แม้จะย้อนกลับมาแต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็มิได้เปลี่ยนไปมากมายนัก มีบ้างที่ทั้งบิดาและพี่ใหญ่แปลกใจกับนิสัยที่แปรเปลี่ยนแต่ก็หาได้มีความ สนใจต่อตัวเขากว่าที่เคยนัก
" จิ่วเอ๋อร์ หากข้าจะไปชายแดนเจ้าจะไปอยู่กับข้าหรือไม่ "
เอ่ยถาม บ่าวคนสนิทที่ยืนฝนหมึกให้อยู่ข้างๆ มือก็กำลังเขียนจดหมายถึงพี่รอง ในตอนนี้ยังมิได้เกิดศึกที่ชายแดนหากแต่อีกมินานจะเกิดภัยพิบัติ ด้วยความ เป็นห่วงพี่รองจึงแอบเขียนเป็นนัยให้พี่รองได้รับรู้จะได้เตรียมตัวตั้งรับทัน เมื่อเขียนเสร็จก็ให้จิ๋วเอ๋อร์นำไปส่งโดยฝากไปกับสหายของพี่รอง เพราะตัวเขา นั้นมีสามารถออกนอกจวนได้
ใกล้ถึงเวลาที่เขาจะอายุสิบหกแล้ว วันนั้นจะเป็นวันที่ราชโองการ พระราชทานสมรสถูกส่งมาที่จวน หากจะคัดค้านก็คงมิมีทางแล้วคงได้แต่ยอมรับ หากแต่หลังจากแต่งงานเขาคงจะขอให้คนผู้นั้นช่วยหย่าแล้วค่อย เดินทางไปอยู่กับพี่รองที่ชายแดน ระหว่างที่รอให้ถึงวันนั้นเขาคงทำสิ่งใดมิได้นอกจากรอ โชคดีที่งานบ้านงานเรือนสำหรับซูเหวินนั้นมิเป็นสองรองใคร งานปักถูกสอนจากอาจารย์ผู้เลื่องชื่อ แม้จะไม่สนใจแต่เขาก็มิเคยขาดสิ่งที่ บุตรของเสนาบดีควรจะได้รับ ทรัพย์สินเงินทองที่ได้รับในแต่ละเดือนก็ มากมาย หากแต่เขาก็มิคิดที่จะปล่อยให้เวลาผ่านพ้นไป หากมิคิดทำสิ่งใดเลยเขาคงไม่สามารถหยุดฟุ้งซ่านได้
" จิ๋วเอ๋อร์ เจ้านำเงินและรายการนี้ไปยังร้านไฉ่ฝูให้ข้าที "
" ขอรับ "
แม้จะไม่เข้าใจที่คุณชายสั่งแต่ม่อจิ๋วก็ทำตามอย่างไม่มีข้อแม้ ไม่ถึงหนึ่งชั่วยามม่อจิ๋วก็นำข้าวของที่สั่งกลับมายังเรือน
" เจ้าไปแจ้งแก่ท่านพ่อบ้านว่าข้าจะรับอาหารที่เรือนเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบาย"
ม่อจิ๋วรีบไปทำตามที่บอกทันที ซูเหวินลุกขึ้นไปตรวจสอบของที่สั่งว่าครบหรือไม่ เมื่อเห็นว่าของที่สั่งนั้นได้ครบมิขาดตกก็ไม่ประวิงเวลานำ ผ้าไปขึงให้ตึงแล้วค่อยเตรียมไหมออกมา นึกภาพในหัวเพียงชั่วครู่แล้วจึงลงมือปัก
ครั้งหนึ่งเขาเคยปักผ้าคลุมลายพยัคฆ์ให้แก่คนผู้นั้นแต่ก็มิเคยเห็น มันถูกสวม บางทีอาจจะถูกเผาทิ้งแล้ว ซูเหวินรีบสะบัดศีรษะปัดความคิด เรื่องในอดีตออกไปแล้วหันมาจดจ่อกับลวดลายดอกไม้บนผ้า
ม่อจิ๋วเฝ้ามองผู้เป็นนายก้มหน้าก้มตาปักลายผ้าอย่างคล่องมือ ใช้เวลาไม่นานเท่าใดนักลายดอกไม้ที่งดงามราวกับมีชีวิตก็เสร็จ คุณชายนำผ้าปักมาตัดเย็บเป็นถุงหอมโดยให้เขาช่วยนำเครื่องหอมที่คุณชายได้ทำไว้ใส่ลงไปในถุงแล้วเย็บปิดให้สนิท
"คุณชายจะทำให้ผู้ใดหรือขอรับ"
"ข้ามิได้ทำให้ผู้ใด ข้าจะทำขายต่างหากเล่า"
ใบหน้างดงามเผยรอยยิ้มซุกซนยิ่งทำให้เกอน้อยดูงดงามยิ่งขึ้น
" ขะ..ขายหรือขอรับ คุณชายมิได้รับอัฐรายเดือนหรือขอรับ "
ซูเหวินขำเมื่อบ่าวรับใช้ตัวน้อยทำหน้าตาตื่นราวกับเกิดเรื่องร้ายแรง อยากรู้จริงๆ ว่าในหัวเล็กๆ นี่คิดอันใดอยู่
" มิใช่หรอก ข้าเพียงแต่เบื่อหน่ายเท่านั้น "
เขาพูดเพียงเท่านี้แล้วหันมาปักผ้าต่อโดยตั้งใจไว้ว่าจะปักให้ได้สักสิบอัน เมื่อเข้าสู่ยามโฉ่ว (01.00-02.59 น.) ร่างระหงแทบจะฟุบหลับกับโต๊ะเมื่อถุงหอมชิ้นสุดท้ายเสร็จสิ้นลง
" คุณชายไปนอนที่เตียงเถิดตขอรับ "
ม่อจิ่วแม้จะง่วงเพียงใดแต่ก็ยังรอส่งคุณชายเข้านอน ร่างเล็กที่ผอมบางกว่าผู้เป็นนายพยุงร่างที่พร้อมจะหลับ ไปที่เตียง เมื่อปรนนิบัติคุณชายเรียบร้อยม่อจิ่วจึงดับไฟก่อนที่จะแยกไปนอน
ย่างเข้ายามซื่อ (09.00-10.59 น.) ซูเหวินก็ยังคงหลับใหลหากแต่ก็ต้องถูกปลูกจากห้วงนิทราเมื่อเสียงเคาะประตูดังลั่น ร่างบางสะดุ้งตื่นเสียงเรียกด้านนอกเรือนทำให้เขาต้องรีบลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วจึงเดินไป เปิดประตู
" สายป่านนี้แล้วเจ้ายังมิจัดการตน ข้าปล่อยปละละเลยเจ้าเกินไปหรือ "
ยังมิได้คำนับบิดาก็ตะคอกใส่ ซูเหวินก้มหน้าลงต่ำเฉกเช่นทุกคราที่เจอกับผู้เป็นบิดา
" ข้าขออภัยขอรับ "
" รีบแต่งตัวเตรียมรับราชโองการ "
ใจดวงน้อยสั่นสะท้านเมื่อได้ยินสิ่ง ที่บิดากล่าว เหตุใดถึงได้มาเร็วเช่นนี้ เกิดสิ่งใดขึ้น ยังมิผ่านพ้นวันเกิด เหตุใดราชโองการจึงได้มาเล่า แม้จะตื่นตกใจที่เหตุการณ์มิได้เป็นดังเดิมแต่ซูเหวินก็รีบรับคำบิดาอย่างเชื่อฟัง คล้อยหลังบิดาซูเหวินก็เดินเป็นหนูติดจั่นอยู่ภายในห้อง
เห็นทีเขาต้องทำอะไรสักอย่างเสียแล้ว
"คุณชายขอรับ "
" จิ๋วเอ๋อร์รีบแต่งตัวช่วยข้า แล้วนำถุงหอมไปส่งที่ร้านไฉ่ฝู "
ซูเหวิน รีบจัดแจงงานทันที ยังดีที่จิ๋วเอ๋อร์มิได้ตั้งคำถามหลังจากที่ช่วยแต่งตัวเสร็จ เจ้าตัวก็รีบห่อของเดินออกจากเรือนไปทันที แม้จะไม่เคยได้ออกนอกจวนแต่ ร้านไฉ่ฝูก็ถือว่าคุ้นเคยกัน ซูเหวินรีบสาวเท้าเดินไปยังเรือนใหญ่ที่ทั้งบิดาและ พี่ใหญ่นั่งคอยท่าอยู่แล้ว
" จางซูเหวินรับราชโองการ "
เมื่อเห็นร่างบอบบางเดินเข้ามาทั้งยัง เป็นเกอกงกงผู้ถือราชโองการก็ประกาศทันที
" กระหม่อมจางซูเหวิน "
ร่างบางคุกเข่าเบื้องหน้า
" เนื่องด้วยบุตรชายจางซูเหวินของท่านเสนาบดีจางพร้อมด้วยกิริยา และความงาม เจิ้นจึงเห็นว่าจางซูเหวินควรได้คู่ครองที่ดี จึงพระราชทานสมรส ระหว่างจางซูเหวิน กับแม่ทัพหรงหวงเจี้ยน งานสมรสจะจัดขึ้นในอีกสิบห้าวัน ข้างหน้า "
สิ้นคำกงกงแม้จะไม่ยินยอมแต่ก็มิอาจขัดขืน
" ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี "
ซูเหวินยื่นมืออันสั่นเทา รับราชโองการสีทองมาไว้ในมือ แม้ในใจนั้นอยากจะโยนทิ้งไปให้ไกล
เมื่อขบวนกงกงเดินทางกลับทั้งบิดาและพี่ใหญ่ก็มิได้พูดสิ่งใดกับเขา พี่ใหญ่เพียงชายตามองอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะหมุนกายเดินหนีไป แม้จะมีจวนหลังใหญ่ ชาติกำเนิดดีเพียงใด แต่ใจเขาก็ยังคงรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่ง ซูเหวินเดิน ถือราชโองการกลับเรือนเพียงลำพัง มิถึงสองเค่อหลังจากกงกงจากไป ม่อจิ่วก็วิ่งหน้าตั้งกลับมา
" ดียิ่ง คืนนี้ข้าจะปักอีก เจ้าช่วยข้าหน่อยเถิดนะจิ๋วเอ๋อร์ "
" ขอรับ "
ไม่นานในเรือนก็กลายเป็นโรงงานปักผ้าไปเสียแล้ว ราชโองการ สีทองล้ำค่าจมอยู่ใต้กองเศษผ้าอย่างที่ซูเหวินไม่คิดจะใส่ใจ มุ่งมั่นกับการปักผ้า เพื่อหาเงินทอง เงินทองมีมากก็มิผิดอันใด ทั้งยังช่วยทำให้เขานั้นนอนหลับได้ อย่างมิต้องฝันร้าย
วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ร้านไฉ่ฝูนั้นแทบรอถุงหอม จากซูเหวินไม่ได้ เพราะทั้งมีกลิ่นหอมทั้งลวดลายงดงามราวกับของจริงทำให้ถูกใจเหล่าคุณหนูและเกอ เป็นที่ต้องการยิ่ง หากแต่ซูเหวินก็มิอาจปลีกตัวมา ทำงานได้เพราะบิดาให้เตรียมตัวเป็นเจ้าสาว
"คุณชายขอรับ ท่านมิยินดีหรือ "
ม่อจิ่วที่สังเกตสีหน้าคุณชายเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยมาหลายวันจึงเอ่ยถาม
" ข้ามิอาจยินดีได้เลยจิ๋วเอ๋อร์ "
เขาได้แต่ตอบบ่าวคนสนิทอย่างคลุมเครือ เขาจะดีใจได้เยี่ยงไรในเมื่ออนาคตของเขานั้นจะต้องถูกทอดทิ้ง และเจ็บช้ำ เอาเถิดตอนนี้เขาจะทำให้ท่านแม่ทัพยินยอมหย่าแม้จะทำให้บิดา เสียหน้าไปบ้างก็ตาม
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments