ตอนที่5
หญิงสาวเห็นเช่นนี้ไม่เป็นการดีแน่
นางไม่ลังเลที่จะกัดริมฝีปากของคนอีกผู้ที่นางนั้นยังไม่รู้จัก
ก่อนที่นางจะผลักร่างใหญ่แล้วลุกหนีไป
เสิ่นตงหยาง
(ยื่นมือมาแตะที่ริมฝีปากอย่างเบาๆ ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ) แมวน้อย
ปี่อั้นรีบออกจากศาลาหลิงหลง หวังว่าคนอีกผู้จะไม่ตามนางมาอีก
มู่หยางที่ออกจากตำหนักซีก็เดินมายังศาลาหลังหลงเพื่อจะมาคืนของให้คนที่พบเจอครั้งก่อน
แต่กลับไร้ร่องรอยไม่พบเจอสิ่งใด
ยืนรออยู่นานก่อนจะเดินออกจากศาลาไป
เท้าของเขานั้นเหยียบโดนของบางอย่างเข้า
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
เสื้อคลุมของข้านี่
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
งั้นคืนนี้นางต้องมา แล้วคนล่ะ
มู่หยางรู้สึกกังวลเล็กน้อย
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
จะเกิดอะไรกับนางหรือไม่
เสิ่นตงหยาง
ฝ่าบาท ไม่พักตำหนักซี มาทำอะไรที่นี่
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
ตงหยาง เจ้าเห็นผู้หญิงผอมๆ ตาโตๆ หรือไม่
เสิ่นตงหยาง
"หมายถึงปี่อั้นสินะ"
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
เช่นนั้นเจ้าช่วยเราสืบหน่อยว่านางเป็นนางกำนัลอยู่ตำหนักไหน
เสิ่นตงหยาง
นี่ดึกแล้ว ฝ่าบาทรีบกลับตำหนักเถอะ
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
ได้ เจ้าต้องช่วยตามหานางให้ข้านะ
ปี่อั้นนอนดิ้นไปมา ทุกครั้งที่หลับตาลง มักจะเห็นภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ไปหาไม่หยุดหย่อน ใจของนางพลางเต้นตุบตุบตามไปด้วย
หลัวปี่อั้น
(ตุบตุบ) ทำไมใจเต้นแรงขนาดนี้
หลัวปี่อั้น
ไอ้คนบ้ากาม ขออย่าได้เจอกันอีกเลย
เสิ่นตงหยาง
หึ!!....น่าสนใจ
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
ท่านแม่ (เคารพ)
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
(พยักหน้า)
ไทเฮา
เช่นนั้นก็เริ่มงานเลย
หลิวหลาง (หลิวเฟย)
ไทเฮาเพคะ หม่อมฉันได้เตรียมหยกหรูอี้ชิ้นหนึ่ง มาถวายไทเฮา ขอไทเฮาทรงอายุยืนเพคะ
ไทเฮา
หยกหรูอี้ เป็นหยกที่หายาก มีชิ้นเดียว
ไทเฮา
เราชอบมาก เจ้าใส่ใจแล้ว
หลิวหลาง (หลิวเฟย)
เป็นสิ่งที่หม่อมฉันควรทำเพคะ
หยางจิ่ง
ไทเฮาเพคะ หม่อมฉันไม่ได้เตรียมของขวัญสิ่งใดให้ มีเพียงบทเพลงหนึ่งจะร่ายรำถวายไทเฮาเพคะ
หยางจิ่ง
(ย่อเคารพก่อจะร่ายรำ)
หยางจิ่งเติบโตมาในครอบครัวแม่ทัพ นางจึงเลือกรำกระบี่ ช่างเป็นการร่ายรำที่แตกต่างจากเหล่านางรำในวัง
ท่าทางที่อ่อนช้อย แต่กลับแสดงได้ถึงความแข็งแกร่ง ท่าทางที่ฝักฝ่ายปลายกระบี่ออกไปนั้น ใบหน้าอันคมๆนั้น ช่างดูราวกลับทหารหญิงที่ห้าวหาญก็มิปาน
เสียงตบมือ..ดังขึ้นหลังจากการร่ายรำจบลง
ต่อไปเป็นการแสดงจากกองสังคีต
ดนตรีที่บรรเลงตรงหน้าผู้คนมากมาย บทเพลงอวยพรแบบสากล แต่กลับใช้ดนตรีตามแบบจีนนั้น ช่างไพเราะไปอีก
ไทเฮาชมไม่หยุดปาก ทรงชื่นชอบบทเพลงนี้มากทีเดียว
ซ่างกวนหยา
(ส่งยิ้มหวานให้ปี่อั้น)
หลังจบการบรรเลงเสียงตบมือแรกที่ดังขึ้นกลับเป็นซ่างกวนหยาที่ดูเหมือนจะมีความสุขกว่าไทเฮาเสียอย่างนั้น
ทำให้ผู้คนต่างพากันมองมาทางนาง
ก่อนไทเฮาจะปรบมือตาม ดึงสถานการณ์กลับมาตามเดิม
เกาจิ่นมี่
หยาเฟย เจ้าดูมีความสุขกว่าไทเฮาเสียอีกนะ
ซ่างกวนหยา
(สงบเสงี่ยม ทำตัวไม่ถูก)
ไทเฮา
ไม่โทษเจ้า บทเพลงนี้ไพเราะมาก อีกอย่างบทเพลงนี้เป็นแบบสากล แต่ใช้เครื่องดนตรีแบบจีน ช่างเป็นความคิดที่ดี
ไทเฮา
เด็กน้อยเช่นเจ้ากลับสนใจเพียงนี้
ซ่างกวนหยา
เพคะ...(เขินอาย)
ไทเฮา
ข้าชอบบทเพลงนี้ยิ่งนัก ตกรางวัล
หลิวหลาง (หลิวเฟย)
เอ๋!! หยาเฟย เจ้ามีชื่อเสียงเรื่องการร่ายรำที่สุดในเมืองหลวง มิสู้วันนี้เจ้าร่ายรำสักบทเพลง ให้พวกเราได้ชื่นชมเสียหน่อย
ซ่างกวนหยา
เออ!! เป็นข่าวลือเพคะ หม่อมฉันพอเป็นเล็กๆน้อยๆ
เกาจิ่นมี่
อย่างไรเสีย วันนี้ก็เป็นงานเลี้ยงในครอบครัว เจ้าก็อย่าถ่อมตนไปหน่อยเลย
ซ่างกวนหยา
(มองไปทางไทเฮา) เพคะ
ซ่างกวนหยา
ไทเฮาเพคะ หม่อมฉันขอนางกำนัลกองสังคีต ช่วยบรรเลงเพลงให้หม่อมฉันได้หรือไม่
ซ่างกวนหยาเดินตรงมาทางปี่อั้น ก่อนขอให้ช่วยบรรเลงเพลงให้
ปี่อั้นมิอาจปฏิเสธต่อหน้าฝ่าบาท ไทเฮาได้
ปี่อั้นถือพิณในมือ เดินมาตรงหน้า ก่อนจะเริ่มบรรเลงพิณ
บทเพลงอันอ่อนหวาน ไพเราะ มือเรียวยาวเคลื่อนดีดตามสายพิณ
ตรงหน้า ลานอันกว้าง ซ่างกวนหยาชุดสีชมพูปัดด้วยสีขาวของไข่มุก ร่างกายเล็กๆกำลังเคลื่อนย้ายตามจังหวะพิณอย่างอ่อนช้อย
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
(มองลงมาทางลานแสดง)
มู่หยางมองมาทางปี่อั้นแต่กลับไม่ได้สะดุดใจอย่างใด ก่อนจะหันมาสนใจผู้คนที่ร่ายรำตรงหน้าตน
แต่กลับมีสายตาอีดคู่ที่มองมาทางปี่อั้นอย่างสนใจ ไม่ละสายตาแม้แต่เพียงกระพริบตาเดียว
เขาจดจ่อมองทางตั้งแต่หัวจรดเท้า ทุกช่วงท่าทางที่นางกำลังดีดพิณนั้น ทำให้นางดูสวยงามที่สุดในใจเขาอย่างนั้น
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
(ปรบมือ)
เสียงตบมือฝ่าบาทหนุ่มดังขึ้นหลังหยาเฟยร่ายรำจบ การร่ายรำที่อ่อนช้อยสวยงามของนางเป็นที่ต้องตาเขายิ่งนัก
หลิวหลาง (หลิวเฟย)
หยาเฟยร่ายรำได้เก่งและงดงามสมคำร่ำลือ
ซ่างกวนหยา
หลิวเฟยชมเกินไปแล้ว
บทสนทนาในตำหนักอย่างสนุกสนาม
กองสังคีตเมื่อแสดงเสร็จก็กลับสำนักไป
ถานถาน
ปี่อั้น วันนี้เจ้าเก่งจัง
ถานถาน
ปี่อั้น เจ้ากับหยาเฟยก็เป็นคนในจวนซ่างกวนเช่นกัน
ถานถาน
แต่ดูเจ้าสิ กลับเป็นเพียงนางกำนัลตัวเล็กๆในกองสังคีต แต่หยาเฟยกลับสูงส่ง งดงาม
ถานถาน
ไม่ยุติธรรมกับเจ้าเลย
หลัวปี่อั้น
อย่าพูดมาก เดียวมีคนได้ยินเข้าจะเป็นเรื่อง
หลัวปี่อั้น
อีกอย่างข้าไม่ได้ชอบฝ่าบาท ไม่ได้อยากเป็นนางสนมฝ่าบาทด้วย
หลัวปี่อั้น
ตัวข้าน่ะ รอวันเวลาออกจากวัง
ถานถาน
นี่ปี่อั้น หลังได้ออกจากวังเจ้าอยากจะทำอะไร
หลัวปี่อั้น
ข้าหรือ ไม่รู้สิ คงทำสวนเล็กๆ หรือเปิดแผงขายของ หรือคงเปิดโรงดนตรีเล็กๆรับสอนพวกเด็กๆกระมัง
ถานถาน
ข้าว่าอันสุดท้ายเหมาะกับเจ้าที่สุด ส่วนตัวข้า..ข้า..ไว้ค่อยคิดแล้วกัน
หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ปี่อั้นกำลังจะก้าวออกจากห้อง
ถานถาน
นี่เจ้าจะไปไหน ดึกเช่นนี้แล้ว
หลัวปี่อั้น
ข้าไปเดินเล่น เจ้าจะไปด้วยหรือไม่
ถานถาน
ไม่ล่ะ ข้าเหนื่อยจะตาย เจ้าไปคนเดียวเถอะ อย่ากลับมาดึกนักล่ะ เดี๋ยวอาจารย์เหยาจะว่าได้
หญิงสาวในอาภรณ์สีเขียวอ่อนๆ ผมเงาดำสยายตามสายลมอ่อนๆ
เสียงทุ้มต่ำเรียกจากด้านหลัง ทำเอาอีกคนพลอยตกใจไปด้วย
หลัวปี่อั้น
นี่เจ้าอีกแล้ว คนบ้ากาม
เสิ่นตงหยาง
(ยกคิ้วข้างหนึ่ง)
เสิ่นตงหยาง
บ้ากาม ข้าเปล่าสักหน่อย เจ้าเริ่มก่อนต่างหาก
เสิ่นตงหยาง
ข้าเปล่านะ ข้าแค่อยากมาเดินเล่น
หลัวปี่อั้น
เช่นนั้นก็ตามใจ
เสิ่นตงหยาง
เจ้ามาหาเสื้อคลุมตัวสีดำนั่นหรือ
ปี่อั้นรีบหันกลับมาอย่างรวดเร็วจนชนเข้ากับแผ่นอกอันแน่นของฝ่ายตรงข้าม
นางค่อยๆแหงนหน้าขึ้น ดวงตาอันกลมโตประสบกับดวงตาเรียวยาวสีดำอีกคู่
เสียงเต้นของหัวใจสองดวงดังขึ้นเรื่อยๆ
ปี่อั้นรีบดึงตัวเองตื่นจากภวังค์
หลัวปี่อั้น
เจ้ารู้ได้อย่างไร
เสิ่นตงหยาง
วันนั้น ตอนที่เจ้าจ.
เสิ่นตงหยาง
วันนั้นหลังจากเจ้าไปแล้ว กลับทิ้งเสื้อคลุมบุรุษสีดำไว้ ข้าจึงเก็บไว้
เสิ่นตงหยาง
(ยิ้มเจ้าเลห์)
หลัวปี่อั้น
เจ้ายิ้มอะไร คืนของข้ามา
เสิ่นตงหยาง
เสื้อตัวนั้นเป็นของเพื่อนข้าเอง ข้าคืนเขาไปแล้ว
หลัวปี่อั้น
เขาคือเพื่อนของเจ้าหรือ
หลัวปี่อั้น
เช่นนั้นฝากเจ้าไปขอบคุณเขาด้วยได้หรือไม่
ท่าทางอ่อนโยน และน่ารักนี้ของนาง กลับทำให้ในใจตงหยางรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
หลัวปี่อั้น
เช่นนั้นก็หมดห่วง
ปี่อั้นหันหลังกลับอย่างสบายใจ
แต่ตงหยางกลับรู้สึกในใจของเขาผิดปกติไป
เขารีบเดินขวางตรงหน้านางอย่างรีบร้อน
เสิ่นตงหยาง
ปี่อั้น เจ้าไม่อยากรู้จักข้าหรือ
เสิ่นตงหยาง
แล้วเจ้าไม่อยากรู้หรือว่าข้ารู้จักชื่อเจ้าได้อย่างไร
หลัวปี่อั้น
ไม่นะ ข้าเป็นนางกำนัล ไม่ได้ปกปิดชื่อแซ่อยู่แล้ว
คำตอบของนางทำให้เขารู้สึกเจ็บแปล๊บๆในใจ
เสิ่นตงหยาง
ปี่อั้น ข้าเป็นองครักษ์ในวัง ชื่อเสิ่นตงหยาง หากเจ้ามีเรื่องอยากให้ข้าช่วย มาหาข้าได้ตลอด
เสิ่นตงหยาง
ข้าตงหยางจะช่วยเจ้าอย่างสุดความสามารถ
หลัวปี่อั้น
(สีหน้าสงสัย) ข้าไม่มีอะไรให้เจ้าช่วย
หลัวปี่อั้น
งั้นข้ากลับก่อนนะ
ปี่อั้นเดินออกไป สอง สาม ก้าวก่อนจะหยุดเดิน และหันกลับมาทางชายหนุ่ม
หลัวปี่อั้น
เจ้าอย่าลืมขอบคุณเพื่อนเจ้าแทนข้าล่ะ
ชายหนุ่มได้เพียงแต่ยืนดูร่างบางเดินออกไปทีละก้าวจนหายลับจากสายตาโดยไม่หันกลับมามองเขาแม้เพียงหางตา
หยางจิ่ง
หม่อมฉันถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
(โบกมือให้ลุกขึ้น)
หยางจิ่ง
หม่อมฉันไม่ทราบฝ่าบาทจะเสด็จมา จึงไม่ได้ต้อนรับดีเพคะ ขอฝ่าบาทอภัยด้วย
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
ไม่เป็นไร เป็นข้าที่รีบร้อนมาเอง
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
บทเพลงที่เจ้าร่ายรำวันนี้งดงาม และยังแสดงถึงความจงรักภักดี
หยางจิ่ง
เพคะ หม่อมฉันและตระกูลหยางจะจงรักภักดีต่อฝ่าบาท ต่อใต้หล้าเพคะ
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
หึ!! ภักดี
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
หยางเฟย เจ้าไม่รู้หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้
หยางจิ่ง
(งวยงง) รู้อะไรเพคะ
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
หยางลิ่ง แม่ทัพที่ข้าไว้ใจให้ประจำชายแดนตะวันออก ฉ้อโกงเสบียงอาหารทหารเข้าคลังส่วนตัว
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
เจ้าที่เป็นลูกสาวกลับบอกไม่รู้ เจ้าคิดว่าเราจะเชื่อหรือ
หยางจิ่ง
ท่านพ่อไม่มีทางทำเช่นนี้ ฝ่าบาทต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดเป็นแน่
หยางจิ่ง
ท่านพ่อสอนหม่อมฉันให้กตัญญู และดูแลฝ่าบาทให้ดี จะโกงเสบียงได้อย่างไร ต้องมีคนใส่ร้ายท่านพ่อแน่เพคะ
หยางจิ่ง
ฝ่าบาทโปรดตรวจสอบด้วย
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
ข้าย่อมตรวจสอบแน่
พูดจบฝ่าบาทหนุ่มเดินออกจากตำหนักอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก
เสียงร้องขอ สะอื้น ตามแผ่นหลังสูงใหญ่ อย่างไม่เป็นผล
หยางจิ่งพยายามขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทหลายครั้งกลับไม่เป็นผล
จนมีการตรวจสอบและจับตัวหยางลิ่งเข้าคุกหลวง
หยางจิ่ง
ข้ามาเยี่ยมท่าน มีเวลาไม่มากนัก
หยางจิ่ง
ท่านเป็นอย่างไรบ้าง
หยางลิ่ง
ข้าไม่เป็นไร มีคำพูดหนึ่งที่พ่ออยากจะพูดกับเจ้า
หยางลิ่ง
เจ้าอยู่ในวังต้องระวังคนผู้หนึ่งให้มาก
หยางจิ่ง
ใคร คนผู้นี้มีอำนาจมากหรือถึงทำให้ท่านพ่อต้องโดนลงโทษเช่นนี้
หยางจิ่ง
ข้าจะไปบอกกับฝ่าบาท
หยางลิ่ง
ไม่มีประโยชน์อะไร ทุกอย่างล้วนเป็นพ่อเป็นคนก่อเอง
หยางจิ่ง
หมายความว่ายังไง ข้าไม่เข้าใจ
หยางลิ่ง
จำคำพ่อไว้ ต้องระวังคนผู้นี้ให้มาก อย่าเป็นคู่แข่งกับนางเลย
ก่อนจากกันหยางลิ่งได้มอบจดหมายฉบับหนึ่งให้หยางจิ่ง
ฝ่าบาทมีราชโองการละเว้นโทษประหารตระกูลหยาง ให้เนรเทศผู้ชายไปชายแดนเหนือ ผู้หญิงไว้ชีวิตได้
หยางจิ่ง
หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงไว้ชีวิตคนตระกูลหยางเพคะ
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
ถึงหยางลิ่งจะโกงเสบียงมากมาย แต่เห็นแก่ผลงานที่ตระกูลหยางก็ปกป้องชายแดนได้อย่างดี
หยางจิ่ง
หม่อมฉันจะกลับไปสำนึกผิดที่ตำหนักเพคะ
พูดจบหยางจิ่งก้มคำนับเสร็จ ก็กลับตำหนัก ท่าทางที่อ่อนแรง สายตาที่มีแต่ความเย็นชา เกลียดแค้นของบุตรสาวแม่ทัพที่เคยเป็นหญิงสาวสูงส่ง ร่าเริง และแข็งแกร่งนั้นกลับหายไปหมดสิ้น
หยางจิ่ง
ข้ามันไม่ได้เรื่อง ข้าช่วยอะไรตะกูลหยางไม่ได้
หยางจิ่ง
อิงจื่อ ข้าไม่เคยนึกเลยว่าท่านพ่อจะทำเช่นนี้ ท่านพ่อสอนข้าให้กตัญญูต่อพ่อแม่ เคารพสามี และปกป้องประเทศ แต่เขากลับ..ไม่จริงใช่หรือไม่
อิงจื่อ
พระสนมระวังจะเสียสุขภาพเพคะ
วันเวลาผ่านไป 3 เดือน ก็ยังไม่มีนางสนมคนไหนตั้งครรภ์
หยางเฟยกักตนสำนึกไม่ยอมพบใคร เกาเฟยที่พยายามเอาใจฝ่าบาทแต่กลับไม่เป็นผล หยาเฟยที่มัวแต่เอาใจไทเฮา ดูแลไทเฮาทุกวัน มีเพียงหลิวเฟยที่ฝ่าบาทเสด็จไปตำหนักบ่อยที่สุด
แต่กลับไร้วี่แววข่าวดีจากตำหนักซี
ซ่างกวนหยา
ไทเฮาเพคะ ทรงปวดหัวอีกแล้วหรือเพคะ
ไทเฮา
ไม่เป็นไรมากหรอก เพียงแต่เมื่อคืนนอนไม่หลับเท่านั้น
ไทเฮา
ดูเจ้าสิ เป็นนางสนมของฝ่าบาท แต่วันๆกลับมัวแต่เอาใจเรา เช่นนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน
ซ่างกวนหยา
ไทเฮาเพคะ มิสู้ให้หม่อมฉันแนะนำคนผู้หนึ่งให้พระองค์ดีหรือไม่
ซ่างกวนหยา
นางสามารถบรรเลงบทเพลงช่วยให้พระองค์นอนหลับได้ดีขึ้น
ซ่างกวนหยา
เช่นนี้หม่อมฉันถึงสบายใจหน่อยเพคะ
ไทเฮา
เจ้านี่ช่างรอบคอบจริงๆ
หลัวปี่อั้น
(เดินเข้าตำหนัก คำนับ)
ซ่างกวนหยา
ไทเฮาเพคะ นางคือพี่สาวหม่อมฉัน เป็นนางกำนัลกองสังคีต บทเพลงของนางสามารถช่วยให้พระองค์นอนหลับได้ดีขึ้น
ซ่างกวนหยา
เมื่อก่อนท่านย่ามีอาการปวดหัวบ่อยๆและยังนอนไม่หลับ มีเพียงบทเพลงของพี่สาวที่สามารถทำให้สงบใจนอนหลับได้เพคะ
หลัวปี่อั้น
บ่าวปี่อั้น ถวายพระพรไทเฮาเพคะ
หลัวปี่อั้น
ขอบพระทัยไทเฮา
ไทเฮา
เช่นนั้นหยางหมัวมัว เจ้าเตรียมที่พักให้เรียบร้อยด้วย
หยางหมัวมัว พาปี่อั้นเดินออกประตูข้างห้องโถงตำหนัก ไปยังที่พักของนาง
หญิงสาวลักขึ้นก้าวตามหญิงวัยชราเดินออกไป
อิ่นมู่หยาง (ฮ้องเต้)
ถวายบังคมไทเฮา
เหงาร่างบางที่พึ่งก้าวออกไปนั้นกลับสะดุดสายตาของฝ่าบาทหนุ่มให้คอยมองตาม
Comments