.
.
.
"เดี๋ยวนะ สรุปว่าฉันคือ เจโรนิส เพฟเวอร์เรลลหรอโจเซฟ"
"อ่า เป็นอย่างที่นายน้อยเข้าใจครับ"
มันเป็นไปได้ยังไงกันไม่ใช่ว่าตระกูลเพฟเวอร์เรลลล่มสลายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ จำได้ว่าตอนปีที่เราเกิดตระกูลนี้ก็ไม่มีใครใช้นามสกุลนี้แล้วนี่แล้วทำไมถึงยังมีตระกูลนี้อยู่ ด้วยความสงสัยผมก็เลยถามออกมา
"โจเซฟ"
"ครับนายน้อย"
"นายพอจะบอกได้มั้ยว่าปีนี้เป็นปีที่เท่าไหร่"
"ก็ปี1938ไงครับนายน้อย"
ปี1938!!! พอผมได้ฟังผมก็ยิ่งคิดหนักกว่าเก่า เพราะด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบที่เจ้านาฬิกาย้อนเวลานี่ย้อนมาปีที่จอมมารเข้าเรียนปีหนึ่งพอดีเป๊ะ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายจริงๆ เห้อ~เมอร์ลินเป็นพยานโลกเวทย์มนต์ต้องการอะไรจากชีวิตผมกันแน่
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าตอนนี้...ร่างที่ผมอยู่นั้นมาติดแหงกในปี1938ในตระกูลที่ไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์เพราะตระกูลนี้ไม่มีใครเหลืออยู่ที่จะใช้นามสกุลนี้เลยซักคน ถ้าอิงตามประวัติศาสตร์หล่ะก็นะ แล้วเวทย์มนต์ต้องการอะไรจากผมกันแน่
ในระหว่างที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น โจเซฟที่อยู่มาก่อนผมก็ได้นำผมออกจากภวังค์ของตัวเอง โดยเรื่องที่มันน่าสนใจมากกว่าเรื่องนี้อีก
"นายน้อยครับนายน้อยพอจำอะไรได้บ้างมั้ยครับ "
"ผมจำอะไรไม่ได้เลยอ่ะโจเซฟ"
"ผลจากยาของคุณท่านคงเยอะเกินไปเลยทำให้เกิดผลข้างเคียงเยอะตามสินะครับ"
หือ ชักสงสัยแล้วแฮะว่ายานี่มันคือยาอะไรไว้สำหรับทำอะไร ทำไมดูอัตรายจัง
"โจเซฟ"
"ครับ"
"เอ่อ. . .ไอ้ยาที่ว่านี่มันยังไงหรอโจเซฟ"
ผมถามพร้อมสะกิดโจเซฟเพื่อให้หันมาตอบคำถามผม
"เอ่อ. . . คุณหนูจำเรื่อง จอมมาร กิลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ไหมครับ "
"อืม ก็พอได้อยู่บ้าง เรื่องใหญ่เลยไม่ใช่หรอ"
แต่เขาก็ถูกดัมเบิ้นดอร์ปราบไปเสร็จเรียบร้อยแล้วนี่นา
"คือว่าคุณท่านหรือก็คือคุณปู่ของนายน้อย เห็นว่าอันตรายเลยปรุงน้ำยาตายทั้งเป็นที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์เวทย์มนตร์ ให้คุณหนูรับประทานต่อเนื่องกันอย่างละครึ่งช้อนในทุกๆ2อาทิตย์ โดยที่จะป้องกันนายน้อยจากจอมมารโดยใช้วิธีนี้ และผมก็จะเป็นคนป้อนยาคุณหนูจนกว่าจะครบ11ปีครับ"
"ห๊ะ…!!!ด้วยเหตุผลที่ว่าแค่นี้ถึงกับต้องทำยาบ้าๆนั่นออกมาเลยหรอ "
"ครับ น่านท่านเป็นห่วงนายน้อยจริงๆนะครับ อย่าได้ถือสาคุณท่านเลยนะครับ"
"ครับ ผมรู้ครับ"
ต่าแก่เฮงซวย!!! เป็นคำแรกที่อย่างจะเอ่ยออกไป แต่ก็เข้าใจเหตุผลดีเหมือนกันที่คุณปู่เขาทำลงไปก็เพราะรักหลานมากจริงๆ แต่ตัวผมเองจะบ้าตายจริงๆเฮ้อ ถึงว่าเพราะการกระทำบ้าๆนี่สินะที่ไม่มีเห็นในประวัติศาสตร์
"แล้วมีอีกอย่างที่นายน้อยต้องรู้เอาไว้นะครับ"
"อ่า อะไรอ่ะ?"
"ในอีก5วันคุณหนูจะต้องรับการเข้าเรียนที่โรงเรียนฮอกวอตส์ครับ "
ห๊ะ งั้นแปลว่าจะได้เจอจอมมารจริงๆอ่ะหรอ แต่ถ้าเป็นจอมมารในตอนนี้เราอาจเปลี่ยนใจเขาไม่ให้ทำอะไรแบบนั้นก็ได้นะ
อืม. . .สงสัยว่าเมอร์ลินอาจจะให้โอกาสผมมาเปลี่ยนแปลงจอมมารก็ได้ เพราะถ้าจอมมารเปลี่ยนพ่อกับแม่และทุกคนก็จะไม่ตาย ผมตัดสินใจแล้วว่าต้องเป็นเพื่อนจอมมารให้ได้ เอ๊ย ไม่ใช่สิ ต้องเป็นเพื่อนกับ ทอม ริดเดิ้นให้ได้
"แต่เอ๊ะปกติพ่อบ้านจะเป็นเอลฟ์ไม่ใช่หรอแล้วทำไมนายถึงเป็นมนุษย์หล่ะโจเซฟ-อุ๊บ "
ผมเผลอพลั้งปากออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองอีกแล้ว
"คือว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณที่รับผมเข้ามาทำงานที่นี่หลังตกงานนะครับนายน้อย"
"อ๋อ ~อย่างนี้นี่เอง นายคงไม่ถือสาคำพูดเมื่อกี้ของฉันใช่มั้ย"
"ไม่ครับ ถ้านายน้อยสงสัยผมพร้อมจะตอบ "
"แล้วมีอีกอย่างที่นายน้อยต้องทำก่อนไปเตรียมฮอกวอตส์ไม่ใช่หรอครับ"
"อ๊ะ อุปกรณ์เวทย์มนต์"
"ครับ นายน้อยจะให้ผมเตรียมให้หรือนายน้อยจะเตรียมเองหรอครับ ผมให้นายน้อยตัดสินใจครับ โปรดตอบด้วยครับ"
"ผ. . ผมเตรียมเองได้ครับ แค่ไปส่งที่ตรอกไดแอกอนก็พอครับ แล้วมีเวลาเท่าไหร่ในการเตรียมของหรอ"
"ประมาณอาทิตย์นึงไม่ขาดไม่เกินครับ"
"งั้นวันนี้ผมจะพักฟื้นแล้วก็อีกวันโจเซฟพาผมไปตรอกไดแอกอนด้วยนะ"
"ตามบัญชาขอรับ"
********
หลังจากวันนั้น4วัน ผมก็เอาแต่ขลุกตัวอยู่ภายในหอสมุดของตระกูลเพฟเวอร์เรลล์ทั้งวันทั้งคืน เพื่อที่จะศึกษาตำราต่างๆที่มี แต่ถ้าพูดง่ายๆคือเบื่อนั่นแหละ เบื่อมากด้วย
เพราะว่าถึงแม้จะทำอะไรก็ได้แต่โจเซฟแทบจะไม่ยอมให้ผมทำเลย แถมยังบอกให้ผมพักผ่อนเยอะๆโครตน่าฟงุดหงิดเลย ผมไม่ใช่เด็กน้า!!! แต่ทว่าสุดท้ายก็ถึงวันที่รอคอย วันที่5ที่ต้องไปซื้อของก่อนเข้าเรียนก็มาถึงจนได้ บันไซ ! ได้ออกไปข้างนอกสักที!!!
.
.
.
ณ ตรอกได้แอกอน
โจเซฟได้ยื่นกระดาษที่กำหนดว่าต้องใช้อะไรบ้าง
โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์
**ฮอกวอตส์**
เครื่องแบบ
สำหรับนักเรียนปีหนึ่ง
1เสื้อคลุมปฏิบัติการแบบเรียบ3ชุด(สีดำ)
2หมวกแหลมไม่มีลายสำหรับใส่เวลากลางวัน3ใบ(สีดำ)
3ถุงมือป้องกัน1คู่(หนังมังกรหรือใกล้เคียง)
4เสื้อคลุมหน้าหนาว1ตัว(สีดำ สายรัดสีเงิน)
โปรดทรายว่าเสื้อผ้านักเรียนทุกตัวต้องติดป้ายชื่อ
หนังสือเรียน
นักเรียนทุกคนต้องมีหนังสือตามรายการนี้อย่างละ1เล่ม
ตำราคาถามาตรฐาน(ปีหนึ่ง)โดยมิรันดา กอชฮ็อก
ประวัติศาสตร์เวทมนตร์ โดย บาธิลดา แบ็กช็อก
ทฤษฎีเวทมนตร์ โดย อดัลเบิร์ต วัฟฟลิง
คู่มือแปะลงร่างเบื้องต้น โดย เอ็มเมริก สวิทช์
สมุนไพรและเห็ดราวิเศษพันชนิด โดย ฟิลิดา สปอร์
ยาวิเศษและยาพิษ โดย อาร์เซเนียส จิกเกอร์
สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ โดย นิวท์ สคามันเดอร์
พลังมืด:คู่มือป้องกันตัวเอง โดย ควินติน ทริมเบิล
อุปกรณ์อื่นๆ
ไม้กายสิทธิ์1อัน
หม้อใหญ่1ใบ(ดีบุกผสมตะกั่ว ขนาดมาตรฐานเบอร์2)
ขวดแก้วหรือแก้วเจียระไน1ชุด
กล้องส่องทางไกล1กล้อง
ตาชั่งทองเหลือง1ชุด
นักเรียนนำนกฮูก หรือแมว หรือคางคก มาด้วย1 ตัว
ผู้ปกครองโปรดทราบว่า นักเรียนปีหนึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้มีไม้กวาดของตัวเอง
และนั่นเป็นหน้าสุดท้ายที่ผมอ่าน เฮ้อ ของเยอะเหมือนเดิมเลยแฮะ ผมได้พาตัวเองออกมาตะลุยภายในตรอกไดแอนกินครั้งแรกในรอบอาทิตย์ รู้สึกสดชื่นม๊ากมาก และร้านแรกที่เรามาถึงคือร้านตัดเสื้อของมาดามมักกิ้น เธอเป็นคุณป้าอายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นมาดามมักกิ้นเธอใจดี และเป็นที่น่าเคารพนับถือ
'กริ๊ง'
หลังจากเสียงกริ่งดังขึ้น ไม่นานนักมาดามมักกิ้นก็ออกมาเจอหน้าผมและกล่าวสวัสดีด้วยท่าทางอ่อนโยน
"สวัสดีนะจ๊ะ เธอก็เข้าโรงเรียนฮอกวอตส์ใช่ไหม หือ"
"ครับ ปี1"
"งั้นมาวัดชุดกันเลย"
หลังจากนั้นเธอก็วัดตัวผม ด้วยสายวัดตัวที่ทาบไปทาบมาอยู่ที่ตัวผม ผ่านไปสักพัก ชุดของผมก็เสร็จสิ้น
หลังจากได้ชุดและผมก็จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วผมก็มุ่งหน้าไปร้านต่อไปเลย อาทิ เช่นร้านขายกระดาษ,ปากกา,พวกหนังสือ, หม้อปรุงยา, ขวดแก้ว,ตาชั่งทองเหลืองและสิ่งที่เป็นสิ่งยิบย่อย จากร้านบรรจงหมึก
และหลังจากที่ได้ของแล้วผมก็ได้เดินไปที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงใกล้ๆ เขาเดินดูไปรอบแต่ก็ไมทถูกใจอะไรเลย ถาจะเลี้ยงนกฮูกเหมือนเดิมมันก็เบื่อแย่ งั้นเราจะเอาอะไรดีหล่ะ...
เอ๊ะ ทันใดนั้นก็มีงูตัวหนึ่งเกล็ดสีขาวมันวาวจ้องมองอย่างอ้อนๆมองผมอยู่ในกรง ซึ่งมันเป็นงูขนาดกลางๆม่ใหญ่มาก และแถมด้วยดวงตาสีอเมทิสต์ดูแปลกตา มันอ้อนผมด้วยสายตาเว้าวอน และผมก็ดดนมันตกเข้าจังๆ อืม ....เอาไงดีเนี่ย...
"ซื้อแกเนี่ยหล่ะ Ok "
หลังจากนั้นเจ้าของร้านนำมันมาใส่กรงแล้วยื่นให้ผม พอจ่ายเงินเสร็จสรรพ ยังไม่ทันได้ตั้งซื่อเจ้างูตัวนั้นผมก็เดินมาที่ร้านสุดท้าย ที่ผมคิดถึงยามแรกเมื่อมา
นั่นก็คือร้านขายไม้กายสิทธิ์โอลิแวนเดอร์ จากการเปิดประตูเข้าไปเสียงกริ่งก็ได้ดังขึ้นภายในร้าน เป็นสัญญาณเตือนว่ามีลูกค้าเข้ามา โอลิแวนเดอร์ก็ได้เอ่ยกล่าวคำว่าสวัสดีทันที
"สวัสดี โปรดรอสักครู่"
พอเขาพูดเสร็จเขาก็หันไปเลือกไม้กายสิทธิ์ให้กับเด็กผู้ชายอีกคนที่เข้ามาก่อนผมทันที และด้วยความสงสัยผมก็เลยเหลือบมองไปข้างๆทันที ซึ่งสิ่งที่ปรากฏให้เห็นคือเด็กผู้ชายตัวเล็ก ผมของเขาเป็นสีดำสนิทสวยรับกับใบหน้า
ซึ่งเขามีสีหน้าท่าทางที่เย็นชากับทุกสิ่ง แต่กลับทำให้ใบหน้าหล่อๆนั่นดูดีขึ้น รับกับจมูกโด่งได้รูปพอดี แต่เมื่อมองนานๆเข้าเด็กผู้ชายที่ยืนข้างๆผมนั่นก็คุ้นหน้าคุ้นตาเหมือนกันนะเนี่ย แล้วเหมือนกับใครกันหล่ะ อืมแต่ว่าเรียนที่เดียวกันก็ต้องเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าให้ผมมีเพื่อนมันก็ดีกว่านั่งอยู่คนเดียว เพราะงั้น. . . ผมก็เลยตรงเข้าไปหาเด็กคนนั้นทันที
"สวัสดีฉันชื่อเจโรนิส เพาเวอร์เรลล์ ยินดีที่ได้จักนะ เอ่อ. . ."
"ทอม ริดเดิ้น"
เขาตอบมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด แจ่ก็ยังต้องขอบคุณเขาที่ยังคงมีมารยาทขั้นพื้นฐานอยู่บ้าง น่านับถือ น่านับถือ
"อืม . . .ทอม ริดเดิ้น ยินดีที่ได้รูจัก"
ทอมลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะตัดสินใจยื่นมือมาจับกับผมซึ่งเป็นจังหวะพอดีกับที่ไม้กายสิทธิ์ของโอลิแวนเดอร์ ได้วางไว้ให้เขาเลือก
"ผมเลือกอันนี้"
ทอมเอ่ยขึ้นก่อนที่จะจับไม้ฮอลลี่ แกนกลางขนนกฟีนิกซ์สิดเอ็ดนิ้ว ดีและยืดหยุ่น ซึ่งนั่นเป็นไม้อันแรกที่เลือกเขาเลือกในร้านแห่งนี้
หรือว่า. . . เขาคือ จอมมาร จอมมาร ชื่อเดิมว่าอะไรนะ ? อืม . . .ทอม ริดเดิ้น ชื่อเหมือนเปี๊ยบ แต่ดูท่าทางตอนเด็กทอมเขาไม่เห็นชั่วร้ายเลยสักนิดเดียว เขาเป็นจอมมารที่ผมรู้จักจริงๆเหรอ ทำไมผมแค่รู้สึกว่าเขาแค่หยิ่งๆและโดดเดี่ยวมากกว่าที่จะชั่วร้ายอย่างที่ผมเคยเห็น
ในนามของเมอร์ลินการที่ผมจะต้องเปลี่ยนจอมมารคือผมต้องเป็นเพื่อนกับทอมใช่ไหมนะ ใช่รึเปล่า เอแต่ว่าเรามาลองเปลี่ยนประวัติศาสตร์ดูกัน
หลังจากทอมเดินออกไปไม่นาน ผมก็รีบเลือกไม้กายสิทธิ์และทำการทดสอบมันแค่ครั้งเดียวผมก็ได้ไม้กายสิทธิ์คู่ใจมาครอง ซึ่งมันทำมากจากไพร์แกนกลางขนนกฟีนิกส์ พอได้ของแล้วผมก็ได้จ่ายเงินและเดินตามเขาไป
ผมเดินตามเขามาเรื่อยๆโดยไม่ให้ทอมจับได้ จนมาถึงที่แห่งหนึ่ง. . . . . . . .
_______________________________
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments