Episode 4 : ยังเช้าอยู่

สถานการณ์แบบนี้อีกแล้ว...

"เราต้องไปทำงานกันไม่ใช่เหรอครับพี่ดรัณ"

"ยังเช้าอยู่"

ไอย์ถูกดรัณฉุดแขนไปนั่งบนตัก สถานการณ์ตอนนี้เรียกว่าล่อแหลม ไม่น่ารอด ตายแหงๆ นี่มันเช้าวันทำงาน ไม่ควรทำอะไรแบบนี้มั้ยครับพี่ดรัณ ไอยรัณแอบร้องไห้เงียบๆ ในใจ

พอเห็นน้องไอย์ในอ้อมกอดทำหน้ายุ่งไปมา แววตาสับสน ดรัณอดขำในใจไม่ได้ เด็กคนนี้คิดอะไรในใจออกมาทางสีหน้าหมด

"น้องไอย์ครับ" ดรันอดแกล้งไม่ได้

"ครับ...ที่รัก" ไอย์ยอมรับสภาพ วันนี้คงหนีไม่รอดจริงๆ

"ตรงนี้ไม่ใช่เตียงซักหน่อย" ดรัณอมยิ้ม

"ครับ พี่ดรัณ" ไอย์ทำหน้าตาสดชื่นขึ้นทันตา จนเขาอยากแกล้งอีกรอบ

"แต่ตรงนี้ก็ใช้แทนเตียงได้อยู่เหมือนกัน เอ๊ะนี่มันเรียกอะไรนะ อ๋อ...โซฟาเบด"

"แล้วแต่ที่รักละกันครับ จะเรียกอะไรก็เรียก"

พอเห็นท่าทางเดี๋ยวจ๋อยที่กลัวเขาจะทำอะไร เดี๋ยวดีใจที่คิดว่าตัวเองจะรอดแล้ว สลับไปมา ดรัณจึงแกล้งขยับไทด์ของไอย์ให้เข้าที่ ยังเช้าอยู่ จะปล่อยไปก่อน

ดรัณดึงไอย์เข้ามาหอมแก้มทีหนึ่งแล้วพาไอย์ลุกขึ้นจากตักไปทำงาน ท่ามกลางความสับสนมึนงงของไอยรัณ แต่เขาก็คิดในใจว่ารอดก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอไง

------------------------

หลังเบาะรถไม่มีเสียงพูดคุยกัน ดรัณบอกให้ไอย์จับมือและนั่งพิงไหล่เขา ส่วนมืออีกข้างของดรัณถือมือถืออ่านอีเมล์กับนัดหมายการประชุมสำหรับวันนี้ สำหรับไอย์นอกเหนือจากอริยาบทที่ทำอยู่ สายตาเขามองไปทางด้านนอก คนขับรถพาพวกเขาไปถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว ถือเป็นข้อดีของคอนโดกลางเมือง

------------------------

แปดโมงเช้าไอยรัณถูกดรัณพามาทิ้งไว้หน้าห้องทำงาน มีคุณคีตะที่อยู่หน้าห้องช่วยดูแลเขาต่อ ไอย์รัณแนะนำตัว หลังจากนั้นคุณคีตะพาเขาแนะนำทั่วที่ทำงานในฐานะผู้ช่วยใหม่ของเขา นั่นหมายความว่า เขาเป็นผู้ช่วยของผู้ช่วยพี่ดรัณอีกที

ออฟฟิศนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ มันเหมือนออฟฟิศธรรมดา คุณคีตะเล่าว่า บริษัทนี้เป็นโฮลดิ้งคอมพานี คือเป็นนำเงินไปลงทุนในบริษัทที่ประกอบกิจการอื่นอีกที ไม่ได้ทำกิจการอะไรของบริษัทเอง พี่ดรัณเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทนี้ ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นคุณพ่อของเขา ยังมีผู้ถือหุ้นอื่นๆ และมีบริษัทลูกอีกมากมายด้วย

พักกลางวันพี่ดรัณออกไปทานข้าวกับผู้ถือหุ้น ส่วยไอยรัณพี่คีตะพาไปเลี้ยงข้าวรับขวัญน้องใหม่กับคนในบริษัท บริษัทนี้อบอุ่นกว่าที่เขาคิดไว้

ช่วงบ่ายพี่ดรัณไปประชุมกับบริษัทในเครือ เขาถูกพี่คีตะพาไปสัมภาษณ์งาน จริงๆ แล้วคือไปดูพี่คีตะสัมภาษณ์คนที่มาสมัครงานรอบสุดท้าย เขาเป็นผู้สังเกตุการณ์ พี่คีตะบอกว่าคืนนี้ให้ไปสรุปให้พี่ดรัณฟัง

ช่วงเย็นตามตารางที่พี่คีตะบอกพี่ดรัณมีนัดกับญาติๆ คงจะกลับดึกซักหน่อย เขาคงต้องรอสรุปเรื่องคนมาสัมภาษณ์ให้ฟัง โชคดีที่เขาเริ่มงานวันแรกเป็นวันศุกร์ พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ไม่เลวร้ายนัก พี่ดรัณให้คนขับรถพาเขาไปส่งที่คอนโด แน่นอนว่าพร้อมผู้ติดตาม

------------------------

ค่ำนี้ที่ไอริชผับ ที่ถูกตกแต่งด้วยอิฐแดง โต๊ะเก้าอี้ไม้สีเข้มดูอบอุ่นบรรยากาศสบายๆ แห่งหนึ่งในโรงแรมห้าดาวย่านกลางเมือง ดรัณกำลังคุยอยู่กับญาติๆ ของเขา ถึงจะบอกว่าเป็นญาติ แต่ไม่มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือดสักนิด คุณพ่อกับคุณแม่ไม่มีลูก พวกเขาเป็นเด็กกำพร้าที่คนทั้งสองเก็บมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ให้ความรัก การศึกษาที่ดี เพื่อมาช่วยทำงานตามความถนัดของแต่ละคน

"เจอคุณพ่อรึยัง" จอมเจตน์ถามดรัณ

ดรัณส่ายหน้า "ผมเพิ่งกลับมาเมื่อวาน วันนี้เช้าไล่เซ็นเอกสารในห้อง บ่ายไปประชุม เย็นมากับพี่น้อง จะให้ผมไปหาคุณพ่อเวลาไหนล่ะครับ"

เบียร์ดำไอริชถูกนำมาเสิร์ฟ คีตะยกเบียร์ดำขึ้นมาจิบ กลิ่นหอมนุ่มนวลของเบียร์ ยิ่งพาให้บรรยากาศผ่อนคลาย "คุณพ่อรู้เรื่องแล้วนะ"

"พี่เพลงบอกคุณพ่อเหรอ ใจร้ายจังนะครับ" ดรัณแกล้งน้อยใจคุณผู้ช่วยของเขา นอกเวลางานพี่เพลงเป็นพี่ชายของเขา

"ไม่ใช่พี่ซักหน่อย นู่นเจ้าตัวแสบมาพอดี" ดรัณมองตามสายตาของคีตะ เจ้าตัวแสบที่ว่านั่นคือจันทร์เจ้าน้องชายของเขาเอง

จันทร์เจ้าเดินเข้ามาสวมกอดดรัณและทักทายพี่ๆ คนอื่นๆ

"ว่าไงเจ้าตัวแสบ ฟ้องคุณพ่อเหรอ" ดรัณถาม

"เค้าเรียกว่ารายงาน ไม่ได้ฟ้องซักหน่อยครับพี่รัณ"

"คุณพ่อว่ายังไงบ้างน้องเจ้า"

"บอกว่าดีแล้ว"

"ดีแล้ว? " ดรัณเลิกคิ้ว

"แปลว่าคุณพ่อไม่ได้ห้าม ท่านคงคิดว่ารัณจัดการได้" จอมเจตน์ช่วยให้เหตุผล

"ก็ดี" คีตะสบายใจขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นวางใจ

"พี่รัณคิดจะเลี้ยงเด็กคนนั้นจริงๆ เหรอครับ" จันทร์เจ้าถามกลับบ้าง เขาสงสัยจริงๆ เด็กคนนี้มีอะไรดี ถึงพี่ดรัณจะเลี้ยงเด็กๆ อย่างนั้นบ้างแต่ไม่เคยให้ใครมาอยู่คอนโดเดียวกันกับพวกเขา

คีตะช่วยเฉลยให้จันทร์เจ้าฟังแทน "ไอยรัณเป็นลูกของคุณกรันต์"

"ลูกของเพื่อนพ่อ" จันทร์เจ้าเข้าใจกระจ่าง "แต่ว่า..."

"พี่รู้" ดรัณตอบ

"ถ้าพี่คิดว่าสมควร ผมก็จะสนับสนุนนะ" จันทร์เจ้าไม่มีปัญหา เขาแล้วแต่พี่ชายสุดที่รัก

"พี่เจตน์ล่ะครับว่ายังไง? " ดรัณสงสัย พี่ชายคนรองของเขาเห็นด้วยหรือเปล่า?

"อันตรายไปรึเปล่า ถ้าเขารู้ว่าจริงๆ แล้วบ้านเราเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของพ่อของเขา เด็กคนนั้นจะทำยังไง"

คนทั้งหมดเงียบไป เรื่องคำถามแทงใจกับความรอบคอบเจตน์ถนัดที่สุด เพราะเขาเป็นฝ่ายกฎหมายของบริษัท

คีตะพูดทำลายความเงียบ "ช่วงนี้รัณก็ดูๆ ไป อย่างเพิ่งยุ่งกับไอย์ละกัน"

"........"

ยุ่งแบบไหนในใจทั้งสี่พี่น้องรู้ดี ทุกคนเงียบไปอีกรอบ ถ้ามีอีกาบินผ่านแบบในการ์ตูน เสียงกาคงจะร้องดังมากไม่หยุด

สามพี่น้องพร้อมใจกันมองหน้า ช่วยกันกดดันคนต้นเรื่อง

"ก็ได้ครับ" ดรัณรับปากจะไม่ยุ่งแบบนั้น แต่ถ้าเด็กนั่นจะยุ่งกับเขาเอง เขาคงไม่ได้ผิดอะไร ที่สำคัญคือเรื่องนี้เขาคิดว่าจัดการเองได้

ที่ผ่านมาคนที่จัดการอะไรๆ ได้ดีที่สุดในครอบครัวถัดจากคุณพ่อคือดรัณ คุณพ่อจึงวางใจให้เขาเป็นตัดสินใจในบริษัท ส่วนจันทร์เจ้าถนัดเรื่องการเงิน จึงเป็นคนควบคุมบัญชีบริษัท

"เรื่อง'ท่าน'เป็นยังไงบ้างครับ รอบนี้ได้เงินกลับไปไม่น้อยเลยนะครับ" จันทร์เจ้าเอ่ยถามขึ้นบ้าง

"พี่ก็ปล่อยให้เขาเล่นได้บ้าง คนเราถ้าติดพนันแล้วเลิกยาก เดี๋ยวก็ต้องกลับมาอีกนั่นล่ะ ถึงตอนนั้นเสียหมดตัวจะโทษใครคงไม่ได้" ดรัณตอบอย่างอารมณ์ดี

ความรักก็เหมือนกัน ติดแล้วเหมือนการพนัน ยากที่จะตัดใจ ถึงเสียหมดตัวก็ยังไม่อยากเลิกอยู่ดี

"สัญญาเซ็นต์รึยัง" จอมเจตน์ยังไม่ได้รับเอกสารเลยถามขึ้น

"เรียบร้อยครับ"

สี่พี่น้องยกแก้วเบียร์ชนกันเพื่อเป็นการฉลองกับการครอบครองบริษัทลูกแห่งใหม่ บริษัทนี้มีสัญญาของภาครัฐ พวกเขาไม่ต้องไปประมูลใหม่อีกรอบ ใช้บริษัทนี้ดำเนินการต่อได้เลยทันที ประหยัดทั้งเงินและเวลา คุ้มค่าการลงทุน

------------------------

กว่าดรัณจะกลับถึงคอนโดเกือบเที่ยงคืน ไม่รู้ว่าไอยรัณยังรอรายงานให้เขาฟังเรื่องการสัมภาษณ์วันนี้อยู่หรือเปล่า เขาแวะไปดูซักหน่อยละกัน

ดรัณได้ยินเสียงทีวีเบาๆ จากด้านในห้อง คนเฝ้าหน้าห้องบอกเขาว่าไอย์น่าจะยังไม่นอน เพราะปกติแล้วจะไม่ได้ยินเสียงทีวีถ้าเข้านอนแล้ว ดรัณจึงกดกริ่ง ประตูห้องถูกเปิดออก คนตัวเล็กตาปรือในชุดนอนสภาพใกล้หลับเต็มที ดรัณก้าวเข้ามาในห้อง นั่งตรงโซฟาเบดสีครีมตำแหน่งเดิมกับเมื่อเช้า

"น้องไอย์ง่วงแล้วเหรอครับ"

"ครับพี่ดรัณ"

"งั้นก็ไปนอน" ดรัณอุ้มคนตัวเล็กกว่าไปนอนที่เตียง ร่างของไอย์ลอยขึ้นเหนือพื้นเพราะถูกอุ้ม เขาหายง่วงทันที

"พี่ดรัณ...ผมเดินเองได้" ไอย์ประท้วงในอ้อมกอด แต่ดรัณไม่ได้สนใจตอบ ไอย์ถูกอุ้มไปวางที่เตียงนอน

"นอนได้แล้วครับ"

"แล้วเรื่องสัมภาษณ์วันนี้? "

"พรุ่งนี้ค่อยเล่า"

"พี่ดรัณจะไปแล้วเหรอครับ? "

"เปล่า คืนนี้พี่จะนอนที่นี่"

ในหัวไอยรัณมีแต่คำว่า 'งานเข้าแล้ว' เขาทำหน้าตกใจเหมือนลูกแมวงงหลังจากที่ถูกฝ่ายตรงข้ามตะปบ

ดรัณนึกสนุกอยากแกล้งให้หนักๆ เขาขึ้นไปนอนบนเตียงอีกด้าน ดึงไอย์มานอนกอดเหมือนตุ๊กตา แล้วแกล้งหลับ ไอย์นอนตัวแข็งเป็นหิน เขาได้กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกลิ่นน้ำหอมจางๆ พลอยรู้สึกเมาไปด้วยนิดๆ

"น้องไอย์"

คำนี้อีกแล้ว พี่ดรัณเรียกเขาแบบนี้บนเตียงทีไรได้เรื่องตลอด

"ครับที่รัก"

"พรุ่งนี้อยากไปไหน"

ดรัณเห็นไอย์เหมือนถูกขังอยู่ในห้องมาสิบกว่าวันนึกสงสารเลยอยากพาไปเดินข้างนอกให้หายอุดอู้บ้าง

"ไปไหนดี" ไอย์พึมพำคุยกับตัวเอง

"พรุ่งนี้ค่อยบอกก็ได้"

"ครับ"

เงียบอยู่ครู่หนึ่ง ไอย์เริ่มพูดขึ้นต่อ

"ที่รักจะนอนที่นี่จริงๆ เหรอครับ? "

"นี่ห้องพี่นะ"

ก็จริงของเขา... ดรัณเป็นเจ้าของห้อง

"ไม่ให้พี่นอนนี่เหรอ? " ดรัณแกล้งถาม

"มะ..ไม่ใช่อย่างนั้น ผมแค่ไม่ชินที่มีคนนอนข้างๆ "

"ถ้าอย่างนั้นต่อไปพี่จะทำให้ชินดีมั้ยครับ" ดรัณกระชับกอดแน่นขึ้น เขารู้สึกได้ถึงหัวใจเต้นแรงของคนในอ้อมกอด จึงอดไม่ได้หอมแก้มไปทีหนึ่ง เสียงหัวใจของฝ่ายตรงข้ามยิ่งเต้นเร็วขึ้นไปอีก

ดรัณเริ่มอยากทบทวนคำว่า 'อย่าเพิ่งยุ่งกับไอย์' ของคีตะใหม่ ไม่น่ารับปากเลย

ทั้งคู่นอนสบตากันซักพัก ริมฝีปากเริ่มขยับเข้าใกล้กันทีละน้อยจนกระทั่งสัมผัสกัน รสจูบผสมแอลกอฮอล์ทำให้ยิ่งเคลิบเคลิ้ม ถลำลึกลงเรื่อยๆ จนยากจะปีนออกมา

เสียงโทรศัพท์ของดรัณดังขึ้น นี่มันตีหนึ่ง ไม่รู้จักเวลาพักผ่อนเลยรึไงกัน ดรัณนึกหงุดหงิดในใจ คลายอ้อมกอดจากไอย์หันไปหยิบโทรศัพท์มาดู

คนที่โทรมาเป็นคีตะ พี่ชายเขาเอง รู้ใจทุกเรื่องจริงๆ แม้กระทั่งเรื่องนี้

ดรัณบอกให้ไอย์เข้านอน เขากดโทรศัพท์รับสายขณะที่เดินออกนอกห้องไป

 

 

 

 

------------------------

เวลาสองนาฬิกา

ข้อความถูกส่งเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของไอยรัณ

"เป็นยังไงบ้างการแก้แค้นของนาย? "

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!