ท่านพี่ด้ายเเดงนี้ข้าขอคืนให้
ยามจื่อ (23.00-24.59น.) จวนแม่ทัพเเห่งเเคว้นเต็มไปด้วยเสียงหวีดร้องเพราะความหวาดกลัว ประตูจวนนั้นบ่าวไพร่วิ่งพร่านหนีตายกันออกมา เปลวเพลิงสีส้มลุกโชนย้อมสีท้องฟ้ายามค่ำคืนให้สว่างไสว ร่างสูงใหญ่ของแม่ทัพหวงเจี้ยนทะยานข้ามกำเเพงสูงของจวน ในอ้อมแขนนั้นโอบอุ้มหญิงงามที่แม้ผิวกายจะเปื้อนด้วยคราบเขม่าก็มิอาจปิดบังความงามได้ แววตาเฉยชากวาดมองบรรดาบ่าวไพร่ที่ต่างหมดเเรงหมดสภาพจากการวิ่งหาน้ำเพื่อดับไฟ หากแต่เปลวไฟกลับลุกไหม้อย่างรวดเร็วจึงต้องหนีเอาชีวิตรอด
" เมิ่งเอ๋อร์ เจ้าไหวหรือไม่ "
น้ำเสียงที่แม้จะติดเย็นชาหากแต่ก็เจือด้วยความอ่อนโยนอยู่หลาย ส่วนหญิงงามในอ้อมแขนเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของบุรุษผู้เป็นที่รัก
" คะ..คุณชาย..คุณชายของข้ายังไม่ออกมา ปล่อย!! เข้าจะเข้าไปช่วยคุณชายของข้า "
บ่าวไพร่ที่รอดชีวิตจากเปลวเพลิงแม้จะเเปลกใจว่าบ่าวผู้นี้กล่าวถึงคุณชายที่ไหน ผู้ใดกันจะเข้ามาอยู่ในจวนแม่ทัพ ในใจหวงเจี้ยนกระตุกวูบไปชั่วครู่เมื่อนึกถึงใครผู้หนึ่งที่ทุกคนแทบจะลืมเลือนไปหมดแล้ว หวงเจี้ยนหันกลับไปมองจวนที่กำลังลุกไหม้ทันที เปลวเพลิงนั้นลุกโชน เสียงไม้ที่แตก และไม่นานก็มีเสียงถล่มของเรือนนั่นทำให้ใจเขาแทบหยุดเต้น เปลวไฟยังคงลุกไหม้อยู่เกือบสองชั่วยามจึงได้ดับมอดลง ใต้ฝุ่นเถ้าเเละควันไฟมีผู้สิ้นชีวาด้วยเปลวไฟนี้เพียงผู้เดียว
ฮูหยินเอกจางซูเหวิน
" อั๊ก " ใบหน้างดงามล่มแมืองที่แม้ตอนนี้จะซีดเผือดไร้สีเลือดกระอักเลือดสีดำออกมาหนึ่งคำ ร่างระหงค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นเพื่อนั่งลงที่ตั่งไม้ในเรือนเล็กของตน เสียงไม่แตกลั่นจากเปลวเพลิงได้ยินเป็นระยะๆ กลิ่นควันไฟและเปลวเพลิงอยู่ในครรลองสายตา ความร้อนระอุของเปลวเพลิงนั้นเทียบมิได้กับความรู้สึกเจ็บปวดที่เเล่นไปทั่วร่าง แววตาที่เคยทอประกายสุกใสกลับมืดมน
" หึ ซูเหวินเจ้าช่างโง่นัก "
คนงามยกยิ้มเย้ยหยันตน คาดหวังสิ่งใดจากคนผู้นั้นกันช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นข้าเป็นเพียงสิ่งที่ไม่น่าจดจำ ถูกให้อยู่ในเรือนห่างไกลทอดมองคนผู้นั้นเเละหญิงผู้นั้นเคียงคู่กัน
ข้าผิดอันใด...เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายกับข้าเยี่ยงนี้ หยดเลือดสีดำไหลจากมุมปากหยัก ลมหายใจเริ่มขาดห้วงเมื่อเปลวไฟเเห่งชีวิตใกล้ดับมอดแล้วนั้น ในใจกล่าวโทษสามีที่มิคิดจะช่วยเหลือ ได้เเต่เวทนาตน ในห้วงเวลาสุดท้ายซูเหวินคิด หากไม่รักท่าน เขาคงมีความสุขมากกว่านี้ หากชาติหน้ามีจริง จะมิขอเกี่ยวด้ายเเดงผูกปอยผมกับเจ้า
เปลวไฟพัดโหมย้อมนภามืดมิดให้เเดงฉาน ร่างของฮูหยินทอดกายสิ้นลมหายใจอยู่ที่เรือนพร้อมคำอธิษฐานห้วงสุดท้ายของชีวิต
หลังจากเปลวเพลิงมอดดับบ่าวเกอตัวน้อยวิ่งล้มลุกคลุกคลานไปทางท้ายจวนเพื่อไปยังเรือนน้อยที่คุณชายตนอยู่ เรือนเล็กเหลือเพียงเศษเถ้าสีดำ บ่าวตัวน้อยยังหวังว่าคุณชายตนนั้นจะหนีรอด หากแต่วิ่งตามหาจนรอบจวนแล้วยังไม่พบผู้เป็นนาย
" คุณชาย ฮืออออออออ "
หวงเจี้ยนที่เดินตามหลังมามองซากเรือนด้วยใบหน้านิ่งเฉย ก้าวข้ามเศษไม้และขี้เถ้ากวาดสายตามองรอบๆ แม้จะไม่เด่นชัดหากแต่มีที่หนึ่งที่ไม้ยังไหม้ไม่หมด แม้จะมิเห็นร่างเเต่ก็พอจะคาดเดาได้ หากแต่สิ่งที่ดึงสายตาคู่คมให้หยุดนิ่งคือปิ่นหยกขาวที่แม้จะมีคราบดำหรือจะหักครึ่งไปแต่เขาก็ยังจำได้ดี ปิ่นที่เคยมอบให้ใครผู้หนึ่งที่เขาจำใบหน้ามิได้ เหตุใดจึงได้อยู่กับคนผู้นี้ ในใจเกิดหลุมดำและคำถามขึ้นมากมาย เเต่คนที่ตอบได้นั้นก็มิได้อยู่ตรงนี้แล้ว
" ท่านพี่ เเค่กๆ "
" เมิ่งเออร์เจ้าอย่าได้เข้ามา "
เมื่อเห็นร่างคนรักกำลังเดินเข้ามาหวงเจี้ยนก็ลืมคำถามในใจไปสิ้น รีบเดินไปประคองพาออกไปจากที่นี่ทันที ลืมแม้กระทั่งความรู้สึกในใจที่เกิดขึ้น
ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ ฮูหยินสิ้นลมหายใจในเปลวเพลิง บ่าวรับใช้กลับสู่ตระกูล หลังจากนั้นเพียงสามเดือนจวนแม่ทัพก็เกิดเรื่องราวขึ้นอีกครา.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments