คมมีดที่กรีดลงบนแผงอกของชายหนุ่มส่งผลให้น้ำเลือดน้ำหนองพุ่งทลักออกมา ทำให้สาวใช้ข้างๆถึงกับหน้าซีดเซียวก่อนจะตะโกนขึ้นด้วยความตกใจ
"ก...กรี๊ด!!ถอยไป" พูดจบนางก็ผลักเขอเข่อจนเซล้มก่อนจะวิ่งออกไปข้างนอกด้วยท่าทางแตกตื่นทำให้ผู้คนที่รออยู่ข้างนอกต่างกรูเข้ามาถาม
"ข้างในนั้นเกิดอะไรขึ้น" เฟยเอ๋อถามอย่างสงสัยพลางมองเข้าไปยังประตูที่เปิดแง้มเอาไว้
"ค...คุณหนูใหญ่นางหญิงชั่วนางกำลังฆ่าคนล...เลือดไหลจะหมดตัวแล้วเพคะ"นางตอบด้วยท่าทางลนลานก่อนจะล้มพับไป
"ฝ่าบาทเพคะน้องหญิงของข้านางไม่เชี่ยวชาญด้านหมอหากปล่อยนางให้อยู่กับมั่วจู๋ข้าเกรงว่านางคงจะทรมานเขาเป็นแน่เพคะ" หญิงสาวกล่าวก่อนจะเดินไปเคาะประตูเสียงดังโครมคราม
"นางหญิงชั่วเปิดประตูเดี๋ยวนี้"
"น้องหญิงฝ่าบาทบอกให้เจ้าเปิดประตูออกมาข้าว่าเจ้าอย่าพยายามเลยข้ารู้นะว่าเจ้าไม่รู้วิชาแพทย์แม้แต่นิดหากเจ้าทำแบบนี้ต่อไปข้าเกรงว่าท่านแม่ทัพจะทรมานเสียเปล่า" ยังไม่ทันที่นางจะพูดจบประตูบานใหญ่ก็เปิดออกก่อนศรธนูที่เคยฝังอยู่ในร่างกายของมั่วจู๋จะถูกโยนลงพื้น
"มั่วจู๋เป็นอย่างไรบ้าง" ฝ่าบาทเอ่ยถามก่อนจะเดินเข้าไปในจวนด้วยความห่วงใยแม่ทัพของตน
"ตอนนี้ร่างกายของเขาอ่อนแอมากรอให้ฟื้นตัวอีกสักพักก็จะดีขึ้นระหว่างนี้อย่าได้รบกวนเขาเลย" เจียงหลีพูดก่อนจะหันหลังออกห้องไปแต่ยังไม่ทันจะก้าวพ้นประตูเสียงซุบซิบนินทาของสาวใช้คนหนึ่งก็ดังขึ้น
"ข้าได้ยินว่านางไม่เคยได้ศึกษาเรื่องหมอมาก่อนที่นางรักษาแม่ทัพได้คงเป็นเพราะบุญหล่นทับเป็นแน่"สาวใช้พูดเหน็บแนมพลางเบ้ปากใส่อย่างไม่สบอารมณ์แทนที่หญิงสาวจะโกรธนางกลับเดินกลับจวนไปแบบหน้าตาเฉยทำเอาสาวใช้หน้าชาไปตามๆกัน
"อร๊าย!!นางเจียงหลีนี่อีกแล้ววันนี้นางทำให้ฝ่าบาทพอพระทัยอย่างยิ่งหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเกรงว่าข้าคงถูกฝ่าบาทปลดออกจากตำแหน่งเป็นแน่" หญิงสาวพูดด้วยความโมโหสีหน้าท่าทางแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
"คุณหนูเพคะอย่าได้กริ้วไปเลยเดี๋ยวจะไม่สวยนะเพคะ"สาวใช้คนสนิทกล่าวขึ้นพลางก้มหน้าอย่างเคารพ
เพี๊ยะ!! ฝ่ามือที่บรรจงตบเข้าไปยังในหน้าขาวนวลของสาวใช้เสียงดังฟังชัด ทำเอาร่างน้อยถึงกับหงายหลังล้มลงไม่เป็นท่า
"สาวใช้ชั้นต่ำแบบเจ้ากล้าดีอย่างไรมาสอนข้า"นางพูดพลางจ้องมองสาวใช้ด้วยสายตาโกรธแค้นก่อนจะเขวี้ยงแจกันดอกไม้ใบโปรดของตนทิ้งอย่างไร้เยื่อใยฉับพลันสายตาของนางก็เหลือบไปเห็นเจียงหลีอยู่ไม่ไกล
"น้องหญิงเจ้ามาทำอะไรที่นี่หรือ"นางพูดพลางยิ้มแบบมีเลศนัยก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หวาย
"ท่านพี่มีอะไรไม่ทราบ"หญิงสาวตรงหน้าได้เอ่ยถามก่อนจะรินน้ำชาให้เฟยเอ๋อผู้เป็นพี่ด้วยความไม่เต็มใจนัก
"ข้ามาเพื่อมอบกุหลาบให้แก่เจ้าข้าเห็นว่าเมื่อก่อนเจ้าชอบมันมากแล้วก็สีแดงนี่สีโปรดเจ้าเลยไม่ใช่เหรอ"นางพูดพลางเอื้อมมือไปรับกุหลาบจากสาวใช้ก่อนจะส่งให้เจียงหลี
"ขอบคุณท่านพี่ที่หวังดีแต่หลายวันมานี้ข้าไม่สบายเลยไม่สามารถอยู่ใกล้ดอกไม้ใดได้เลย เชิญท่านพี่นำกลับไปด้วยเถิด"นางพูดก่อนยื่นมือไปกุมมือของพี่สาวอย่างเฟยเอ๋อพลางค่อยๆบีบมือเรียวยาวของหญิงสาวตรงข้ามจนเลือดซึม
"นี่เจ้า" หญิงสาวสบัดมือออกอย่างไวก่อนจะลุกขึ้นแล้วมองหน้าน้องสาวอย่างเอาเรื่อง
"พี่หญิงข้าขออภัยข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะมีหนามอยู่บนก้านกุหลาบนี้จึงเผลอบีบมือสวยๆของท่านจนเป็นแผลแบบนี้"นางพูดพลางยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ
"พวกเจ้ากลับ"นาฃพูดก่อนจะเดินกระทืบเท้าออกไปอย่างไม่พอใจ
"คุณหนูท่านทำแบบนี้ไม่กลัวว่าจะโดนคุณหนูใหญ่เล่นงานอีกหรือ"
"นางมีอะไรให้ข้าต้องกลัวงั้นหรือเขอเข่อเจ้าไม่ต้องห่วงข้าจะไม่ยอมให้นางกดขี่ข้ากับเจ้าอีกแล้ว"
"เจ้าค่ะคุณหนู คุณหนูของเขอเข่อใจดีที่สุดเลยเพคะ"
"ปากหวานจริงๆไปกันเถอะวันนี้ข้าจะทำสุกี้ให้เจ้ากินรับลองว่าเจ้าต้องถูกใจแน่"
"สุกี้คืออะไรงั้นเหรอคุณหนูทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินเลยล่ะ"นางถามพลางเกาหัวแกรกๆอย่างสงสัย
"เอาน่ามาเถอะ"
**********
"เอาน้ำซุบใส่ลงไปแบบนี้แล้วก็ใส่เนื้อหมูลงไปตามด้วยผักสดอีกสักหน่อย"เสียงพึมพำของเจียงหลีทำเอาสาวใช้ข้างกายยิ้มเจื่อนๆ
"น่ากินจังเลยแต่ว่าสาวใช้อย่างข้าร่วมโต๊ะกับท่านไม่ได้หรอก"เธอพูดพลางทำหน้าหงอยก่อนจะถอยกรูดออกไปยืนมุมห้อง
"พูดอะไรของเจ้าข้าเปรียบว่าเจ้าเป็นสหายคนหนึ่งของข้าเอาน่ามาๆไม่ต้องเกรงใจ"นางพูดก่อนจะจูงมือสาวคนสนิทมานั่งยังเก้าอี้กลิ่นหอมของน้ำซุบและเสียงน้ำเดือดเบาๆทำเอาสาวใช้กลืนน้ำลายอึกๆสีหน้าท่าทางของนางทำให้เจียงหลีหัวเราะออกมาอย่างขบขำ
"คุณหนูหัวเราะอะไรกันหน้าเขอเข่อมีอะไรติดงั้นหรือ" นางถามพลางลูบใบหน้าของตนอย่างระแวง
"ไม่มีอะไรหรอกกินๆเดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อยเอา"หญิงสาวกล่าวก่อนจะคีบเนื้อชิ้นพอเหมาะให้กับสาวใช้ของตน
"หืม...อร่อยจริงๆเจ้าค่ะคุณหนูเนื้อหมูที่ต้มจนสุกแล้วกับน้ำจิ้มแจ่วของท่านมันทำให้เขอเข่อหยุดกินไม่ได้เลยล่ะ"นางกล่าวพลางคีบเนื้อใส่ปากก่อนจะต้องอ้าปากหวอพ่นเอาควันออกเพื่อระบายความร้อนการกระทำนั้นทำเอาเจียงหลีขำก๊ากจนชักดิ้นชักงอ
"เจ้านี่มัน...มันน่าขำชะมัดโอ้ยๆเจ็บท้องฮ่าๆ"เธอพูดพลางตบโต๊ะสนั่น
"ดึกแล้วเรือนเย็นส่งเสียงดังอะไรไม่เกรงใจคนอื่น"ชายหนุ่มกล่าวก่อนจะเร่งฝีเท้ามุ่งตรงไปยังต้นเสียงพร้อมกับทหารข้างกายอีกสองนาย
(กลิ่นหอมนี่มันอะไรกัน) ชายหนุ่มชะงักกลิ่นที่หอมหวนทำให้ท้องของเขาร้องจ๊อก
"พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่เสียงดังไปถึงห้องอักษรของจ้า"
"ฝ่าบาทได้โปรดอภัยเพคะ"สาวใช้รีบคุกเข่ายอมรับผิดต่างจากเจียงหลีที่ยังนั่งคีบอาหารใส่ปากจนแก้มตุ่ย
"ผ่าหมาดท่างสงใจยองชิมสุกี้ของจ้าไหมเยหะ" นางพยายามพูดอย่างทุลักทุเลก่อนจะกลืนคำข้าวในปากลงคอพลางตบอกของตนเพราะชิ้นเนื้อติดคอพร้อมกับยื่นชามเนื้อที่เพิ่งตักมาให้ชายตรงหน้า
"นี่คืออะไร"เขารับชามซุบมาพิจารณาอย่างละเอียด
"ทูลฝ่าบาทสิ่งนี้เรียกว่าสุกี้เพคะคุณหนูของข้าได้ทำมันขึ้นมาเพคะ"เขอเข่อที่ก้มหน้าอยู่เอ่ยขึ้นก่อนจะลุกไปหยิบน้ำจิ้มสีแดงส้มมาให้ฝ่าบาทแต่ทว่ามันก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะชามเนื้อที่เพิ่งส่งให้ตอนนี้แทบจะไม่เหลือเศษเสี้ยวใดๆอยู่เลย
"เอามาอีก...มองอะไรรีบตักมาให้ข้ากินสิ"เขาคะยั้นคะยอสาวใช้ให้ตักซุบในหม้อให้แก่ตน
"เอ่อ...ฝ่าบาทเพคะลองเสวยกับน้ำจิ้มนี่ดูสิเพคะ"เขอเข่อเอ่ยขึ้นก่อนจะราดน้ำจิ้มลงไปยังชามเนื้อที่มีไอน้ำระเหยอยู่
"เป็นอย่างไรบ้างเพคะฝ่าบาทอร่อยใช่หรือไม่เพคะ"เจียงหลีถามพลางมองก้นหม้อที่แม้แต่น้ำสักหยดก็ไม่หลงเหลือให้เห็น
"มันก็งั้นๆแหละไม่เห็นอร่อยสักนิด"เขาพูดก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้เอามือทั้งสองลูบพุงของตนเบาๆก่อนจะเดินออกไป
"ปากก็บอกว่าไม่อร่อยแล้วใครกันที่กินหมด ชิ๊อิตาบ้านี่"เธอสบถก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยล้าและผลอยหลับไปจนถึงเช้า
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments