" ข้าขออภัยขอรับท่านราเชล ที่กระผมมาต้อนรับช้าไปหน่อย.."
เสียงนุ่มลึก แต่ชวนเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูกนั้นดังขึ้นมาจากด้านหลังของราเชล จึงทำให้เออร์ธานและราเชลหันไปตามเสียงพร้อมๆกันก็พบกับ ชายหนุ่มรูปงาม ที่มีส่วนสูง 172 ซม. ดูดีๆเหมือนเขาจะอายุ 25 ปีต้นๆ หน้าตาดูหล่อเหลาเอาการ และผมสีเงินที่รวบตึงมัดไว้ด้านหลัง และนัยน์ตาอันคมกริบสีรูดเบียร์ที่เข้ากับใบหน้าของเขา กำลังโค้งขออภัยที่มาต้อนรับช้าอย่างสุภาพ พร้อมกับในมือถือตระกร้าที่ใส่พวกหญ้าและสมุนไพรต่างๆนาๆอีกด้วย
" โห้~..ไรเซน นี่เจ้ายังชอบทำตัวหมกหมุ่นอยู่อีกรึ"
เออร์ธานเอ่ยออกมาเมื่อเห็นตระกร้าใส่ผักไม้ใบหญ้านาๆชนิด และที่แปลกตาสุดคือ เขาจับตัวโนมขังเอาไว้ในขวดแก้วเอาไว้ด้วยในตระกร้า เหมือนมันกำลังจะพยายามใช้มือเล็กๆทุบขวดจากข้างในเพื่อที่บ่งบอกว่า ปล่อยชั้นออกไปเจ้าพวกมนุษย์ ยังไงยังงั้น แต่มันก็ทำให้ราเชลสนใจไอ้ตัวในขวดโหลนั่นไม่ใช่น้อยเพราะเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ราวกับคนจิ๋วมาผจญภัยในดินแดนของยักษ์
" สมองกล้ามอย่างเจ้าที่วันๆเอาแต่บ้าพลัง จักเข้าใจอะไรในความรู้กัน.."
ถึงจะเป็นการเหน็บแนมที่เจ็บแสบ จากไรเซนเขาก็ไม่ได้มีท่าทีโกรธอะไรมากมายนักเพื่อรักษาหน้าตาของตนต่อหน้าราเชล
"โห่~ ปีกกล้าขาแข็งขึ้นเยอะ .. แต่ข้าก็คงไม่มีเวลามาต่อปากต่อคำกับเจ้าหรอกนะไรเซน เพราะข้าพาเจ้าหนูนี่มาให้ทดสอบอะไรนิดหน่อย ตามคำบัญชาของราชา"
เออร์ธานและราเชลหลบเบี่ยงเพื่อให้ไรเซนเดินเข้าไปในห้องของเขาเองผ่านพวกเขาไปโดยที่ทั้งสองเริ่มเดินเข้าตามไปพลางปิดประตูไม้ที่กำลังส่งเสียงอย่างเดิมอีกครั้งเมื่อปิดประตูลงกลอนเรียบร้อย
บัดนี้ทั้งสองคนยังตกอยู่ในความเงียบของไรเซนที่เอาแต่เดินถือตระกร้าไปวางไว้บนโต๊ะทำงานที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบมากเพราะส่วนมากจะมีแต่กองกระดาษสีน้ำตาลที่จดอะไรไว้เยอะแยะเกลื่อนบนโต๊ะ
ครืด..คึ่ง ---
จากนั้นเออร์ธานและราเชลหันไปตามเสียงก็พบบันไดไม้ที่เอาไว้สำหรับปีนขึ้นไปเพื่อเลือกหนังสือเลื่อนไปมาเองราวกับมีคนยืนจับอยู่ตรงนั้น แต่มันไม่มีก่อนที่ไรเซนจะเดินไปปีนบันไดนั้น เพื่อหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมา ในใจของราเชลนั้นคิดว่า 'เหมือนตัวเองนั้นหลุดเข้ามาในโลกของแฮรี่พอตเตอร์อย่างไงอย่างงั้น ' แต่สำหรับเขาแล้วถึงในโลกนี้จะเกิดเป็นเรื่องปกติ แต่มันก็แปลกใหม่สำหรับเขามาก
"แล้ว..ทำไมผมต้องมาที่นี่?"
ราเชลกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงสัยว่าทำไมเขาต้องถูกพาตัวมาที่นี่เพื่ออะไร และทำไมพร้อมกับมองไรเซนที่เอาแต่เปิดหน้าหนังสืออย่างสงบราวกับว่าไม่มีทั้งเขาและเออร์ธานอยู่ในห้องนี้ หรือพูดง่ายคือเขาไม่ได้สนใจเลยว่ามีเขากับเออร์ธานยืนหายใจอยู่ตรงนี้
ฟั่บ..ฟั่บ
เสียงพลิกหน้ากระดาษหนังสือของไรเซนดังออกมาทำลายความเงียบชั่วครู่ก่อนเขาจะเหลือบสายตาสีรูดเบียร์ของตนมองไปที่ราเชล ซึ่งเขาก็กำลังมองกลับมายังตัวเองอีกเช่นกันก่อนเขาจะเริ่มปิดหนังสือแล้วเดินไปหาราเชลที่ยืนมองเขาอยู่ข้างๆเออร์ธาน
"ถ้าเจ้ารู้หน้าที่ของเจ้าแล้ว เช่นนั้นข้าไปก่อนล่ะ ดูแลเจ้าเด็กนี่ด้วยก็แล้วกันอย่าพลั้งมือมากจนเกินไปล่ะ"
เออร์ธานกล่าวก่อนที่เขาจะหันหลังเดินโบกมืให้ทั้ง2เหมือนหมดภาระของเขาแล้ว ก่อนที่จะเริ่มเปิดประตูแล้วปิดให้อีกครั้งโดยที่ปล่อยทั้งสองเอาไว้ด้วยกัน สายตาสีเทาหม่นของราเชลก็ยังคงจับจ้องตัวเขาในทุกๆอริยาบทไม่วางตา ด้วยความซื่อก่อนที่ไรเซนจะเริ่มยิ้มมุมปากออกมาเบาๆ
" ข้าคือหัวหน้าจอมเวทย์หลวง นามว่า ไรเซน เบิร์ธ ข้าจักพาเจ้าเข้าสู่ห้องทดสอบวัดความสามารถของพลังในตัวเจ้า.. "
ไรเซน กล่าวพร้อมโค้งหัวลงให้ความเคารพแก่ราเชลซึ่งต่างจากเออร์ธานโดยสิ้นเชิง เพราะไรเซนนั้นดูอ่อนโยนและนุ่มนวลกว่าเออร์ธานมาก จึงทำให้เขารับมือความรู้สึกอึดอัดแบบนี้ไม่ทันเมื่อมีคนมาก้มหัวให้อย่างนี้ ก่อนที่ไรเซนจะหันหลังแล้วเดินนำทางเด็กหนุ่มเข้าสู่หอคอยจอมเวทย์ ซึ่งตามทางประดับไปด้วยคริสตัลนานาชนิด ส่องแสงสว่างแพรวพราว และอุปกรณ์เวทย์ต้นแบบต่างๆนาๆที่แขวนเอาไว้อย่างเป็นระเบียบตามผนังทางเดินที่ถอดยาวไป จนถึงห้องๆหนึ่งทีในขณะที่ไรเซนเอื้อมมือเปิดประตูห้องที่เล็กกว่าประตูทางเข้าเมื่อครู่นิดหน่อย ก็เผยให้เห็นด้านในของห้องนั้น เต็มไปด้วยอุปกรณ์เวทย์ต่างนานาที่สรรค์หามาประดับ ซึ่งทำให้ราเชลนั้นรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานิดหน่อยและประหลาดใจกับสิ่งที่เห็นเป็นครั้งแรก
" โว้ว..อย่างเจ๋ง..ถ้าไม่ติดว่าเป็นเรื่องจริงล่ะก็ อาจจะเป็นความฝันที่สุดยอด.."
ราเชลเอ่ยขึ้นมาเบาๆพร้อมกับพยายามสอดส่ายสายตาไปให้ทั่วห้อง เพื่อเก็บภาพๆนี้ไว้ในสมองว่าครั้งหนึ่งเราเจออะไรมาบ้าง เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความขลังของห้องนี้ และกลิ่นอายแห่งความที่เรียกว่าไสยศาสตร์เวทย์มนต์ ถ้าไปเล่าให้ใครฟังเขาต้องว่าบ้าแน่ แต่ใครจะรู้ถ้าไม่มาลองสัมผัสด้วยตัวเอง
ก่อนที่สายตาของเขาไปสะดุดกับหนังสือที่มีปกหนังสีดำสนิท ที่ถูกวางอยู่บนแท่นไม้ อยู่มุมห้อง ที่สลัวจากแสงคริสตัลจึงทำให้สังเกตเห็นได้ไม่ยาก และมันช่างดึงดูดให้เขาเดินไปหาเพราะมันคุ้นมากเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ใช่มันคือหนังสือที่เขาเจอมันในห้องสมุดก่อนที่เขาจะถูกจับโยนมาที่นี่เขาจ้องมองสำรวจมันด้วยตาที่บ่งบอกว่ามันใช่ ก่อนที่จะยกมือเตรียมไปสัมผัสมัน
เผี๊ยะ!
ไรเซนนั้นได้ตีมือของเขาพอดังแต่ไม่แรงมากราวกับว่าเขานั้นทำเหมือนเด็กที่อยากรู้ไปซะหมด ก่อนที่ราเชลจะหันควับไปมองจ้องไรเซน
"ห้ามแตะต้องมัน..ถ้าเจ้ายังไม่อยากเสียวิญญาณของเจ้าไปเพราะมัน..ห้ามซนอีก"
เมื่อได้ยินแบบนั้นราเชลจึงจำต้องยอมพร้อมกับขมวดคิ้วคิดในใจว่ามันคือหนังสืออะไร..พลันนั้นสายตาของไรเซนก็เหลือบไปเห็นท่าทีขมวดคิ้วครุ่นคิดของเด็กหนุ่มที่กำลังสงสัยไคร่รู้เสียเหลือเกิน
เพราะไรเซนเองนั่นแระ ที่ส่งสิ่งนั้นไปเป็นประตูเชื่อมต่อให้เขาข้ามมา
"ถ้าเจ้าอยากรู้ ครั้งหน้าข้าจักเล่าให้ฟังเอง"
เมื่อสิ้นเสียงของไรเซนที่พูดขึ้นเพื่อกลบความรู้สึกของเราเชล ทันใดนั้นมือของเขาก็พลางเอื้อมหยิบกล่องไม้ขนาดพอมือ รูปทรงของมันเป็นหกเหลี่ยมเลื่อมสีดำมันวาวชวนให้เป็นปริศนา มาวางไว้ที่โต๊ะกลางห้องซึ่งทั้งหมดมีอยู่เก้าใบด้วยกันก่อนที่ราเชลจะมายืนตรงหน้าโต๊ะอีกฟากของเขาพร้อมกับมองกล่องพวกนั้น แล้วเงยหน้ามองไรเซนสลับกันปานจะตั้งคำถามทางโทรจิตว่ามันคืออะไร มีอะไรอยู่ในนี้ และเอามาทำไม ไรเซนเห็นดังนั้นจึงเริ่มใช้มือเรียวของตนเปิดกล่องดังกล่าวทีละใบ เพื่อเผยให้เห็นเม็ดนิลเม็ดเท่าหัวแม่มือ ที่มีสีแตกต่างกันตามธาตุต่างๆ กล่องแรกคือ เม็ดสีน้ำตาลนั้นคือธาตุของ ดิน
กล่องถัดไปคือกล่องที่สอง ที่เป็นสีฟ้าอมน้ำทะเลนั่นคือเม็ดของธาตุ วารี
สีขาวขุ่นเหมือนหมอกนั่นคือ วายุ
สีแดงเพลิงสดนั่นคือ อัคนี
สีขาวสว่างเรืองรองนั่นคือ แสง
สีเหลืองอัมพันนั่นคือ อัศนีย์
สีเขียวมรกตนั่นคือ พงศ์ไพร
และ สุดท้าย คือสีดำสนิท จนแทบจะกลมกลืนไปกับห้องที่สลัวๆนี้ก็คือ..ความมืด ไรเซนเหลือบตามองราเชลเป็นครั้งคราวเมื่อเปิดแต่ละกล่องว่าเขาสนใจมากน้อยแค่ไหน
" นั่นคงจะเป็น..วัตถุทั้ง 9 ธาตุของพลังเวทย์สินะครับ "
ราเชลพูดจาเหมือนรู้จักเจ้าสิ่งนั้นอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่เขาทำหน้าฉงนว่าตัวเองรู้จักของแบบนี้ได้ยังไง หรือมันคือความบังเอิญกัน แต่คำตอบของเขานั้นทำให้ไรเซนรู้สึกประทับใจพอสมควร และเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่อธิบายสิ่งนี้ เพราะดูเหมือนว่าเขาจะรู้จักสิ่งนี้ทันทีที่เขาเพิ่งเปิดให้ดูเป็นครั้งแรก พลางยกยิ้มขึ้นมาเบาๆ
"เจ้าอยากลองสัมผัสมันดูรึเปล่า .."
ไรเซนยกยิ้มออกมาพลางมองไปที่เด็กหนุ่ม พร้อมกับพูดออกมาคล้ายกับจะกระตุ้นความอยากรู้อยากลองของราเชล ก่อนที่เขาจะผายมือออกเป็นการเชื้อเชิญให้เขาลิ้มรสกับการสัมผัสเม็ดนิลของแต่ละธาตุราเชลกำลังใช้สายตาของตนมองไล่เรียงไปตามเม็ดวัตถุธาตุประมาณว่ากำลังตัดสินใจจะหยิบเม็ดสีไหนก่อน เพราะมันน่าสนใจไปเสียหมด แต่จู่ๆเขาก็ต้องชะงัก เมื่ออยู่ๆหูของเขาก็ได้ยินเสียงกระซิบบางอย่าง ลอยแว่วมาจากที่ไหนสักที่ แต่พอฟังดีแล้วมันเหมือนกับใครสักคนกำลังร้องเพลง โดยที่เสียงนี้ลอยมากับสายลมให้แว่วได้ยิน
'ยามเมื่อเจ้าสัมผัสนั้น~🎶 เจ้าจะพบกับความสุขมากมาย~ และเมื่อยามใดที่ท่านทุกข์~ 🎵 ข้าจะคอยโอบกอดเจ้าและยืนเคียงข้างกาย~🎶'
สิ้นเสียงอันไพรเราะ หูของเขาก็ได้ยินเสียงกระซิบที่เริ่มดังใกล้เข้ามาอีกครั้ง
'เอาสิ..หยิบเลย ~'
แล้วเขาก็ได้หันควับไปตามเสียงนั้น และสิ่งที่เขาเห็นคือ ภูติตัวน้อยนับสิบๆตัว กำลังมองเขาแล้วยิ้มเฮฮาอย่างมีความสุข บางตัวก็บินฉวัดฉเวียน ผ่านร่างกายเขาไป ซึ่งมันทำให้ราเชลรู้สึกประหลาดใจ ที่อยู่ๆเขาก็เห็นภูติเหล่านี้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ตอนที่เข้ามาทำไมเขาไม่เห็น และมีภูติน้อยอีกตัวนึงบินมานั่งบนไหล่ขวาของเขา ตัวของภูติน้อยแต่ละตัวนั้นส่องแสงสว่างเรืองรอง สีทองนุ่มนวล สวยงาม ใช่ พวกเขาคือภูติที่คอยเฝ้าที่นี่ ก่อนที่ราเชลนั้นจะหันมาสนใจเม็ดของวัตถุธาตุต่อ
'เพียงแค่ท่าน หยิบมันขึ้นมาแล้วท่านก็หลับตา นึกถึงสภาวะของธาตุนั้นๆ~ ่
เสียงไพเราะของภูติอีกตัวนั้นเอ่ยขึ้น แล้วมายืนบนโต๊ะตรงหน้าเขา ก่อนที่เจ้าภูติตัวนั้นจะดันกล่องเม็ดนิลวัตถุธาตุแสง มาหาราเชลเบาๆ เพื่อให้ลองดู
ราเชลนั้นได้เงยหน้ามองไรเซนที่กำลังกอดอกมองเขาอยู่เช่นกัน ก่อนจะพยักหน้าให้เป็นเชิงว่าเอาเลยให้กับเขา และเมื่อเราเชลเห็นดังนั้นจึงเลือกตัดสินใจที่ จะทำตามคำแนะนำของภูติตัวน้อย ก่อนจะใช้มือหยิบวัตถุธาตุแสงที่มีสีขาวนวลสว่างออกมากพร้อมกับหลับตาลงแล้วนึกถึงสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับธาตุของแสงสว่าง ไรเซนนั้นยังคงจ้องตาสีรูดเบียร์มาที่ราเชลเพื่อที่จะมองว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปอย่างเงียบๆ ก่อนที่มือของราเชลที่จับวัตถุนั้นอยู่ในมือก็ค่อยๆเกิดมีแสงสีขาวเปล่งออกมา ค่อยๆสว่าง และก็ค่อยๆสว่างขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ และในหัวของราเชลนั้นก็ปรากฏอักขระมากมาย นับหมื่น นับพัน และนับล้าน ตัวอักษรของอักขระ นั้นลอยผ่านม่านตาของเขา จนเขาอ่านไม่ทัน และทันใดนั้นก็มีมือสีขาวสว่างยื่นออกมาผ่านอักขระที่ลอยวนเวียนมาหาเขาก่อนที่เขาจะสะดุ้งลืมตาขึ้น พลางหอบหายใจแรงสั่นอย่างคนตกใจวิ่งหนีอะไรมา
"แค่นี้ก็หอบซะแล้วเหรอ .."
ไรเซนได้เอ่ยขึ้นมาก่อนที่จะใช้สองมือเท้ากับโต๊ะแล้วยื่นหน้าเข้าไปหาราเชลที่ตอนนี้กำลังเหงื่อตก และหายใจหอบเบาๆ แล้วรี่ตาสีรูดเบียร์ลงจ้องมองราวกับจะจับผิดราเชลให้ได้
"ผม..ผมยังไหวครับ.."
ราเชลเอ่ยออกมา พร้อมกับยกมือปาดเหงื่อบนหน้าผากตัวเองนิดหน่อย ก่อนจะใช้ตาสีเทาหม่นมองไรเซนกลับไป เพื่อบอกให้รู้ว่า เริ่มต่อได้เลยไหวอยู่แล้ว
"ถ้าอย่างนั้นก็ดี.."
ไรเซนยื่นมือไปหาเขา เพื่อจะขอวัตถุธาตุแสงจากมือราเชล แล้วราเชลก็วางเม็ดวัตถุธาตุแสงลงบนมือของไรเซน ก่อนที่เขาจะสูดหายใจลึกๆขึ้นเพื่อที่จะเตรียมใจเลือกเม็ดต่อไป
"ถ้าเจ้าตั้งสามาธิดีกว่านี้ เรื่องแบบนี้สำหรับเจ้าก็คงไม่น่าจะยาก และเจ้ารู้อะไรไหม ว่าทุกครั้งที่มีคนมาทดสอบนิล 9 ธาตุของข้า แต่ละคนนั้น ตาย ทั้งๆที่ยังทำไม่ครบทั้ง 9 ธาตุ และบางคน...แค่2ธาตุ ก็ตัวแตกใส้ทะลักกระจัดกระจายออกมา เพราะรับอนูเวทย์ของนิลธาตุไม่ไหว.."
"หยึ๋ย.."
ราเชลเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับกลืนน้ำลายดังเอื๊อก
'นี่มันต่างกับตาลุงนั่นเลยนี่หว่า..แรงกดดันคุกคามขนาดนี้ อยากจะหนีออกไปจริงๆเลยโว้ยให้ตายเถอะ!' เขาแอบคิดอยู่ในใจ เพราะสถานการณ์ตอนนี้มันกดดันเขามาก แล้วยิ่งคำพูดของไรเซนด้วยก็ทำให้เขาหน้าเครียดขึ้นมาทันทีว่าจะเอาไงต่อ จะไปต่อหรือพอแค่นี้ดี ตอนนี้เขากำมือจนเหงื่อท่วมมือไปแล้วสายตาของเขาก็ยังคงส่ายไปมาตามวัตถุธาตุที่เหลือไปด้วย
"ข้าล้อเล่น"
ไรเซนพูดตัดบทออกมาทันที ก่อนที่เขาจะเอาเม็ดวัตถุธาตุวางในกล่องของมันอย่างเบามือ แล้วปิดฝากล่องเก็บไว้ ก่อนจะยกยิ้มออกมา เพื่อไม่ให้ราเชลคิดมากกับคำพูดของเขา แต่รอยยิ้มของเขามันดูไม่เข้ากับสีหน้าของเขาเลย ถึงแม้จะยิ้มอย่างเต็มใจ แต่มันดู..น่ากลัวมากกว่าในสายตาของราเชลตอนนี้
"หืม.."
ราเชลนั้นเหลือบมองเห็นวัตถุธาตุสีดำสนิทอย่างสนใจไม่ใช่น้อยก่อนที่จะหยิบมันขึ้นมาดู ก่อนที่ไรเซนจะยื่นมือไปห้ามทันใดนั้นไรเซนก็เหมือนถูกดีดออกจากจากพื้นที่ตรงนั้นจนลอยไปติดกับผนังทันทีตอนนี้ทั้งห้องนั้นเริ่มสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว
ก่อนที่ ตอนนี้ ตาสีเทาหม่นของเราเชลนั้นได้กลายเป็นสีดำสนิท แล้วพลันนั้นร่างกายของราเชลก็ได้ปรากฏไอสีดำห่อหุ้มร่างกายเอาไว้ ทันใดนั้นทั่วห้องมากมายก็ได้มีมือสีดำนับร้อยยื่นออกมาตามผนัง เพดาน กำแพง และที่ต่างๆ แล้วพุ่งมาทางไรเซนราวกับจะจับเอาไว้ แต่..เพียงแค่ไรเซนยกมือขึ้น สบัดมือสีดำเหล่านั้นก็ถูกผลักออกไปทันทีที่จะถึงตัวไรเซน
"เป็นอย่างนี้ไปได้ ให้ตายสิ ไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่เชื่อมต่อกับวัตถุธาตุ ระดับสูง แบบนี้ได้ไม่ธรรมดาจริงๆ.."
ไรเซนพูดออกมาพลางปัดมือที่พยายามจะเข้ามาถึงตัวไปด้วยพร้อมกับก้าวเท้าเดินไปหาราเชลที่ตอนนี้ เรียกได้ว่าจะเริ่มบังคับสติเอาไว้ไม่ได้เพราะ ธาตุความมืดนั้นคิดจะกำลังเข้าบังคับร่างกายของเขาเพื่อยึดครอบครองร่างที่ใช้ธาตุนี้ เพื่อให้ตัวเองมีร่างเนื้อ
"ฮึก! อ้าคคคคคคคคคค!!!"
ราเชลนั้นร้องออกมาเพราะว่าร่างกายของเขาเริ่มทนไม่ไหว เส้นเลือดขมับขวาและซ้ายของเขานั้นเริ่มปูดโปนขึ้นมา ตาสีดำสนิทของเขานั้นเริ่มมีเลือดออกมาราวกับน้ำตา มือทั้งสองของเขานั้นกำแน่นขึ้น เพราะรู้สึกเจ็บไปทั่วร่างกาย ด้วยความที่ธาตุแห่งความมืดนั้นพยายามยึดครองร่างของเขา เลือดกำดาวค่อยไหลออกมาจากจมูกทั้งสองข้าง ทันใดนั้นไรเซนได้ยกมือขวาของตัวเองพุ่งไปคว้ามือที่กำเม็ดวัตถุธาตุ ของราเชลเอาไว้พร้อมกับใช้มือซ้ายนั้นจับหน้าผากที่เกร็งของราเชลเอาไว้แน่น
"คิดจะดูถูกกันเกินไปแล้ว.."
สิ้นเสียงของไรเซน สะสารไอดำของวัตถุธาตุหนาแน่นที่ครอบคลุมร่างกายของราเชลนั้นได้พุ่งออกมาเรากับถูกผลักออก
"กลับเข้าไปซะ ก่อนที่ข้าจักทำลายเจ้าทิ้ง"
ไม่ทันไร สะสารมืดสีดำเหมือนจะฟังคำสั่งของไรเซน ก็ได้ย้อนกลับเข้าไปที่วัตถุธาตุตามเดิมก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลงแล้วไรเซนก็รับวัตถุธาตุเอาไว้ในมือพร้อมกับคว้าร่างไร้สติของราเชลเอาไว้ในอ้อมแขนของตน พลางชูเม็ดนิลสีดำของวัตถุธาตุขึ้นเหนือหัวส่องกับแสงคริสตัลที่ประดับห้องให้พอสว่างดู
"..ถูกกักเก็บจนสะสมพลังเอาไว้นานสินะ..อีกหน่อยก็คงจะรับมือด้วยยาก..ถ้าทำลายก็เสียดายแย่.."
สายตาสีรูดเบียร์นั้นได้เหลือบมองเด็กหนุ่มที่สลบอยู่ในอ้อมแขนของเขาพลางยิ้มมุมปากออกมาอย่างพึงพอใจบางอย่าง
"น่าสนใจ..น่าสนใจจริงๆ .."
ไรเซนนั้นเก็บวัตถุธาตุเอาไว้ในมือพร้อมกับยกราเชลขึ้นพาดบ่าพาออกไปจากห้อง โดยที่สั่งการให้ภูติที่ดูแลที่นี่เก็บข้าวของที่กระจัดกระจาย และทำความสะอาดทั้งหมด เพราะเขาคงไม่ทดสอบอะไรต่อ เมื่อเขารู้แล้วว่าเพียงแค่พลังของเด็กชายคนนี้ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
"ราเชล"
"เฮ้ ราเชล"
"เฮ้ย..เจ้าหนู ตื่นๆ"
ราเชลค่อยๆลืมตาขึ้นตามเสียงเรียกที่คุ้นหูนั่น พร้อมกับว่ามีมือใครบางคนมาตีแก้มเขารัวๆในระหว่างที่ถูกเรียกด้วย
"เฮือก!.."
เมื่อเขาได้สติเขาก็ลุกพรวดขึ้นนั่งพลางมองซ้ายขวาเลิ่กลั่ก แล้วก็ยกมือจับนู่นจับนี่ตามร่างกายตัวเองเพื่อสำรวจ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างโล่งอก
"ข้าคิดว่าเจ้าจะตายแล้วซะอีกเจ้าหนุ่ม"
เสียงของเออร์ธานเอ่ยขึ้น พลางยกมือขึ้นเท้าเอวและรู้สึกโล่งอกเช่นกันที่ราเชลปลอดภัย
"ทำเอาข้าใจหายใจคว่ำหมด นึกว่าเจ้าจะไม่รอดเสียแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ้าฮ่าฮ่า"
เออร์ธานนั้นหัวเราะออกมา เพื่อกลบเกลื่อนความเป็นห่วงราเชล โดยที่ไรเซนนั้นเดินเข้ามาในห้องที่ทั้งสองอยู่เช่นกัน
"ฟื้นแล้วรึ .."
ไรเซนนั้นได้เดินมาทางโต๊ะทำงานตัวเองที่ราเชลได้นอนอยู่เมื่อครู่ ก่อนจะหันไปมองเออร์ธาน ที่ตอนนี้ก็จ้องไรเซนเขม็งอยู่เหมือนกัน
"ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่รึไรเซน ว่าอย่าพลั้งมือมากเกินไป ถ้าเกิดเขาตาย เจ้ากับข้าได้หัวกุดเป็นแน่"
"แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่..?"
ไรเซนเอ่ยออกมาอย่างไม่ได้สนใจกับคำพูดของเออร์ธานเลยแม้แต่น้อย
"ฟังที่คนอื่นเขาพูดมั้งเด้!!"
เมื่อเห็นไรเซนนั้นไม่สนใจใยดีกับคำพูดของตน เออร์ธานจึงโวยวายหัวฟัดหัวเหวี่ยง ราเชลมองเออร์ธานที่เป็นแบบนี้ จึงถอนหายใจออกมาอย่างนึกเสียดายลุคโหดของเออร์ธานไปเลย ก่อนที่ไรเซนจะเดินหนีเออร์ธานหายเข้าไปตามกองชั้นหนังสือสูงๆ ก่อนที่ทั้งสองจะคุยกันแล้วพากันออกไปจากห้องของไรเซน โดยที่ไรเซนนั้นยืนแอบอยู่หลังกองหนังสือพวกนั้น พร้อมกับเหลือบมองทั้งสองที่เดินออกไปก่อนที่เขาจะหน้าซีดเผือดขึ้นมาเพราะรู้สึกเจ็บอยู่ที่มือขวาของตน แล้วก้มลงมองมือข้างขวาของตนเองที่กำบางอย่างอยู่จนมือนั้นสั่นเบาๆด้วยความเจ็บ พลางค่อยๆแบมือข้างนั้นออกมาก็เผยให้เห็นว่า วัตถุธาตุมืด..กำลังจะฝังตัวเองเข้าไปที่ฝ่ามือของไรเซน..เส้นเลือดต่างๆนั้นปูดให้เห็นออกมาที่ฝ่ามือว่ามันกำลังกัดกินเนื้อเขาไปด้วย
"มีแค่ทางนี้..อึ่ก..เท่านั้น.."
เขากัดฟันทนจนกว่าจะผ่านความเจ็บนี้ไปได้ แล้วก็เริ่มทำสีหน้าตัวเองให้ปกติเหมือนที่เคย ก่อนที่เขาจะหยิบถุงมือสีดำขึ้นมาสวมทั้งสองข้างแล้วเริ่มเดินตามทั้งสองคนออกไป..
ติดตามต่อในบทที่ 4 นะจ๊ะ♥️
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments