เสียงกระดาษในแฟ้มหนาถูกเปิดออกอย่างเชื่องช้า แสงไฟสีขาวนวลสลัวกระทบกับผิวโต๊ะโลหะเย็นเฉียบภายในห้องสอบสวนที่ไร้สิ่งปรุงแต่งใด ๆ นอกจากโต๊ะ เก้าอี้ และชายคนหนึ่ง
ดร.มูนยังคงนั่งอยู่ตรงข้าม สายตาอ่านบรรทัดเอกสารผ่านแว่นบางกรอบเงิน ก่อนจะเอ่ยขึ้นช้า ๆ
“เซนิน คิริว... หรือที่ในแฟ้มระบุว่า SCP-8642”
ชายหนุ่มตรงหน้าขยับเล็กน้อย สายตาไม่หลบไม่เลี่ยง มีเพียงแววเหนื่อยล้าและความเบื่อหน่ายเจืออยู่ในแววตาสีฟ้าครามของเขา
เขานั่งหลังตรง มือทั้งสองถูกล็อกไว้กับโต๊ะด้วยโซ่เหล็กพิเศษ เสื้อนักโทษสีส้มที่เขาสวมดูจะกลืนไปกับแสงสลัวของห้องจนแทบไม่เห็นความสดของมัน
ดร.มูนเปิดแฟ้มไปยังหน้าที่มีภาพถ่ายขาวดำ พอเห็นภาพนั้น เขาก็วางมันลงตรงหน้าผู้ต้องขัง
“ไฟไหม้ทั้งหลัง ศพเจ็ดราย — หกคนไม่ทราบชื่อ และอีกหนึ่ง... เซนิน ฮานะกิ”
ทันทีที่ชื่อพี่ชายของเขาถูกเอ่ยขึ้น เสี้ยววินาทีหนึ่งในดวงตาของเซนินเหมือนจะสั่นไหว... นิดเดียวเท่านั้น แล้วก็กลับไปนิ่งเฉยเหมือนเดิม
ดร.มูนมองการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนั้นด้วยสายตาคมกริบ
“มีอะไรจะพูดไหม?”
เซนินเงียบไปอีกพัก เขามองภาพศพไหม้เกรียมที่วางอยู่ตรงหน้า ดวงตาเย็นเฉียบไร้แววสะท้อนความเสียใจ แต่กลับเต็มไปด้วยอะไรบางอย่างที่ลึกเกินกว่าจะตีความได้
“คนพวกนั้นไม่ควรอยู่ที่นั่น” เขากล่าว
“คุณหมายถึงใคร?” ดร.มูนถามกลับ
“ทั้งหกคนนั่น... พวกมันเป็นแค่เศษขยะที่คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนอื่น” เขายิ้มบาง ๆ “แต่เขา... ฮานะกิ... เขาแค่พยายามจะช่วยผม”
ดร.มูนขมวดคิ้ว “แล้วคุณ... ฆ่าเขาเหรอ?”
เซนินหลุบตาลงเล็กน้อย ริมฝีปากขยับ แต่ไม่มีคำพูดหลุดออกมาในตอนแรก จนกระทั่งเขาพูดด้วยเสียงเรียบเฉยว่า
“ผมไม่ได้ตั้งใจ...”
ไฟในห้องยังคงสลัว ความเงียบที่แผ่คลุมหลังบทสนทนานั้น กลับดังกว่าทุกเสียงที่เคยมี
“แล้วระเบิดล่ะ? คุณทำได้ยังไง?”
“ผมก็แค่... จับ... แล้วมันก็ ‘แล้วมันก็..’ ตู้ม!” เซนินกระตุกยิ้มข้างเดียวเบา ๆ “เรียบง่ายดีใช่มั้ย?”
“เรียบง่าย?” ดร.มูนทวนคำ รอยยิ้มบางเฉียบเจือขึ้นบนใบหน้า
เซนินยักไหล่ เหมือนเขาไม่ได้สนใจคำพูดเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย เขาเอียงคอเล็กน้อย มองเพดานห้องที่เต็มไปด้วยกล้องวงจรปิดราวกับจงใจให้ใครบางคนดูอยู่เห็น
“บางคนเกิดมาแค่เพื่อดู ส่วนบางคน... ก็เกิดมาเพื่อ ‘กลายเป็น’ สิ่งที่คนอื่นหวาดกลัว”
“คุณเลือกเอง หรือมันเกิดขึ้นกับคุณ?”
คำถามนั้นทำให้เซนินนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาหลุบตาลงเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว
“ผมไม่ได้เลือก... แต่ก็ไม่เคยปฏิเสธมันเลยเหมือนกัน”
เสียงหายใจจากปลายสายของเครื่องบันทึกดังแผ่วในความเงียบ ดร.มูนเปิดหน้าถัดไปของแฟ้ม เอกสารลับมากมายที่ถูกขีดไว้ด้วยหมึกแดงคำว่า EYES ONLY ทับด้วยตราสัญลักษณ์ของหน่วยงาน SCPF — หน่วยปฏิบัติการลับที่มีหน้าที่ควบคุม ป้องกัน และปกปิดทุกสิ่งที่เกินกว่าความเข้าใจของมนุษย์
“คุณรู้ไหมว่าในแวดวงของพวกเรา มีชื่อเล่นให้คุณด้วย” ดร.มูนวางฝ่ามือลงบนโต๊ะ “The Null Catalyst – ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ไม่เคยถูกตรวจพบ แต่ก่อผลกระทบได้เกินการคำนวณ”
เซนินหัวเราะในลำคอเบา ๆ “ชื่อเท่ดีแฮะ... แต่ก็น่าเบื่อนะ ผมไม่ใช่ตัวเร่งอะไรหรอก ผมก็แค่... อยู่เฉย ๆ แล้วอะไร ๆ มันก็พังเอง”
เสียงกุกกักดังขึ้นจากอีกด้านของกระจกเงาทึบแสง เจ้าหน้าที่ชุดดำสองคนเดินผ่านไปแบบเงียบ ๆ เซนินปรายตามองเสี้ยววินาทีก่อนหันกลับมาจ้องดร.มูน
“แล้วคุณล่ะ?” เขาถามกลับบ้าง “มานั่งตรงนี้ทำไม? อยากเข้าใจผมเหรอ?”
ดร.มูนเงียบไป ก่อนจะยิ้มบาง ๆ แล้วตอบเรียบ ๆ
“ผมอยากรู้... ว่ามีสิ่งใดบ้างที่ยัง ‘เป็นมนุษย์’ อยู่ในตัวคุณ”
เซนินนิ่งไปนานจนห้องทั้งห้องเงียบงันเหมือนโลกหยุดหมุน เขาค่อย ๆ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ทอดสายตามองแสงไฟเหนือหัว
“ถ้ามนุษย์คือสิ่งที่ยังรู้สึกเสียใจได้... ผมคงไม่เหลือแล้วล่ะ”
ดร.มูนไม่ตอบอะไรอีก เขาเพียงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ ปิดแฟ้มลงอย่างเงียบงัน เสียงฝาแฟ้มกระทบกันดัง แกร็ก คล้ายเสียงฝาโลงศพที่เพิ่งปิดสนิท
“ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ... เซนิน คิริว”
ชายหนุ่มไม่ได้มองเขา ดวงตาสีฟ้าครามทอดมองฝุ่นบนโต๊ะที่เขาเขียนเล่นเป็นวง ๆ ไว้ก่อนหน้านั้น ราวกับทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไปแล้ว
ดร.มูนลุกขึ้นจากเก้าอี้ ขยับแว่นอย่างเคร่งขรึม ก่อนจะหมุนตัวเดินไปยังประตูเหล็กหนา เสียงล็อกนิรภัยปลดออกทีละชั้น คลิ๊ก... กึด... แกรก...
ก่อนประตูจะเปิดออก เขาหันกลับมามองเซนินอีกครั้ง เสี้ยววินาทีที่ดวงตาของทั้งคู่สบกัน มันมีบางอย่างแฝงอยู่ — ความเข้าใจที่ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา
"เราจะเจอกันอีกแน่นอน"
เสียงประตูปิดลงตามหลังเขา ทิ้งไว้เพียงความเงียบและแสงสลัวจากหลอดไฟเหนือศีรษะที่สั่นไหวเล็กน้อย
เซนินยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ร่างนิ่งไม่ไหวติง แต่ปลายนิ้วของเขากลับขีดเขียนอะไรบางอย่างลงบนโต๊ะอีกครั้ง — ฝุ่นที่กระจาย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments