หลังค่ำวันนั้น เมธาวีกลับถึงห้องเช่าพร้อมสมุดโน้ตที่เต็มไปด้วยไอเดีย เธอนั่งอยู่ริมหน้าต่าง มองท้องฟ้ากรุงเทพฯ ที่ไร้ดาวแต่มีแสงไฟนับพันแทน เธอไม่เคยรู้สึก “อยากตื่นเช้า” เท่านี้มาก่อน
แม้งานจะเหนื่อย แต่ความรู้สึกว่า "มีใครบางคนรอฟังความคิดของเรา" ทำให้เธอมีแรงมากอย่างน่าประหลาด
วันถัดมา บรรยากาศที่ออฟฟิศดูต่างออกไปเล็กน้อย — บางคนเริ่มเข้ามาคุยกับเธอ บางคนมองด้วยสายตาเหมือนพยายามจับตา บางคนก็เอาเอกสารมาให้ช่วยตรวจ
แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ปุณณ์ก็ยังคงวางตัวเหมือนเดิม — เป็นผู้บริหารที่เงียบขรึม มีระยะห่าง แต่ใส่ใจรายละเอียดมากกว่าที่คิด
จนกระทั่งเย็นวันศุกร์ เมธาวีได้รับโทรศัพท์จากเลขาฯ ของเขา
> "บอสให้คุณขึ้นไปพบที่ชั้น 10 ตอนหกโมงค่ะ บอกว่าไม่ต้องเตรียมอะไร แค่ขึ้นไป"
เธอแปลกใจ แต่ก็รีบเก็บของแล้วขึ้นไปตามที่บอก
เมื่อประตูเปิดออก ดาดฟ้าที่เคยเงียบเหงา กลับมีโต๊ะเล็กๆ ถูกจัดไว้พร้อมกับไฟห้อยระย้าและเทียนจุดประดับ แสงนวลอุ่นกับกลิ่นดอกมะลิที่ลอยในอากาศทำให้หัวใจเธอเต้นแรงอย่างไม่เข้าใจ
"นี่มัน...?"
"ขอบคุณที่ช่วยเรื่องไอเดียในโปรเจกต์ใหญ่" ปุณณ์พูดขณะเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มบางๆ "ผมไม่ได้ทำแบบนี้กับทุกคน...แต่คุณไม่ใช่ทุกคน"
เธอเม้มปากเบาๆ นั่งลงอย่างเก้ๆ กังๆ เขานั่งตรงข้าม ทั้งคู่กินมื้อเย็นง่ายๆ แต่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้
“ฉัน...ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ ว่าทำไมคุณถึงเชื่อใจฉันมากขนาดนี้”
ปุณณ์นิ่งไปสักพัก ก่อนจะเอ่ยช้าๆ
“คุณรู้ไหม เมื่อตอนที่บริษัทผมเพิ่งเปิดใหม่ ผมเคยไว้ใจคนผิด”
เขาหยุด ก่อนหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งจากกระเป๋าออกมา เป็นภาพถ่ายเก่าๆ ขอบเหลืองซีด — ภาพของชายหนุ่มหน้าคล้ายเขา ยืนคู่กับผู้ชายอีกคนในชุดสูท
“คนในภาพคือหุ้นส่วนคนแรกของผม และพี่ชายแท้ๆ ของผมเอง”
เมธาวีเงียบ ไม่กล้าถาม เขายิ้มบางๆ แต่แววตากลับเต็มไปด้วยบาดแผล
“เขาทิ้งบริษัทไว้กับหนี้ก้อนใหญ่ แล้วย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ไม่เคยติดต่อกลับมาเลยตั้งแต่วันนั้น”
เธออึ้ง ไม่คิดว่าบอสผู้เงียบขรึมจะมีบาดแผลลึกขนาดนี้
“แล้วทำไมคุณยังเลือกไว้ใจคนอื่นอีกคะ?”
เขามองหน้าเธอนิ่งๆ “เพราะถ้าผมปล่อยให้ตัวเองกลัว...ผมคงไม่เหลือใครอยู่ข้างๆ อีกเลย”
เงียบงันในค่ำคืนนั้นยิ่งทำให้คำพูดของเขาหนักแน่นขึ้น เมธาวีรู้สึกเหมือนใจบางอย่างถูกแตะเบาๆ
“และผมก็ไม่อยากกลัว...คุณ”
เสียงสุดท้ายเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ชัดเจนพอจะทำให้เธอเบิกตากว้าง
“…คุณพูดอะไรนะคะ?”
เขาหลบตาเล็กน้อยก่อนจะพูดอีกครั้งช้าๆ ชัดเจน
“คุณเมธาวี…ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งที่รู้สึกคืออะไร แต่ผมไม่อยากหลอกตัวเองว่าเราเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง”
หัวใจของเธอเต้นดังจนได้ยินชัด เธอไม่รู้จะตอบว่าอะไร เพราะแม้แต่เธอเอง…ก็ยังไม่แน่ใจว่าในใจมันเรียกว่า “ชื่นชม” หรือ “หวั่นไหว” กันแน่
แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร เสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ผมขอตัวสักครู่”
เขาลุกขึ้น เดินไปรับโทรศัพท์มุมดาดฟ้า น้ำเสียงเขาเบาแต่เร่งรีบ “…แม่ครับ ผมบอกแล้วว่าอย่าติดต่อมาที่เบอร์นี้…”
คำว่า “แม่” ทำให้เมธาวีชะงักไป เธอไม่คิดว่าเขาจะดูห่างเหินกับครอบครัวขนาดนี้
และแม้เธอจะไม่ตั้งใจฟัง แต่บางถ้อยคำที่เขาเอ่ยออกมาก็ทำให้หัวใจเธอเย็นวาบลงช้าๆ
> “ผมไม่กลับไปบ้านนั้นอีกแล้ว...ไม่มีวันกลับไปหาผู้หญิงที่เลือกทำลายครอบครัวตัวเอง!”
ทันใดนั้น เมธาวีรู้สึกว่าระหว่างเธอกับเขา...มีบางอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน และอาจเปลี่ยนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไปตลอดกาล
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments