นางห้าม
อารัมภบท
หญิงงามผิวพรรณดีบ่งบอกถึงฐานะและความเป็นอยู่ที่ดี ทว่าใบหน้ากลับเศร้าหมองหมดราศีถูกโซ่ตรวนพันธนาการจองจำนั่งพาดลำคอบนไม้กางเขนกลางลานประหาร ผ้าสีเข้มถูกผูกปิดดวงตา หูสองข้างถูกอุด
เพชฒฆาตยกมือพนมเหนือหัวยกไหว้ครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ปกปักรักษาจากสิ่งชั่วร้ายที่มองไม่เห็น ดาบหนึ่งและดาบสองทำพิธีบวงสรวงเทพเทวดาด้วยเครื่องสังเวยพร้อมขออโหสิกรรมและกล่าวให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพยานในการประหารนักโทษในครั้งนี้ พวกเขาเพียงทำตามหน้าที่
เสียงกลองบรรเลงขึ้นเปรียบเสมือนนาฬิกาถอยหลังสู่ความตาย เพชฒฆาตหนุ่มวัยกลางคนผิวคร้ามแดดร่ายรำเดินวนนักโทษหญิง เสียงฝีเท้าหนักแน่นของเพชฒฆาตย่ำลงบนแผ่นดินสะเทือนใจผู้คนที่มารับชมการประหารในครั้งนี้
หนึ่งในนั้นดวงตาคมกริบนั่งบนบัลลังก์ตั่งทองมองเมียรักแววตาสั่นคลอน รวดร้าวระทมใจ ไม่แพ้นางห้ามที่เขาทรงโปรด ดวงตาคมคายน้ำตารื้นคลอหน่วย มือสากกำแน่นมองเธอไม่ยอมละสายตา
“โอ้ใจเจ้ากรรม...ชาติหน้าฉันใดขอให้ฉันกับพี่คลาดกันทุกชาติไป ข้าไม่ขอหวนคืนเป็นนางห้ามในโอวาทของท่านอีกแล้ว” เสียงหวานเอ่ยสะอื้นน้อยเนื้อต่ำใจ เธอก้มหน้ารับชะตากรรมอันขมขื่นนี้อย่างเต็มใจ
เมื่อผู้ใดที่ได้รับการโปรดจากเจ้าหลวงสิ่งที่ตามมาย่อมทุกข์ทนทรมานเอาคืนสาสมกับช่วงเวลาหวานชื่นที่เธอเคยได้รับ
แม้นความตายกล้ำกลายผู้ที่พร่ำบอกว่ารักเธอนักหนา กลับไม่สามารถใช้อำนาจล้นฟ้าที่มีช่วยชีวิตของเธอ
“ชาติหน้ามีจริงข้าขอเกิดมามีโชคชะตาชีวิตธรรมดาเฉกเช่นผู้อื่นบ้างนะเจ้าคะ...” ลีลาวดี เจ้าจอมนางห้ามในเจ้าหลวงอัศนีระบายรอยยิ้มแสนหวานสุดท้าย
เสียงร่ำไห้กัมปนาถดังกึกก้องสะท้านพื้นแผ่นดิน ครอบครัวนางห้ามทรุดคุกเข่าลงแนบพื้นดินสีดินแดง ยามดาบเล่มยาวเงาวับคมกริบสะบั้นตัดศรีษระงามหลุดออกจากบ่า ครอบครัวนางห้ามรอดพ้นจากกฎอาญาประหารเจ็ดชั่วโคตรจากคำขอร้องอ้อนวอนของลีลาวดี
“ลีลาวดี...” เจ้าหลวงอัศนีกระซิบเรียกชื่อหญิงอันเป็นที่รัก ยามลมหายใจสุดท้ายของเธอนั้นถูกพลากไปไกลแสนไกล ดวงตาคมคายหลั่งหยาดน้ำตาออกมาสุดจะกลั้น ดวงใจปวดร้าวราวกับถูกใครมากระชากดวงใจออกจากอก
“หมดเสี้ยนหนามตำอกกูเสียที” จามจุรี แม่เมืองในองค์เจ้าหลวงอัศนีระบายรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม ก่อนจะผุดลุกเดินจากไปอย่างไม่ใยดี หลังการประหารนังผู้หญิงที่เปรียบเสมือนเสี้ยนหนามยอกใจเธอเสร็จสิ้น
เป็นที่รู้กันทั่วทั้งวังหลวงว่าเจ้าหลวงนั้นทรงโปรดปราน ลีลาวดี นางห้ามสามัญชนธรรมดาที่ถูกตาต้องใจเจ้าหลวง จึงถูกรับเข้ามาเลี้ยงดูปูเสื่อเป็นอย่างดี
ท่ามกลางความอิจฉาริษยาของแม่เมืองที่หาทางกำจัดก่อนที่ ลีลาวดี จะให้กำเนิดทายาทชิงตัดหน้าเธอ แม่เมืองมีครอบครัวเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในวังหลวงคอยให้การสนับสนุน
ขณะที่ลีลาวดีเป็นเพียงหญิงชาวบ้านเติบโตมาในตระกูลค้าขายย้ายถิ่นฐานมาจากแดนล้านนา จึงไร้สิทธิ์ไร้เสียงคอยปกป้อง ท้ายที่สุดผู้หญิงคนนั้นก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับแผนการของเธอ
ลีลาวดี ถูกตั้งข้อหากบฎคิดคดขายชาติหลังพบจดหมายติดต่อลอบค้าขายฝิ่นกับพวกฝรั่งที่ถูกใครบางคนปลอมแปลง ขุนนางทุกฝ่ายส่งฎีการ้องเรียนให้เธอรับโทษประหาร หนึ่งเสียงของเจ้าหลวงหรือจะสู้เสียงของเหล่าขุนนางคนเก่าคนแก่
ภายหลังสามเดือนเจ้าหลวงอัศนีนอนซมตรอมใจ ไม่แตะสำรับข้าวปลาอาหารจนอาการน่าเป็นห่วง ร่างกายกำยำบัดนี้กลับผ่ายผอม แม่เมืองตามหาหมอมารักษาทั่วสารทิศ ยาทุกแขนงที่ว่าดีต่างจัดหามาให้ไม่ขาดสาย ทว่าโรคทางใจรักษาหมอใดก็มิอาจรักษา
หมอผีที่ว่าเก่งกาจถูกเรียกตัวเข้าวังเชื้อเชิญดวงวิญญาณของเมียรักให้มาปรากฎต่อหน้า เสื้อผ้าอาภรณ์สิ่งของเครื่องใช้ที่นางรักถูกนำมาประกอบพิธีกรรมครั้งแล้วครั้งเล่า เขาคว้าน้ำเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า หมอผีและโหราจารย์ต่างส่ายหน้าบอกกล่าวว่าวิญญาณของลีลาวดีไม่อยู่แล้ว ชีวิตนางห้ามมิอาจหวนคืนได้ฉันใด เรื่องราวความรักระหว่างเขาและนางก็มิอาจฟื้นคืนย้อนมาได้ฉันนั้น คงเหลือไว้เพียงตำนานเล่าขานสืบไป
“หวนคืนมาหาพี่สักคราหนาน้อง พี่ทรมานเหลือเกิน” สีหน้าของเจ้าหลวงรวดร้าวเศร้าสลด กุมดอกลีลาวดีแห้งเหี่ยวดอกนี้ที่เธอเคยมอบให้แนบอก
แม้เธอจะมาปรากฎในรูปลักษณ์ชวนสยดสยอง เขาก็พร้อมอ้าแขนรอรับเธอ ไม่คิดรังเกียจรังงอน…
เจ้าหลวงทอดสายตามองต้นลีลาวดีที่เขาเป็นคนปลูกให้หญิงสาวผ่านประตูหน้าต่างบานไม้ บุปผาแม้แย้มบานยังคงหอมตราตรึงในใจ ดอกไม้หอมที่เคยบานสะพรั่งเต็มต้น หลงเหลือไว้เพียงลำต้นเหี่ยวแห้งใกล้ตาย
“ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง จะยังคงจำข้าได้หรือไม่แต่ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกินลีลาวดี”
ดวงตาคมคายเหม่อลอยตกอยู่ในภวังค์ ยามสองเราเคยร่วมเรียงเคียงหมอน กกกอดกันแนบแน่น หลับตายังฝันถึงนวลน้องมีความสุขนักหนา ทว่าตอนนี้ตัวพี่กลับทุกข์ทนคิดถึงเสียงเอื้อนเอ่ยของน้องนาง
ลืม..ข้าลืมไม่ลง
แม้นเหลือเพียงเศษเถ้าธุลีข้าก็ยังปักใจรักเจ้าเพียงผู้เดียว ลีลาวดี
“ไม่ว่าเจ้าจะอธิษฐานกระไรก่อนตาย แต่ข้าจะขอติดตามดูแลเจ้าทุกชาติไป ไถ่ถอนความผิดพลาดในชาตินี้ให้เจ้าหนานวลน้อง” ริมฝีปากแห้งเผือดเอื้อนเอ่ยก่อนดวงวิญญาณจะหลุดลอยออกจากร่าง ท่ามกลางเสียงร้องระงมของข้าราชบริพาร
เจ้าหลวงสิ้นชีพโดยไร้ทายาทสืบราชบัลลังก์ หลังการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของแผ่นดิน การแก่งแย่งชิงบัลลังก์เกิดการนองเลือดไม่รู้จักจบจักสิ้น เป็นเหตุให้เมืองศรีสุวรรณล่มสลายตามกาลเวลา แม่เมืองผู้จุดชนวนความบาดหมางต้องยอมรับผลที่ตามมาหนักหนาสาหัสเกินกำลังนางจะต้านทาน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments