ความมืดมิดปกคลุมทั่วห้องสตูดิโอใจกลางเมืองใหญ่ เป้อนั่งอยู่บนโซฟาหนังตัวเก่า มองออกไปยังแสงไฟระยิบระยับของตึกรามบ้านช่อง แก้ววิสกี้ในมือเริ่มอุ่น แต่ความรู้สึกในใจของเขากลับเย็นเยียบ
วันนี้เป็นวันครบรอบ 7 ปีที่เขาคบกับไทป์ ความทรงจำมากมายผุดขึ้นมาในหัว ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันในคลาสเรียนดนตรี เสียงหัวเราะ ความฝันที่วาดไว้ด้วยกัน และสัมผัสที่อบอุ่นของอีกฝ่าย ไทป์คือแรงบันดาลใจ คือโลกทั้งใบของเขา
แต่พักหลังมานี้ ความสัมพันธ์ของพวกเขากลับเริ่มสั่นคลอน ไทป์หมกมุ่นอยู่กับงานเพลงชุดใหม่ กลับบ้านดึกดื่น และดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตความเงียบเหงาที่ก่อตัวในใจของเป้อ ทุกครั้งที่เป้อพยายามเปิดใจคุย ไทป์ก็จะตอบกลับมาด้วยความเหนื่อยล้าและขอพักผ่อน
ความว้าเหว่และความไม่มั่นคงเริ่มเกาะกินหัวใจของเป้อ เขาพยายามเข้าใจและให้กำลังใจ แต่ความรู้สึกโดดเดี่ยวก็ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างเงียบๆ
จนกระทั่งเขาได้เจอกับนัท นัทเป็นนักแสดงหนุ่มที่เข้ามาทำงานในโปรเจกต์มิวสิกวิดีโอที่เป้อกำกับ นัทเป็นคนมีเสน่ห์ เข้าใจง่าย และมักจะสังเกตเห็นความเศร้าที่ซ่อนอยู่ในแววตาของเป้อ พวกเขามักจะคุยกันหลังกองถ่าย ไปทานอาหาร หรือแค่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องศิลปะ เป้ารู้สึกผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเองทุกครั้งที่อยู่ใกล้นัท
ความสัมพันธ์ของเป้อและนัทพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จากเพื่อนร่วมงานกลายเป็นคนพิเศษ และในที่สุด...ความสัมพันธ์นั้นก็ลึกซึ้งเกินกว่าคำว่าเพื่อน
เป้อรู้ดีว่าสิ่งที่เขากำลังทำมันทรยศต่อไทป์ คนที่เขารักและเคยสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป ความรู้สึกผิดและความละอายใจกัดกินใจเขา แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกดีๆ ที่เขามีต่อนัทได้
วันนี้เป็นวันครบรอบ แต่บรรยากาศในห้องกลับอึดอัด ไทป์ยังคงทำงานอยู่ที่สตูดิโอ และไม่มีแม้แต่ข้อความสั้นๆ ส่งมา เป้าวางแก้ววิสกี้ลงบนโต๊ะ ความเงียบในห้องยิ่งทำให้ความเหงาชัดเจนขึ้น
เสียงโทรศัพท์สั่นเบาๆ ขัดจังหวะความคิด เป้อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หน้าจอปรากฏชื่อของนัท
"เป้อ... ผมคิดถึงคุณนะ" เสียงของนัทฟังดูอบอุ่น
เป้อเงียบไปชั่วครู่ ความรู้สึกผิดและความโหยหาใครสักคนเข้ามาปะทะกันในใจ
"ผมก็คิดถึงคุณ นัท" ในที่สุดเป้อก็ตอบกลับไป เสียงของเขาแผ่วเบา
หยดน้ำตาไหลซึมออกมาอย่างเงียบๆ ความรู้สึกผิด ความสับสน และความต้องการใครสักคนเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในใจประดังเข้ามาพร้อมกัน เป้อไม่รู้ว่าเขาควรทำอย่างไรต่อไป เขาไม่อยากทำร้ายจิตใจไทป์ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่อยากสูญเสียนัทไปเช่นกัน
ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างเงียบงัน ไทป์กลับมาถึงห้องตอนเช้ามืด เขาดูอ่อนล้าและทิ้งตัวลงบนเตียงโดยไม่ได้พูดอะไรกับเป้อสักคำ เป้อมองแผ่นหลังของไทป์ด้วยความรู้สึกที่หลากหลายตีกันอยู่ในอก
เขาได้ทำลายความเชื่อใจของคนที่รักเขาที่สุด และเขาไม่รู้ว่าจะสามารถเยียวยาบาดแผลนั้นได้อย่างไร
เช้าวันต่อมา เป้อตัดสินใจบางอย่าง เขาต้องจบความสัมพันธ์ที่คลุมเครือนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาต้องซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเองและให้เกียรติไทป์
เป้อเดินเข้าไปในห้องทำงาน ไทป์กำลังนั่งฟังเพลงอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
"ไทป์... เรามีเรื่องต้องคุยกัน" เสียงของเป้อหนักแน่นแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด
ไทป์หันมามองเป้อ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
เป้อสูดลมหายใจลึกๆ และเริ่มพูดทุกอย่างออกมา เขาเล่าถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไป ความเหงาที่เขาเผชิญ และความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับนัท ทุกคำพูดออกมาจากใจจริง เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความสำนึกผิด
เมื่อเป้อพูดจบ ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ไทป์นั่งนิ่ง ดวงตาเหม่อลอย ยากที่จะอ่านความรู้สึกของเขาได้
ในที่สุด ไทป์ก็ลุกขึ้นยืน เขาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปยังวิวเมืองที่เงียบสงบ
"เป้อ... ผมไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน" เสียงของไทป์แหบพร่า
"ผมขอโทษ" เป้อพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันเลวร้าย ผมไม่สมควรได้รับความรักจากคุณเลย"
ไทป์หันกลับมามองเป้อ ดวงตาของเขาแดงก่ำ
"ทำไม... ทำไมคุณถึงทำกับผมแบบนี้" น้ำเสียงของไทป์เต็มไปด้วยความเจ็บปวดร้าวลึก
เป้อเดินเข้าไปใกล้ไทป์ พยายามจะสัมผัสมือของเขา แต่ไทป์ถอยหนี
"ผม... ผมรู้สึกเหมือนคุณไม่ได้อยู่ตรงนี้เลยไทป์ ผมเหงามาก" เป้อพยายามอธิบายความรู้สึกของตัวเอง
"แล้วการไปมีคนอื่นมันทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นจริงๆ เหรอ" ไทป์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เป้อเงียบไป เขาไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ
"ผมยังรักคุณนะไทป์" ในที่สุดเป้อก็พูดออกมา
ไทป์หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น "รักงั้นเหรอ... ความรักของคุณมันช่างน่าขัน"
ความเงียบกลับมาปกคลุมห้องอีกครั้ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายได้
"ผมคงต้องไป" ในที่สุดไทป์ก็พูดขึ้น "ผมไม่รู้ว่าจะมองหน้าคุณได้ยังไงอีกต่อไป"
เป้อเบิกตากว้าง "ไม่นะไทป์... อย่าไปเลย ผมขอโทษ ผมสัญญาว่าจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก"
ไทป์ส่ายหน้าช้าๆ "มันจบแล้วเป้อ คุณทำลายความเชื่อใจทั้งหมดไปแล้ว"
ไทป์เดินเข้าไปในห้องนอน เก็บของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋าอย่างเงียบเชียบ เป้อได้แต่ยืนมองด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เขาพยายามจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อรั้งอีกฝ่ายไว้ แต่คำพูดก็ติดอยู่ที่ลำคอ
ไม่นานไทป์ก็ลากกระเป๋าเดินทางออกมา เขาหยุดอยู่ที่หน้าประตู มองเป้อเป็นครั้งสุดท้าย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและความผิดหวัง
"ลาก่อนเป้อ" ไทป์พูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ประตูห้องปิดลง พร้อมกับเสียงหัวใจที่แตกสลายของเป้อ เขาทรุดตัวลงกับพื้น ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างเงียบงัน ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวได้พรากทุกสิ่งทุกอย่างที่มีความหมายไปจากชีวิตของเขาแล้ว...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 7
Comments