แสงแดดอ่อนยามสายส่องลอดผ่านหน้าต่างไม้ไผ่
ละอองฝุ่นลอยระริกในแสงนั้น ราวกับภาพฝัน
เสียงนกร้องแผ่วเบาจากยอดไม้ ไม่อาจกลบเสียงกระซิบในใจนุชชาได้
เธอลืมตาขึ้นช้า ๆ พลางขยับตัวเบา ๆ ความปวดที่ท้ายทอยยังคงรบกวน
แต่สิ่งที่รบกวนยิ่งกว่าคือความทรงจำที่ย้อนกลับมาทีละเสี้ยว...ทีละวินาที
“คุณหนู ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ!?” เสียงบ่าวสาวผู้ซื่อสัตย์เอ่ยขึ้นทันที
“จ้ะ...พี่มาลิน” นุชชาตอบเสียงนุ่ม ก่อนจะพยายามยกตัวขึ้นนั่ง
มาลินรีบประคองทันที แต่เห็นแววตานายสาวแล้วก็อดไม่ได้จะพูดต่อ
“เมื่อคืนคุณรณภพอุ้มท่านกลับมา รีบให้หมอหลวงมาดู...เจ้าค่ะ ข้ากลัวแทบขาดใจ”
นุชชายิ้มบาง ๆ “ข้าไม่เป็นไรแล้ว ขอบใจนะมาลิน”
เธอยกมือขึ้นแตะท้ายทอยเบา ๆ แล้วหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง
ใบหน้าเย็นสงบ แต่ในใจคือพายุ
นางจำได้...เงาร่างนั้น รูปร่างนั้น กลิ่นน้ำอบที่คุ้น
แม้จะมีผ้าคลุมปิดหน้า แต่เสียงฝีเท้า การเคลื่อนไหว และโดยเฉพาะ “จังหวะจิต”
ที่เคยคลุกคลีกันมาแต่เยาว์วัย ไม่มีทางที่นางจะจำผิด
แต่นางยังไม่พูด
ไม่...ยังไม่ใช่เวลา
---
ในช่วงสายของวัน
เรือนใหญ่กลับมาคึกคักเพราะพ่อแม่และพี่สาวมาเยี่ยม
นภัทรโผเข้ากอดน้องกลางทันทีด้วยแววตาอ่อนโยนปนเป็นห่วง
“นุชชา...เป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากหรือไม่?”
“ไม่มากแล้วเจ้าค่ะ พี่นภัทร ขอบคุณที่มา”
เสียงของนุชชาอ่อนโยน ไม่เจือความอิจฉาใดในใจ
มารดานั่งลงข้างเตียง “แม่แทบช็อกตอนรู้ข่าว...ใครมันช่างอุกอาจเช่นนี้!”
“ใช่เจ้าค่ะ...” นุชชาตอบเบา ๆ “แต่ข้า...ไม่ทันเห็นหน้ามันเลยเจ้าค่ะ”
คำโกหกนั้นออกมาอย่างเรียบสนิท...แนบเนียนราวบทขับเสภา
ท่านเจ้าคุณยังมีแววโกรธเต็มดวงหน้า
“พ่อให้รณภพไปตามสืบจากพวกบ่าวที่เห็นหน้าโจรพวกนั้นแล้ว อีกไม่นานคงรู้แน่ว่ามาจากเรือนไหน!”
นุชชารับฟังเงียบ ๆ แต่อยู่ดี ๆ ก็ถามขึ้น
“แล้ว...มุกธิดาเล็กเล่าเจ้าคะ ไม่มาเยี่ยมหรือ?”
พี่นภัทรถอนหายใจเบา ๆ “นางอ้างว่าไม่สบาย นอนอยู่เรือนเล็ก”
นุชชาแค่ยิ้มบาง ๆ
“อืม...แปลกดีเจ้าค่ะ นางไม่เคยละเลยเรื่องใกล้ชิดในครอบครัวเลย”
---
ช่วงเย็นวันนั้น
เมื่อทุกคนกลับไปแล้ว นุชชาลงมานั่งที่ศาลากลางสวน
เธอให้มาลินนำน้ำอบและดอกไม้สดมา
มือละเมียดร้อยมาลัยไปทีละเส้น แต่ในใจคิดอะไรลึกซึ้ง
“นางลงมือแล้ว...”
“เพราะอิจฉา หรือเพราะรัก?”
นุชชาไม่แน่ใจว่าอะไรผลักดันน้องสาวคนนั้นได้ถึงเพียงนี้
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาร้องไห้หรือโวยวาย
เธอจะใช้ความเงียบแทนเสียง ใช้ความอ่อนโยนแทนแรงกดดัน
และเมื่อถึงเวลา...
เธอจะวางหมากกลับ
---
ค่ำวันนั้นเอง รณภพก็มาเยี่ยมอีกครั้ง
เขาไม่ได้แต่งตัวเนี้ยบเหมือนในงานเลี้ยง แต่ดูเคร่งเครียดกว่าเคย
“ข้า...อยากมาเห็นกับตาว่าท่านยังปลอดภัย” เขาเอ่ย
น้ำเสียงไม่ห้วน ไม่แสดงความรักใด แต่น้ำหนักในคำ...ลึกพอจะทำให้ใจเต้น
“ข้าขอบคุณที่ท่านช่วยไว้” นุชชาพยักหน้า
รณภพนั่งลงห่าง ๆ เขามองเธออย่างครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า
“พวกบ่าวที่ถูกใช้ให้ลวนลามท่าน ข้ายังไม่เค้นคำได้มาก...แต่พวกมันไม่กล้าพูดชื่อผู้จ้างเลย”
“แน่นอนเจ้าค่ะ” นุชชายิ้มเบา ๆ
“เหตุใดท่านถึงพูดเช่นนั้น?” รณภพขมวดคิ้ว
“เพราะผู้จ้าง...อาจเป็นคนที่ไม่มีใครกล้าขัดขืน”
เธอพูดอย่างนุ่มนวล แล้ววางมาลัยลงเบา ๆ
“และเพราะข้าจะเป็นคนเปิดเผยเรื่องนี้เอง...ในเวลาที่เหมาะสม”
รณภพนิ่ง
เขาไม่แน่ใจว่านุชชาหมายถึงใคร
แต่แววตาเธอในยามนี้...สงบนิ่งจนเขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่เปลี่ยนไป
---
ในความเงียบงันของราตรีนั้น
แผนของนุชชากำลังก่อตัว
ไม่ใช่แค่การเอาตัวรอด...
แต่คือการ “ตอบแทน” ที่ลึกซึ้งและแนบเนียนกว่าใครจะคาดคิด
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 31
Comments