หลังจากภาพของชายหนุ่มร่างบางในสวนเมื่อเช้าเลือนหายไปพร้อมเสียงลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่าน เวหาก็ยังยืนอยู่ที่เดิมราวกับเวลาได้หยุดหมุน หัวใจเต้นรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความรู้สึกอึดอัดและบางสิ่งบางอย่างในอกเหมือนกำลังจะทะลักออกมา
เขาหันมองไปทางที่อีกฝ่ายเดินจากไป...แล้วก้าวเท้าตามไปช้า ๆ อย่างไม่รู้ตัว
“คุณครับ…!” เวหาเรียกเสียงไม่ดังนัก แต่ก็ดังพอจะทำให้คนเบื้องหน้าหยุดเดิน
เวทย์หันกลับมาเล็กน้อย แววตาสงบนิ่งแต่ซ่อนประกายบางอย่างไว้ เขามองเวหานิ่ง ๆ ราวกับ…เคยเห็นมาก่อน
เวหาเดินเข้าไปใกล้อีกไม่กี่ก้าว สบตาคู่นั้นอีกครั้ง แล้วถามเสียงเบา
“เรา…เคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า?”
เวทย์นิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะส่ายหน้ายิ้มบาง ๆ “ไม่ครับ ผมเพิ่งมาอยู่แถวนี้ได้ไม่นานเอง อาจจะเป็นคนหน้าเหมือนกระมังครับ”
“แต่…ผมรู้สึกเหมือน…” เวหาพึมพำ กลืนคำพูดส่วนท้ายลงคอ
เวทย์กลับส่งยิ้มอีกครั้งแทนคำตอบ แล้วเอ่ยเบา ๆ “ถ้าผมบอกว่า…ผมก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน…คุณจะเชื่อไหมครับ?”
เวหาชะงักไปเล็กน้อย สายตาจับจ้องอีกฝ่ายนิ่ง เขายิ้มจาง ๆ เป็นครั้งแรกของวัน “ผมเชื่อ”
.
.
“ผมชื่อเวหาครับ” เขายื่นมือออกไป
เวทย์มองมือนั้นครู่หนึ่งก่อนจะยื่นมาจับไว้เบา ๆ “เวทย์ครับ”
มือของทั้งสองคนสัมผัสกันเพียงไม่กี่วินาที ทว่าในวินาทีนั้น หัวใจของทั้งคู่กลับเต้นประสานราวกับเคยจดจำกันมาเนิ่นนาน เวหาเบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อลมหายใจของเขาแทบสะดุด
เวทย์เองก็เช่นกัน ดวงตาเขาสั่นระริกเล็กน้อยโดยไม่รู้สาเหตุ
ในหัวใจของเขา...มีเสียงกระซิบแผ่วเบาว่า
“นี่คือโอกาส...อย่าปล่อยให้มันหลุดไปอีก”
.
.
วันต่อมา เวหากลับมาที่สวนเดิมอีกครั้งเร็วกว่าทุกวัน เขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะมาหรือไม่ แต่หัวใจเขาเลือกแล้วว่าจะรอ
และเขาก็ไม่ต้องรอนาน
เวทย์เดินเข้ามาช้า ๆ ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดสะอ้านเหมือนเมื่อวาน รอยยิ้มจาง ๆ ยังติดอยู่บนใบหน้า
“เรามาเวลาเดียวกันอีกแล้วนะครับ” เวทย์พูดเบา ๆ
เวหาพยักหน้า “สงสัยจะเป็นโชคชะตา”
เวทย์หัวเราะน้อย ๆ “คำพูดแบบนั้น...ผมเคยได้ยินจากใครคนหนึ่ง”
“ใคร?”
เวทย์นิ่งไปครู่หนึ่ง รอยยิ้มเลือนลงนิดหน่อย “ผมจำไม่ได้ครับ...แต่ใจมันบอกว่า ผมเคยรู้จักคำนี้มาก่อน มันอบอุ่นมาก”
เวหามองเขาเงียบ ๆ ก่อนจะเอ่ยช้า ๆ “ถ้างั้น...เรามาทำความรู้จักกันใหม่ดีไหม?”
เวทย์เงยหน้าขึ้นสบตาเขา “...ก็ได้ครับ”
.
.
ทั้งคู่ใช้เวลาหลายวันหลังจากนั้นในการพูดคุย เดินเล่นรอบสวน ดื่มกาแฟจากร้านใกล้ ๆ และนั่งบนม้านั่งยาวใต้มะฮอกกานีต้นใหญ่ เวหาหัวเราะมากกว่าที่เคยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนเวทย์เองก็ค่อย ๆ มีรอยยิ้มที่สดใสมากขึ้นทีละวัน
แต่ในใจของทั้งคู่...กลับรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่บททดสอบของอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น
คืนหนึ่ง ขณะเวทย์กลับบ้าน เขายืนอยู่หน้ากระจกแล้วจ้องมองใบหน้าตัวเอง
“ทำไม...ใจมันเจ็บแบบนี้ทุกครั้งที่มองตาเขา”
เวทย์แตะอกตัวเองเบา ๆ แล้วหลับตาลง
เสียงหนึ่งกระซิบในใจเบา ๆ
“เพราะความรักของเจ้ากำลังจะจำได้...”
.
.
อีกฝั่งหนึ่งของเมือง เวหากำลังเปิดกล่องไม้ใบหนึ่งที่อยู่ลึกในตู้เสื้อผ้า กล่องที่เขาไม่ได้เปิดมาหลายปีแล้ว
ในนั้นมีเพียงสมุดบันทึกเก่า ๆ และภาพวาดที่เขาเคยฝันถึง...ดอกไม้กลางทุ่ง หญ้าสีเขียว เส้นทางที่ทอดไกล และมือสองข้างที่เคยกุมกันแน่น
เวหาไล้ปลายนิ้วไปตามภาพวาดเหล่านั้น หัวใจเขาเจ็บอย่างไร้สาเหตุ
แล้วเขาก็เปิดสมุดหน้าสุดท้าย
มีข้อความหนึ่งเขียนไว้ด้วยลายมือของเขาเอง...แต่เขากลับจำไม่ได้ว่าเคยเขียนมันไว้เมื่อไหร่
> “ถ้าเราได้พบกันอีกครั้ง...แม้จะไม่มีความทรงจำใดหลงเหลือ แต่ขอให้หัวใจจำได้ ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน”
เวหาเบิกตากว้าง หยาดน้ำตาไหลลงบนหน้ากระดาษช้า ๆ
“…เวทย์”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 22
Comments