บทที่ 2
ตุ๊น้อยกระโดดไปมาอยู่ในกรง
วันนี้เขาไม่ไปทำงานตุ๊น้อยเห็นเขานอนนิ่งๆ ท่าทางเหมือนจะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ ทั้งที่ตุ๊น้อยก็ขยับผ้าห่มให้เขาแล้วเมื่อคืน
การห่มผ้าให้ต้องดูจะเป็นเรื่องเคยชินซะแล้วสำหรับตุ๊น้อย
เพราะทุกครั้งที่เปลี่ยนร่างตุ๊น้อยจะคอยนั่งมองเขาอยู่ข้างๆ เตียง คอยห่มผ้าให้ต้อง
แต่เมื่อคืนก่อนเขานอนดึกมากส่วนเมื่อคืนก็กลับมาดึกจนพระจันทร์เกือบจะหายไป
ตุ๊น้อยนั่งรอเขาอยู่ที่ระเบียง...น้ำค้างแรงมาก
ตุ๊น้อยก็หนาวนะ แต่โชคดีที่มีผ้าวางอยู่ตรงระเบียงด้วย ตุ๊น้อยเลยนั่งเล่น
นอนเล่นบนผ้านั้น จวนเที่ยงแล้ว เขายังไม่มีทีทางจะตื่น
ตุ๊น้อยตัดสินใจกระโดดออกจากกรงแล้วเปลี่ยนร่าง
ตุ๊ไม่เคยเปลี่ยนร่างตอนกลางวันเลย รู้สึกเขินๆ
หันไปเห็นเสื้อยืดของเขาหล่นใกล้ๆ ตะกร้าเลยคว้ามาใส่ก่อน
"นี่ๆ ..." ตุ๊น้อยสะกิดเขา
แต่ท่าทางจะไม่มีสติ พอเห็นท่าไม่ดีเลยเอามืออัง ไอร้อนผ่าวทำเอาตุ๊น้อยตกใจ
"ร้อนยังกะไฟแน่ะ..." ตุ๊น้อยคิดๆๆๆ
ทำยังไงดีหว่า
พอไปยืนตรงระเบียบเห็นนกกระจิบกระจอกเกาะอยู่หลายตัว
ส่งเสียงคุยกันจอแจ
"นี่..." ตุ๊น้อยส่งเสียงทัก
"..." เสียงเหล่านกที่จอแจเงียบกริบทันที
"เราเป็นกระต่ายที่ชอบนอนผึ่งแดดตรงนี้ไง"
ตุ๊น้อยขยายความ
"...เป็นพวกได้รับพรสินะ"
กระจิบสาวนางหนึ่งเหล่มอง
"มนุษย์ในห้องกำลังป่วย..ตุ๊น้อยจะต้องทำยังไง"
"เป็นห่วงเป็นใยมนุษย์เหรอ...พวกนั้นจ้องจะทำร้ายเรา"
นกกระจอกหนุ่มบินมาเกาะที่ราวระเบียง
"เขาเป็นคนให้อาหารเรานะ" ตุ๊น้อยบอก
จริงๆนะ ต้องคอยเอาอาหารอร่อยๆ ให้ตุ๊น้อย
"ก็เลยสงสารเขางั้นสิ" เหล่านกกระจิบหันมามองตุ๊น้อยเป็นตาเดียว
"ช่วยบอกทีเถอะ...ว่าต้องทำยังไง" ถึงอย่างนั้นตุ๊น้อยก็ไม่รู้จะถามเอาจากใคร
ก็คงต้องถามเอาจากนกกระจิบกระจอกเหล่านี้
"เคยเห็นพวกมนุษย์ทำความสะอาดให้กัน เอาผ้าเช็ดร่างกายให้อีกฝ่าย"
"เช็ดเหรอ" ตุ๊น้อยวิ่งไปหยิบผ้าหนึ่งผืนมาเช็ดร่างกายเขาอยู่ครู่หนึ่ง
ถูๆ ไปมาตรงแขนและขา
"เจ้าต้องเอาผ้าที่เปียกน้ำสิ..."
ตุ๊น้อยเลยจุ่มผ้าลงในน้ำแล้วเช็ดเขา โชคดีที่ผ้าไม่ได้ชุ่มโชกเท่าไหร่
ไม่อย่างนั้นต้องอาจป่วยหนักกว่าเดิม
"อย่างนี้แล้วยังไงต่อ"
ตุ๊น้อยหันไปถามกระจอกสาว
"กอด แล้วก็จุมพิตที่หัวของเขาด้วย"
ตุ๊น้อยพยักหน้าแล้วหันมาซบลงบนอกอย่างรวดเร็วและจุมพิตแผ่วที่หน้าผากของต้อง
ตุ๊น้อยไม่ค่อยได้มองต้องในระยะใกล้ๆ เท่าไหร่นักแต่ครั้งนี้มันใกล้เหลือเกิน
"..." ทำไมต้องถึงดูน่าเข้าใกล้แปลกๆ
กันนะ ตุ๊น้อยสัมผัสริมฝีปากลงบนปากของเขาอย่างเผลอไผล
"อ่ะ..."
ตุ๊น้อยตกใจกับการกระทำของตัวเอง พวกนกกระจอกทั้งหมดต่างเงียบเสียงลงอย่างน่าประหลาด
"กระต่ายข้าบอกให้จุมพิตที่หัวอย่างเดียว..."
นกกระจอกสาวบอกก่อนจะบินจากไป
"ไม่เป็นไรนะ
ข้าเห็นตึกฝั่งโน้นก็จุมพิตกันที่ปาก อ่อ...ทั้งที่เป็นตัวผู้เหมือนกันเสียด้วย
เจ้าไม่ต้องคิดมากนะ" กระจอกหนุ่มและฝูงบินออกไปจากระเบียงแล้ว...
ตุ๊น้อยรู้สึกเหมือนจะไม่สบายขึ้นมาบ้างแล้วสิ...
"ทำไมร้อนอย่างนี้นะ" ตุ๊น้อยยืนขึ้นก่อนจะหันมามองต้องอีกที
"หายไวๆ นะ"
ตุ๊น้อยถอดเสื้อโยนกลับที่เดิมแล้วก็เปลี่ยนร่างกลับเป็นกระต่าย บางทีตุ๊น้อยคงจะง่วงเลยตัดสินใจกระโดดหลบไปนอนตรงหน้าระเบียง
ลมโชยเบาๆ ทำเอาตุ๊น้อยเคลิ้มอย่างบอกไม่ถูก...
หลับสักตื่นนะตุ๊น้อย...
ผมชื่อ ต้องทำงานออฟฟิศเป็นเจ้าหน้าที่บัญชีในบริษัทแห่งหนึ่งแถวๆ
ย่านอโศก ทำงานอยู่ในเมืองใหญ่คนเดียวส่วนพ่อก็เพิ่งเสียไปเมื่อปีก่อน
ตอนนี้เหลือแต่แม่ที่อาศัยอยู่กับพี่สาวที่ขอนแก่น
ผมเองรักความเป็นส่วนตัวพอสมควรเลยตัดสินมาทำงานที่กรุงเทพฯ ซื้อคอนโดฯ ใกล้ๆ
กับสวนสาธารณะ ใกล้รถไฟฟ้าเดินทางสะดวก
เมื่อเดือนก่อนผมเห็นกระต่ายตัวเล็กกำลังจะถูกตะกวดกินเลยช่วยเอาไว้
ตอนนี้ก็เลี้ยงเอาไว้เป็นเพื่อน จะบอกว่าแก้เหงาก็ไม่เชิงหรอกครับ
เพราะปกติผมก็ไม่ได้เหงาอะไรมากมาย เมื่อวานผมประชุมทั้งวัน เพราะใกล้จะมีการตรวจสอบบัญชีประจำปีแล้ว
พอกลับมาถึงห้องก็รู้สึกหนักๆ หัวเมื่อไข้หวัดจะเล่นงาน
อยากจะหลับแต่พอเปิดประตูมาแล้วเห็นเต่าตุ๊ที่มุดม่านมามองเหมือนรอคอยผม แล้วมันก็อดจะเล่นด้วยไม่ได้
"ทำไมแกรีบกลับจังวะไม่ไปสังสรรค์กับพวกข้าก่อนอ่ะ"
เจ้าพจน์เป็นเพื่อนที่อยู่ฝ่ายบริหาร ตำแหน่งสูงกว่าผมที่เป็นเจ้าหน้าที่บัญชีแต่มันไม่ค่อยสนใจหรอกครับ
มันไม่ค่อยแคร์คนอื่น ที่รู้จักกันเพราะมันเรียน ม.ปลายที่เดียวกับผมแถมอยู่กลุ่มเดียวกันมาตลอด
"เลี้ยงกระต่ายไว้หว่ะ...ต้องรีบกลับไปให้อาหาร"
ไม่รู้ทำไมเวลาพูดถึงเจ้าตัวเล็กผมถึงอมยิ้มตลอดเลย
เจ้ากระต่ายตัวน้อยนั่นเหมือนฟังภาษาคนรู้เรื่อง เวลาบอกว่าอย่าทำก็ไม่ทำ
บอกให้หยุดก็หยุด ยิ่งเวลาที่เอามือมาแตะนิ้วผมเหมือนกับว่า ตั้งใจนะ รับรู้นะ ผมว่าถ้าเป็นคนต้องน่ารักมากแน่ๆ
ว่าแต่เจ้าตัวเล็กนี่เป็นตัวผู้หรือตัวเมียกันนะ
ผมไม่เคยสังเกตสักที
ผมตื่นนอนมาอาการปวดหัวพอสมควร เหมือนจะฝันว่ามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาเช็ดตัวให้
ภาพในฝันมันเลือนรางจนผมแทบไม่ได้เห็นหน้าเขาอย่างชัดเจน
เพียงแต่ในฝันเสียงนกกระจอกดังเจี๊ยวจ๊าวน่ารำคาญที่สุด
"เต่าตุ๊..."
ผมชะโงกหน้ามองหาเจ้าตัวน้อย เห็นว่านอนผึ่งแดดสบายใจอยู่ที่ระเบียง
"หึ..."ลุกขึ้นทั้งที่ยังโงนเงนอยู่
เดินไปนั่งแปะอยู่ข้างๆ
เต่าตุ๊นอนหลับพริ้ม ข้างๆ มีแครอทแหว่งๆ
วางอยู่สงสัยจะกินอิ่มแล้วเผลอหลับไปแน่ๆ
"นี่...หลับไม่รู้เรื่องเลยนะ...ตื่นมาเล่นกันหน่อยเร็ว"
ผมเขี่ยหูเบาๆ เต่าตุ๊ทำท่าทางขี้เกียจ เหยียดยาวพลิกมามองผมนิดนึงก่อนจะลุกมานั่งเอียงคอมอง
"นี่ๆ ...ทำตัวเหมือนหมาเชียวนะ
กินอิ่มแล้วอ่ะดิ่ มานี่มา เล่นบอลกันมั๊ย" ผมทำท่าจะลุกไปหยิบลูกบอลเด้งมา
แต่เต่าตุ๊กลับกระโดดมาพาดอยู่ที่ขาผม แต่ดูท่าจะติดพุงกลมของเจ้าตัวเลยต้องปีนๆ
มานั่งให้เข้าที่ ดูเหมือนจะยังมึนน่าจะยังไม่อยากตื่น
"เอ้า แล้วจะลุกไปหยิบบอลยังไงละ"
ทั้งที่เต่าตุ๊ตอบผมมาไม่ได้ แต่แววตาที่มองมามันเหมือนจะบอกว่าให้นั่งอยู่เฉยๆ
ลมโชยเย็นๆ
ทำเอาผมอยากนอนอีกรอบเลยตัดสินใจทิ้งตัวลงพิงประตูนั่งเพลินๆ อีกหน่อย
เขาหลับไปแล้ว...ดีใจที่ลุกขึ้นมาจากเตียงสักที
ตุ๊น้อยกำลังหลับอยู่ก็มาแกล้งกวนใจจนตื่น พอตื่นมาก็ชวนเล่น
นี่ไม่ได้ดูสังขารเลยสินะ หน้าตาซีดๆ กับผมยุงเหยิงนั่นน่ะ
ตุ๊น้อยเลยกระโดดทับเสียเลย เอาให้ไปไหนไม่ได้ จะได้นั่งเฉยๆ เสียบ้าง
เฮ้อ...ตรงนี้สบายจัง
ตุ๊น้อยก็เผลองีบไปอีกหน่อย
"กระต่ายที่ได้พรน่ะ...นอนหลับกับเจ้ามนุษย์นั่นอย่างนั้น
ท่าทางมีความสุขดีนะ" นกกระจอกหนุ่มที่บินผ่านมาได้แต่มองแล้วคิดในใจ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 23
Comments
เทพจิ้งจก
ไม่น่าใช่ล่ะ ไปดูจากไหนมาเนี่ย
2025-04-11
0