.
.
.
ผมเดินตามเขามาเรื่อยๆโดยไม่ให้ทอมจับได้ จนมาถึงที่แห่งหนึ่ง. . . . . . . . ที่แห่งนั้นคือทางตัน มันคือทางตันไม่ผิดแน่
"เห้อ~ ทำไมกันนะทั้งๆที่รีบเดินให้ทันแล้วเชียว สุดท้ายก็ตามเขาไม่ทันอยู่ดี น่าเสียดายชะมัด อยากจะรู้จักให้มากกว่านี้สักหน่อย-อ๊ะ!!!! "
"อยากรู้จักฉันจริงๆงั้นหรอ"
ผมตกใจหลังจากที่ผมเดินชนทอมเข้าและเขาก็ยังจะกอดผมเอาไว้พร้อมถามคำถามบ้าๆนี่อีก แล้วจะให้ผมตอบยังไงให้มันดูดีกัน!!! ฮือ~แค่คิดก็ปวดหัวแล้วววว
"ป. . .เปล่าสักหน่อย บู่ คิดไปเองชัดๆ"ผมหันหน้าหนีทอมไปทางอื่นด้วยความอาย
"จริงหรอ อย่าโกหกฉันเลยเจโรนิส เพฟเวอร์เรลล์"
"อ. . .เอ่อ. . คือ เออ!!!ฉันตามนายมาจริงๆนั่นแหละ แล้วก็อยากรู้จักด้วยพอใจยัง" ผมพูดเสร็จผมก็พองแก้มด้วยความไม่พอใจที่ถูกคาดคั้น
"ทำไมถึงอยากรู้จักฉันหล่ะ ฉันไม่เข้าใจ พวกเราพึ่งเคยเจอกันครั้งแรกเองนะ นายไม่รู้สึกแปลกบ้างเลยรึไงที่ต้องอยู่กับคนแปลกหน้าอย่างฉัน ไม่กลัวรึไงถามจริง?"
ทอมพูดขึ้นด้วยความเหลืออดกับคนตัวเล็กข้างหน้าที่แสนจะแสบและดื้อรั้นกว่าคนอื่นๆที่เขารู้จัก
"ไม่อ่ะ นายไม่ได้ดูน่ากลัวอย่างที่นายคิดสักหน่อย อีกอย่างนายออกจะดูเหงาและก็โดดเดี่ยวอีกต่างหาก แล้วฉันจะปล่อยให้นายอยู่คนเดียวได้ยังไงหล่ะ ฮิ"
คำพูดคำนั้นดูเหมือนจะแทงใจคนเย็นชาอีกคนได้อย่างเหมาะเจาะทำให้คนตัวสูงเลือกที่จะปล่อยคนตัวเล็กออกจากอกไปก่อนจะเอ่ยคำลา
"ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวเถอะ เพราะคนอย่างฉันไม่เหมาะเป็นเพื่อนของใครหรอก ยิ่งเฉพาะนาย. . ." คนที่เข้าใจฉันมากกว่าคนไหนๆ ฉันไม่อยากให้นายเข้ามาเอี่ยวกับคนอย่างฉันเลยจริงๆ
"เพราะงั้นลาก่อน และอย่าทำเป็นรู้จักฉันอีกเลย"
" อะไรของเขากัน? ทอมตั้งกำแพงไว้สูงชะมัด แบบนี้ผมจะเป็นกับเขาได้มั้ยนะ เห้อ~ถึงงั่นก็เถอะไม่ลองก็ไม่รู้อ่ะ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกกก"
ผมพูดคนเดียวอยู่ตั้งนานสองนานก่อนจะได้ยินเสียงนาฬิกาดังขึ้นบอกเวลากลับทำให้ผมรีบวิ่งกระหืดกระหอบกลับบ้านอย่างเร็ว
"ซวยแล้วๆๆๆๆ"
*****
สุดท้ายผมก็ได้กลับบ้านมาตรงเวลาโดยไม่ต้องนั่งฟังโจเซฟบ่นจนหูชามาได้ และได้นอนอย่างสงบสุขทั้งคืน
เวลาผ่านไปเปลี่ยนเป็นเช้าวันใหม่ของวันเข้าเรียน ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นนี้ก็คือ วันเปิดเรียนของฮอกวอตส์ปีแรกของผม
ซึ่งผมตื่นเต้นมากจนรีบเข็นรถเข็นของผมที่มีของอยู่เต็มคันรถ พร้อมสัตว์เลี้ยงคู่ใจอย่างเจ้างูขาวตาอเมทิสต์แสนสวยนั่น วิ่งข้ามกำแพงมาที่สถานีรถไฟที่ชานชาลาที่9เศษ3/4ทันทีอย่างไม่ต้องให้โจเชฟลำบากอะไร
*****
ภายในสถานีรถไฟที่ชานชาลา 9 เศษ 3/4 ที่เนืองแน่นเต็มไปด้วยผู้ปกครองและพวกนักเรียนชั้นปี1ที่กำลังทยอยขึ้นรถไฟเพื่อเข้าเรียนที่ฮอกวอสต์เป็นปีแรกอย่าวคึกคัก
ซึ่งมันเป็นภาพที่ชวนคิดถึงอย่างที่สุดเพราะที่แห่งนี้ ภายในตู้ของรถไฟนั้นทำให้ผมได้พบกับเพื่อนสนิทคนแรกที่ผมคุยและเป็นคนร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมามากตั้งแต่ปี1เลยก็ว่าได้
เพราะตั้งแต่ที่ก้าวเข้าไปในฮอกวอตส์ ผมก็รู้สึกอบอุ่นมากกว่าที่ใดเพราะไม่ต้องโดดเดียวอีกแล้ว น่าคิดถึงจริงๆ
แต่ก็ช่างเรื่องความทรงจำนั้นไปก่อนเถอะ เพราะไม่รู้ว่าอะไรเหมือนกัน แต่ผมก็มีคนมาส่งขึ้นรถไฟเหมือนกัน ถึงแม้ว่าตอนมาถึงเขาจะน่ารำคาญขึ้นกว่าทุกทีก็ตาม
และเขาที่ว่าก็คือโจเซฟพ่อบ้านคนเก่าคนเดิมของผมนั่นเอง ตอนผมจะขึ้นรถไฟโจเซฟเขาก็ยืนโบกมือลาพร้อมกำชับอะไรหลายๆอย่าง จนผมคิดว่าโจเซฟนับวันยิ่งเหมือนคุณนายวิสลีย์ขึ้นทุกที
บ่นเป็นแม่ของเพื่อนสนิทเขาเปี๊ยบ บ่นเหมือนเขาเป็นเด็กเล็กๆที่ดูแลตัวเองไม่ได้อย่างไงอย่างนั้น แต่ก็รู้ว่าเป็นห่วงแต่มันก็ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้มั้ง
ผมที่รำคาญกับเสียงบ่นนั่น จึงตัดบทด้วยการเดินออกไปขึ้นรถไฟอย่างรวดเร็วแล้วปล่อยคุณพ่อบ้านไว้ท่ามกลางผู้คนในสนานีรถไฟไปอย่างงั้น
พอขึ้นรถไฟไปผู้คนก็ทยอยๆกันขึ้นมา และก็บังเอิญเห็นคนบางคนที่ผมกำลังตามหาอยู่พอดี เมื่อผมเจอเป้าหมายแล้วจึงเดินตามไป เพราะว่ามันมีไม่กี่คนหรอกนะที่ใส่ชุดสีดำทั้งตัวแบบนี้และยังมีเรือนผมสีดำสวยขนาดนี้อีกนี่นา
ผมเดินตามเขาจนพอมายังตู้รถไฟที่นั่งจึงเข้าไปจับจองเบาะฝั่งตรงข้ามทันที พร้อมเอ่ยขออนุญาตจากคนตัวสูงที่เขากำลังตามหาในฝั่งตรงข้ามอย่างรู้งาน
"นี่ขอนั่งด้วยคนสิ ทอม ริดเดิ้น"
ผมพูดจบแล้วก็ยิ้มกว้างให้กับคนตัวสูงอย่างเป็นมิตร
"อืม"
แต่ดูก็คนตรงหน้าจะดูไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อคนตัวสูงตรงหน้าอนุญาตแล้วแฮร์รี่ก็รีบนั่งลงอย่างรวดเร็วทันที
และดูเหมือนมันจะไม่มีบทสนทนาอื่นอีกเลยจนกระทั่งผมเอ่ยบทสนทนาขึ้นในระหว่างที่ทอมเขาหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน
"นี่ "
"อะไร?" ทอมเอ่ยตอบอย่างสงสัย
"ไอ้ที่นายว่าปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวเถอะ เพราะคนอย่างฉันไม่เหมาะเป็นเพื่อนของใครหรอก ยิ่งเฉพาะนาย นี่ มันหมายความว่ายังไงกัน"
"ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ ว่าฉันไม่เหมาะเป็นเพื่อนกับใครเลยจริงๆ"
"ทำไมนายพูดงั้นอ่ะ หรือว่านายโดนแกล้งมาก่อนหรอ?"
"อืม ถ้าใช่แล้วจะทำไม ฉันมันก็เป็นพวกประหลาดอยู่แล้วนี่นายจะสนทำไม ไม่เหมือนกับคนอย่างนายหรอก"
"ไม่สนไม่ได้หรอกนะก็นายเป็นเพื่อนคนแรกของผมนี่นา ทอม"
"ก็บอกว่าไม่ใช่เพื่อนไงเล่า ไม่เข้าใจรึไง!!!!"
"ปัง!!!"
'หมับ'
!!!
!!!
ทอมตกใจกับการกระทำของเจโรนิสมากกับการที่อยู่ๆคนตัวเล็กก็กระโดดเข้ามากอดเขาพร้อมกับลูบหลังเหมือนการปลอบโยนอย่างไม่กลัว
"ไม่เป็นไรนะ ฉันเข้าใจดีว่าความโดดเดี่ยวมันเป็นยังไงเพราะฉันก็เคยโดดเดี่ยวมาก่อน ฮิ"
"หึ อย่าโกหกฉันเลยเจโรนิส อย่างนายหรอจะเข้าใจ อย่าเสแสร้งดีกว่านะ"
"ฉันไม่ได้เสแสร้งสักหน่อย อีกอย่างฉันก็พึ่งมีเพื่อนอย่างนายเป็นคนแรกเลย เพราะงั้นจากนี้ไปนายเป้นเพื่อนฉันนะ โอเคมั้ย ทอม"
"ตัวก็เล็กแค่นี้ขี้ตื้อชะมัด"
"แล้วสำเร็จปะหล่ะ"
"หึ ตอนนี้ก็เป็นแค่เพื่อนนะไม่ใช่เพื่อนสนิท หวังว่านายจะโอเคเพราะตอนนี้ฉันยังไม่รู้จักนายดีพอ"
"ไม่เป็นไรเอาไว้เรารู้จักกันมากกว่านี้ก็ได้ แค่ทอมเปิดใจให้กันก็ดีมากแล้วแหละ "
ผมพูดพร้อมกับยิ้มให้เขาก่อนที่จะดึงทอมให้นั่งลงแล้วข้างกันแล้วเอนหัวซบที่ไหล่
"ทำบ้าอะไรเนี่ยเจโรนิส"
"ไม่ได้ทำบ้าแต่อยากนอนเฉยๆ เพื่อนกันทำแบบนี้ไม่ผิดปกติหรอกน่า เชื่อฉัน เชื่อฉัน-"
"เห้อ~ เชื่อก็เชื่อเจโรนิส"
ทอมยอมจำนนพร้อมยิ้มขำในใจให้กับคนที่ตัวเล็กที่น่าหมั่นเขี้ยวขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ
.
.
.
เมื่อรถไฟจะจอดเทียบท่า ผมก็ตื่นขึ้นมาจากการสะกิดของคนร่างสูงตรงหน้า
"ใกล้ถึงแล้ว สวมผ้าคลุมให้เรียบร้อยด้วยเจโรนิส"
ทอมพูดแบบรวบรัดแล้วจึงหันกลับไปอ่านหนังสือต่อ เพราะในตอนนี้ทอมได้สวมผ้าคลุมเรียบร้อยดีแล้ว
"อืม~เข้าใจแล้วครับขอไปล้างหน้าก่อนนะ"
"อืม อย่าหลงที่ไหนหล่ะเจโรนิส"
"ชิ คิดว่าฉันเป็นเด็กรึไง เชอะ"
ด้วยความงัวเงียผมก็ตอบไม่เต็มเสียงนัก แต่เมื่อรถไฟจะจอดเทียบท่าแล้ว จึงจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกายและสวมผ้าคลุมให้เรียบร้อย
แต่ผมยังรู้สึกง่วงอยู่จึงขอตัวจะเดินไปล้างหน้าสักหน่อย เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็เดินออกจากตู้รถไฟ ไปจุดหมายปลายทางคือห้องน้ำ
"ตุ๊บ!!!"
"โอ๊ย"!!!
แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ระหว่างทางผมได้เดินชนเด็กผู้ชายคนหนึ่งเข้า ให้เดาคนนั้นเหมือนคนที่เคยเจอกันตรงนี้เวลานี้ด้วย ไม่ต้องเดาคนนั้นคือ "เดรโก มัลฟอย"
มันเหมือนเดรกจริงๆทั้งตาสีเทา ผมสีซีดเรียบแปล้และ พร้อมด้วยท่าทางหยิ่งยโสที่สืบทอดกันมาของเหล่าตระกูลมัลฟอยแต่บวกกับใบหน้าตกใจแต่ยังกลั้นไว้นั่น
เหมือนหมอกับนั่นชะมัดเลยปฏิกิริยานี้ แต่เสียใจด้วยเพราะหมอนี่คือ"อบราซัส มัลฟอย"ปู่ของเจ้านั่นต่างหากหล่ะ สงสัยว่าลางสังหรณ์ฉันจะผิดไปนะ เมอร์ลิน
"ขอโทษด้วยนะที่เดินชน "
"อือ"
เมื่อผมขอโทษไปแล้ว ก็ได้ครับแต่เสียงอือเบาๆจากอบราซัส ซึ่งผมคิดว่าอีกคนคงให้อภัยแล้ว จึงเดินเข้ามาในห้องน้ำและทำธุระส่วนตัวจนพร้อมสวมผ้าคลุม
เดินไปยังตู้เดิมที่นั่งรอรถไฟไปถึงจุดหมาย โดยไม่ทันรู้ตัวรถไฟก็เข้าจอดเทียบท่าซะแล้ว เมื่อรถไฟจอดเทียบท่า ผมก็ได้พบกับชายร่างยักษ์ที่ไม่รู้จักก็ได้พาพวกเขานั่งลงในเรือเพื่อไปยังปราสาทของฮอกวอตส์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
พอมาถึงก็มีเสียงบรรยายดังขึ้นจากใครสักคนหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นหนอนหนังสือตัวยงของฮอกวอตส์
"นั่นคือท้องฟ้าจำลอง"
และใช่มันคือเสียงของเด็กผู้หญิงที่เดินข้างหน้าของผมที่กำลังพูดบรรยายภายในฮอกวอตส์ ตามสถานที่ที่เธอเคยอ่านตามหนังสือ ซึ่งมันก็เหมือนกับเพื่อนของเขา เหมือนกับ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เหมือนมากจริงๆ
กว่าเสียงเจื้อยแจ้วจะหยุดลงก็ตอนถึงโถงทางเดินพร้อมศาสตราจารย์ที่เดินลงมา ช่างมันน่าคิดถึงชะมัด พวกเราได้ก้าวเข้ามากับอาจารย์ที่ไม่คุ้นหน้าแม้แต่น้อย
และศาสตราจารย์ที่ไม่คุ้นหน้าได้พาพวกเราเข้าไปข้างในฮอกวอตส์ รอหลังจากที่หมวกคัดสรรร้องเพลงจบลงพวกเราก็ได้คัดเลือกบ้านกันต่อ
ศาสตราจารย์ได้ท่องรายชื่อไปเรื่อยๆจนถึงผมผมถึงได้ออกมาจากแถวแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตัวสูงจากนั้นหมวกคัดสรรก็เริ่มคัดเลือกขึ้นทันที
แต่ที่ไม่น่าแปลกใจเลยคือการที่ทุกคนตกใจกับนามสกุล เพฟเวอร์เรลล์ และที่ตกใจก็เพราะว่ามันไม่น่ามีแล้วอ่ะดิเพราะตระกูลนี้สูญหายไปตั้งนานแล้ว ทุกคนถึงตกใจกับมัน เพราะมันเหมือนกับว่าประวัติศาตร์ได้เปลี่ยนไปอย่างหนึ่งแล้ว
ในระหว่างที่ทุกคนตกใจค้างจนเห็นหน้าเหวอของทุกคนแล้วนั้น ผมก็ได้คัดสรรต่อ
"หวัดดีฮะ" "สวัสดีเช่นกันเด็กน้อย ได้พบกันอีกครั้งแล้ว ตกลงจะเลือกบ้านไหนหล่ะเด็กน้อย เอ ดูเหมือนว่าจะมีคำตอบในใจ งั้น "
"สลิธีริน!!!"
"ขอบคุณฮะ"
หลังจากหมวกคัดสรรประกาศขึ้นสลิธีรินก็ดูท่าจะดีใจแต่ก็สงบท่าทีไว้อย่างเป็นปกติ แต่หลังจากคัดเลือกจบไปทอมได้อยู่สลิธีรินตามเดิมที่ควรจะเป็น
และดูเหมือนว่าทอมจะเป็นเลือดผสมเพียงคนเดียวของบ้านเพราะงั้นคนในบ้านนี้ต่างก็ไม่ยินดีอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
สงสารทอมจัง จู่ๆคำนี้ก็ปรากฏอยู่ในหัวของผมอย่างช่วยไม่ได้
กลับมาที่ภาพตรงหน้า ศาสตราจารย์ใหญ่ อาร์มันโด ดิพพิต ก็ได้กล่าวอะไรนิดหน่อย แล้วจึงอนุญาตให้นักเรียนกินได้อย่างศาสตราตจารย์ใหญ่คนอื่นๆ หลังจากอนุญาตก็ได้มีอาหารปากฏขึ้นมาเต็มโต๊ะตามที่อยากกิน
หลังกินเสร็จก็เข้าสู่ช่วงเวลาที่ต้องหากลุ่มแบ่งพื้นที่ในหอที่นอน และผมก็มีคนๆหนึ่งในใจแล้ว ซึ่งก็คือทอมเพื่อนผมเอง
"ทอมทางนี้ฮะ ทางนี้ "
ผมตะโกนหาเขาเสียงดังจนทอมหันมาแล้วค่อยๆเดินเข้ามาหาผมตามเสียงตะโกน
"ทอมเป็นไงบ้างฮะ มีใครให้รวมกลุ่มรึยัง"
"ก็. . ยังเลย ไม่มีใครอยากอยู่กับฉันเลย"
"งั้นหรอฮะไม่เป็นไรนะ งั่นเราไปหากลุ่มกันดีกว่า เริ่มเลย!"
"เหวอ"
555+ทอมแบบขำกับท่าทางแสนซุกซนของคนตัวเล็กที่ทำ มันกำลังทำให้เขาเป็นบ้าเพราะตอนนี้มันดันเป็นความรู้สึกที่แปลกอย่างประหลาดอย่างที่ไม่เคยเป็นมา อาจจะเพราะในการกระทำที่เขาเห็นและไม่มีใครทำให้เขาหล่ะมั้ง
ช่างเถอะขอแค่ให้คนตัวเล็กอยู่ข้างๆเขาตลอดไปก็เท่านั้นเอง มันเป็นความรู้สึกภายในใจของทอมที่คนข้างๆจะไม่มีวันรู้
และทอมก็พูดกับผมด้วยเสียวหัวเราะขึ้นมา ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะพูดว่าอะไร แต่ว่าไหนๆก็ขอมองหน้าทอมละกัน หายากมากกกกภาพทอมตอนหัวเราะพอมองมากๆผมก็เริ่มรู้สึกอารมณ์ดีตามแล้วก็หัวเราะตามทอมอย่างนั้น
แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ได้สมาชิกคนรบกัน1ในนั้นคือ อบราซัส มัลฟอย และ 1ในตระกูลแบล็คหล่ะนะ จากนั้นผมจึงตามเข้าไปในหอนอน
หอนอนของสลิธีรินเป็นหอนอนที่อยู่ในคุกใต้ดิน อากาศของที่นี่ชื้นกว่าของกริฟฟินดอร์อย่างมาก และห้องนั่งเล่นรวมก็ยื่นออกไปที่ใต้ทะเลสาบของฮอกว็อต และก็มีคุณปลาหมึกยักษ์โผล่มาให้เห็นบ่อยๆด้วย
และยังมีสัตว์อื่นๆที่น่าสนใจ เหมาะสมเป็นสริธีรินเลยแฮะ นั่นคือคำบอกเล่าของเหล่าฟรีเฟร็คที่พวกเราได้ย้ายเข้ามาในหอสลิธีริน
ก่อนจะเข้ามาก็เจอบันไดที่สลับกันไปมานั่นแหละอับดับแรกเลย พร้อมกับกรอกตาขึ้นบนอย่างเบื่อหน่ายกับรหัสของบ้านนี้ที่เป็นคำว่า เลือดบริสุทธิ์ เห้อ คลั่งมาก
พอเถอะคิดถึงทีไรก็อยากจะอ้วกกับไอ้พวกคลั่งเลือดบริสุทธิ์แบบนี้ แต่ถึงยังไงรหัสก็เปลี่ยนทุกครั่งอยู่แล้วแถมก็ยังได้ที่นอนแล้ว หลังจากจัดของให้เข้าที่เข้าทางแล้ว ผมจึงเข้าสู่ห้วงนิทราไป พร้อมรอวันใหม่ที่แสนจะสดใสมาถึง . . . . .
"ห๊าว~ แจ๊บๆๆ"
ซึ่งดูเหมือนว่าเจโรนิส จะลืมอะไรบางอย่าง และอะไรบางอย่างนัานก็คือ เจ้างูน้อยที่ขดตัวอยู่ในผ้าคลุม แต่มันกลับไม่แปลกใจเท่าไหร่ กลับกันมันกลับเข้าห้วงสู่นิทราตามเจ้านายของมันอย่างไม่อิดออดอีกเสียด้วย ดูท่าว่าเจ้างูน้อยตัวนี้คงจะถูกใจเพื่อนของเจ้าของมันไม่น้อยเลยทีเดียว. . .
________________________________________
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments