ตอนที่ 2: ชีวิตใหม่... และสายตาคู่เดิม

พุดตาน ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความรู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อวาน แต่ก็ยังคงมีความมึนงงกับสภาพแวดล้อมอยู่ดี

เขาขยับตัวอย่างระมัดระวัง พยายามทบทวนความจำของ 'พุดตาน' คนเดิมที่ยังหลงเหลืออยู่ในหัว ทั้งเรื่องครอบครัว เรื่องบ้าน เรื่องชีวิตประจำวัน

"คุณหนูตื่นแล้วรึขอรับ" เสียงไอ้ทองดังขึ้นจากนอกมุ้งพร้อมกับร่างที่เดินเข้ามา ทองถืออ่างน้ำอุ่นเข้ามาให้พุดตานล้างหน้าล้างตา

"อื้อ... ตื่นแล้ว" พุดตานตอบรับ หยิบผ้าขนหนูที่ทองยื่นให้ขึ้นมาเช็ดหน้า "สบายตัวขึ้นเยอะเลย"

"ดีแล้วขอรับ" ทองยิ้มกว้าง ช่วยประคองให้พุดตานลุกขึ้นนั่ง "ทองจะช่วยแต่งตัวนะขอรับวันนี้ คุณหนูเพิ่งหายไข้"

พุดตานรู้สึกแปลกๆ ที่มีคนมาช่วยแต่งตัวให้ถึงขนาดนี้ แต่ก็ยอมให้ทองจัดการแต่โดยดี ไอ้ทองค่อยๆ สวมโจงกระเบนให้เขา จัดผ้าแถบที่อก สวมเสื้อคอกลมแขนยาวผ้าฝ้ายสีขาวที่นุ่มสบาย พุดตานมองตัวเองในกระจกเงาทองเหลืองที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ใบหน้าหวานๆ ดวงตากลมโต จมูกเล็ก ปากนิดจมูกหน่อย ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนไอยราคนเดิมเลยแม้แต่น้อย

"คุณหนูหน้าตาสดใสขึ้นแล้ว" ทองพูดด้วยความดีใจ มองพุดตานอย่างชื่นชม

"จริงเหรอ" พุดตานถามยิ้มๆ รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกชม

"จริงขอรับ" ทองยืนยันหนักแน่น "เมื่อวานยังดูซีดๆ อยู่เลย"

หลังจากแต่งตัวเสร็จ ทองก็พาพุดตานออกไปนั่งที่ชานเรือนใหญ่ อากาศยามเช้าสดชื่นมาก มีกลิ่นดอกไม้ป่าลอยมาตามลม พร้อมเสียงผู้คนในบ้านที่เริ่มทำงานกันแล้ว

ไม่นาน สำรับเช้าก็ถูกยกมาวางบนโต๊ะเตี้ยๆ ที่

ชานเรือน โดยมี 'ยายเฟื่อง' หญิงชราท่าทางใจดี เป็นคนยกถ้วยข้าวต้มร้อนๆ มาวางตรงหน้าพุดตาน

"อ้าว พ่อพุดตานฟื้นแล้วรึลูก" ยายเฟื่องทักด้วยน้ำเสียงเอ็นดู "ดีจริงๆ เลย ยายทำข้าวต้มปลาใส่ขิงอ่อนๆ ให้ กินแล้วจะได้มีแรงนะ"

"ขอบคุณขอรับ ยายเฟื่อง" พุดตานยกมือไหว้ยายเฟื่องอย่างนอบน้อม ยายเฟื่องเป็นแม่ครัวเก่าแก่ของบ้านนี้ อยู่มาตั้งแต่รุ่นแม่นายศรี เป็นที่นับหน้าถือตาของบ่าวไพร่ในบ้าน

"ทานเยอะๆ นะเจ้าคะ คุณหนู" 'อีทับ' สาวใช้รุ่นราวคราวเดียวกับทอง ที่รูปร่างเล็กๆ คล่องแคล่ว พูดขึ้นพลางยื่นถ้วยน้ำพริกกะปิกับผักสดมาให้แม่นายศรีที่เดินมานั่งร่วมโต๊ะแล้ว

อีทับเป็นสาวใช้ส่วนตัวของแม่นายศรี แต่ก็มักจะมาช่วยดูแลพุดตานด้วยอีกแรง

แม่นายศรีนั่งลงข้างๆ พุดตาน ลูบหลังเบาๆ "กินเถอะลูก จะได้หายป่วยไวๆ"

สักพัก หลวงปรีชาและท่านขุนอินทร์ก็เดินออกมาสมทบ ทั้งสองท่านดูสบายๆ ในชุดผ้าฝ้ายสำหรับอยู่บ้าน ไอ้ทองไปยกสำรับของทั้งสองท่านมาวาง โดยมี 'ไอ้จัน' เด็กหนุ่มรุ่นน้องของทอง ที่ดูท่าทางซื่อๆ ยิ้มง่าย คอยช่วยถือถาดตามมา

ไอ้จันเป็นเด็กในบ้านที่มักจะทำงานจุกจิกทั่วไป ทั้งช่วยทองดูแลพุดตาน ช่วยงานในสวน หรือช่วยงานในครัวบ้างแล้วแต่จะถูกเรียกใช้

"ไง ไอ้พุด หายดีแล้วกินเก่งเชียว" ท่านขุนอินทร์แซวเมื่อเห็นพุดตานตักข้าวต้มเข้าปากไม่หยุด

"ก็มันอร่อยนี่ขอรับ" พุดตานตอบ พลางหันไปยิ้มให้ยายเฟื่องที่ยืนมองอยู่ห่างๆ

"แน่จริงก็ลองไปทำเองดูสิ" ท่านขุนอินทร์ท้า

พุดตานยู่หน้า "ไม่เอาหรอกขอรับ "

"แล้วนั่นกินข้าวต้มประสาอะไรวะ ใช้ช้อนจิ้มๆ อยู่นั่นแหละ" ท่านขุนอินทร์ทักเมื่อเห็นพุดตานยังไม่ถนัดกับการใช้ช้อนไม้แบบโบราณ "เหมือนเด็กไม่เคยจับช้อนไปได้"

พุดตานหน้าเหวอเล็กน้อย ดีที่แม่นายศรีช่วยพูดขึ้นเสียก่อน

"แหม ท่านพี่อินทร์ ก็เพิ่งฟื้นไข้นี่ขอรับ" แม่นายศรีปรามลูกชายคนโต "อย่าไปแกล้งน้อง"

หลวงปรีชาได้แต่มองพุดตานนิ่งๆ แต่แววตาก็แฝงความสงสัยอยู่เล็กน้อย ตั้งแต่ฟื้นมาท่าทีของลูกชายก็ดูเปลี่ยนไป ทั้งการพูดจาบางครั้ง หรือกิริยาบางอย่างที่ดูไม่คุ้นตา แต่ท่านก็คิดว่าคงเป็นเพราะป่วยหนัก ทำให้เพ้อไปบ้าง

หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ หลวงปรีชากับท่านขุนอินทร์ก็ต้องไปทำงานราชการที่วัง ส่วนแม่นายศรีก็มีงานในเรือนต้องดูแล ส่วนพุดตานก็ถูกสั่งให้อยู่เรือนพักผ่อน

พุดตานใช้เวลาว่างเดินสำรวจเรือนอีกครั้ง เรือนของหลวงปรีชาเป็นเรือนไม้หลังใหญ่ มีหลายหลังเชื่อมต่อกัน มีทั้งเรือนนอน เรือนรับแขก เรือนครัว และเรือนสำหรับบ่าวไพร่ มีสวนกว้างขวาง มีศาลาริมน้ำ

เขาเห็นบ่าวไพร่คนอื่นๆ ทำงานกันขยันขันแข็ง ทั้ง 'ไอ้มาก' ชายหนุ่มรูปร่างกำยำที่กำลังหาบน้ำจากบ่อน้ำขึ้นมาใส่ตุ่ม 'อีแย้ม' สาวใช้ที่กำลังซักผ้าอยู่ริมท่าน้ำ หรือ 'ตาสน' คนสวนสูงอายุที่กำลังตัดแต่งกิ่งไม้

ไอ้ทองคอยเดินตามพุดตานไปตลอด คอยชี้ชวนให้ดูโน่นดูนี่ และตอบคำถามแปลกๆ ของพุดตานอย่างอดทน

"ทอง ไอ้มากนี่ทำงานหนักทุกวันเลยเหรอ" พุดตานถาม ขณะมองไอ้มากที่เหงื่อท่วมตัว

"ขอรับคุณหนู งานพวกผู้ชายก็จะหนักหน่อยขอรับ" ทองตอบ

"แล้วพวกผู้หญิงทำอะไรบ้าง"

"ก็มีซักผ้า ตำน้ำพริก ทำกับข้าว กวาดเรือน ถูเรือน เก็บกวาดดูแลความสะอาดขอรับ" ทองอธิบาย พลางชี้ให้ดูอีทับที่กำลังกวาดใบไม้อยู่บนชานเรือน

พุดตานมองชีวิตความเป็นอยู่ของบ่าวไพร่ในบ้านแล้วก็รู้สึกทึ่ง นี่คือชีวิตในอดีตที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่เพลินๆ ไอ้จันก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาทอง

"พี่ทอง! พี่ทอง! ท่านขุนเดชมาขอรับ!" ไอ้จันพูดเสียงหอบ

ท่านขุนเดช?! พุดตานหัวใจเต้นแรงอีกแล้ว เขากำลังมาทำอะไรที่นี่นะ ปกติท่านขุนเดชจะมาหาแต่ท่านขุนอินทร์นี่นา

"ไปเถิดขอรับคุณหนู ท่านขุนเดชคงมาหาท่านแม่นาย" ทองบอก พลางเดินนำไปทางเรือนรับแขก

พุดตานเดินตามไปอย่างงงๆ เมื่อไปถึงเรือนรับแขก ก็เห็นแม่นายศรีกำลังนั่งคุยอยู่กับท่านขุนเดช ท่าทางสนิทสนมตามประสาผู้ใหญ่ ท่านขุนเดชอยู่ในชุดเต็มยศ ดูสง่างามยิ่งกว่าเมื่อวานเสียอีก

"อ้าว พ่อพุดตาน มาพอดีเลยลูก" แม่นายศรีทักทาย "มาไหว้ท่านขุนเดชเสียสิลูก"

พุดตานยกมือไหว้อย่างประหม่าอีกครั้ง

"กราบท่านขุนเดชขอรับ"

ท่านขุนเดชหันมามองเขาช้าๆ ดวงตาคมกริบคู่นั้นจ้องมองมาที่เขาอีกแล้ว คราวนี้สายตาของท่านขุนเดชไม่ได้มีแค่ความพิจารณา แต่เหมือนจะมีอะไรบางอย่างที่ลึกซึ้งและร้อนแรงซ่อนอยู่ ทำให้พุดตานรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า

"หายดีแล้วรึ พุดตาน" เสียงทุ้มนุ่มของท่านขุนเดชดังขึ้น คำพูดธรรมดาๆ แต่กลับฟังดูอ่อนโยนอย่างประหลาด

"ขอรับ... หายดีแล้วขอรับ" พุดตานตอบเสียงเบา ไม่กล้าสบตานิ่งๆ ของท่านขุนเดช

"ดีแล้ว" ท่านขุนเดชพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะหันไปคุยกับแม่นายศรีต่อ แต่สายตาของท่านก็ยังคงแอบมองมาที่พุดตานเป็นระยะ

พุดตานรู้สึกเหมือนโดนจับจ้องตลอดเวลา จะขยับตัวก็เกร็งไปหมด เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมท่านขุนเดชถึงได้จ้องเขาแบบนี้ หรือว่าท่านขุนเดชจะรู้ว่าเขาไม่ใช่พุดตานตัวจริง?!

แต่ดูจากท่าทีของแม่นายศรีที่ดูสบายๆ ท่านคงไม่ได้สงสัยอะไร

ท่านขุนเดชคุยธุระกับแม่นายศรีอยู่พักหนึ่ง ส่วนพุดตานก็นั่งเงียบๆ อยู่ใกล้ๆ ได้แต่แอบมองท่านขุนเดชเป็นครั้งคราว ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าท่านขุนเดชเป็นบุรุษที่สง่างามและน่ามองอย่างน่าประหลาด

ก่อนจะกลับ ท่านขุนเดชก็หันมาทางพุดตานอีกครั้ง

"พักผ่อนให้มากๆ นะพุดตาน ร่างกายจะได้แข็งแรงโดยเร็ว" ท่านขุนเดชพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูห่วงใยกว่าปกติ

"ขอบคุณ... ขอบคุณขอรับ ท่านขุน" พุดตานตอบตะกุกตะกัก

ท่านขุนเดชยิ้มบางๆ ที่มุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ทำให้พุดตานรู้สึกวาบหวามในใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เมื่อท่านขุนเดชกลับไปแล้ว พุดตานก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม รู้สึกสับสนไปหมดกับท่าทีของท่านขุนเดช

"ท่านขุนเดชดูจะเอ็นดูคุณหนูมากเลยนะเจ้าคะ" อีทับที่เดินมาช่วยแม่นายเก็บสำรับน้ำชาพูดขึ้น

แม่นายศรีได้ยินก็ยิ้มบางๆ "ท่านขุนเดชเป็นคนดี มีน้ำใจ ท่านสนิทกับท่านพี่อินทร์มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว"

"นั่นสิขอรับ ท่านขุนเดชดูห่วงใยคุณหนูจริงๆ" ทองเสริม

พุดตานได้แต่ฟัง ทุกคนดูจะไม่เห็นสายตา 'แบบนั้น' ที่ท่านขุนเดชใช้มองเขาเลยนี่นา หรือเขาจะคิดไปเอง?

ไม่สิ สายตาแบบนั้นมันไม่ใช่สายตาที่ผู้ใหญ่ใช้มองเด็ก ไม่ใช่สายตาที่เพื่อนพี่ชายใช้มองน้องชายเพื่อน แต่มันคือสายตาที่... ที่คนมองคนที่ตัวเองสนใจต่างหาก!

หัวใจของพุดตานเต้นรัวเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้

แต่... เป็นไปได้อย่างไร? ท่านขุนเดชจะมาสนใจผู้ชายอย่างเขาได้ยังไง? แถมเขาก็ยังเป็นแค่คนที่วิญญาณมาอยู่ในร่างคนอื่นอีกต่างหาก!

พุดตานรู้สึกว่าชีวิตในอยุธยาของเขาคงจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว นอกจากจะต้องเอาตัวรอดจากความไม่คุ้นเคยแล้ว เขายังต้องรับมือกับความรู้สึกแปลกๆ ที่มีต่อท่านขุนเดช และสายตาคู่เดิมที่ดูเหมือนจะมองทะลุเข้ามาถึงข้างในจิตใจของเขาได้เสียด้วยสิ

ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว พุดตานถอนหายใจยาว...

โปรดติดตามตอนต่อไป...

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!