สามวันต่อมา ทางลงเขาต้องสาปเมืองเหลียงซาน
"ฮือ ฮือ คุณหนูท่านต้องดูแลตัวเองให้ดีนะเจ้าคะ"ภูติสือซว่านกล่าวลาทั้งน้ำตาในมือส่งห่อผ้าให้นางไป
"พี่ก็เช่นกันดูแลตัวเองด้วยนะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ทำให้ข้าเจ้าคะ"
"เซียงเอ๋อ อาจารย์คงส่งเจ้าได้เพียงเท่านี้ วิชาที่อาจารย์สั่งสอนเจ้ามาเพื่อให้เจ้าใช้ป้องกันตัวเองและปกป้องเจ้าตัวน้อยนี้ นี่คือสูตรยาถอนพิษในกายเจ้า" พลางยื่นม้วนหนังสัตว์ส่งให้นาง นางรับมาพลางคลี่ดู
"อาจารย์ไม่เห็นมีอันไดเลยเจ้าคะ"
"เมื่อถึงเวลาที่เจ้าต้องใช้มันจะปรากฏขึ้นมาเอง"
"หมายความว่าพิษในตัวข้ายังมีอยู่หรือเจ้าคะ"
"ไม่มีแล้วละ แต่ข้าให้เจ้าไว้เพื่อกาลข้างหน้ามีผู้คนที่โดนพิษชนิดนี้เข้า มันจะเป็นประโยชน์กับเจ้า"
หมอปีศาจเสิ่นกวนกว๋อเอ่ยให้นางเข้าใจ ก่อนล้วงเข้าไปในสาบเสื้อหยิบขวดหยกออกมาส่งให้นาง
"อะไร เจ้าคะอาจารย์"นางยื่นมือรับมาพร้อมเปิดฝาจุกดมกลิ่นของมันไร้สีไร้กลิ่นคือสิ่งที่นางสัมผัสได้ไม่ใช่พิษ
"เจ้าดื่มนี่เข้าไปมันคือยาเเปลงกาย เป็นสตรีแถมเจ้ายังตั้งครรภ์เดินทางลำพังมันอันตราย"หน้าตางามล่มเมืองเช่นเจ้าต่อให้ตั้งครรภ์อยู่ พวกบุรุษตันหากลับมันก็ไม่สนใจหรอก กลิ่นกายเจ้ามันล่อลวงเหล่าภมรโดยแท้เยี่ยเซียงเอ๋ย
"เซียงเอ๋อ ข้า..เอ่อ...คือว่า.."
"เจ้าคะ ท่านพ่อ"
"เอ่อ..คือ..ว่า.."
"เพ้ย!..เจ้าเฒ่านี่จะพูดอะไรก็พูดมา สายแล้วแดดมันแรง นังหนูต้องข้ามแม่น้ำเหลิ่ง ก่อนยามเซิน(15.00-16.59) ไม่อย่างนั้นนางจะข้ามลำบาก"
"เออๆๆข้ารู้แล้ว เซียงเอ๋อ มาให้บิดากอดเจ้าหน่อย"ว่าอ้าแขนรอร่างบางโผเข้ากอด ร่างบางสั่นน้อยๆนางพยายามกลั้นเสียงสะอื้น
เกิดมาสองภพไม่เคยมีอ้อมกอดบิดาให้กอด ภพก่อนเกิดมามีเพียงมารดาที่เลี้ยงดูมา พออายุ15แม่แต่งงานใหม่เข้ากับลูกติดพ่อเลี้ยงไม่ได้เลยขอมาเรียนในเมืองอยู่หอไม่เคยกลับบ้านอีกเลย ส่วนในภพนี้อย่าว่าแต่บิดามารดาเลยความทรงจำแทบไม่มีเหลือไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ถ้าไม่ได้ท่านพ่อคนนี้กับอาจารย์ช่วยนางไว้ชีวิตนางก็ไม่รู้จะเป็นเช่นไร โลกที่ไม่เหมือนกับโลกใบเดิมที่นางเคยอยู่
"เซียงเอ๋อ บิดายังรอเจ้าอยู่ตรงนี้เสมอ หากเจ้าคิดถึงก็มาหาได้ทุกเมื่อ" มือใหญ่แต่อบอุ่นลูบหัวปลอบนางเบาแต่ดวงตาแดงก่ำน้ำตาปริ่มใกล้จะไหลเต็มทน ชายชราดันนางออกเบา หยิบสร้อยเถาวัลย์ถักมีหินสีดำแขวนอยู่หนึ่งเม็ดสวมให้นาง
"เซียงเอ๋อ มันอาจจะไม่สวยงามแต่มันจะปกป้องเจ้าจากสิ่งชั่วร้าย"
"ขอบคุณเจ้าคะท่านพ่อ ข้าจะรักษามันอย่างดีเจ้าคะ"
"ข้าก็มีของให้คุณหนูเช่นกันเจ้าคะ นี่คือหัวต้นสือซว่านข้าให้ คุณหนูเอาไปปลูกไว้ในเรือนป้องกันวิญญาณร้ายได้นะเจ้าคะ"
"ไปเถอะเซียงเอ๋อ นี่สายมากแล้ว หมั่นโถว ข้าฝากเจ้าด้วยนะ"
โฮ่ง!โฮ่ง! มันเห่ารับเหมือนเป็นสัญญาว่ามันจะดูแลนายหญิงและเจ้านายตัวน้อยอย่างดีที่สุด
ก่อนไปนางนั่งลงกราบเท้าชายชราทั้งสองก่อนลุกขึ้นหันหลังปีนขึ้นไปนั่งบนกลังเจ้าหมั่นโถวไม่หันกลับไปมองบุคคลทั้งสามอีก นางกลัวว่าหันกลับไปมองแล้วนางจะตัดใจจากมาไม่ได้เพื่อลูกนางต้องจำใจลงเขามาหากคลอดบนเขาจริงนางยังไม่รู้เลยต้องทำอย่างไรอาจารย์เป็นบุรุษถึงจะเป็นหมอก็เถอะหากให้ทำคลอดนาง นางคงอายเช่นกัน
เจ้าหมั่นโถวพานางเดินมาไกลแค่ไหนไม่รู้นางขึ้นหลังมันได้ก็นอนร้องไห้แล้วเผลอหลับไปรู้ตัวตื่นมาอีกที่ตอนมันหมอบลงนี่ละหากนางไม่ท้องมันคงสะบัดนางลงจากหลังมันแล้ว
"นี่ข้าหลับไปนานเท่าใด ถึงแม่น้ำเหลิ่งแล้วหรือนี่"นางว่าพลางคลานลงมาจากหลังมันยืนขึ้นยืดเส้นยืดสายเสียหน่อยหลับอยู่บนหลังมันมานานเมื่อยไปหมดเลย
ฟิ้ว! โอ้ย!ฉึก!เอ๋ง!ตึง!
ฟิ้ว คือเสียงธนูที่ลอยมาจากอีกฝั่งแม่น้ำ
โอ๊ย คือเสียงนางที่โดนเจ้าหมั่นโถวผลักออกจากวิธีของลูกธนู
ฉึก ปักลงขาหลังของมันเฉียดนางไปนิดเดียว
เอ๋ง!ตึง!เจ้าหมั่นโถร้องพร้อมกับล้มลงกับพื้นทันที
"นั่น!งัยมันอยู่ตรงนั้น"เสียงชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งตะโกนมาจากอีกฝั่งของแม่น้ำ
"หมั่นโถว โอ๊ย! ลูกจ๋าอย่าเพิ่งเป็นอะไร หมั่นโถวทำใจดีๆไว้ ข้าจะดึงธนูออก" นางหักปลายธนูทิ้งในทันทีโดยไม่สนใจเสียงฝีเท้าหลายคู่ที่ย่ำเดินมาด้านที่นางอยู่ เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทำให้นางเงยหน้าขึ้นดู ชายชุดดำสามคนหนึ่งในนั้นคงเป็นหัวหน้า สองคนเตรียมง้างธนูใส่นางหากนางขยับ
สตรีมีสตรีในป่านี้ได้อย่างไร เขาไล่ตามสิงโตตัวนึงมาจากชายเขาอีกฝั่ง มันออกจากป่ามาอาละวาดในหมูบ้านแถบชายป่า ชาวบ้านเดือดร้อนกันไปหมด เคยมีนายพรานมาปราบแล้วแต่ไม่สำเร็จ บางคนเอาชีวิตมาทิ้งเปล่าๆอย่างดีหน่อยก็พิการ เจ้าเมืองเลยต้องถวายฎีกาไปยังเมืองหลวง เขามีธุระที่จะมาทำที่เมืองนี้พอดีเลยแวะมาดูเสียหน่อยหารอทางการเกรงว่าจะมีคนล้มตายมากว่าที่เป็นอยู่ เขาตามมันอยู่หลายวัน เช้านี้เขาเจอรอยเท้ามันย่ำมาทานนี้ไม่คิดว่ามาถึงแม่น้ำเหลิ่งแล้วจะเห็นมันอยู่อีกฝั่งแม่น้ำไม่คิดว่ามีสตรีอยู่กับมันด้วยถ้ามองเห็นนางก่อนเขาคงไม่ยิงธนูใส่
"แม่นางเหตุใดเจ้าถึงได้มาอยู่กับสิงโตตัวนี้ "
"สิงโต"ก่อนผะยุงกายลุกขึ้นหันหน้าเผชิญกับเหล่าบุรุษตัวโตกว่า
" แม่นางออกมาให้ห่างจากมันเถิด มันอันตราย"
"อันตราย" นางว่ามือนึงล้วงลงไปในห่อผ้าหยิบหมั่นโถวที่สือซว่านทำมากินระหว่างทางออกมาเขวี้ยงใส่ชายชุดดำทั้งสามปากก็ก่นด่าชายทั้งสามไปด้วย
"นี่มันหมั่นโถวข้า มิใช่สิโต"
นางเขวี้ยงหมั่นโถวไปจนเกือบหมดได้สติอีกทีตอนเจ้าหมั่นโถวมันร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง คราวนี้นางถึงกับยืนลนลานทำอันไดไม่ถูก
นางกลัว กลัวเหลือเกินหากมันเป็นอะไรขึ้นมา นางจะมีหน้าไปพบอาจารย์ได้ยังงัย มันเป็นเพื่อนเพียงตัวเดียวที่นางมีในโลกใบนี้ เจ้าพวกนี้กล้าดียังงัยมาทำหมั่นโถวของนาง นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังกลุ่มชายชุดดำที่กระโดดหลบหมั่นโถวของนางอย่างเดือดดาล
"หมั่วโถวมันเป็นหมา ซุมสูฮู้จักบ่ว่ามันเป็นหมา หมาพันทิเบตันนะเข้าใจบ่ซุมปึก สมองนะสมองมีบ่มีหัวไว้กั้นหูบ้อ เบิ่งบ่ออกติบักผีบ้า บักห่ากินหัวบัก$@&$&$&$"ด้วยความโมโหเกินขีดนางเผลอด่าออกเป็นภาษาบ้านเกิดในโลกเดิม
สตรีประหลาดนางพูดภาษาอะไรของนาง แล้วนั่นนางตั้งครรภ์หรอกหรือหากไม่สังเกตคงไม่เห็น มีที่ใดร้อนขนาดนี้ใส่เสื้อผ้ายังกับอยู่ในฤดูตงเทียน ดูนางสิโมโหจนหน้าดำนั้นดำเข้าไปอีก ดูแล้วยิ่งน่าเกลียดเข้าไปใหญ่ สตรีใดในโลกหล้าจะอัปลักษณ์ได้เท่านางอีก สามีนางคงตาบอดไม่ตาบอกก็คงบ่าถึงได้แต่งนางมาเป็นภรรยานี่คงทนความอัปลักษณ์ของนางไม่ไหวถึงได้ไล่นางมาอยู่ในป่าอย่างนี้ รอยยิ้มเผยอขึ้นนิดตรงมุมมุมปากหนาก่อนจะเลือนหายไปเพียงครู่ นางอยากปกป้องสิงโตร้ายตัวนี้ได้เขาจะเล่นกับนางสักตั้ง
ชายหนุ่มย่างเท้าเข้าไปหานางมือแกร่งกำกระบี่เตรียมชักออกจากฝักหากมีอะไรตุกติก ส่วนชายสองคนถูกห้ามไม่ให้เข้ามา ทั้งสองหันหลังเก็บหมั่นโถวที่ร่วงกับพื้นมาปัดดินออก พากันไปนั่งกินบนโขดหินอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจชายอีกคนที่น่าจะเป็นเจ้านาย
"อร่อยกว่าร้านเฒ่าแก่หลุนในเมืองหลวงอีก เจ้าว่ามั้ย"
"ใช่ข้าก็ว่าอย่างนั้นละ นางมาโยนทิ้งแถมยังมาว่าหมั่นโถวนางไม่ใช่สิงโตอีก ข้าว่านางไม่บ้าก็เพี้ยน แต่หมั่นโถวนางอร่อยจริงนะ นางเอามาจากที่ใด ขนาดเย็นชืดแล้วแป้งยังนุ่มอยู่เลย"
"เสียดายหากคุณชายสังหารนาง" ทั้งสองนั่งกินหมั่นโถวสนทนาไปด้วยเสียดายที่ไม่รู้ที่มาของอาหาร ทั้งสองกัดหมั่นโถวไปสายตาก็มองไปยังสตรีร่างเล็กที่ตรงหน้าท้องนูนออกมาหน่อยๆให้พอรู้ว่ามีครรภ์ด้วยเสื้อผ้าที่นางสวมใส่หนายังกะว่าอยู่ในฤดูหนาวช่วงหิมะตกซะอีกในมือมีเพียงกิ่งไม้แห้งเล็กๆอันนึงถือไว้ส่วนอีกคนบุรุษร่างกายสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาเป็นยอดบุรุษคนหนึ่งในเมืองหลวงที่บรรดาคุณหนูทั้งหลายต่างอยากโยนผ้าเช็ดหน้าให้เวลาเดินผ่าน ร่างสูงใหญ่มือแกร่งจับด้ามกระบี่ไว้แน่นเวลาก้าวย่างเข่าไปใกล้ๆนาง
"อย่าเข้ามานะ"นางกระโดดขวางไม่ให้เข้าใกล้หมั่นโถวที่ตอนนี้ใกล้จะหมดแรงเต็มที ด้วยธนูนั้นอาบยาพิษชนิดนึงที่ทำให้ค่อยๆหมดแรงลงเรื่อย ๆหากเป็นมนุษย์คงสิ้นใจไปแล้ว ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตบวกกับพละกำลังที่มีมากมหาศาลทำให้มันยังหายใจอยู่แต่ก็เบาแรงลงไปเยอะเลย นางมองหาสิ่งของที่พอจะป้องกันตนเองกับหมั่นโถ มีเพียงกิ่งไม้เล็กมันคงถูกน้ำพัดขึ้นมา ถึงจะกิ่งเล็กนางก็จะสู้ นางใช้เท้าตวัดกิ่งไม้ขึ้นมาถือไว้
"แม่นางถอยออกมาเถอะ มันเป็นสัตว์ร้ายเจ้าจะปกป้องมันไม่ได้ "
"ไม่หมั่นโถวข้าไม่ใช่สัตว์ร้าย อย่าเข้ามานะ" นางทำใจดีเข้าสู้ทั้งที่มือถือไม้สั่นระริก เจ้าหมั่นโถวมองดูชายผู้นั้นก้าวเข้ามาใกล้นางเต็มทีก่อนที่มันจะใช้แรงเฮือกสุดท้ายผงกหัวขึ้นขู่ให้ชายคนนั้นออกห่างจากนาง
โฮ่ง!โอ่ง! สิ้นเสียงเห่าหัวที่ผงกขึ้นก็ร่วงลงพื้นทันที ตาของมันที่มองนางอยู่ค่อยๆปิดลงปิดลง
"ไม่นะ!!หมั่นโถววววว"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments