"เข้าใจที่พี่สอนมั้ย"
ดรัณถามน้องเรื่องที่เขาสอนให้จูบอยู่เมื่อครู่
"เข้าใจครับ...ที่รัก" ไอย์ตอบดรัณ พยักหน้าน้อยๆ อายๆ ชวนให้เอ็นดู
"ดีครับ ไหนลองทำอย่างที่พี่สอนให้ดูหน่อย"
ดรัณยื่นหน้าเข้าไปแกล้งแล้วยิ้ม แต่น้องกลับจูบมาอย่างที่เขาสอน อืม...แต่เหมือนจูบแบบเด็กน้อยกำลังเลียครีมที่ติดอยู่บนช้อนเค้ก เขาได้กลิ่นหอมหวานจากไอย์ ความหอมทำให้เขาอดใจไม่อยู่ สัมผัสริมฝีปากหนักหน่วงกลับไปจนคนตัวเล็กแทบหายใจไม่ทันจนต้องถอยหนี ดรัณเอื้อมมือไปลูบเล่นเบาๆ ที่เส้นผมของฝ่ายตรงข้ามแล้วค่อยๆ ดันศีรษะคนตัวเล็กกลับเข้ามาหาจูบของเขาอย่างช้าๆ
ทำแบบนั้นกันอยู่สักพัก ไอย์จึงทำเลียนแบบเขากลับมา น้องไอย์ที่กำลังจับผมของเขาแล้วดันศีรษะเขาเข้ามาจูบกลับเหมือนภาพสะท้อนในกระจก ถ้าเขาต้องการอะไรคงต้องสอนเสียก่อน แต่เด็กคนนี้เรียนรู้เร็วจนน่าประหลาดใจ เป็นความรู้สึกแปลกใหม่และเขาชอบความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจแบบนี้
ดรัณผลักไอย์ลงบนเตียงนุ่ม เขาปลดกระดุมน้องทีละเม็ดจนหมดเผยให้เห็นผิวขาวเนียน เด็กบนเตียงนอนหันไปมองทางอื่นไม่กล้าสบตาเขา เผยให้เห็นข้างแก้มแดงระเรื่อ เสียงหอบหายใจของน้องชวนให้เขาตื่นตัว ก้มลงไปฟัดแก้มแดงนั่น
แต่แล้วเสียงกริ่งประตูห้องก็ดังขึ้น
"ผมบอกแล้วไงว่าไม่ให้รบกวน" ดรัณส่งเสียงดังกลับไป
"ขอโทษครับคุณดรัณ 'ท่าน' เรียกพบครับ" ผู้ติดตามของเขาบอกด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดี
ดรัณจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย บอกกับคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียง
"เดี๋ยวพี่กลับมานะครับ"
"ครับที่รัก"
ไอยรัณรู้สึกขอบคุณเสียงนั่นที่ช่วยเขาไว้พอดี
จากวันนั้นที่พี่ดรัณบอกจะกลับมาจนถึงวันนี้นับได้ 10 วันพอดี ไอยรัณกลับมาจากสิงคโปร์ในวันรุ่งขึ้นและทำเกือบทุกอย่างตามที่ถูกสั่งไว้
คนของดรัณพาเขาไปอยู่ที่คอนโดที่จัดเตรียมไว้ให้ ในห้องนี้มีของทุกอย่างที่ควรมี ห้องใหญ่เกินกว่าที่จะอยู่คนเดียว มีคนเอาอาหารมาส่งให้ในแต่ละมื้อ หรือถ้าเขาอยากทำอะไรทานเองจากของที่ถูกเตรียมไว้ให้ในตู้เย็น ก็แค่บอกคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง ที่สำคัญคือไม่มีเจ้าหนี้ตามกวนใจอีกต่อไป ถึงแม้จะมีคนยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องตลอดเวลา แต่ก็ถือว่าเป็นชีวิตสงบสุขตามข้อตกลง
คนของพี่ดรัณบอกว่า พี่ดรัณอยู่เพนท์เฮ้าส์ชั้นบนสุดของคอนโดนี้ ลิฟต์สำหรับขึ้นไปเพนท์เฮ้าท์เป็นลิฟต์ส่วนตัว นั่นหมายความว่าถ้าพี่ดรัณไม่มาเจอเขา แปลว่าเขาไม่มีโอกาสเจอพี่ดรัณด้วยเหมือนกัน ซึ่งก็ดี คราวที่แล้วก็เกือบไป ไม่น่าปล่อยให้อารมณ์พาไปเลย ทั้งที่รู้ดีอยู่แล้วว่าหนีไม่พ้นที่ต้องทำอะไรอย่างนั้น แต่ยังอยากยืดเวลาไปอีกหน่อย ของอะไรที่ได้มาง่ายคนมักไม่เห็นค่า ถึงแม้ตัวเขาเวลานี้จะไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรอีกแล้วก็ตาม
เช้าวันพรุ่งนี้เขาต้องไปเริ่มงานวันแรก คนของพี่ดรัณยังไม่ได้บอกว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง แค่บอกว่าเช้าจะมีคนมารับไปที่บริษัท พี่ดรัณเคยบอกว่าให้เขาไปฝึกงาน แต่ไม่รู้ว่าฝึกตำแหน่งไหนกัน
บริษัทนี้จะเป็นยังไงนะ มีแต่คนเหมือนเจ้าพ่อมาเฟีย คนใส่สูทสีดำถือปืนเต็มไปหมดทั้งบริษัทเลยหรือเปล่า เขาจะถูกยิงตายก่อนที่จะได้ทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ไหม เขาเองก็ยังไม่รู้เลย
สิบวันมานี้ดรัณยังคงวุ่นวายอยู่กับเรื่องงานไม่หยุด เขาเพิ่งกลับมาจากสิงคโปร์ เด็กนั่นจะเป็นยังไงบ้างไม่รู้
"เรียบร้อยดี" คีตะพูดขึ้นมา
"ครับ? "
"เรื่องไอยรัณพี่จัดการให้เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยดี"
"ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะครับพี่เพลง" ดรัณพูดอ้อมแอ้มที่คีตะอ่านใจเขาได้
"ถ้าไม่รู้ว่ารัณคิดอะไรพี่จะเป็นผู้ช่วยได้ยังไง"
คีตะคือคุณผู้ช่วยของดรัณ ก่อนหน้านี้เขาก็เป็นผู้ช่วยของคุณพ่อระยะหนึ่งก่อนที่คุณพ่อจะวางมือไปพักผ่อน และมอบให้ดรัณจัดการทุกอย่างแทน เขาไม่อยากใช้คำว่าเลขากับพี่เพลง เพราะพี่เพลงทำมากกว่างานเลขาทั่วไป ทำงานแทนเขาได้ทุกเรื่อง แต่อำนาจสูงสุดในการตัดสินใจยังคงเป็นของดรัณ อยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาอาจจะเป็นคนที่คนอื่นเกรงกลัว แต่พออยู่ต่อหน้าพี่เพลง ดรัณกลายเป็นเด็กดีที่น่ารักในสายตาพี่เพลงเท่านั้นเอง
"จะไม่ตรวจสอบประวัติเด็กนั่นซักหน่อยเหรอ" คีตะถามขณะที่ขับรถออกจากสนามบินได้ระยะหนึ่ง เขามารับดรัณกลับคอนโด
"ผมไม่ต้องบอก พี่เพลงก็ทำอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะครับ" ดรัณหัวเราะจากที่นั่งข้างคนขับ กับพี่เพลงเขาไม่นั่งเบาะหลังรถ
"ทำแล้วล่ะ" คีตะหันมามองดรัณขณะที่รถกำลังติดไฟแดง แล้วยื่นรายงานเรื่องเกี่ยวกับไอยรัณจากข้างประตูรถให้
ดรัณถามย้อนกลับไป "พบว่า? "
"อย่าไว้ใจนัก"
"ผมรู้ครับ"
"รู้แล้วทำไมยังรับไว้" ไฟเขียวแล้วคีตะต้องหันไปสนใจกับถนนข้างหน้าแทน ยังไม่มีเสียงตอบกลับจากคนนั่งข้างๆเขา
รู้ว่าทำไมแต่ดรัณไม่อยากตอบ
"เหมือนเห็นตัวเองเมื่อก่อนนี้ใช่มั้ยล่ะ" คีตะยังคงสนใจเส้นทางข้างหน้า
ดรัณรู้ดี พี่เพลงพูดถูกทุกคำ
"ผมเชื่อว่าคนเราเปลี่ยนแปลงกันได้"
"ถ้ารัณอยากลองดู พี่ก็สนับสนุน แต่ถ้าลองแล้วเปลี่ยนเขาไม่ได้ ก็อย่าเสียใจละกัน"
ไม่มีเสียงพูดคุยใดๆ ต่อ ดรัณก้มหน้าอ่านรายงานเล่มนั้นขมวดคิ้วมุ่น จนกระทั่งถึงคอนโด
เช้านี้เสียงกริ่งประตูดังขึ้นที่ห้องของไอยรัณ เขาแต่งตัวแล้ว เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแล็คสีดำ ผูกไทด์เรียบร้อย เหลือแค่ใส่ถุงเท้าเท่านั้นเอง ไอย์เปิดประตูให้เจ้าของเสียงกดกริ่ง แล้วชะงักค้าง คนที่เขาไม่เจอหน้ามาสิบวันนั่นเอง
"พี่ดรัณ? "
ดรัณเลิกคิ้วมองคนตัวเล็กกว่า เป็นเขามามันน่าแปลกตรงไหน
"เชิญครับพี่ดรัณ"
ดรัณก้าวเข้าห้องของไอย์ จริงๆ แล้วก็ห้องดรัณเองนั่นแหละ ทั้งคอนโดนี้เป็นทรัพย์สินของเขา ทุกอย่างเรียบร้อยดีอย่างที่พี่เพลงบอก เรื่องการจัดการต่างๆ พี่เพลงไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง นอกจากคนเฝ้าหน้าห้องที่ดูเหมือนจำกัดสิทธิ์ไปหน่อย คงต้องใช้เวลาอีกซักพักถึงจะปล่อยเด็กคนนี้ให้มีอิสระตามสมควรได้ ทุกอย่างต้องใช้เวลา
"น้องไอย์ลืมอะไรรึเปล่า?"
ไอย์รินน้ำใส่แก้วน้ำแล้วยื่นให้ดรัณที่นั่งอยู่บนโซฟาเบดตัวใหญ่สีครีม เขารับแก้วน้ำนั่นไว้ เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ยังไม่ได้ติดกระดุม2เม็ดแรกกับเสื้อสูทสีดำทันสมัยส่งผลให้คนที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ยิ่งชวนมอง
"ผมไม่มีคอนแทกต์พี่ดรัณก็เลยรายงานอะไรไม่ได้" ไอย์ไม่ได้แก้ตัว เขาไม่มีจริงๆ ถามคนที่เฝ้าหน้าประตูแล้ว แต่เขาบอกว่าให้ไม่ได้ ต้องให้ดรัณให้เอง
ดรัณหยิบนามบัตรส่วนตัวออกจากกระเป๋าสตางค์ราคาแพง แล้ววางบนโต๊ะที่มีแก้วน้ำจากไอย์วางอยู่ก่อนหน้า
"ขอบคุณครับ"
ไอย์หยิบนามบัตรใบนั้นขึ้นมาใส่กระเป๋าสตางค์ของตัวเอง เขากำลังคิดว่าจะนามบัตรนี้ในช่องไหนของกระเป๋าสตางค์ดี ดรัณนั่งมองคนที่ยืนอยู่แต่ตัดสินใจเรื่องเล็กๆ ไม่ได้ขมวดคิ้วไปมา ยังไงไอย์ก็ยังเด็กอยู่ในสายตาเขาจริงๆ
ดรัณมองดูนาฬิกาข้อมือ เพิ่งเจ็ดโมงเช้า คอนโดอยู่ใกล้ออฟฟิศแค่สิบห้านาที เขายังพอมีเวลา
"ไปกันเลยมั้ยครับพี่ดรั..." ไอย์ถูกดึงแขนเข้ามานั่งบนตักของคนตัวใหญ่กว่าบนโซฟา
สถานการณ์แบบนี้อีกแล้ว...
"เราต้องไปทำงานกันไม่ใช่เหรอครับพี่ดรัณ"
"ยังเช้าอยู่"
สมองของไอย์ประมวลผลอย่างรวดเร็ว
'งานนี้ไม่น่ารอด'
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 16
Comments