ทที่ 2: คนแปลกหน้า...และบ้านหลังใหม่
หลังจากตักข้าวต้มกะทิถ้วยที่สองเข้าปากอย่างเงียบ ๆ ผมก็ค่อย ๆ เหลือบมองคนตรงหน้า
เขานั่งอยู่ตรงข้าม ท่ามกลางสายฝนที่ยังโปรยปรายลงมาไม่หยุด
แขนยาว ๆ พาดกับเข่า ใบหน้าคมคายซึ่งดูเฉยชาเหมือนรูปสลัก แต่สายตากลับไม่เย็นชาอย่างที่คิด
"ชื่ออะไร" เขาถามเสียงขรึม ขณะเติมฟืนเข้าเตาไฟ
ผมลังเลนิดหน่อย ก่อนจะเอ่ยออกไปเสียงเบา
"...ข้าว"
เขาเงยหน้าขึ้นนิด ๆ เลิกคิ้วเล็กน้อย คล้ายจะขำ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
"ฉันเหนือ" เขาบอกง่าย ๆ แค่นั้น
เหนือ...ชื่อเขาเหรอ? ฟังดูแข็งแรง สมกับตัวตนดีนะ
ผมก้มหน้ากินข้าวต้มในถ้วยต่อ ไม่อยากทำตัวน่ารำคาญ
แต่แล้วเสียงห้าว ๆ ก็เอ่ยขึ้นอีก
"ถ้าไม่มีที่ไป...อยู่ด้วยกันที่นี่ไหม"
ผมหยุดมือชะงักไปนิดหนึ่ง
อยู่ด้วยกัน? กับคนแปลกหน้าแบบนี้น่ะเหรอ?
แต่ถ้าไม่อยู่...ผมก็ไม่รู้จะไปไหนจริง ๆ บ้านเก่าที่ตื่นมาเจอก็ผุพังเกินจะอยู่อาศัยแล้ว
ผมเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง
เหนือไม่ได้เร่ง เขาแค่นั่งนิ่ง ๆ เหมือนรู้ว่าผมต้องตัดสินใจเอง
สุดท้าย ผมก็พยักหน้าเบา ๆ
เหนือยิ้มจาง ๆ ที่มุมปาก เป็นรอยยิ้มบางเฉียบที่ดูอันตราย แต่ในสายตาผมตอนนี้...มันกลับอบอุ่นเหลือเกิน
"งั้นพรุ่งนี้ช่วยกันหาฟืน หาปลา แลกข้าวกิน" เขาว่า
ผมพยักหน้าอีกครั้ง แข็งแรงกว่าครั้งแรกนิดหน่อย
คืนนี้...แม้จะยังหนาวอยู่บ้าง แต่การมีไฟอุ่น ๆ กับกลิ่นข้าวต้มอ่อน ๆ
มันก็ทำให้ผมหลับตาลงได้ โดยไม่รู้สึกโดดเดียว
เยี่ยม! เรามาเดินเรื่องต่อเลย — วันนี้เป็น "วันแรก" ที่ข้าวกับเหนือใช้ชีวิตด้วยกันจริง ๆ
รสชาติจะละมุน ๆ แต่มีความขมซ่อนนิด ๆ เหมือนช็อกโกแลตที่ยังไม่หวานดี
พร้อมแล้ว ไปกันเลย!
เช้าวันรุ่งขึ้น หมอกหนาเกาะไปทั่วทุ่งหญ้า
อากาศเย็นจนผิวขาว ๆ ของผมขึ้นรอยจ้ำแดง ๆ
ผมสะพายตะกร้าไม้สานเก่า ๆ เดินตามหลังเหนือที่แบกเบ็ดไม้ไผ่กับมีดอันหนึ่ง
เราเดินไปที่ลำธารเล็ก ๆ ที่อยู่นอกหมู่บ้าน ห่างจากเพิงพักพอสมควร
"เหยียบหินดี ๆ อย่าลื่นล่ะ"
เสียงห้าวต่ำพูดขึ้นลอย ๆ โดยไม่หันกลับมา แต่ผมรู้ว่าเขาหมายถึงผม
ผมพยักหน้าเงียบ ๆ แล้วตั้งใจเหยียบหินแต่ละก้อนอย่างระมัดระวัง
แต่โชคชะตาก็เหมือนจงใจกลั่นแกล้ง...หินก้อนหนึ่งลื่นเหมือนถูกน้ำเคลือบไว้
"ว้าย!"
ร่างเล็ก ๆ ของผมเสียหลัก พุ่งจะล้มลงไปในน้ำที่เย็นเฉียบ
แต่ก่อนที่ร่างจะกระแทกผิวน้ำ มือใหญ่แข็งแรงก็คว้าข้อมือผมไว้ได้ทัน
ตึง!
แรงกระชากทำให้ผมเซเข้าไปชนแผ่นอกของเขาเต็ม ๆ
เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นใบหน้าเหนืออยู่ใกล้แค่คืบ
ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาเป่ารดแก้มขาว ๆ ของผม
ตึกตัก ตึกตัก...
หัวใจในอกสั่นระรัว จนต้องรีบถอยออกมาอย่างลนลาน
เหนือถอนหายใจเบา ๆ เหมือนเอือม แต่ก็เอื้อมมือมาจับมือผมไว้แน่น
นิ้วมือเขาใหญ่และหยาบ...แต่ก็อุ่นจนผมเผลอใจสั่น
"จับมือไว้" เขาพูดสั้น ๆ
ผม...ลังเลไปชั่วอึดใจ ก่อนจะยอมให้เขาจับมือจูงข้ามลำธารไปด้วยกัน
---
วันนั้น เราไม่ได้หาปลาได้เยอะแค่ไหนหรอก
ได้มาแค่ปลาตัวเล็ก ๆ กับกุ้งตัวนิด ๆ ที่ต้องก่อไฟย่างแบบกินกันเปล่า ๆ
แต่...สำหรับผมแล้ว มันอร่อยที่สุดในชีวิต
เพราะมันมีกลิ่นหอมของไม้ฟืน ก๊าก ๆ ของไฟ และกลิ่นอุ่น ๆ ของคนข้างตัวที่ไม่ยอมปล่อยมือกัน
---
(ปลายบท)
ตอนค่ำ ข้าวกับเหนือกลับมาในสภาพตัวเปียกและหัวเราะคิกคักเพราะเปื้อนโคลนกันทั้งตัว
พวกเขานั่งผิงไฟด้วยกัน เหนือใช้เสื้อเก่า ๆ ของตัวเองห่มให้ข้าว
"นายไม่หนาวเหรอ" ข้าวถามเสียงเบา
เหนือไม่ตอบ แต่แค่ยกมือขึ้นขยี้หัวฟู ๆ ของข้าวอย่างอ่อนโยน
เหมือนจะบอกว่า...ขอแค่นายไม่หนาว ฉันก็พอใจแล้ว
คืนนี้...ข้าวนอนหลับไปพร้อมรอยยิ้มที่ไม่เคยมีมานาน
จบตอน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments