เริ่มต้นด้วยร้าย ตอนที่ 3
การสนทนากันครั้งที่ 2 ระหว่างเอินกับพลเป็นไปด้วยดี เนื่องจากเอินมีการปรับวิธีในการทำความรู้จักกับพลใหม่
ส่วนพลเอง หลังจากที่พูดตัดบทไปในตอนแรก
แต่ใจลึกๆ เขาก็ยังอยากรู้ว่าเป็นใครกันที่ทักมาพูดคุยด้วยจึงมีท่าทีเบาลง ไม่ฮาร์ดคอร์เหมือนตอนแรก
เช้าวันถัดมา...หลังจากการสนทนากันระหว่างเอินกับพล
เมื่อถึงเวลาเข้าเรียน ทั้งสองคนต่างก็เข้าเรียนกันตามปกติไม่มีการมองหน้า หรือสบตาใดๆ ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับเพื่อนร่วมห้องได้รู้เลย
แต่ระหว่างช่วงเวลาพักเรียนของแต่ละช่วงเวลาพัก
พลจะเดินมาที่ห้องเรียนเพื่อนพูดคุยกับเพื่อนนักเรียนหญิงที่อยู่ในห้อง ซึ่งจะผิดแปลกไปจากเวลาปกติที่พลมักจะนั่งอยู่ที่โรงอาหารโต๊ะประจำของเขาเพื่อรวมกลุ่มคุยกับเพื่อนระดับชั้นต่างๆ
และแล้ว...พลก็ได้เดินตรงเข้าไปหาเพื่อนหญิงกลุ่มหนึ่งซึ่งกำลังนั่งคุยกันอยู่
พล : “ทำอะไรกันอยู่เหรอ ขอนั่งด้วยสิ”
เขาเดินเข้าไปถามเพื่อนนักเรียนหญิงที่จับกลุ่มนั่งคุยกันอยู่ 3 คน พร้อมทั้งขอนั่งคุยด้วย
เพื่อนทั้ง 3
ทำหน้างง มองหน้ากันไปมา
เพื่อนคนที่ 1 : “นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยอยู่”
เพื่อนคนที่ 2 : “ดูแปลกๆ นะ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า”
เพื่อนคนที่ 3 : “ทำงานวิชาเลขยังไม่เสร็จจะขอลอกใช่มั้ย”
เพื่อนคนที่ 3
คิดว่าพลคงจะมาขอลอกการบ้านวิชาถัดไปแน่ๆ เพราะกลุ่มที่พลเข้ามาคุยด้วยนั้นเป็นเด็กเรียนดีของห้อง
พล : “งานที่ต้องทำผมเสร็จหมดแล้วครับ แค่จะมานั่งคุยด้วยเฉยๆ ตั้งแต่เปิดเรียนมายังทำความรู้จักเพื่อนไม่ครบทุกคนเลยครับ”
พลตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพเรียบร้อย เนื่องจากเข้ามานั่งท่ามกลางกลุ่มเด็กเรียนเขาเลยรู้สึกเกร็งๆ
นิดหน่อย แต่สายตาก็คอยมองจ้องหน้าไปที่แต่ละคนเพื่อจับพิรุธ
เพื่อนคนที่ 3 : “จะนั่งด้วยก็ได้แต่อย่ามองจ้องหน้าแปลกๆ
นะ ทุกคนในกลุ่มเค้ากลัว”
เพื่อนๆ ยังคงไม่วางใจเนื่องจากปกติพลจะไม่พูดคุยกับใคร หรือแม้กระทั่งมองหน้าพวกเธอเลยด้วยซ้ำ
“555555555555555...”
เอินที่นั่งอยู่ในห้องด้วยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจึงหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นห้องจนทุกคนหันมามอง พอเธอได้สติก็รีบพูดแก้เก้อไปว่า ...
“ดะ-ดะ-ดูยูทูปอยู่ ระ-รายการตลกม้ากกก”
“ขอโทษที่รบกวนทุกคนนะคะ”
เอินพูดเสียงเหินคีย์สูง พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือให้ทุกคนดูว่าเธอดูรายการตลกอยู่จริงจริ้งง...
(หล่อนมีพิรุธนะเอิน)
“คะ-คะ-คุยกันต่อเลยไม่รบกวนแล้ว เดี๋ยวเราจะนั่งขำเงียบๆ นะ”
หลังพูดจบเอินก็รีบก้มหน้าดูมือถือต่อเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พลมองจ้องมาที่เอินสักพักหนึ่งเพื่อสังเกตว่าเอินดูรายการตลกจริงหรือไม่ หรือว่าจริงๆ แล้วเอินกำลังแอบมองมาที่เขาอยู่
แต่เมื่อมองสักพักเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสงสัยเขาจึงหันกลับไปเพื่อพูดคุยจับพิรุธทั้งเพื่อน 3 คน ต่อว่า 1 ใน 3 คนนี้ใช่คนส่งข้อความมาคุยกับเขาหรือไม่
ค่ำวันนั้น...
เอินรอเวลาที่คิดว่าพลจะกลับบ้าน อาบน้ำ ทานข้าวเรียบร้อยแล้วจึงทักข้อความถึงพล
เอิน : “ดีจ้า เรามาแล้วว่างคุยรึเปล่า”
เธอทักข้อความไปหาพลด้วยคำพูดสบายๆ ไม่กดดันเหมือนช่วงแรกที่คุยกัน
ทางด้านพลเมื่อเห็นข้อความที่เอินส่งมา เขาก็รีบกดอ่านทันที
พล : “โห่ย... ทำไมวันนี้มาช้าจังนี่กี่โมงแล้วเนี่ย”
เขาต่อว่าเอินเนื่องจากวันนี้พลกลับบ้านทันทีที่เลิกเรียน รีบกินข้าว อาบน้ำ ทำงานของโรงเรียน และรีบทำทุกอย่างให้เสร็จเร็วขึ้นเพื่อที่จะได้มีเวลาคุยกันนานๆ
เอิน : “เอ้า...ก็ทุกทีเราทักมาคุยเร็วเลยเกรงใจน่ะ ลืมนึกไปว่าเธอก็ต้องมีเวลาส่วนตัวของเธอด้วย”
ธอตอบแบบกลับไปแบบงงๆ เพราะไม่รู้ว่าตัวเธอเองทำอะไรผิดให้พลโกรธไปหรือเปล่า
พล : “ไม่เป็นไรอยากทักตอนไหนทักมาเลยจะทักมาคุยที่โรงเรียนด้วยก็ได้ นี่นั่งรอตั้งแต่เย็นเลยนะ”
เขายังไม่เลิกบ่น
เอิน : “อยากคุยกับเราหรืออยากไขคดีนี้ให้จบเพื่อดูว่าเราเป็นใครกันแน่ นี่เราอยากเป็นเพื่อนกับเธอแต่เธอกลับเห็นเป็นเรื่องสนุกเรอะ”
เอินรู้สึกกังวล เพราะยิ่งถ้าพลคาดหวังกับเธอมาก เมื่อเจอตัวจริงก็อาจผิดหวังมากเช่นกัน
พล : “อยากคุยด้วยครับ แต่ก็อยากรู้ว่าเป็นใครด้วยครับ”
เขาตอบกวนใส่
เอิน : “คุยกันไปเรื่อยๆ ถึงเวลาเดี๋ยวเราจะแสดงตัวเองแหละ”
พล : “ครับ ไม่กดดันแล้วครับ”
เอิน : “วันนี้สืบเรื่องเราไปถึงไหนแล้วล่ะ”
พล : “เธอคือ 1 ใน 5 คนที่เราคุยด้วยวันนี้ใช่มั้ย”
เขาถามออกไปตรง
ๆ เพราะว่าวันนี้เขาได้เริ่มไขคดีเรื่องนี้แล้ว
เอิน : “เดี๋ยวนะ ต้องเป็น 1 ใน 3 ไม่ใช่เหรอ”
เธอแย้งเพราะเห็นวันนี้กลุ่มที่พลคุยด้วยมีกันแค่ 3 คน เท่านั้น
พล : “ละเธอรู้ได้ยังไงอ่ะว่ากลุ่มเพื่อนที่เรานั่งคุยมี 3 คน ตอนนั้นเธอก็อยู่ในห้องด้วยเหรอ”
“เอ๊ะๆ หรือเป็น 1 ใน 3 คน ที่เราคุยด้วยนะ”
พลถามกลับ เพราะจริง ๆ แล้วเขาแกล้งพูดตัวเลขผิดเพื่อจะจับพิรุธนั่นเอง
“โอ๊ย...จบกัน เราโดนหลอกจนได้”
เธอรู้สึกเสียท่าพลเค้าให้แล้ว
“ใช่ ตอนเธอคุยเราก็อยู่ในห้องด้วย แต่ไม่บอกว่าใช่หรือไม่ใช่ 1 ใน 3 คน ที่เธอคุยด้วยมั้ยนะ เพราะถ้าบอกก็ให้เราเปิดเผยตัวเองไปเลยเหอะ”
เธอตอบแบบเซ็งๆ
“yesss…วันนี้มีผู้หญิงนั่งอยู่ในห้องตอนนั้นทั้งหมด 5 คน ไม่รวม 3 คนที่เรานั่งคุยด้วย นี่ตัดตัวเลือกในห้องไปได้หลายคนเลย 555”
พลชอบใจที่เอินเสียรู้เข้าจนได้
จริงๆ แล้วพลได้วางแผนไว้แล้วว่าจะเลือกเข้าไปในห้องช่วงเวลาที่มีคนอยู่ไม่มาก ก็เพื่อที่จะได้ตัดตัวเลือกออกไปให้ได้มากที่สุด ดีกว่าที่จะคอยไล่ตามดูทีละคนๆ เนื่องจากนักเรียนในห้องมีเยอะเกินไปจะทำให้ใช้เวลาค่อนข้างมาก
ส่วนเอิน เมื่อเห็นพลตั้งใจที่จะรู้ว่าเธอเป็นใครขนาดนั้นเธอก็ได้แต่เงียบไม่ได้ตอบอะไร
ในใจก็นึกกลัวว่าควรจะยังคุยกับพลต่อไปดีหรือไม่ หรือให้จบลงตรงนี้เพราะพลดูจริงจังกว่าที่เธอคิด
เอินเริ่มรู้สึกกลัวเพราะหากวันนึงพลรู้ความจริงว่าเธอเป็นใคร อาจจะมองหน้ากันไม่ติดและไม่เหลือแม้กระทั่งความเป็นเพื่อนเลยก็ได้
เธอหันไปมองตัวเองในกระจก ภาพของความจริงคือเธอผมฟูหัวหยิกหย๋อง หน้าตาธรรมดาพอไปวัดไปวาหมาไม่เห่า และมีสีหน้าแอบเหมือนคนป่วยอยู่ตลอดเวลา
เมื่อพลเห็นว่าเอินเงียบไปจึงพิมพ์ข้อความไปว่า...
“นี่ ๆ ไม่ว่าเธอจะเป็นใครในห้องเราก็จะยังคุยกับเธอเหมือนเดิม ไม่ต้องห่วงนะเราไม่ใช่คนแบบนั้น”
พลรู้ว่าเอินกังวลจึงปลอบ
“อืม..เรารู้ เธอไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกเรากังวลของเราเองแหละ”
ถึงื้นจะตอบไปว่าเข้าใจ แต่ข้างในก็ยังแอบกลัว
หลังจากนั้น ทั้ง 2 ก็พูดคุยกันหลายเรื่อง...
ทำให้พลรู้ว่าเอินเป็นนักกีฬาของชั้นที่โรงเรียนเก่า เป็นคนชอบออกกำลังกาย ที่เป็นแบบนี้เพราะโดนเพื่อนในห้องแกล้งอยู่บ่อย
ๆ เลยกลายเป็นคนขาดความมั่นใจและทำให้ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว
ส่วนที่อยากมีเพื่อนผู้ชายบ้างก็เพราะเธอรู้สึกว่านิสัยเข้ากับเพื่อนผู้หญิงไม่ได้ แต่กับพวกเพื่อนผู้ชายจะลุยๆ ดี
สมัยเด็กๆ เมื่อเธอเดินในกลุ่มเพื่อนผู้หญิง ก็มักจะโดนคนอื่นพูดเปรียบเทียบหรือพูดให้อายอยู่เสมอๆ เธอเลยเลือกจะอยู่คนเดียวมากกว่า
แต่เมื่อมาอยู่ที่โรงเรียนใหม่หลายๆ
อย่างก็ดีขึ้น เธอมีเพื่อนผู้หญิงและผู้ชายคุยด้วยบ้าง ไม่มีใครพูดถึงรูปร่างหน้าตาของกันและกันในทางที่ไม่ดีเลย อาจจะเพราะทุกคนมีวุฒิภาวะกันแล้ว เมื่อพูดอะไรจึงค่อนข้างคิดถึงผลกระทบและความรู้สึกของอีกฝ่าย
หลังจากได้ฟังพลก็พอจะเข้าใจเหตุผลที่เอินยังไม่อยากเจอหน้าเขามากขึ้น แต่ด้วยความอยากรู้เขาจึงถามเธอไปว่า...
พล : “เรา 2
คน เคยคุยกันหรือเปล่า”
เอิน : “ไม่เคย”
พลสงสัยเพราะเรียนมาจนจะปิดเทอม
1 แล้ว ทำไมถึงยังมีเพื่อนคนไหนที่เค้ายังไม่เคยคุยด้วยอีกหรือ หรืออาจจะทักแล้วแต่เจ้าตัวยังไม่รู้
พล : “ไม่เคยเลยเหรอ แล้วเคยมองทักหรือว่าแบบยิ้มให้กันมั้ยอ่ะ”
เอิน : “มันก็ไม่เชิงนะ แต่จะเรียกว่าแบบนั้นคือคุยด้วยมันก็ไม่น่าจะได้น่ะ”
เธอตอบไปแบบนั้น เพราะคิดถึงตอนที่พลช่วยตอบคำถามครูให้ แต่เรียกว่าเป็นการพูดคุยผ่านครูมากกว่า
พล : “งั้นเราคงต้องปรับตัวเองบ้างแล้วล่ะ บางทีเราอาจจะเคยสร้างปมแบบนี้กับคนอื่นตอนที่เรายังเด็กเหมือนกันก็ได้”
“ว่าแต่...แล้วทำไมถึงเป็นเราล่ะ”
พลถามเพราะสงสัยว่าทำไมเอินถึงเลือกเขา
เอิน : “มันอธิบายไม่ได้ รู้แค่ว่าใช่”
เธอพูดออกไปตรงๆ
พล : “พรุ่งนี้เปลี่ยนเป็นโทรคุยกันได้มั้ย เราไม่เป็นเหมือนเพื่อนเก่าๆ ของเธอหรอก”
พลรู้สึกว่าอยากที่จะรู้จักกับเอินให้มากกว่านี้ อาจเพราะเธอเป็นคนคุยสบายๆ ดูจริงใจ แต่ก็แอบมีบางมุมดูน่าสงสาร
เอิน : “เรายังไม่พร้อม แล้วก็ชอบพิมพ์มากกว่าด้วยมันสบายใจกว่าโทรคุยกันน่ะ”
พล : “ก็พิมพ์ด้วย โทรคุยกันด้วยไง”
เขาเซ้าซี้เพราะอยากที่จะทำความรู้จักกับเอินจริง
ๆ
เอิน : “ขอดูก่อนแล้วกันนะ”
ทั้งคู่คุยกันต่อไปอีกสักพัก จากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน
หลังจากจบการสนทนากันพลก็ยิ่งอยากรู้จักกับเอินมากขึ้น
เพราะตัวพลเอง ส่วนมากมักจะมีเพื่อนฝูงเข้าหามากมาย
อาจเพราะเขามีรูปร่างหน้าตาดี บ้านมีฐานะ เรียนเก่ง แต่เพื่อนที่เจอมาแต่ละคนกลับชอบพูดถึงแต่หน้าตา ฐานะทางบ้าน จนบางทีเขาเองก็รู้สึกอึดอัดและเบื่อหน่ายที่จะคุยด้วย
พวกผู้หญิงส่วนใหญ่ที่พูดคุยก็ต้องการคบหากันแบบคนรัก แต่ถ้าเป็นเพื่อนผู้ชายก็มักจะคอยหาผลประโยชณ์ เช่น ให้เลี้ยงข้าว หรือพาไปเที่ยวแล้วให้เขาออกเงินให้บ้าง
ซึ่งจริงๆ ตัวเขาเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่ขอแค่มีความจริงใจให้กันบ้าง ส่วนมากมักจะไม่ใช่แบบนั้นเขาจึงชอบที่จะอยู่คนเดียวมากกว่า
ความรู้สึกของพลที่มีให้เอินตอนนี้เขาก็ยังตอบไม่ได้ว่าเรียกว่าชอบหรือเปล่า เขารู้แค่ว่าอยากที่จะเป็นเพื่อนกับเธอคนนี้
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 38
Comments