...****************...
...กลืนเงานั้น...
...****************...
🪟แสงจันทร์ที่ลอดผ่านช่องหน้าต่างกระจกสีบนฝาผนังห้องใต้ดินทอดเป็นลายตะกอนลงบนพื้นหิน ซารีเฟียน่ายังคงยืนนิ่ง ดวงตาหรี่เล็กจนแทบมองไม่เห็น แต่ความเข้มข้นของพลังในตัวเธอกลับทวีคูณ ดวงจันทร์เต็มดวงด้านบนยังคง “สองดวงซ้อน” เลือนรางให้เห็นเฉพาะผู้มีพลังเวทขั้นลึก
เงาดำรูปร่างไร้หน้า พุ่งทะลุอากาศตรงเข้าหาซารีเฟียน่า ราวกับต้องการกลืนกินชีวิตและจิตวิญญาณของเธอ แต่ในวินาทีนั้นเอง บรรยากาศรอบด้านราวกับหยุดนิ่ง ทุกเสียงฝีเท้า เสียงลมหายใจ ถูกดูดเข้าไปในห้วงเงียบ
ซารีเฟียน่ายังไม่ลืมตา เธอสูดลมหายใจลึก ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆ สะท้อนประกายสีทองอำพัน ภายในใจ เธอได้ยินเสียงกระซิบซ้อนขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่เสียงแห่งคำสาปเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเสียงพลัง “เลือดจันทร์” ในตัวเธอที่ตื่นขึ้น:
> “กลืนมัน… เปลี่ยนมันเป็นเลือดของเจ้าเอง
❤️🔥การปลุกพลังในตัว
ร่างเล็กของซารีเฟียน่าสั่นสะเทือนเบาๆ เมื่อพลังสายเลือดจันทร์และสายเลือด Sephora ผสมกัน เกิดประกายแสงเรืองรองจากภายในอก เผยให้เห็นลวดลายเลือดจันทร์เรืองแสงเป็นเส้นบางๆ วิ่งแผ่ขยายไปทั่วแขนจนถึงปลายนิ้ว เธอไม่หวาดกลัว แม้หน้ามืด แต่ใจแน่วแน่
ซาเนียร่าและซาบีน่ายืนล้อมข้างหลัง พร้อมคาถากันภัย ทั้งสองรู้ดีว่าหากเงานั้นพุ่งเข้าทำลาย แรงปะทะอาจทำร้ายทุกคน แต่ซารีเฟียน่าเลือกที่จะเผชิญหน้าเพียงลำพัง เพราะนี่คือ “ชะตาที่เธอต้องแบกรับ”
ดยุกอาเธอร์ก้าวมาด้านหลัง หยุดเมื่อเห็นท่าทีมั่นคงของลูก รู้ว่าเธอเตรียมใจมาอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังห่วงจนมือขยับอยากจะหยุดยั้ง เขาพึมพำเบาๆ ราวบทสวดขอพร:
> “จงปลอดภัย อย่าเสียตัวตนไป…”
🗝️ช่วงเวลาการต่อสู้ภายใน
เงาแห่งพันธะทวีความดุร้าย มันยื่นร่างยาวประหลาดเข้ามากอดรัดซารีเฟียน่า ท่ามกลางความมืดความเยือกเย็น เงานั้นส่งเสียงดังก้องว่า:
> “เลือดของเจ้าคือกุญแจ… เจ้าควรยอมรับชะตากรรม ดำรงอยู่ใต้พันธะนิรันดร์!”
แต่ซารีเฟียน่ายังคงนิ่ง สายเลือดจันทร์ในตัวเธอส่งพลังสะท้อนกลับ เธอร่ายบทเวทในใจ ใช้เสียงหัวใจของตนเองเป็นเครื่องร่าย:
> “เลือดนี้... ของฉัน... จะไม่เป็นทาสแก่ใครอีก!”
ประกายอำพันจางๆ แผ่ขยายออกจากตัวเธอ เป็นเหมือนเปลวไฟเย็นที่ไม่เผาไหม้เนื้อหนัง หากแต่เผาไหม้ “พันธะ” อย่างช้าๆ
เงาดำกรีดคำสบถอย่างโหยหวน มันพยายามบดขยี้ความเข้มแข็งของเธอ ทว่าเมื่อซารีเฟียน่าก้าวย่างก้าวแรก ดวงตาเธอยังคงปิดสนิท แต่พลังในอกเธอก้าวขึ้นสูงจนทำให้ห้องใต้ดินสั่นไหว
การกลืนเงา🖤
ณ วินาทีนั้น ร่างของซารีเฟียน่าเปิดเปลือยต่อพลัง เมื่อเงาดำพยายามกัดกิน ตัวเธอกลับค่อยๆ ดึงพลังเงานั้นเข้าสู่ภายใน ผ่านช่องทางเวทในเส้นเลือด เงาดำที่เคยน่าเกรงขามเริ่มอ่อนแรง คล้ายถูกดูดซับให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเลือดจันทร์ในตัวเธอ
ซารีเฟียน่ารู้สึกทั้งเย็นและร้อนสลับไปมา—ร้อนเพราะพลัง Sephora สงวน; เย็นเพราะเลือดจันทร์ไร้น้ำหนัก ทว่าแทนที่จะทำร้ายเธอ กลับผสานและกลายเป็นพลังใหม่ เธอสูดเสียงยาว ดวงตาอำพันลืมขึ้นช้าๆ แสงเรืองจากภายในเปล่งประกายเจิดจ้าราวดวงจันทร์ที่แผดเผาเย็น
เสียงกรีดร้องของเงาแห่งพันธะ ค่อยๆ เงียบลง เมื่อถูกกลืนเข้าสู่ร่างซารีเฟียน่า มันถูกแปรเปลี่ยนเป็นเส้นเลือดเวทใหม่ประดับในหัวใจเธอ เมื่อสุดท้าย เงาดำเหล่านั้นสลายตัว แต่ทิ้งความรู้สึกหนักแน่นในตัวเธอ—ว่าเธอได้ “รับ” สิ่งนั้นไว้ในเลือดตนเองแล้ว
ซาเนียร่าและซาบีน่ายืนอ้าปากค้างเมื่อเห็นแสงระยิบจากร่างน้อง พ่อเงียบไปชั่วครู่ ก่อนค่อยเดินเข้ามาจับไหล่เธออย่างระมัดระวัง
> “ลูก... ทำได้จริงๆ เหรอ?”
ซารีเฟียน่ายิ้มบางๆ ดวงตาอำพันทอประกายดุจพลบค่ำผสานแสงจันทร์สองชั้น เธอตอบเสียงนุ่มแต่หนักแน่น:
> “ฉันเลือกที่จะไม่เป็นเหยื่อ แต่จะเป็นผู้กำหนดชะตาตัวเอง… และใช้พลังนี้ปกป้องพวกเธอและเลือดของเรา”
🔮ผลลัพธ์และพลังใหม่
การผสานเลือดจันทร์-Sephora: หลังกลืนเงา ซารีเฟียน่าพบว่าเส้นเลือดเวทภายในเธอมีความสมดุลใหม่ พลังที่เคยถูกจองจำได้รับอิสระเมื่ออยู่ภายใต้การควบคุมของจิตใจเธอเอง
พลังควบคุมเงา: เงาทุกชนิดภายใต้คำสาป สามารถถูกเปลี่ยนเป็นพลังสนับสนุน หรือสร้างโล่เงาดำปกป้องได้ หากเธอตั้งใจใช้
จิตใจที่เข้มแข็งขึ้น: การกลืนเงาไม่ใช่แค่เรื่องเวท แต่เป็นการเอาชนะความกลัวภายใน เธอเรียนรู้ว่าเลือดจันทร์ไม่จำเป็นต้องหมายถึงพันธะนิรันดร์ หากแต่เป็นพลังเพื่อ “เลือก”
พันธะเดิมถูกทำลายบางส่วน: พลังแห่งพันธะโบราณที่เคยล่าตามจะอ่อนลงไปมาก ชั่วขณะหนึ่งพวกเงาจากคำสาปอาจไม่สามารถก้าวเข้ามาได้โดยง่ายอีกต่อไป
ดยุกอาเธอร์มองลูกสาวด้วยน้ำตาคลอ รู้ทั้งดีว่านี่คือหนทางที่เสี่ยง แต่ก็ภาคภูมิใจ:
> “เลือดของเจ้า... ล้ำค่าเกินกว่าที่ข้าจะคาดคิด”
ซาบีน่าเดินเข้ามา สบตาน้องสาว:
> “ดวงตาเจ้านั้น... เหมือนกลืนแสงจันทร์ทั้งฟ้าไว้ในตัว”
ซารีเฟียน่ายิ้มรับ บรรยากาศในห้องใต้ดินคลายความเย็นยะเยือก แม้ฝุ่นเวทยังล่องลอย แต่ความรู้สึกอึดอัดถูกแทนที่ด้วย “ความหวังใหม่”
.จุดเริ่มต้นใหม่และเงาที่ยังเหลือ.
แม้ซารีเฟียน่ากลืนเงาหลักได้สำเร็จ แต่เงาอื่นๆ ที่ถูกพันธะเรียกใช้ยังมีอยู่รอบโลก:
เงาที่อาจแฝงอยู่ในตระกูลอื่น หรือในสถานที่ที่เคยมีพิธีสาบาน
เสียงกระซิบของเทพแห่งรัตติกาล ยังคงโหยหวน เรียกหาการกลับมาของพันธะเต็มรูปแบบ
ภัยจากผู้ล่าตระกูลเลือดจันทร์ที่อาจปรากฏตัว เพราะพลังในตัวซารีเฟียน่าเพิ่งประกาศการมีอยู่แก่โลก
ดยุกอาเธอร์จึงกล่าวเบาๆ:
> “นี่เป็นเพียงก้าวแรก ลูกอาจต้องเดินทางไกล เพื่อค้นหาต้นตอคำสาป และหา “รอยแยก” ในสัญญาโบราณนั้น”
ซารีเฟียน่าพยักหน้าแน่วแน่:
> “ฉันจะพาเงาส่วนที่เหลือมาสู่ฉัน แล้วกลืนมันอย่างที่กลืนคราวนี้—จนกว่าพันธะจะถูกทำลายสิ้น”
ซาเนียร่าปิดหนังสือเวท ยื่นมือให้เธอ
> “ฉันจะไปด้วย จะช่วยค้นหาบันทึกโบราณ และร่ายเวทคุ้มกันขณะเดินทาง”
ซาบีน่ายิ้มบางๆ
> “ฉันจะใช้พลังอ่านใจ เพื่อหาภัยที่แฝงตัว และคอยเตือนพวกเรา”
ดยุกอาเธอร์กุมมือน้องสาวทั้งสามไว้พร้อมกัน:
> “ลูกทั้งสามคืออนาคตของตระกูล เราจะร่วมกันเดินเส้นทางนี้”
...ΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩ...
...ซารีเฟียน่าใช้พลังกลืนเงาแห่งพันธะสำเร็จ ...
...เกิดพลังใหม่ แต่การเดินทางเพื่อทำลายคำสาปยังคงอยู่...
...ΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩ...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments