ระหว่างเรา... จะรักกันอีกได้มั้ย
มิวยืนนิ่งอยู่หน้าเสื้อผ้าของเธอในห้องเดินออกจากบ้าน สายฝนที่ตกลงมาในกรุงเทพฯ ทำให้เธอไม่อยากออกไปไหน แต่ก็มีงานเลี้ยงรุ่นที่ต้องไปในคืนนี้ เพื่อนๆ ส่งข้อความมาไม่หยุดจนเธอไม่มีทางเลือก
ในช่วงสุดสัปดาห์แล้วก็ได้รู้ว่า งานเลี้ยงรุ่นที่มัธยมปลายจะจัดขึ้นในไม่ช้า เป็นการรวมตัวของทุกคนที่เคยเรียนด้วยกัน ที่เดียวที่มีความทรงจำมากมาย ทั้งดีและไม่ดี... และในนั้นก็มี เซน เขาด้วย
เซน... อดีตแฟนเก่าของมิวในช่วงมัธยม เขาเป็นผู้ชายที่เธอเคยรัก แต่ความรักนั้นไม่เคยไปถึงไหน เพราะหลังจากเซนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ การติดต่อของทั้งสองก็เริ่มห่างเหินไปเรื่อยๆ และสุดท้ายก็เลิกกัน โดยที่ไม่มีใครรู้สึกว่ามันต้องเสียใจหรือกลับมาอีกครั้ง
เมื่อมิวเดินเข้าไปในงานเลี้ยงรุ่น ท่ามกลางเพื่อนๆ ที่คุ้นเคย บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและคำพูดคุยที่ไม่เคยขาดหายไปในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา มิวเห็นเซนอยู่มุมหนึ่งของห้อง เขายืนอยู่กับเพื่อนๆ แต่เขากลับไม่มองไปที่เธอเหมือนในอดีต
“มิว! เธอมาช้าจังเลย!” เพื่อนคนหนึ่งทักทายมิว ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มพูดคุยกันเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาระหว่างเรียนมัธยม
ในขณะที่เธอเดินเข้าไป นั่งลงที่โต๊ะกับเพื่อนๆ เซนยังคงพูดคุยกับคนอื่นๆ อย่างเป็นปกติ เหมือนว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับการที่เธอกลับมาที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มในวันนี้
เพื่อนๆ บางคนเริ่มพูดถึงความรักในช่วงนั้น “แล้วพวกเธอล่ะ เคยเป็นคู่รักกันแบบจริงจังไหม? หรือแค่ช่วงวัยรุ่นที่ไม่มีความหมาย?” เพื่อนคนหนึ่งพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ
มิวและเซนมองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนที่จะต่างฝ่ายต่างหลีกเลี่ยงการพูดถึงความสัมพันธ์ในอดีต “ก็... เราเคยเป็นแฟนกันนะ” มิวตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
เซนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่เราไม่สามารถหวนกลับไปได้”
การสนทนาของพวกเขาทั้งสองจบลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึกที่พิเศษใดๆ เหมือนในอดีต ทั้งคู่รู้ดีว่าแม้ว่าจะกลับมาเจอกันในวันนี้ ความสัมพันธ์นั้นก็คืออดีตที่ไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีกแล้ว
มิวมองไปยังเซนอีกครั้ง เขาก็ยังคงเป็นคนเดิม มีเสน่ห์เหมือนในอดีต แต่ในวันนี้พวกเขาเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมเรียนที่ไม่เคยคิดถึงกันอีกต่อไป
ทั้งสองต่างรู้ดีว่า... บางครั้งการที่ไม่กลับไปคิดถึงกัน ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเสียงเพลงเบาๆ ดังอยู่ทั่วห้องเลี้ยงรุ่น ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ และเสียงหัวเราะของเพื่อนเก่า มิวกลับรู้สึกเหมือนห้องนี้แคบลงเรื่อยๆ… สายตาของเซนที่มองผ่านเธอราวกับว่าเธอไม่มีตัวตน ทำให้หัวใจของเธอแน่นอย่างบอกไม่ถูก
ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในงาน เซนไม่พูดกับมิวเลยสักคำ บางครั้งเธอเห็นเขาลอบมอง แต่ทุกครั้งที่สายตาประสานกัน เซนกลับเบือนหน้าหนีเหมือนเธอเป็นคนแปลกหน้า
มิวรู้สึกไม่สบายใจ ความอึดอัดเริ่มก่อตัวอย่างไม่มีเหตุผล แม้เธอจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาแล้ว แต่ท่าทีเฉยชานั้นก็เหมือนเป็นการตัดสินว่าการปรากฏตัวของเธอในวันนี้… ไม่ควรเกิดขึ้น
“ขอโทษนะ พวกแก... เราว่าจะกลับก่อน” มิวพูดขึ้นหลังจากนั่งเงียบมานาน น้ำเสียงเธอนุ่มแต่ฟังออกว่าฝืนยิ้มอยู่
“หืม? ยังไม่ทันจะได้ถ่ายรูปรวมเลย!” เพื่อนคนหนึ่งร้อง
“ไม่เป็นไร ไว้คราวหน้าละกันนะ” มิวฝืนยิ้มอีกครั้ง แล้วเดินออกจากห้องไปช้าๆ
ทันทีที่เธอเดินออกไป เสียงซุบซิบของเพื่อนๆ ก็เริ่มดังขึ้น
“เอาจริงนะ… พวกนั้นเคยคบกันปะวะ?”
“คบน่ะรู้ แต่เคย... มีอะไรกันมั้ยวะ? ดูเงียบๆ กันทั้งคู่เลย”
“ไม่รู้สิ แต่ตอนคบกันนี่ใกล้กันจะตาย ขนาดนั้นอะนะ จะไม่มีอะไรกันเลยเหรอ?”
เซนที่ยืนอยู่ใกล้โต๊ะขนมได้ยินทุกคำพูด แววตาเย็นชาที่เขาเคยแสดงไว้มาตลอดทั้งคืน สั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นแววตาแข็งกร้าว
“เลิกพูดเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของพวกแกได้แล้ว” เขาเอ่ยเสียงต่ำ น้ำเสียงนิ่งแต่แฝงด้วยความไม่พอใจชัดเจน
เพื่อนๆ หันมามองกันเงียบๆ บางคนยิ้มกลบเกลื่อน “เฮ้ย ล้อเล่นน่า ก็ถามกันขำๆ”
“ขำ?” เซนปรายตามองกลับเย็นเฉียบ “ถ้าคิดจะล้อ ก็หัดคิดก่อนพูดบ้าง คนบางคนเดินออกไปเพราะบรรยากาศโง่ๆ แบบนี้นั่นแหละ”
น้ำเสียงเขายังคงคุมอารมณ์ แต่ในใจกลับมีบางอย่างร้อนรุ่มขึ้นมา ทั้งที่เขาไม่ได้คิดถึงเธอเลย… ไม่ควรจะรู้สึกอะไรด้วยซ้ำ
แต่ทำไมตอนที่เธอเดินจากไป พร้อมกับแววตาเสียใจแบบนั้น มันถึงยังทำให้ใจเขาเงียบลงไม่สนิทเสียที...
หลังจากยืนเหม่อมองสายฝนอยู่นาน มิวก็ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องพักของตัวเอง ทุกก้าวที่เดิน มันเหมือนเดินผ่านความทรงจำที่ถูกพับเก็บไว้ในกล่องเก่าๆ ซึ่งเธอไม่คิดจะเปิดมันอีกแล้ว
แต่ใครจะคิด... แค่การเจอเขาอีกครั้งในคืนนั้น กล่องใบนั้นกลับเปิดออกอย่างง่ายดาย
เช้าวันถัดมา มิวกลับมาทำงานตามปกติ แต่ไม่ทันไร เธอก็ต้องชะงักเมื่อชื่อของเขาถูกพูดถึงในห้องประชุม
“อาทิตย์หน้าเราจะมีการพรีเซนต์งานให้กับบริษัทพาร์ทเนอร์ใหม่ ชื่อ ZN Group นะ” หัวหน้าทีมพูดขึ้น
หัวใจมิวแทบหยุดเต้นเมื่อได้ยินชื่อนั้น
ZN — บริษัทที่เซนเป็นผู้บริหาร
“ใครจะเป็นคนพรีเซนต์?” เธอถามเสียงเบา หวังในใจว่าอาจจะไม่ใช่เธอ
“มิวไง เราเห็นว่าเธอเข้าใจงานนี้ที่สุดแล้ว ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
เธอยิ้มจางๆ ฝืนตอบ “ค่ะ... ได้ค่ะ”
ในหัวกลับมีเสียงถามซ้ำไปมา
“ต้องเจอกันอีกแล้วเหรอ?”
วันนัดประชุมมาถึงเร็วกว่าที่มิวคาดไว้ เธอนั่งรออยู่ในห้องประชุม พร้อมพรีเซนต์ทุกอย่างที่เตรียมไว้เรียบร้อย จนกระทั่งประตูเปิดออก
และเขาก็เดินเข้ามา
เซนในชุดสูทเรียบหรู สีหน้าเรียบนิ่ง เขาเหลือบตามองเธอเพียงครู่เดียว... แล้วก็เดินไปนั่งที่หัวโต๊ะโดยไม่พูดอะไร
ตลอดเวลาของการนำเสนอ เขาไม่แสดงสีหน้าใดๆ ไม่พูดแทรก ไม่แม้แต่จะสบตา
เมื่อการพรีเซนต์จบลง เซนพยักหน้าเพียงเบาๆ “ดีครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูล”
ไม่มีคำชม ไม่มีคำติ
ไม่มีคำว่า “นานแล้วนะ” หรือ “สบายดีไหม”
มิวรู้สึกเหมือนตัวเองถูกกั้นไว้ด้วยกำแพงหนาๆ
และไม่ว่าเธอจะพยายามมองผ่านมันแค่ไหน เธอก็ไม่เห็นอะไรเลยจากอีกฝั่ง
ขณะที่เธอกำลังเก็บของกลับ เซนลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินผ่านเธอโดยไม่ได้พูดอะไร แต่เพียงไม่กี่ก้าว ก่อนจะถึงประตู เขาก็หยุดลง
“…ทำไมต้องหนีออกจากงานเลี้ยงวันนั้น”
เสียงของเขาเบาและนิ่ง แต่ชัดเจน
มิวชะงักไป
เขายังจำได้งั้นเหรอ?
เธอไม่หันไปมองเขา ตอบเพียงเบาๆ “เพราะมันอึดอัด”
“อึดอัด... เพราะฉันเหรอ?”
ไม่มีคำตอบ
เพราะเธอไม่รู้จะพูดออกมายังไงให้เขาเข้าใจ
แล้วเสียงฝีเท้าของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเงียบไป
เขาเดินจากไปแล้ว
แต่คำถามของเขา
กลับยังอยู่ตรงนั้น...
ในใจเธอหลังจากเซนถามว่า "อึดอัด... เพราะฉันเหรอ?"
มิวไม่ตอบ เธอยังคงก้มหน้าเก็บของเงียบๆ เหมือนไม่อยากเปิดบทสนทนาให้ลึกไปกว่านี้
แต่เสียงของเขากลับดังขึ้นอีกครั้ง
คราวนี้... หนักแน่น และเย็นชากว่าครั้งไหนๆ
“แปลกดีนะ คนที่เดินหนีไปก่อน กลับเป็นคนที่ดูเจ็บกว่า”
เซนพูดพลางเดินกลับเข้ามาใกล้
มิวชะงักมือ หยุดหายใจชั่วครู่
“หรือเธอแค่เสียดาย?”
น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่ง ไม่มีแววประชด แต่กลับเจ็บยิ่งกว่าถูกตะโกนใส่
มิวเงยหน้าขึ้นมองเขา ในนัยน์ตามีทั้งความตกใจและสับสน
“นาย...พูดแบบนี้ทำไม?”
เซนหัวเราะในลำคอเบาๆ “ก็เธออยากหนี ฉันก็แค่ช่วยผลักไง”
“ไม่จำเป็นต้องพูดประชดขนาดนี้ก็ได้”
“ประชด?” เขายิ้มเย็น “ฉันแค่พูดความจริง ไม่ใช่เหรอ เธอเองก็ไม่ได้อยากเจอหน้าฉันอยู่แล้ว”
มิวเม้มปากแน่น ความรู้สึกบางอย่างพุ่งขึ้นมาจุกอยู่ที่อก
เซนยังพูดต่อ “ที่เงียบไปตอนนั้น... ก็เพราะฉันรู้ ว่าเธอเองก็เบื่อเหมือนกัน ไม่ใช่แค่ฉันที่หายไป”
เขาจ้องเธอเขม็ง เหมือนต้องการให้เธอยอมรับสิ่งที่เขาพูด
“อย่าทำเหมือนฉันคนเดียวที่เปลี่ยนไปสิ เธอเองก็เหมือนกันนั่นแหละ”
มิวได้แต่ยืนนิ่ง
คำพูดของเขาไม่ใช่แค่บาดใจ แต่เหมือนกรีดซ้ำลงบนแผลเดิมที่ยังไม่เคยหายดี
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก รวบรวมสติสุดท้าย
“ถ้านายคิดแบบนั้นมาตลอด ก็ดี... อย่างน้อยฉันจะได้ไม่รู้สึกผิดอีกต่อไป”
เซนไม่ตอบอะไร เขามองเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
และแล้ว เขาก็พูดออกมาเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้อง
“บางที... ฉันควรจะลืมเธอให้เร็วกว่านี้”
เสียงประตูปิดลงอย่างแผ่วเบา
แต่ในใจของมิว
มันดังกึกก้องเหมือนเสียงระเบิด
เสียงประตูเพิ่งจะปิดลง มิวยังคงยืนนิ่งอยู่กลางห้อง
น้ำเสียงเย็นชา สีหน้าเรียบเฉย และคำพูดของเขาเมื่อครู่... มันเหมือนมีดที่กรีดซ้ำลงกลางใจ
เธอก้มหน้าลง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แต่ก่อนที่ความเงียบจะกินเธอทั้งตัว
เธอก็เผลอพูดออกมาเสียงเบา... เบาจนเหมือนพูดกับตัวเอง
แต่เสียงนั้น
ดังพอ... ที่เขาจะได้ยิน
“แต่ฉัน... ยังไม่ลืม”
เสียงฝีเท้าที่กำลังจะเดินจากไป ชะงักกะทันหัน
มือของเซนที่จับลูกบิดประตูไว้แน่น เผลอกำไปจนขึ้นข้อขาว
เขาไม่ได้หันกลับมาในทันที แต่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู
เหมือนกำลังทบทวนว่า... เขาได้ยินถูกจริงๆ หรือเปล่า
“อะไรนะ?” เขาถามกลับโดยไม่หันมา
น้ำเสียงของเขา ไม่ได้เย็นชาเหมือนก่อน แต่แฝงด้วยความลังเล
มิวยังคงยืนนิ่ง เธอรู้ตัวว่าหลุดพูดออกไปแล้ว
แต่เมื่อเขาถาม เธอก็ไม่คิดจะปฏิเสธ
“ฉันบอกว่า... ยังไม่ลืม”
เสียงของเธอสั่นน้อยๆ แต่ชัดเจนทุกคำ
เซนหันกลับมาช้าๆ สีหน้าของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
แววตานิ่งสงบของเขากลับไหววูบ คล้ายกับถูกอะไรบางอย่างกระทบเข้าอย่างจัง
“เธอหมายความว่าไง?”
มิวสบตาเขาตรงๆ “ฉันไม่ได้หมายถึงแค่ความรู้สึก... ฉันหมายถึงทุกอย่าง
ฉันยังจำได้หมด ทั้งเรื่องดีและเรื่องแย่
ยังจำได้ว่าเคยรักกันแค่ไหน... และเคยเจ็บกันมากแค่ไหน”
เธอกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ
“บางครั้งฉันก็อยากจะลืมเหมือนที่นายทำได้ แต่มันไม่ง่าย... โดยเฉพาะเมื่อฉันไม่ได้เลือกจะเดินจากไปแบบนั้น”
เซนไม่พูดอะไร เขามองเธอเนิ่นนาน ราวกับเพิ่งเห็นเธอเป็นครั้งแรกอีกครั้ง
หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย... และไม่ใช่เพราะโกรธ
เขาแค่ไม่คิดว่า... เธอจะพูดมันออกมาตรงๆ แบบนี้
ไม่คิดว่าเธอจะ “ยังรู้สึก”
ทั้งที่เขาเอง... ก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองลืมไปได้จริงหรือเปล่า
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments