ตอนที่ 2
“ดารินทร์ลุกขึ้น!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดเอ่ยสั่งหญิงสาวที่กำลังนั่งตัวเปียกปอนเป็นลูกหมาเปียกฝน
“......” เธอผุดลุกหลบแววตาเฉือดเฉือนมองตามไม่ละสาย ดารินทร์เดินไปหลบหลังพี่ชายบุญธรรม ใช้แผ่นหลังกว้างของเขาบดบังแววตาคู่นั้น
“จำคำฉันเอาไว้ให้ดี หึ...”
แม้นจะสะดุดตาตะลึงในความงามหยดย้อยเกินหน้าเกินตาชาวบ้าน ทว่าเขายังคงตั้งแง่รังเกียจที่เธอเป็นแวมไพร์เลือดผสม ฝ่าฝืนกฎของตระกูลที่ปฏิบัติตามกันมาหลายร้อยปี
“มึงอย่าสะเออะมารังแกน้องสาวกูไอ้ราอูล อย่าทำตัวให้คนอื่นเกลียดขี้หน้ามึงไปมากกว่านี้เลย” มือสากชี้หน้าด่ากราดน้องชายฝาแฝดของตนอย่างเหลืออด
“ถ้าคนอื่นที่ว่าหมายถึงมึง กูไม่สน มึงฝ่าฝืนกฎของตระกูลหน้าด้านๆ รับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามา” ราอูลตะคอกกลับไม่มีใครยอมใครในวินาทีนี้
“ปัญหาที่กูสร้างคงไม่ต้องรบกวนให้มึงมาเสือก กูทำเองกูก็รับเอง มึงกล้าดียังไงถึงทำร้ายผู้หญิงได้ลงคอ!” กรงเล็บแหลมคมสีดำงอกทดแทนเล็บเดิม หมายโจมตีคู่สนทนาให้สาแก่ใจ
“มึงพามนุษย์สกปรกเข้ามาในบ้านไม่พอยังจะเปลี่ยนให้เป็นแวมไพร์ชนชั้นสูง จับใส่ตระกร้าล้างน้ำจะให้กูพอใจได้ไง!!” ราอูลขว้างกองแฟ้มเอกสารกระจัดกระจายตามอารมณ์โกรธเกรี้ยว ดวงตาคมคายคุ่กรุ่นมองตาไม่กระพริบ
“กูไม่เคยให้ดารินทร์ไปยุ่งเกี่ยวกับมึง ต่อไปนี้ก็อย่าได้มายุ่งกับน้องกูอีก ไปดารินทร์! คุยกับมันทั้งวันก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก” ฟาร์อูลดึงท่อนแขนเรียวเล็กให้เดินตามออกมาโดยไม่หันหลังกลับไปมองอีก
“ต่อไปถ้ามันเรียกมาคุยสองต่อสองก็อย่ามาเข้าใจไหม”
“ถ้าดารินทร์ทำให้พี่กับน้องชายต้องทะเลาะกัน ดารินทร์กลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ก็ได้นะคะ ไม่ได้ลำบากอะไรเลยค่ะ” เธอแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ เธอไม่อยากให้พี่ชายบุญธรรมต้องลำบากใจไปมากกว่านี้ หากรั้งอยู่ไปก็มีแต่สร้างปัญหา
“อยากเป็นแวมไพร์นอกรีตหรือไง อยู่ที่นี่มันปลอดภัยสำหรับน้องแล้ว อาจจะต้องทนรับมือกับไอ้ราอูลที่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แต่ก็ดีกว่าไปเสี่ยงชีวิตตัวคนเดียวข้างนอก”
“แต่ว่าดารินทร์...”
“แทนตัวเองว่าน้องกับพี่เถอะ แทนชื่อมันดูห่างเหินอย่างไรชอบกล”
“ค่ะ แต่น้องลำบากใจอยู่ไม่น้อย ที่ต้องมาเห็นพี่ทะเลาะกับนายน้อยเพราะเรื่องของน้อง”
“มันเป็นเรื่องปกติ พี่กับมันไม่ค่อยลงรอยกันมาแต่ไหนแต่ไร ปกติมาก ถึงไม่มีเรื่องของน้องก็มีเรื่องอื่นอยู่ดี ไม่เชื่อก็ถามอาหลินดู” เขาพยักพเยิดหน้าเล็กน้อย
“แสดงว่าอาหลินไปตามพี่มาสินะ ไม่งั้นคงไม่รีบร้อนเข้ามาได้ทันเวลาแบบนี้”
“แน่นอน ถึงอย่างไรเจ้าราอูลเนื้อแท้มันก็เป็นคนดี มีแค่อารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของมันนั้นแหละ พี่เชื่อว่าน้องจะทำให้มันยอมรับน้องได้” มือหนาขยี้์ศรีษระเล็กจนฟู เขาเอ็นดูใบหน้ารูปไข่ดูภายนอกอาจจะดูเหมือนว่าเธอสวยเชิ่ด ทว่าจริงๆ แล้วเธอก็เป็นน้องสาวที่น่ารักคนหนึ่ง
“น้องเองก็หวังเช่นนั้นคะ...”
“แล้วเรื่องเรียนจะเอายังไง เราพึ่งจะยี่สิบพึ่งจะเข้าเรียนมหาลัยไม่กี่ปีใช่ไหม...”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวพี่จัดการเรื่องเรียนออนไลน์ดีกว่า หลักสูตรนี้เป็นครอสสั้น จะได้ไม่สุ่มเสี่ยงเปิดเผยตัวตน น้องไม่ติดอะไรใช่ไหม”
“ค่ะพี่ฟาร์อูล”
“เราเรียนเกี่ยวกับอะไร”
“สถาปนิกค่ะ...”
“ใช้ได้ พี่จัดการเรื่องเรียนให้นะ” เขาทึ่งในตัวน้องสาวบุญธรรม ดูท่าหัวดีใช้ได้ น่าจะต่อยอดทำงานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลได้ไม่ยาก
“ขอบคุณค่ะพี่ฟาร์อูล”
“คืนนี้พี่ต้องไปบินไปดูงานบริษัทแม่ที่เม็กซิโกประมาณสองเดือน น้องดูแลตัวเองนะ มีอะไรร้ายแรงสายตรงหาพี่ทันที”
“สองเดือนเลยหรอคะ” ดารินทร์ตาโต พี่ฟาร์อูลจะไม่อยู่ตั้งสองเดือน แล้วเธอจะใช้ชีวิตร่วมชายคากับนายน้อยราอูลอย่างไร เขากลับมาเธอไม่เหลือแต่ชื่อหรอกหรือ...
“แปบเดียวเองสองเดือน อาหลินก็อยู่ ถ้าไม่อยากเจอไอ้ราอูลก็หลบหน้ามันจะได้ไม่ต้องมีปากเสียงกัน” เขารู้ความคิดของเธอ ดูจากสีหน้าตื่นตกใจราวกับเห็นผี คงไม่มีอะไรทำให้เธอกลัวได้นอกจากไอ้ราอูล
“ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะพี่ฟาร์อูล”
“พี่จะรีบกลับมา”
สองสามวันที่ผ่านมานายน้อยราอูลไม่อยู่บ้านทำให้เธอพอหายใจหายคอโล่งขึ้นมาบ้าง เธอนั่งจัดแจกันดอกไม้บริเวณสวนหย่อม ต้นไม้ใหญ่กิ่งก้านสาขาคอยบดบังแสงแดดให้ร่มเงา ลมเย็นในยามเช้าพาดพัดผ่านปะทะเนื้อนวลเนียน
“......”
หญิงสาวเกล้ามวยผมสวมชุดเดรสปาดไหล่สีดำอวดบ่างาม ใบหน้าสวยสะคราญแต่งแต้มเครื่องสำอางตามฉบับหญิงสาวที่รักในการแต่งตัว ใครผ่านมาย่อมสะดุดตาเผลอมองไม่ละสายตา
ชื่อเสียงเลื่องลือในความงามดังกระฉ่อนในหมู่แวมไพร์ ทุกผู้ทุกวัยอยากมายลโฉมความงามตามคำเล่าอ้าง ทว่าเมื่อพบเจอถึงกับอ้าปากค้างตกตะลึงในความงามระดับหญิงงามล้มเมือง
จดหมายทาบทามของแม่สื่อส่งมายังตระกูลเอนส์เวิร์ธไม่ขาดสาย แน่นอนละว่าถูกปฏิเสธโดยคำสั่งของฟาร์อูลไปทุกรอบ
ดวงตากลมโตเปล่งประกายมองดอกไม้สดหลากสีถูกปักชำลงบนแจกันดอกแล้วดอกเล่า โดยไม่ทันสังเกตุว่ามีใครบางคนยืนมองหญิงสาวอย่างเงียบเชียบ
‘จะว่างามก็งามอยู่หรอก แต่เขาไม่ชอบเธอก็คือไม่ชอบ’
“ฉันกลับมาทำไมไม่รีบเอาน้ำไปเสิร์ฟให้ฉัน” น้ำเสียงแหบห้าวเอ่ยทำเธอสะดุ้งโหยงรีบหันกลับไปมอง
“นายน้อย!”
“เห็นฉันทำหน้าเหมือนเห็นผีหมายความว่าไง” ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มบูดบึ้ง เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอตรงหน้า
“เดี๋ยวดารินทร์ไปเอามาให้ค่ะ เชิญนายน้อยนั่งรอด้านในก่อนนะคะ” เธอเลิกลั่นทำตัวไม่ถูก อาหลินก็ออกไปซื้อของข้างนอกกว่าจะกลับก็ช่วงเย็น
“......” เขาเดินเข้าไปนั่งบริเวณห้องนั่งเล่นอย่างว่าง่าย ดูเหมือนวันนี้เขาจะอารมณ์ดี
ดารินทร์เทน้ำใส่แก้วคริสตัลก่อนจะนำไปเสิร์ฟโดยไม่ลืมที่จะคลานเข่าเข้าไป เขาจะได้ไม่สามารถหาเรื่องต่อว่าเธอได้อีก
“ช่วงนี้อยู่บ้านทำอะไร” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“เรียนออนไลน์ค่ะ” เธอก้มมองต่ำพลางตอบสั้นห้วน
“หลังจากนั้นล่ะ?”
“ว่างค่ะนายน้อย”
“ทำตัวให้เป็นประโยชน์ ลงไปทำความสะอาดโถงชั้นใต้ดินทั้งชั้น เธอจะได้ไม่มีเวลาว่างเวิ่นเว้อ ฉันเรียกใช้ก็รีบเสนอหน้ามาอย่าให้ฉันรอนาน อย่าคิดจะมาใช้ชีวิตสุขสบายในบ้านของฉัน” สายตาคมคายจ้องร่างเล็กอวบอิ่มที่กำลังก้มหน้างุด ไม่กล้าเงยหน้าสบตาเขา
“รับทราบค่ะนายน้อย” แม้จะรู้ว่าโถงชั้นใต้ดินนั้นทั้งอับ ชื้น น่ากลัวมากเพียงใด ในเวลานี้เธอทำได้เพียงก้มหน้าตอบรับโดยไม่มีข้อแม้
“พูดกับผู้ใหญ่อย่ามองต่ำ ไม่มีใครสอนเธอเลยรึไง!” เขาตะคอกใส่เธอดังลั่น หน้าเขามันน่าเกลียดหน้ากลัวหรือไง ถึงได้หลบสายตาแบบนั้น
“ค่ะนายน้อย” เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา ดวงตากลมโตน้ำตาคลอเบ้า แม้พยายามกระพริบตาไล่หยาดน้ำตาแล้วก็ตาม
“แค่นี้ก็จะร้องแล้วหรอ ฉันเกลียดคนอ่อนแอที่สุด อย่ามาทำตัวหน้าสงสารต่อหน้าฉัน เข้าใจไหม!” มือหนาถลามาบีบคางมนแน่น จนเธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด ยิ่งเธอแสดงสีหน้าว่าเจ็บปวดมากเท่าใด ฝ่ามือหนายิ่งเพิ่มน้ำหนักมือมากขึ้นเท่านั้น
“นายน้อยดารินทร์เจ็บนะคะ”
“เจ็บสิดี จะได้รู้ว่าควรเก็บซ่อนความรู้สึกให้มากกว่าเดิม ยิ่งเห็นเธอเจ็บฉันจะทำให้เจ็บขึ้นอีก ขืนฉันเห็นเธอทำตัวน่าสงสารเหมือนวันนี้อีก รอบหน้าไม่ได้เจ็บแค่นี้แน่!” ร่างสูงสะบัดฝ่ามือออกจากคางมนจนเธอหน้าหัน รอยมือห้านิ้วช้ำเลือดปรากฎบนคางมน
‘เธอเกลียดเขาที่สุด’
“แอบด่าฉันในใจ?” ราอูลเลิกคิ้วเอ่ยถาม
“ดารินทร์ไม่กล้าค่ะนายน้อย”
“สีหน้าเธอมันฟ้องนะ”
“นายน้อยมองผิดแล้วค่ะ ดารินทร์ไม่ได้แอบด่านายน้อยในใจจริงๆ ค่ะ” เธอแสร้งระบายยิ้มอ่อน เธอด่าต่อหน้าต่างหากล่ะ เขาอยู่ต่อหน้าเธอก็แสดงว่าเธอด่าเขาต่อหน้า คนอะไรบ้าอำนาจ ชอบใช้กำลัง ไม่ติดว่าเขาคือน้องชายฝาแฝดของผู้มีพระคุณ เธอคงไม่ยอมก้มหัวให้เขาโขกสับอยู่แบบนี้ คนแบบนี้แม้แต่หางตาเธอก็ไม่เหลียว
“ผู้หญิงอย่างเธอมันเลี้ยงไม่เชื่อง ดูท่าสักวันหางโผล่จะแว้งกลับมากัดพวกฉันเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หึ...” ราอูลแค่นหัวเราะมองเธอแววตาดูถูกเหยียดหยาม ระหว่างเขาและเธอไม่มีท่าทีที่จะดีขึ้นเลย
“ไม่มีอะไรแล้วดารินทร์ขอตัวนะคะนายน้อย” เธอเตรียมคลานเข่าถอยหลังกลับ ไม่รู้จะอยู่ฟังคำพูดคำจาดูแคลนของเขาไปทำไม
เพล้ง!!
แก้วคริสตัลขว้างขวางหญิงสาวเศษแก้วแตกกระจายกระเด็นกระดอนทั่วทุกมุมห้อง ชุดเดรสเปียกปอนชุ่มหยาดน้ำอีกครั้ง เขาชอบทำให้ชุดของเธอเปียกโชกจังนะ!
‘คิดว่าเป็นเดือนเมษาหรอเอะอะสาดน้ำ!’
‘นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ นึกว่าอยู่เรือนจำคุมขังนักโทษ’
ดวงตาคมคายมองชุดเดรสสีดำเปียกชุ่มแนบเรือนร่างอวบอิ่ม หน้าอกหน้าใจใหญ่เกินตัวตั้งตระหง่านเต่งตึงตามวัยสาวแรกแย้ม สายตาสั่นไหวจนเขาต้องปรับอารมณ์ พลางเบนสายตาเลื่อนมองใบหน้าสวยแทน
“ฉันไม่ได้สั่งให้เธอออกไปเธอก็ไม่มีสิทธิ์ออก อย่าลองดีกับฉัน”
“เห็นนายน้อยสั่งให้ดารินทร์ไปทำความสะอาดโถงชั้นใต้ดิน ก็เลยคิดว่าน่าจะไปทำก่อนค่ะเดี๋ยวมันจะเย็น”
“แล้วฉันสั่งให้เธอไปรึยัง?”
“ยังค่ะนายน้อย”
“ทำตัวดีๆ ถ้ายังอยากมีใบหน้าสวยๆ เอาไว้จับผู้ชายอยู่” ดูท่าหญิงสาวผู้นี้คงจะพยศไม่น้อย สีหน้าท่าทางพยายามข่มใจไม่ให้ระเบิดอารมณ์ของออกมาของเธอ มันทำให้เขารู้สึกสนุกที่ได้แหย่ได้แกล้งเธอ
“......”
“ไม่มีปาก?”
“ค่ะนายน้อย มีอะไรให้ดารินทร์รับใช้อีกไหมคะ”
“เธอประชดฉันหรอ! คนอย่างเธอมีค่าพอที่จะแสดงกิริยาแบบนี้กับฉันงั้นหรอยัยเลือดสกปรก” สองแขนเรียวถูกกระชากเร็วแรงจนร่างเล็กลอยลิ่วทาบทับร่างหนาที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว เรียวขามีเลือดซิบเป็นทางยาว เพราะเศษแก้วกระจัดกระจายบนพื้นขีดข่วนเรียวขางาม ขณะโดนกระชากไปมาราวกับสิ่งของ
“ดารินทร์ไม่เคยแสดงท่าทีแบบนั้นกับนายน้อยเลยนะคะ นายน้อยโปรดระงับโทสะด้วย ปล่อยดารินทร์ก่อนนะคะเดี๋ยวใครผ่านมาจะดูไม่ดี” หญิงสาวขยับหนีกายแกร่ง พยายามแกะมือหนาสองข้างที่กำลังบีบต้นแขนเธอจนแทบแหลก
มีหรือที่แรงน้อยจะสามารถสู้แรงของเขาได้ ยิ่งเธอเบี่ยงกายหลบหนีเขา กายแกร่งรั้งเธอแนบชิด
เธออยากจะอาบน้ำขัดกายอีกสักสี่ห้าชั่วโมง จะได้ขัดร่องร่อยสัมผัสที่เขาแตะเนื้อต้องตัวเธอ น่ารังเกียจที่สุด... ผู้ชายอะไรปากคอเลาะร้ายเสียยิ่งกว่าผู้หญิง!
“อย่ามาทำตีตัวเองราคาสูงขนาดนั้นสิดารินทร์ ในสายตาฉัน เธอก็แค่คนรับใช้คนนึง... อย่าสำคัญตัวผิด”
“ดารินทร์ทราบดีค่ะนายน้อย ถ้างั้นปล่อยให้ดารินทร์ไปทำความสะอาดดีไหมคะ”
“หึ...คิดว่าฉันอยากแตะต้องเนื้อตัวสกปรกของเธองั้นหรอ ไสหัวไป!” มือหนาโยนร่างเล็กกองลงกับพื้น ท่ามกลางเศษแก้วแหลมคม แววตาสะใจของเขามันทำให้เธอต้องเก็บสีหน้าและความเจ็บปวดเอาไว้
“คลานออกไปสิ! เซ่อซ่าอยู่ได้”
“ค่ะนายน้อย” หญิงสาวคลานเข่าออกไปด้านนอกผ่านเศษแก้วแหลมคมกระจาย หยดเลือดไหลเต็มสองขาน่าสยดสยองยิ่งนัก เจ็บกายยังไม่ทำกับเจ็บใจ ตั้งแต่เกิดมาบนโลกใบนี้เธอยังไม่เคยเจอใครร้ายกาจได้เท่าเขา
ดารินทร์ออกมาทำแผลให้ตนเองเงียบๆ ด้านนอกบริเวณสวนหย่อม การรับมือเขาเป็นเรื่องที่ยากเย็นที่สุด เจอเขาทีไรเป็นอันต้องเจ็บตัวเลือดตกยางออกทุกครั้ง เป็นไปได้อย่าเรียกหาเธอเลยจะดีกว่า
เธอหลบหน้าเขาเพียงใด เขาก็ตามมาหาเรื่องเธอถึงที่ได้อยู่ดี กว่าพี่ฟาร์อูลจะกลับมาเธอคงเหลือแค่ชื่อ
“คุณดารินทร์ไปทำอะไรมาครับแผลเต็มตัวไปหมดเลย” จามัวร์ มือขวาคนสนิทของนายน้อยราอูลเอ่ยทัก สีหน้าตื่นตกใจ
“เผลอทำแก้วแตกนิดหน่อยจ๊ะ...” ดารินทร์ช้อนสายตามองผู้มาใหม่ก่อนปรับสีหน้าเป็นปกติ
“ฝีมือนายน้อยหรอครับ” จามัวร์เอ่ยถามซ้ำ
“ไม่ใช่จ๊ะ ฉันทำแก้วแตกเองจริงๆ” เธอปฏิเสธเกรงว่าเรื่องนี้จะรู้ถึงหูผู้กระทำแล้วมากล่าวหาว่าเธอวิ่งแจ้นไปฟ้องคนโน้นทีคนนี้ที
“ผมไม่เชื่อหรอกครับ ทำแก้วแตกแผลก็ไม่น่าเต็มขาขนาดนี้ นายน้อยเริ่มทำเกินกว่าเหตุผมจะไปคุยกับนายน้อยให้นะครับ” เขารู้สึกสงสารน้องสาวบุญธรรมคนสวยของนายน้อยจับใจ นายน้อยลงมือกับผู้หญิงตัวเล็กแบบเธอได้อย่างไร
“อย่าดีกว่าจามัวร์ ถ้านายเป็นห่วงฉันจริงๆ ขืนนายไปคุยคราวหน้าฉันคงโดนหนักกว่านี้” เธอรีบยกมือห้ามปรามกลัวเรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้ ให้มันจบที่เธอดีที่สุดแล้ว
“แล้วจะให้ผมทำยังไง” น้ำเสียงวิตกกังวลของเขาเอ่ยถาม
“อยู่เฉยๆ นั่นก็ถือว่าช่วยฉันแล้วจ๊ะ”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments