Episode 5 : เป็นยังไงบ้าง

 

 

 

 

ความแค้นคือความเศร้าที่ตกตะกอน

ภาพยนตร์เรื่อง Interpreter

 

 

-----------------------

 

 

เวลาสองนาฬิกา

 

 

"เป็นยังไงบ้างการแก้แค้นของนาย? "

 

 

ไอยรัณมองเห็นแสงไฟจากโทรศัพท์ เขาเอื้อมมือไปหยิบมันจากโต๊ะข้างเตียงนอน แล้วส่งข้อความกลับไป

 

 

"เป็นไปตามแผน"

 

 

หนึ่งปีมานี้ที่เขาพยายามปกปิดตัวตน เลิกพูดคุยต่อหน้ากับเพื่อนๆ แล้วเปลี่ยนมาคุยกันในแอปส่งข้อความแทน เขาหางานพิเศษทุกอย่างทำควบคู่กับการเรียนเพื่อหาเงินมาเป็นรายได้เลี้ยงตัวเอง

 

 

ทุกอย่างเป็นแค่ฉากหน้า

 

 

หากลองคิดทบทวนให้ดี การที่ใครซักคนจะมีเพื่อนทั้งชีวิตแค่คนเดียว และยังเป็นเอเย่นส่งเด็กไปนั่งกินข้าวอีก โอกาสมีมากขนาดไหน

 

 

<1%?

 

 

น่าแปลกที่ผู้ชายคนนั้นไม่เอะใจซักนิด

 

 

ไอยรัณเคยไปงานสังคมหนึ่งกับคุณพ่อของเขา เขาเห็นผู้ชายคนนั้นอยู่ไกลๆ คุณพ่อบอกเขาว่าผู้ชายคนนี้เพิ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเรา คุณพ่อขายหุ้นให้เขาเกินกว่า 51% ที่เราถือครองอยู่ เพื่อนำเงินทุนมาใช้หมุนเวียนในบริษัท

ผู้ชายคนนี้ทำหน้าที่ของตนเองได้ดีจนเขาประหลาดใจ เขาเดินไปโต๊ะนั้นโต๊ะนี้ คุยกับเพื่อนนักธุรกิจอย่างคล่องแคล่ว คุณพ่อบอกให้ผมดูผู้ชายคนนี้ไว้เป็น'ตัวอย่างที่ดี'

'ตัวอย่างที่ดี' ยังคงจิบไวน์เจรจาธุรกิจไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงละสายตาจากผู้ชายคนนี้ไม่ได้หน้าตาที่มีเสน่ห์ชวนมองหรือแววตาที่ดูน่าค้นหา เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

ไอย์ยืนมองผู้ชายคนนั้นจนกระทั่งเขาเดินจูงมือชายอีกคนหนึ่งที่ให้ความรู้สึกเหมือนกระต่ายขาวตัวเล็กๆ น่ารักออกไปจากงาน คุณกระต่ายขาวคล้องคอผู้ชายคนนั้นเข้ามาจูบเบาๆ

[คุณตัวอย่างที่ดีครับ ตรงนั้นหน้าประตูงานเลี้ยง] ไอย์บอกผู้ชายคนนั้นในใจ

คุณพ่อของไอยรัณเรียกเขาไปแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนนักธุรกิจอีกคนหนึ่ง พอหันไปอีกที คนทั้งคู่นั้นไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว

คุณพ่อบอกเขาทีหลังว่าผู้ชายคนนั้นชื่อ 'ดรัณ' เขาเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

-----------------------

 

 

วันนั้นหลังจากที่ผมกลับมาที่บ้าน เมธเป็นคนขับรถมาส่งผม ผมชวนเขาเข้ามากินมื้อเย็นในบ้านด้วย

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งตั้งแต่เปิดประตูเข้าไป น้องสาวผมนอนจมกองเลือดอยู่ที่หน้าประตู พี่ชายถูกยิงในห้องหนังสือ คุณแม่ถูกยิงขณะทำครัว และคุณพ่ออยู่ในสภาพนั่งยิงตัวตายอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ทุกคนตายหมดแล้ว ไม่เหลือสักคน

ผมยืนตะลึงค้างอยู่อย่างนั้น เมธกอดผมไว้ เขาจัดการโทรเรียกรถพยาบาล แจ้งตำรวจ บอกที่บ้านเขา ช่วยผมทำทุกอย่างที่จะทำได้

ตำรวจสรุปง่ายๆ ว่าคุณพ่อฆาตกรรมคนในบ้านแล้วฆ่าตัวตายตาม แต่ผมไม่เชื่อ ไม่มีซักวินาทีที่ผมเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง คุณพ่อของผมมีปืน แต่มันอยู่ในลิ้นชัก ลูกกระสุนอยู่ครบ

งานศพถูกจัดขึ้นในวัดแห่งหนึ่งกลางเมือง คุณพ่อของเมธเป็นคนจัดการให้ทุกอย่าง ครอบครัวของเราสนิทกัน คุณพ่อของผมและคุณพ่อของเมธเป็นเพื่อนรักกัน มีแขกมาร่วมพิธีศพจำนวนหนึ่ง กับเพื่อนๆ ของผม ในพิธีสวดวันสุดท้ายมีชายคนหนึ่ง นั่งมองรูปคุณพ่อและครอบครัวของผมอยู่นาน เขาหันมาถามผมที่กำลังจุดธูปให้แขกที่มาร่วมงานว่าไปอยู่กับเขาไหม ผมไม่รู้ว่าเขาคือใคร ผมขอบคุณในความปรารถนาดีของเขาและปฎิเสธไป

หลังจากจบพิธีศพ คุณพ่อของเมธเป็นธุระในการขายบริษัทและทรัพย์สินอื่น สามารถชำระหนี้ในระบบกับธนาคารได้หมด เหลือเพียงหนี้นอกระบบอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหนี้มี2คน คนหนึ่งคือคุณพ่อของเมธ

คุณพ่อของเมธ หรือ คุณเมธานันท์ หรือลุงนันท์เป็นนักธุรกิจฐานะเหลือกินเหลือใช้ บอกว่าเขายกหนี้ให้ผม เขาไม่คิดจะได้เงินจำนวนนี้คืนอยู่แล้ว แต่ผมยืนยันจะหามาคืนให้ ลุงนันท์บอกว่าถ้ามีเมื่อไหร่ค่อยเอามาคืน

เจ้าหนี้อีกคนคือคุณดรัณที่คุณพ่อเคยบอกผมว่าเขาเป็นตัวอย่างที่ดีในงานเลี้ยง เขาถือหุ้นใหญ่และยังเป็นเจ้าหนี้ของบริษัท แต่ไม่ได้ใส่ชื่อดรัณลงไป เขาไม่เคยทวงเงินผม ผมไม่รู้เรื่องก็ไม่แปลกใช่ไหม

เจ้าหนี้ที่ไม่เคยทวงเงินเลย ผมควรสงสัยเขาไหม?

 

 

.

ต่อมาผมจึงรู้ว่าบริษัทที่มาซื้อกิจการของทางบ้านผมเป็นบริษัทของดรัณ ทำไมถือหุ้นใหญ่ มีอำนาจในการบริหารแล้วยังไม่พอใจอีก

 

 

เขาฆ่าทุกคนในบ้านผมเพื่อบริษัทนี้เหรอ?

 

 

ผมอดคิดไม่ได้ว่าบริษัทหนึ่งจะมีค่ามากกว่าชีวิตคนได้ยังไง หัวใจของเขาทำด้วยอะไร ยังมีความเป็นคนเหลืออยู่บ้างรึเปล่า

อีกเรื่องคือผมเพิ่งเห็นว่าคุณพ่อส่งอีเมลให้ผมก่อนเสียชีวิต ในนั้นบอกจากวิธีและรายละเอียดเพื่อเข้าไปทำธุรกรรมทางการเงิน เป็นบัญชีลับของครอบครัว ผมรู้ว่าบ้านเรามีบัญชีนี้ แต่ไม่เคยคิดว่าผมต้องใช้มัน เงินจำนวนนี้เพียงพอให้ผมใช้ชีวิตที่ต่างประเทศได้อย่างสบายทั้งชีวิต

นั่นแปลว่าคุณพ่อรู้ก่อนแล้วใช่มั้ยว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น? ผมคิดทบทวนเรื่องนี้เป็นพันครั้ง ยังไม่ได้คำตอบ

ในที่สุดผมจึงตัดสินใจมาหาคำตอบให้ตัวเอง

หลังจากหาข้อมูลสักพักผมถึงได้รู้ว่าดรัณเป็นคนเจ้าชู้ ผมน่าจะคิดได้ตั้งแต่วันนั้นที่เขาจูบกับคุณกระต่ายขาว ผมรบกวนให้โอ เพื่อนสนิทของผมตั้งแต่สมัยประถมเป็นธุระจัดการให้ เขาช่วยส่งผมไปที่โรงแรมนั่น ไม่ยากสำหรับโอ บ้านเขาเป็นผู้มีอิทธิพล ข้อดีของการศึกษาคือมีคนชอบพูดกันว่าเลือกโรงเรียนดีๆ ก็เหมือนซื้อสังคม ซื้อเพื่อนให้ลูก ผมเพิ่งเข้าใจคุณพ่อที่ส่งเราเข้าโรงเรียนดีๆ ก็วันนี้เอง

 

 

ไม่เคยมีเรื่องบังเอิญ

 

 

เจ้าหนี้ที่ทวงเงินผมคือเมธคอยจัดฉากให้ กระดาษใบนั้นผมเขียนชื่อคุณพ่อ และลุงนันท์ไปในฐานะเจ้าหนี้ ผมไม่ได้โกหก ลุงนันท์เป็นเจ้าหนี้ผมจริงๆ เมธบอกว่ามีคนติดต่อไปและโอนเงินใช้หนี้ให้ผมแล้วจริงๆ

ผมรู้ว่าการที่ผมเข้ามาหาดรัณผมจะต้องแลกกับอะไร ถ้าเขาชอบคนแบบคุณกระต่ายขาว ผมจะเป็นให้เขา ไม่ยากก็แค่เป็นผมคนเก่าที่ไม่ประสีประสาก็เท่านั้นเอง

ผมคิดได้แล้ว

 

 

พรุ่งนี้ผมควรบอก'พี่ดรัณที่รักของผม'ว่าจะไปที่ไหน

 

 

อยากรู้ว่าเขาจะทำหน้ายังไงจริงๆ

 

 

-----------------------

 

 

ดรัณมาหาไอย์ในช่วงสาย เขาใส่เสื้อคอกลมสีขาวกับโลโก้บนเสื้อที่บ่งบอกว่าเสื้อมีราคา กางเกงยีนส์ขายาว ดูสบายๆ วันนี้ดรัณเป็นคนขับรถเอง

"ไปเดทกันที่ไหนดีน้องไอย์" ดรัณถามคนนั่งข้างคนขับ

ไอย์ถามกลับไปด้วยแววตาใสซื่อ "ที่ไหนก็ได้เหรอครับ? "

"วันนี้พี่ตามใจน้องไอย์ครับ"

ดรัณเขาตั้งใจตามใจไอย์จริงๆ เห็นแก่ที่เป็นเด็กดีมาหลายวัน เห็นอยู่แต่ในห้องแล้วรู้สึกสงสารนิดหน่อย เขาเองก็ไม่ค่อยมีเวลา

"ไปวัดนี้ได้มั้ยครับ" ไอย์ยื่นโทรศัพท์ที่เปิด google map เพื่อนำทางไปวัด ดรัณรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่อยู่ดีๆ น้องอยากไปทำบุญ แต่เขาก็ขับไปโดยไม่ว่าอะไร

เป็นวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ค่อนข้างร่มรื่นเย็นสบาย ก่อนมาถึงวัด พวกเขาแวะซื้อของเพื่อทำบุญถวายสังฆทาน ไอย์รู้สึกแปลกใจที่ดรัณเลือกของได้อย่างคล่องแคล่ว อย่างแปรงสีฟัน มีดโกน สบู่ แต่ของบางอย่างไม่น่าซื้อก็หยิบมา เช่นแชมพู พระไม่มีผมจะซื้อแชมพูไปทำไมกัน?

"พี่ดรัณ ผมว่าแชมพูนี่ไม่น่าซื้อมาเลย"

"ทำไมล่ะ"

"ก็พระไม่มีผม"

"ไม่มีผมเลยไม่ต้องสระ? "

"ใช่มั้ยล่ะครับ? "

"เพื่อนพี่เคยบวช หลังจากสึกแล้วบ่นว่า ถึงไม่มีผมแต่ก็ยังมีหัว ยังไงก็ต้องใช้ ไม่อย่างนั้นหัวจะมันมากเลย 555"

"อ๋อ เข้าใจแล้วครับ"

[ไว้พี่ดรัณบวชไม่สึกให้ครอบครัวผมเมื่อไหร่ผมจะซื้อไปฝากละกัน!]

 

 

ดรัณจับมือไอย์ที่พาเขาเดินมาที่กำแพงวัด ตรงนั้นเป็นที่บรรจุอัฐิของครอบครัว ทั้งคู่ยืนมองคนในรูปบนกำแพง

คนข้างๆ บีบมือไอยรัณแน่นขึ้น

กลัวใช่มั้ยล่ะ

ฆาตกร!!!

 

 

[คุณพ่อ คุณแม่ พี่เอก น้องเนย

ผมพาฆาตกรมาขอโทษพวกเราแล้ว

ไปสู่สุคตินะครับ

เรื่องทางนี้ผมจะจัดการต่อเอง

แล้วผมจะตามไป]

 

 

ไอย์หันไปมองฆาตกรคนข้างๆ ว่าเป็นยังไงบ้าง

ดรัณร้องไห้?

สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปแล้วใช่มั้ย?

ดรัณดึงไอย์เข้าไปกอดลูบหลังเบาๆ "ถ้าเก็บไว้ไม่ไหวก็ร้องไห้ออกมา" เขาบอกกับคนในอ้อมแขนแบบนั้น เสียงร้องไห้ของไอย์ทำลายความเงียบริมกำแพงวัด ไอย์ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงร้องไห้กับคนอย่างดรัณ

-----------------------

ดรัณพาไอย์มาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง มากินข้าว ส่วนไอยรัณไม่พูดอะไร โดนจูงมือจึงเดินตามเงียบๆ เขาไม่มีอารมณ์จะกินอะไรทั้งนั้น อยากจะพาไปกินอะไรก็พาไปละกัน

ในที่สุดก็ไปหยุดอยู่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่น

"เวลาเครียดต้องกินเยอะๆ " ดรัณคีบปลาแซลมอนย่างเนยใส่ปากไอย์ คนตัวเล็กกว่าอ้าปากให้ป้อนแต่โดยดี

"กินปลาแล้วจะได้ฉลาด" คนป้อนบอกกับคนถูกป้อน แต่คนถูกป้อนไม่สนใจสักนิด

"ถ้ายังทำหน้าบึ้งแบบนี้พี่จะลงโทษ"

ไอย์ยังคิดเรื่องของตัวเองเขาไม่ได้ยินที่ดรัณพูด คนนั่งตรงข้ามเอื้อมมือมาดีดหน้าผาก ไอย์มองดรัณหน้าบึ้งหนักกว่าเดิม

"น้องไอย์มีสิทธิ์โกรธพี่เหรอครับ"

[ทำไมจะไม่มี!]

"ไม่มีครับพี่ดรัณ" เขายังต้องเล่นบทเด็กดีถ้าอยากรู้คำตอบเขาต้องอดทน

เด็กดีพยายามฝืนฉีกยิ้ม ท่าทางดูไม่ธรรมชาติสุดๆ จนดรัณอดหัวเราะออกมาไม่ได้

"อ้าปากครับ"

คนที่หัวเราะอยู่เมื่อกี้คีบซูชิกุ้งทอดให้เด็กดีของเขา เด็กดีเคี้ยวแล้วแอบไปทำหน้าบูดในใจแทน

"วันนี้พาแฟนไปแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักใช่มั้ย"

ไอย์สำลักซูชิชิ้นเมื่อกี้จนเกือบติดคอ ดรัณรีบส่งน้ำชาให้ดื่ม

ดูเหมือนดรัณจะเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว เขาพาไปให้สำนึกผิดต่างหาก!

"ตอนอยู่ที่วัดพี่ดรัณบีบมือผมทำไม"

"พี่แค่อยากให้กำลังใจน้องไอย์"

[..........]

 

 

"แล้วร้องไห้ทำไม? "

"อ๋อ...ฝุ่นมันเข้าตา"

[..........]

 

 

คนคนนี้มันเกินเยียวยา!!! โอ๊ย! กลุ้ม แต่เดี๋ยว! อะไรนะ? เป็นแฟน???

"เราไม่ได้เป็นแฟนกันซักหน่อย"

[ใครจะอยากเป็นแฟนกับคนแบบนี้]

เสียงเถียงมาจากคนที่เป็นน้อง

"ถ้าอย่างนั้นเราเป็นอะไรกันดีนะ? " ดรัณนึกสนุก ไล่ต้อนเด็กคนนี้สนุกดีเหมือนกัน

"แล้วแต่พี่ดรัณเลย อยากให้เป็นอะไรก็เป็น" เวลานี้เขาไม่มีสิทธิ์เลือกอยู่แล้วนี่

"คู่นอน? "

"ยังไม่ได้นอนด้วยกันซักหน่อย"

"น้องไอย์อยากเหรอ? "

"ก็ได้ครับจะได้จบๆ กันไป" ไอย์ประชด

"ชู่ววว...เรื่องบนเตียงอย่าพูดเสียงดังข้างนอกสิครับน้องไอย์" ดรัณยิ้มแกล้ง

ไอย์เริ่มไม่รู้จะจัดการยังไงดีกับคนที่นั่งตรงข้าม ไม่สำนึกเลยสักนิด แล้วยังกวนโมโหเขาไม่หยุด

ดรัณป้อนซูชิหน้าปลาไหลใส่ปากไอย์อีกคำ

คนคนนี้นิสัยยังไงกันแน่ เขาไม่เข้าใจเลยสักนิด

"พี่รัณ มาทานข้าวไม่ชวนกันบ้างเลยนะ"

 

 

ไอยรัณหันไปมองตามเสียงคนพูด

 

 

คุณกระต่ายขาว?

 

 

 

 

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!