เสียงฟ้าครืนมาแต่ไกล ขณะที่ดาวเหนือกำลังจัดกล้าข้าวเป็นมัด ๆ ไว้ริมคันนา ส่วนภพก็กำลังนั่งงมเท้าในโคลน พยายามดันรากกล้าลงดินแต่ดันจิ้มผิดท่าอีกตามเคย
“โอ๊ย! จะปลูกมันทำไมเนี่ย ข้าวนี่…” เขาบ่นอุบ พลางปัดโคลนที่กระเด็นเปื้อนเสื้อ
“อย่าบ่นหลายเด้อคุณชาย เดี๋ยวฝนมา ไผ๋บ่ทันดำนากะสิแย่เอาเด้อ!” ดาวเหนือพูดขึ้น ขณะมัดกล้าสุดท้ายเรียบร้อยพอดี
ไม่นานนัก สายลมก็แรงขึ้น ฟ้าครึ้มตื้อ และฝนก็เริ่มโปรยลงมาทีละหยด สองหยด ก่อนจะเทกระหน่ำลงมาแบบไม่ทันตั้งตัว
“บ่ทันแล้ว! ขึ้นเถียงก่อนเร็ว!” ดาวเหนือตะโกนพร้อมวิ่งจ้ำไปทางเถียงนาเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ
ภพวิ่งตามไปแบบลื่น ๆ เกือบล้มสองสามรอบ จนถึงเถียงเล็ก ๆ ที่ทำจากไม้ไผ่และฟางแห้ง หลังคาเย็บจากใบตองแห้งพอพอหลบฝนได้อยู่
ทั้งสองนั่งหอบหายใจอยู่ใต้หลังคาเถียงเล็กนั้น เสียงฝนตกกระทบหลังคาฟางเป็นจังหวะประหลาดที่ฟังแล้วกลับรู้สึกสงบแปลก ๆ
---
“อยู่กรุงเทพฯ ฝนตกแบบนี้คงนั่งร้านกาแฟ...สั่งลาเต้ร้อนดูฝนสวย ๆ” ภพพูดขึ้นเบา ๆ มองออกไปที่ฝนพรำ
“แต่นี่...ได้แค่เถียงนาเก่า ๆ กับคนบ้านนอกคนหนึ่ง”
“อืม...ก็ไม่แย่นะ”
“แน่ใจนะ?” ดาวเหนือเลิกคิ้ว หันมามองตรง ๆ
“อาจจะแปลกดีด้วยซ้ำ…” เขาเงียบไปนิด “…เพราะผมไม่เคยรู้สึกว่าอยู่กับใครแล้วมันเงียบ แต่ไม่อึดอัดแบบนี้มาก่อน”
ดาวเหนือชะงักเล็กน้อย ใจเต้นแปลก ๆ กับคำพูดธรรมดา ๆ ของเขา แต่น้ำเสียงจริงจังนั่นมันดังกว่าฝนที่ตกอยู่
---
ฝนตกยาวนานกว่าที่คิด
ทั้งสองนั่งนิ่ง ๆ ข้างกัน คนหนึ่งจ้องฝน อีกคนจ้องใบหน้าเปียกน้ำของอีกฝ่าย
ภพมองเธอ แล้วพูดขึ้นเบา ๆ
“ดาวเหนือ...”
“อือ?”
“ถ้าวันหนึ่งผมกลับกรุงเทพฯ แล้วไม่ได้กลับมานาอีก...คุณจะลืมผมไหม?”
ดาวเหนือเงียบไปนาน ก่อนจะตอบ
“คนที่เฮ็ดให้เปียกทั้งใจ...มันลืมง่ายบ่ได้ดอก”
คำตอบนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจเขา
และเขารู้ในตอนนั้นว่า...ความรู้สึกของเขา มันเริ่มหนักแน่นขึ้นทุกที
---
> ฝนบางเม็ดอาจตกแล้วผ่านไป
แต่ฝนบางห่า...อาจฝากรอยไว้ในใจตลอดชีวิต
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments