อากาศยามเช้าตรู่ของวันพระดูเย็นสบายเป็นพิเศษ แสงแดดอ่อน ๆ สาดลอดช่องไม้บนเรือนไม้สักทองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมคลองสายหนึ่งของพระนคร เสียงนกกระจิบร้องรับกับเสียงน้ำกระทบผิวยเรือ ที่ล่องไปมาพร้อมแม่ค้าในตลาดบกและตลาดน้ำ
“คุณนุชเจ้าคะ แม่หญิงนภัทรสั่งไว้ให้เอาผ้ามาทูลถาม จะใช้ผืนไหนดีเพคะ?” เสียงสาวใช้เอ่ยขึ้นขณะกางผ้าสีหวานออกตรงหน้า นุชชาเหลือบมองก่อนจะยิ้มบาง
“พี่ภัทรจะไปงานบุญของวังหน้าใช่ไหม เลือกผ้าที่มีดิ้นทองสิ เข้ากับผิวพี่เขาดี”
หญิงสาวในชุดผ้าซิ่นลายดอกพิกุลมือปักอย่างประณีต เหลือบมองตัวเองในกระจกบานเงาสีดำสนิทก่อนเอ่ยกับสาวใช้เบา ๆ
“แต่ของข้า...ยังไม่จำเป็นต้องสั่งตัดหรอก ใช้ชุดเก่าก็ยังได้อยู่”
แม้จะเป็นลูกสาวคนกลางของแม่วรดา แต่ก็ดูเหมือนความสนใจในเรื่องตบแต่งประดิดประดอยของคุณหญิงนุชชาจะน้อยกว่าทั้งน้องและพี่ ทว่าน้ำเสียงของเธอนุ่มนวล อ่อนหวานจนฟังดูน่าฟังทุกคำ
เมื่อแม่วรดารู้เรื่องการไปตลาดเพื่อหาผ้าเพิ่มในเรือน—ก็ได้แต่อนุญาตพร้อมรอยยิ้ม
“ไปกับพี่เดือนแล้วกันลูก อย่าไปคนเดียว แล้วหากจะเลือกผ้า ก็อย่าลืมเผื่อของยัยมุกด้วยนะ แม่ไม่อยากให้มันน้อยใจ”
นุชชายิ้มรับ ทั้งที่ใจรู้ดีว่า ‘น้อยใจ’ ที่แม่นั้นพูดถึง อาจไม่ใช่อารมณ์เดียวกับที่น้องสาวแสดงออกนัก
---
ตลาดวัดหลวงริมคลองยามสาย เต็มไปด้วยกลิ่นขนมไทย กลิ่นพวงมาลัยดอกมะลิ และเสียงหัวเราะของเหล่าแม่ค้าขายของ สายตาผู้คนจับจ้องไปที่หญิงสาวสองคนที่เดินเบียดฝูงชนเข้ามา
หนึ่งในนั้นคือ นุชชา ที่แม้จะอยู่ในชุดเรียบง่ายกว่าใคร กลับดูสง่าด้วยความเรียบร้อย อ่อนโยน และแววตาที่เป็นมิตรกับทุกคนที่เดินผ่าน
อีกคนคือ พี่เดือน สาวใช้คนสนิทที่เดินถือผ้าแพรสีต่าง ๆ ไว้ในมือ
“นั่นใครน่ะ น่าจะคุณหญิงจากเรือนใหญ่แถวคลองใต้...”
เสียงแม่ค้ากระซิบกันเบา ๆ นุชชาเพียงแต่ยิ้ม ไม่ได้ตอบโต้อะไร
ขณะเดินไปยังแผงขายผ้าชื่อดังของแม่บุญเรือน ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังต่อรองราคาผ้าอยู่ก่อนหน้า เธอมีผิวคล้ำแดดเล็กน้อย ดูทะมัดทะแมงแต่แต่งตัวสะอาดสะอ้าน
“ขออภัยนะเจ้าคะ...ช่วยหยิบผืนนี้ให้ข้าที” เสียงนุชชาเอ่ยอย่างสุภาพ
หญิงสาวหันมา พลันสบตากับดวงหน้าที่อ่อนหวานของอีกฝ่าย เธอยิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะยื่นผ้าให้
“ผืนนี้สีหวานนัก เจ้าคงเหมาะกว่า”
“ไม่เลย...ข้าว่าสีนี้เข้ากับเจ้าเช่นกัน” นุชชาตอบกลับด้วยรอยยิ้มจริงใจ
หญิงสาวแปลกหน้าเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะออกมา
“ชื่อข้าคือ ‘แก้วใจ’ ลูกสาวพ่อค้าเร่ ข้าไม่ได้อยู่ในเรือนใดเหมือนเจ้าหรอกนะ”
นุชชาไม่ได้ตอบในทันที เธอเพียงยิ้มแล้วเอ่ยเบา ๆ
“ยินดีที่ได้รู้จัก แก้วใจ ข้า...นุชชา”
ทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่ง แล้วหัวเราะพร้อมกันอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับโลกได้หมุนพาให้ทั้งคู่มาเจอกันในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างประหลาด
---
ในขณะที่นุชชากำลังเลือกผ้าพร้อมเพื่อนใหม่ มีกลุ่มชายหนุ่มในชุดผ้าไหมสีน้ำเงินเข้ม ยืนอยู่ไม่ไกล
หนึ่งในนั้นคือ คุณชายรัชกร
และอีกคนคือ รณภพ เด็กหนุ่มที่ได้รับการอุปการะเลี้ยงดูโดยไม่มีใครรู้ว่ามาจากใด แต่กลับได้อยู่ร่วมเรือนกับคุณชายรัชกรมาตั้งแต่เล็ก
“เจ้าเห็นไหมพี่รัช...นั่นคุณหญิงที่เล่นระนาดวันก่อน” รณภพกระซิบเบา
รัชกรไม่ตอบ แต่แววตานั้นไม่อาจละไปจากใบหน้าของนุชชาได้เลย
ไม่ใช่เพราะความงามภายนอก หากแต่เป็นรอยยิ้ม และท่วงท่าที่ดูแตกต่างจากหญิงใดที่เขาเคยพบมา
ทว่าความรู้สึกนี้—เขายังเก็บเงียบไว้
---
หลังจากเลือกผ้าเสร็จ นุชชากลับเรือนพร้อมผ้าหลายผืนในมือ
แต่สิ่งที่พี่เดือนสังเกตเห็นได้คือ...หญิงสาวคนกลางของเรือนนั้น มีรอยยิ้มบาง ๆ ที่แปลกตา
ไม่ใช่เพราะผ้า
ไม่ใช่เพราะตลาด
แต่อาจเป็นเพราะใครบางคน...ที่ยืนมองอยู่เงียบ ๆ โดยไม่เอ่ยคำ
เมื่อกลับมาถึงเรือนในช่วงบ่าย นุชชาเดินขึ้นเรือนโดยมีพี่เดือนช่วยถือผ้าตามมาติด ๆ แต่เสียงหัวเราะคิกคักจากเรือนเล็กด้านข้างก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน
"ข้าเห็นกับตาเชียวนะคะคุณหนูมุก...คุณชายรูปงามนั่นจ้องมองพี่นุชตาแทบไม่กะพริบ" เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้น พลางอมยิ้มราวกับบอกเล่าความลับอันน่าตื่นเต้น
มุกธิดาเล็กนั่งอยู่บนเก้าอี้หวาย ถือตลับแป้งประทินผิว แต่ท่าทีไม่ได้สดใสตามเสียงหัวเราะ
"แล้วอย่างไร?" เธอเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ นิ้วเรียวยังคงปัดแป้งเบา ๆ บนพวงแก้มตน
"ก็แปลว่าคุณชายรัชกรคงสนใจคุณนุชชาน่ะสิคะ!"
"เจ้าก็พูดไปเรื่อย" มุกเอ่ยพร้อมยิ้มบาง ทว่าแววตาในกระจกนั้น...ขุ่นขึ้นจนสังเกตได้
เธอรู้ดีว่าไม่ว่าจะเรื่องใด นุชชามักได้ความรัก ความชมชอบจากผู้คนมากกว่าเสมอ
แม้ตนจะพยายามเพียงใด ก็ไม่อาจแย่งความอ่อนโยนธรรมชาติของพี่สาวคนกลางไปได้
และยิ่งได้ยินชื่อ รัชกร—ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์และดูสมบูรณ์แบบไปเสียทุกด้าน—เธอก็ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกผลักออกไปไกลจากแสงที่เธอใฝ่หา
"ถ้านางได้ ข้าก็จะเอา" เธอบอกตัวเองในใจ
---
ด้านนุชชา หลังจากวางผ้าไว้ในห้องแล้วก็มานั่งพักที่ระเบียง มองดูท้องฟ้ายามเย็นที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน น้ำในคลองสะท้อนแสงวับวาว
เธอคิดถึง ‘แก้วใจ’ เพื่อนใหม่ที่บังเอิญพบกันในตลาด
มันแปลก...ที่คนสองคนซึ่งไม่เคยรู้จักกัน กลับคุยกันได้สนิทใจเพียงชั่วครู่เดียว
แก้วใจเล่าเรื่องพ่อแม่ที่เสียไป เหลือตัวคนเดียว รับจ้างขายผ้าเร่ทั่วเมือง แต่ก็ไม่เคยขอใครกิน
“เข้มแข็งจัง...” นุชชาพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง
เธอไม่รู้เลยว่า รอยยิ้มและความใจดีที่เธอมอบให้ในวันนั้น กำลังสร้างมิตรภาพที่จะสำคัญในภายภาคหน้า
---
กลางดึกคืนนั้น เสียงระนาดเบา ๆ ดังลอดออกมาจากเรือนใหญ่
นุชชาเล่นเพลง "สายลมยามค่ำ" อย่างเงียบงัน แม้ไม่มีใครนั่งฟัง แต่เธอเล่นด้วยหัวใจ
หารู้ไม่...ว่าชายหนุ่มผู้หนึ่ง
คุณชายรัชกร
ยืนอยู่ในมุมมืดของลานหญ้าข้างเรือน
เพียงเพื่อจะได้ฟังเสียงนี้อีกครั้ง
---
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 31
Comments