้อมกับหัวเราะไปด้วย “กูแค่ล้อเล่นขำ ๆ เองหน่า…มึงก็ทำเป็นจริงจังไปได้” เสียงที่สามก็ได้ดังขึ้นข้างหลังแดน “แต่กูไม่ตลกว่ะ…ไอ้เด็กนั่นมันจริงจังกับกิจกรรมของพวกมึงมากแล้วมึงเล่นบ้าอะไรของมึงไอ้ธีม” ใช่…เสียงนั้นคือเสียงของแชมป์ที่ยืนอยู่ข้างหลังแดน
พี่หว่าหวาจึงพูดแทรกขึ้นมา “นี่น้องแชมป์ที่เป็นประเด็นเมื่อวานนี้นี่…แล้วนี่คุณมาขึ้นมึงขึ้นกูกับรุ่นพี่คุณคิดว่าพวกเราเป็นเพื่อนเล่นคุณเหรอคะ” แดนวางข้าวลงบนโต๊ะและหันมาหาแชมป์พร้อมกับพูดกับแชมป์ว่า “ไอ้แชมป์มึงเอาสมุดเซ็นชื่อของไอ้เด็กนั่นกลับไปแล้วก็ไปสั่งให้มันหยุดวิ่งด้วยกูฝากด้วย”
แดนพูดพร้อมกับหยิบสมุดเซ็นชื่อของเดลมาให้แชมป์ แชมป์รับสมุดเซ็นชื่อมาจากมือแดน “ไอ้ธีม…แล้วเจอกันนะ” แชมป์ได้พูดกับธีมก่อนที่จะเดินจากไป แชมป์เดินมาจนถึงเดล “เฮ้ย…เดลหยุดวิ่งได้แล้ว” เดลเดินเข้ามาแชมป์พร้อมกับถามแชมป์ว่า “ได้ลายเซ็นมามั้ย” แชมป์ตอบเดลกลับไป “นี่ไม่ตายห่าก็ถือว่าบุญแล้วยังจะหวังลายเซ็นง้อย ๆ นั่นอีกเหรอ” เดลรับสมุดเซ็นชื่อกลับมาด้วยความผิดหวัง แชมป์ยกมือขึ้นจับไหล่เดลพร้อมพูดกับเดล “เดี๋ยวจัดการให้”
16.00 น.
“ได้เวลาเลิกเรียนแล้วสวรรค์ชัด ๆ” เดลหันมาพูดกับแชมป์ “เหอะ ๆ นรกน่ะสิไม่ว่า!!!” ท่าทางของแชมป์ตอนนี้คือเหมือนคนที่เบื่อโลกสุด ๆ “เออว่ะ…จริงด้วย ต่อไปก็ชุมนุมเชียร์นี่หว่า” เดลบ่นกับตัวเอง แชมป์ค่อย ๆ ลุกและเดินเพื่อออกจากห้องอย่างช้า ๆ ในจังหวะเดียวกันกับที่วิวก็กำลังจะลุกขึ้นเดินเหมือนกัน ทั้งสองได้ยืนสบตากันด้วยท่าทีที่เหมือนมีบางอย่างที่อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่สุดท้ายแชมป์ก็เดินเลยผ่านไป
วิวได้แต่ทำท่าทางฉงนสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ “อีตานั่นเขาเป็นคนยังไงกันแน่นะ…ฉันเดาทุกเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย” วิวได้พูดกับขิมที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “ฉันว่าแกไม่ต้องพยายามเดาอะไรทั้งนั้นแหล่ะ…แกรอดูผลพวงที่จะตามมาจากเมื่อตอนเที่ยงดีกว่า”
จริง ๆ แล้วเหตุการณ์เมื่อตอนเที่ยงก็อยู่ในสายตาของวิวกับขิมเหมือนกัน และแล้วทุกคนก็ได้มารวมตัวที่เดิมที่เข้าชุมนุมเชียร์ แดนที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว “ปี 1 ทุกคนจัดแถว” แดนตะโกนสั่งปี 1 เมื่อทุกคนจัดแถวเสร็จแล้วแดนจึงถามต่อไปว่า “พวกคุณเลิกเรียนกันสี่โมงไม่ใช่เหรอครับ…แล้วเดินจากตึกเรียนมายังสแตนนี้ที่อยู่ตรงหน้าตึกเรียนพวกคุณใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเลยเหรอ”
หว่าหวาที่ยืนอยู่ข้างหลังแดนได้พูดออกมา “เนื่องจากเมื่อตอนเที่ยงวันนี้มีเพื่อนของพวกคุณปีนเกลียวรุ่นพี่…ถ้ารู้ตัวก็ยืนอยู่ต่อไปซะทุกคนนั่ง” เดลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ได้กดแชมป์ให้นั่งลงก่อนที่เดลจะยังคงยืนอยู่ต่อไป ใช่แล้วเดลต้องการจะรับผิดแทนแชมป์ที่แชมป์ช่วยเดลไว้จากเมื่อตอนเที่ยง
หว่าหวาจึงพูดออกมา “นี่คิดจะรับผิดแทนเพื่อนเหรอคะ…งั้นคุณก็ไปลุกนั่งเทียบเท่ารุ่นที่ด้านข้างของสแตนเลยค่ะ ไป๊~” หว่าหวาได้มองหน้าแชมป์เหมือนกับว่าโกรธแชมป์มาแต่ชาติปางก่อน จากนั้นแดนก็ได้อธิบายถึงกิจกรรมต่อไปของพิธีกรรมรับน้องของคณะนิเทศศาสตร์แห่งนี้ เมื่อแดนอธิบายทุกอย่างจบจึงสั่งบูมและเลิกกิจกรรม แดนได้เดินมาหาเดลที่นั่งพักเหนื่อยอยู่ที่ข้างสแตน “กลับบ้านด้วยกันมั้ย…อยากจะคุยอะไรด้วยหน่อยน่ะ” ส่วนแชมป์ก็ยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ ก่อนที่จะเดินจากไป
แดนได้ชวนเดลไปหาข้าวทานที่ร้านข้าง ๆ มหาวิทยาลัย แดนได้เล่าหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวกับแชมป์ให้เดลฟังพร้อมกับทานข้าวกันไปด้วย แต่แดนไม่บอกเดลเกี่ยวกับเรื่องนิทาน แต่ในความเป็นจริงแล้วแดนแอบติดต่อหานิทานตลอด เพราะนิทานรู้ว่าแดนคือคนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด ที่นิทานจะคอยอัพเดตเรื่องราวของน้องชายของตัวเองได้
ส่วนตัวแชมป์รู้ไหมว่าแดนแอบติดต่อกับนิทานอยู่ตลอด จริง ๆ แล้วแชมป์ก็รู้ แต่ด้วยความที่เคารพพี่สาวของตัวเองก็เลยไม่อยากจะพูดอะไรมากมายให้นิทานน้อยใจ เพราะสำหรับแชมป์แล้วนิทานคือคนที่แชมป์แคร์ความรู้สึกเอามาก ๆ
21.27 น.
“บี๊บ ๆ ๆ ~”
เสียงข้อความจากโทรศัพท์ของแชมป์ได้ดังขึ้น และเมื่อแชมป์เปิดโทรศัพท์ดูก็เห็นผู้ส่งคือนิทาน
นิทาน : ว่าไง…เจ้าน้องชายตัวแสบ เป็นไงสบายดีมั้ย
แชมป์ : ก็เรื่อย ๆ นะเจ้…แต่ตอนนี้เป็นช่วงรับน้อง ไอสองตัวนั้นเลยแกล้งผมซะสนุกเลย
นิทาน : แกเองก็แกล้งสองคนไว้ไม่น้อย…ถือซะว่าเวรกรรมตามทันแล้วกันนะ
แชมป์ : ช่างเหอะ…ว่าแต่เจ้กับพี่ดาวอ่ะจะหวานไปมั้ย รูปคู่มีไม่ได้ขาดเลย
นิทาน : แน่นอนสิ!!! ก็แฟนฉันน่ารักนี่นะ
แชมป์ : ผมว่าผมน่าจะเจอคนในโชคชะตาเหมือนเจ้ละ…เพียงแต่!!!
นิทาน : แต่อะไรของแก
แชมป์ : เปล่าหรอกเจ้…ก็แค่สังหรณ์ใจนิด ๆ ว่ามันจะต้องมีเรื่องปวดหัวอีกแล้ว
นิทาน : อย่าไปคิดเยอะ!!! สมองระดับแกคงรับมือได้อยู่ละ
แชมป์ : ก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นนะ
นิทาน : งั้นแยกย้ายนะ…มีอะไรก็ทักมาได้ตลอด
แชมป์ : โอเค…ตามนั้นเลยเจ้
หลาย ๆ ครั้งที่ลางสังหรณ์ของแชมป์นั้นมันทำงานดีอย่างไม่น่าเชื่อจนบางทีแชมป์ก็รู้สึกเบื่อ ๆ ตัวเองอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่านิทานจะไม่ได้อยู่กรุงเทพฯแล้ว แต่นิทานก็ยังให้พี่อาทิตย์และสองเพื่อนซี้นั้นดูแลอยู่ เพราะงั้นจะบอกว่าถึงแม้ว่าตัวจะไม่อยู่แต่ก็ยังติดตามอยู่
Days 3
เป็นอีกหนึ่งเช้าที่เหมือนจะดูเรียบง่ายและสงบสุขทุก ๆ คนก็เตรียมตัวเพื่อไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อไปเรียนกันตามปกติ แชมป์เองก็กำลังเตรียมตัวจะไปเรียนเหมือนกัน แต่เมื่อแชมป์มาถึงมหาวิทยาลัยและกำลังเดินไปยังห้องเรียนก็ได้มีใครคนหนึ่งยืนรออยู่ที่หน้าห้องเรียน คน ๆ ก็คือธีมพี่เฮดว้ากปี 2 และเพื่อนของแชมป์นั่นเอง
เมื่อแชมป์เดินมาจนถึงตัวธีม “ไอ้โซ่ที่ล็อครถมอเตอร์ไซค์ของกูอยู่อ่ะฝีมือมึงใช่ป่ะ” ธีมเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นราวกับเป็นฆาตกรโรคจิตในละคร แชมป์ได้หยุดยืนอยู่ตรงหน้าธีมพร้อมกับพูดว่า “แล้วมึงคิดว่าไงล่ะพี่ธีมพี่เฮดว้ากปี 2”
ธีมได้แต่พยายามกดอารมณ์ของตัวเองที่ก็อยากจะไม่โกรธแต่ก็โกรธ “แล้วมึงจะไปไขกุญแจปลดไอโซ่นั่นได้รึยัง” ธีมถามแชมป์พร้อมพลานกัดฟันไปด้วย “ไว้กูรู้สึกว่ามันสาสมกับสิ่งมึงทำไว้เมื่อวานเมื่อไรเดี๋ยวกูค่อยเลิกแล้วกัน…ได้ข่าวว่าเมื่อวันก่อนที่มึงมีประเด็นกับกูเลยถูกคุมความประพฤตินี่ใช่มะ งั้นช่วยทำตัวสงบ ๆ หน่อยนะแล้วกูอาจจะใจดีไปปลดไอโซ่นั่นออกจากรถมึงให้ก็ได้”
เมื่อแชมป์พูดจบแชมป์ก็เดินเข้าห้องโดยไม่สนใจธีมและทิ้งให้ธีมยืนโกรธอยู่ตรงนั้น ใช่แล้วแชมป์แกล้งธีมด้วยการเอาโซ่ที่ล็อครถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองไปล็อครถมอเตอร์ไซค์ของธีมและแชมป์ก็เอารถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองไปจอดไว้ที่หอของเดลเพื่อไม่ให้ธีมมาตลบหลังเอาคืนได้ แชมป์เดินมานั่งลงข้าง ๆ เดล “สรุปเมื่อวานนายทำอะไรไปกันแน่”
เดลเอ่ยถามแชมป์ด้วยความสงสัย แชมป์นั่งเอามือท้าวค้างพร้อมกับตอบเดลไปว่า “อย่าได้ไปสนใจเลยหน่า…” แชมป์กำลังนั่งแอบมองไปที่วิวด้วยท่าทางที่เหมือนจะเบื่อหน่ายแต่ก็เหมือนจะมีอะไรในใจสักอย่าง แต่ในวันนี้วิวไม่ได้นั่งเรียนกับขิมแค่สองคนอีกแล้วแชมป์เลยเอ่ยถามเดลไปว่า “เดล…นายรู้จักผู้หญิงคนนั้นที่นั่งข้าง ๆ ยัยนั่นป่ะ”
เดลถามแชมป์กลับไปว่า “ข้าง ๆ วิวอ่ะเหรอ” แชมป์หันหน้าไปหาเดลเล็กน้อยพร้อมกับยักคิ้วเหมือนกับจะบอกเดลว่าตามนั้นแหล่ะ “คนที่นั่งข้าง ๆ วิวชื่อมิรินน่ะ…เห็นว่าเหมือนเมื่อวานทั้งสามจะนั่งอยู่ด้วยกันตอนชุมนุมเชียร์นะนายไม่ได้สังเกตุเหรอ” แชมป์นั่งมองไปทางวิวพร้อมกับพูดว่า “เอาจริง ๆ นะไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย…เพิ่งจะรู้สึกสนใจก็เมื่อกี้นี่แหล่ะ”
เดลก็ตอบกลับแชมป์ “ว่าก็ว่านะ…เราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ต้องพูดสุภาพก็ได้มั้งพูดแบบปกติเหอะ” แชมป์ตอบกลับเดล “เออ” เดลก็ได้ตอบกลับแชมป์ “แหม๊…ทันทีเลยนะ แต่เอาเถอะยังไงเราก็เพื่อนกันแล้วนี่เน้อ” แชมป์ก็ได้ถามเดลต่อไปว่า “ถามไรหน่อยดิเดล…มึงพอจะรู้อะไรเกี่ยวกับยัยมิรินนั่นบ้างป่ะในฐานะที่มึงรู้จักคนในคณะไปทั่วเนี่ย” เดลตอบกลับแชมป์ “ฟังแล้วดูไม่เหมือนคำชมเลยนะมึง จริง ๆ ก็พอจะรู้ ๆ อยู่บ้างนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เยอะหรอก แล้วนึกไงหว่าถึงได้ถามถึงยัยมิรินน่ะ?”
แชมป์ก็ได้ตอบกลับเดล “ไม่อะไรหรอกก็แค่อยากรู้เฉย ๆ อ่ะ…ถ้ารู้อะไรเกี่ยวกับยัยนั่นบ้างไหนเล่ามาดิ๊” เดลก็ก้มหน้าก้มตาพิมพ์อะไรสักอย่างบนหน้าจอโทรศัพท์อยู่ครู่นึงก่อนที่เสียงแจ้งเตือนไลน์เครื่องของแชมป์จะดังขึ้น เมื่อแชมป์เปิดดูไลน์นั่นคือข้อความจากเดลที่เล่าเรื่องที่พอจะรู้ให้แชมป์ฟัง แชมป์ได้นั่งอ่านข้อความพร้อมทำท่าทางครุนคิดไปด้วย เหมือนว่าข้อความเดลส่งให้นั้นน่าจะมีความสำต่อคำถามในใจของแชมป์อยู่ไม่น้อย
16:00 น.
“ในที่สุดก็เลิกเรียนสักที…วันนี้ไม่มีชุมนุมเชียร์สินะ” เดลพูดกับแชมป์ด้วยท่าทางดูดีใจเอามาก ๆ แชมป์ก็บอกกับเดล “วันนี้แยกย้ายนะ” แชมป์ลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องเหมือนกับจะรีบไหนสักที่ ตอนนี้แชมป์เดินมายังที่จอดรถมอเตอร์ไซค์แชมป์ได้มาหยุดอยู่ที่รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง รถมอเตอร์ไซค์คันนี้มีโซ่ล็อคไว้อยู่แชมป์ก็พลิกเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบบางอย่าง ของสิ่งนั้นคือกุญแจและใช่แล้วนี่คือรถมอเตอร์ไซค์ของธีมที่แชมป์มาล่ามโซ่ล็อคไว้นั่นเอง
แชมป์ได้ไขกุญแจและเก็บโซ่ใส่กระเป๋าจากนั้นแชมป์ก็เดินจากไปจากรถมอเตอร์ไซค์ของธีม ตอนนี้แชมป์เดินกลับมาจนถึงหอพักแล้วและก็ยังคงเดินต่อไปเพื่อให้ถึงห้อง เมื่อแชมป์เดินขึ้นบันไดก้าวสุดท้ายและหันหน้าไปทางห้องก็เห็นว่าวิวกำลังจะไขล็อคประตูเข้าห้อง แชมป์เดินมาจนถึงวิวที่ยืนอยู่หน้าห้อง “แชมป์…ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย” วิวเอ่ยถามโดยที่ไม่ได้หันหน้าไปทางแชมป์
และแชมป์ก็ได้ตอบกลับวิว “ขอเข้าห้องเก็บของแปปนึงนะ…เอางี้งั้นอีก 10 นาที ลงไปเจอที่นั่งหน้าหอก็ได้” วิวตอบกลับแชมป์ “เอาแบบนั้นก็ได้” และแล้วทั้งสองคนก็ต่างแยกย้ายกันเข้าห้องของตัวเอง ตอนนี้ก็ถึงเวลา 10 นาที ที่ทั้งสองได้นัดกันไว้แล้ววิวเปิดประตูห้องและล็อคห้องและวิวก็เดินลงจากบันไดเพื่อไปยังที่นั่งเล่นหน้าหอพักตามที่ได้นัดกับแชมป์ไว้เมื่อลงมาถึงยังที่นั่งหน้าหอวิวได้บ่นกับตังเองเบา ๆ “นี่อีตานั่นยังไม่ลงมาอีกเหรอเนี้ย”
วิวจึงได้นั่งรอแชมป์อยู่ที่ ๆ นั่งเล่นหน้าหอพัก เมื่อวิวนั่งไปได้ไม่นานสายตาวิวก็เปิดกว้างขึ้นจากเดิมนิดหน่อย “โทษทีนะที่มาช้าอ่ะ…งั้นเลี้ยงนี่เป็นการไถ่โทษแล้วกัน” แชมป์พูดพร้อมกับยื่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้วิว “ขอบใจนะ” วิวพูดพร้อมกับยื่นมือออกไปรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่แชมป์ยื่นให้ “เราไม่รู้หรอกนะว่าเธอจะคุยอะไรกับเราอ่ะ…แต่เรื่องป้ายชื่ออ่ะเราขอโทษนะ แล้วถ้ามีอะไรที่เราเกิดทำให้เธอไม่พอใจอีกเราก็ขอโทษอีกทีนะ”
แชมป์กล่าวพร้อมกับนั่งลงยังที่นั่ง “เราไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจอะไรเธอหรอก…เราแค่อยากรู้จักเธอเพิ่มอีกนิดหน่อยน่ะ” วิวกล่าวด้วยท่าทีเป็นมิตร แชมป์มองหน้าวิวอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยถามวิว “แล้วทำไมเธอถึงอยากจะรู้จักเราล่ะ” วิวก็ทำท่าทางครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับแชมป์ “ก็ตั้งแต่เราเจอกับเธอมาเนี่ย เราก็เดาการกระทำของเธอไม่ออกสักอย่าง คงเพราะแบบนั้นแหละมั้ง ถึงทำให้เราอยากรู้จักเธอมากขึ้นน่ะ”
แชมป์ตอบกลับวิว “เธออยากรู้อะไรเธอถามเลยนะ ถ้าเรื่องไหนตอบได้เราจะตอบ…เราเองก็อยากรู้จักเธออยู่เหมือนกัน” ดวงตาของวิวเปิดกว้างด้วยท่าทีที่ตกใจนิดหน่อย “บางทีอ่ะว่านายจะตรงก็ตรงจนเราตกใจเลยนะ…อ่ะบางทีนายจะมีเงื่อนงำเราก็เดาใจนายไม่ออกเลยนะ” วิวกล่าวพร้อมกับมองหน้าแชมป์ในขณะที่แชมป์ก็นั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่อไป
“เราแอบเห็นนะ…เธอกับพี่เฮดว้าก่นะ” วิวพูดมาลอย ๆแชมป์ได้หยุดกิจกรรมจากถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแล้วจึงถามวิวกลับไป “เห็นที่ว่านี่เห็นอะไรแบบไหนยังไงเหรอ” วิวทำท่าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับ “ก็เหมือนว่านายกับพี่เฮดว้ากจะรู้จักกันอยู่ก่อนแล้วน่ะสิ”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments