ทำนองรัก
ยามสายของวันหนึ่งในเดือนหงาย
แสงแดดอ่อนสีทองอาบทาท้องฟ้าเหนือพระนคร
เรือนใหญ่ของเจ้าพระยาอธิบดีคลาคล่ำไปด้วยผู้คน
เรือนหอคอยที่ทอดยาวเรียบขนานสายน้ำเจ้าพระยา
รับแขกบ้านแขกเมืองด้วยขันหมากดอกไม้และเสียงดนตรีโบราณที่บรรเลงไม่ขาดสาย
ณ กลางเรือนหลวง บนแท่นไม้สักที่ขัดเงาจนมันวับ
วางระนาดเอกสลักลวดลายงดงาม ข้างตลิ่งซึ่งประดับด้วยอุบะมาลัยกลิ่นหอมจรุง
แม่นุชชา เอกธิดาแห่งตระกูลขุนไพศาลอักษร
นั่งประณีตพับเพียบงาม รวบเรือนผมดำขลับด้วยปิ่นทอง
สไบสีฟ้าอ่อนประดับชายครุยลายดอกไม้พริ้วละมุนแนบไปตามลำแขน
เธอเคลื่อนนิ้วเรียวบางลงไม้ระนาดทีละจังหวะด้วยท่าทีสงบ
ทุกเสียงที่หล่นลงบนผืนไม้…ราวกับวาดเป็นลายเส้นแห่งอารมณ์ที่ยากจะถอนใจ
เสียงระนาดนั้นไม่เพียงพาให้แขกในเรือนหยุดพูดคุย
แต่ยังพาให้หัวใจผู้คนทั้งหลายต้องชะงัก
รวมถึง คุณชายรัชกร
โอรสคนโตของเจ้าพระยาไชยบูรณ์ ขุนนางผู้มากด้วยอำนาจในราชสำนัก
ชายหนุ่มร่างสูงในครุยเจ้าคุณสีงาช้าง เย็บลายทองสะท้อนแสงแดดอ่อนยามสาย
เขายืนอยู่ริมระเบียงใกล้ศาลาท่าน้ำ ข้างกายนั้นคือ คุณชายรณภพ น้องชายของเขา
“เสียงระนาดนั้น…” รัชกรเอ่ยขึ้นเบา ๆ สายตาจับจ้องไปยังหญิงสาวเบื้องหน้า
รณภพยกยิ้มแล้วกล่าวตอบ “งดงามนักขอรับ ทั้งเสียงระนาด…และผู้นั่งบรรเลง”
เสียงระนาดของแม่นุชชานั้นมิใช่เพียงการตีตามครู หากแต่มีชีวิตจิตใจอยู่ในนั้น
เธอเล่นด้วยความมั่นคงแต่แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยน
เพลงที่เธอเลือกคือ “ลาวคำหอม” — บทเพลงแห่งความรักแสนละมุนแต่เว้าวอน
ยิ่งฟังยิ่งทำให้หัวใจของคุณชายรัชกรราวกับถูกเหนี่ยวรั้งให้ยืนอยู่อย่างไม่ขยับ
หญิงสาวมิได้แสดงท่าทีลำพอง ยังคงมุ่นมั่นแน่วแน่ในท่วงทำนอง
แต่นัยน์ตาคู่นั้น—กลับเผลอมองมายังเขา
สบตาเพียงชั่วครู่...
รัชกรขยับเล็กน้อย แต่ไม่หลบตา
มันเป็นเพียงวินาทีสั้น ๆ
แต่วินาทีนั้นกลับฝากบางอย่างไว้ในใจเขา—และเธอ
เมื่อท่วงทำนองสุดท้ายถูกบรรเลงจบลง
แม่นุชชายกไม้ขึ้นช้า ๆ แล้ววางลงเบา ก่อนจะประนมหัตถ์ไหว้อย่างอ่อนช้อย
เสียงปรบมือบางเบาดังขึ้นทั่วทั้งเรือน แขกเหรื่อพากันซุบซิบอย่างพึงใจ
หลายคนไม่เคยรู้จักชื่อเธอมาก่อน หากแต่ยามนี้...จำได้ไม่ลืม
“เป็นธิดาผู้ใดกันหนอ งามนัก”
“แม่หญิงนั่นบรรเลงราวเทพธิดา เสียงระนาดเหมือนจะพูดได้…”
“เขาว่าเป็นลูกสาวขุนไพศาลอักษร ขึ้นชื่อเรื่องระนาดแต่เล็กเจ้าค่ะ”
แม่นุชชาก้มศีรษะเล็กน้อย ยิ้มเพียงเบาบางตามแบบหญิงในเรือนสูง
ก่อนจะลุกขึ้นจากเบาะ แล้วสาวเท้าเบา ๆ ลงจากแท่น
สายตายังคงไม่หันซ้ายหรือขวา หากแต่ในใจนั้นยังคงรับรู้ถึงสายตาคู่นั้น
ที่ยังมองเธออยู่…อย่างมิได้หลบเลี่ยง
ในกลุ่มแขกสตรีซึ่งยืนอยู่อีกฟากหนึ่งของเรือน
แม่มุกดา น้องสาวของเธอ สวมสไบสีชมพูจัดเดินเข้ามาหา
“พี่นุชชา…เล่นได้งามยิ่งนักเจ้าค่ะ” เสียงนั้นหวานราวน้ำผึ้ง
เธอยกผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้พี่สาว แต่ในแววตานั้น...หาได้อ่อนโยนไม่
“ขอบใจเจ้ามุก” นุชชายิ้ม ตากวาดมองไปยังบรรยากาศโดยรอบอย่างถ่อมตน
ก่อนจะหันไปหยิบผ้าพาดไหล่มาคลุมแนบกาย
“มีท่านชายผู้หนึ่งมองพี่ไม่วางเลยเจ้าค่ะ”
คำกล่าวนั้นราวกับกล่าวด้วยความเอ็นดู
แต่ความจริงคือการโยนประกายไฟเล็ก ๆ ลงบนกองฟืนที่พร้อมจะติดเปลวเสมอ
นุชชาหันไปเล็กน้อย พลางเอ่ยอย่างเบาเสียง
“ฤาจะเป็นเรื่องคิดไปเอง เขาอาจเพียงชมเพลง”
มุกดาไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มบาง ๆ
แต่ในใจ…คำว่า “เพียงเพลง” ทำให้เธอรู้สึกเย้ยหยัน
เพราะตราบใดที่เสียงระนาดของพี่สาวยังงดงามเพียงนี้
นางเอง…ก็มิอาจมีผู้ใดมอง
ในขณะเดียวกัน ฝ่ายของรัชกร
เขาเพียงยืนเงียบและมองหญิงสาวที่เพิ่งลงจากแท่น
ไม่ได้พูดคำใดต่อรณภพ ไม่แม้แต่สบตาผู้คน
หัวใจเขากลับยังคงวนเวียนอยู่กับเสียงระนาดเมื่อครู่
“หญิงนั้นชื่อว่าอะไร?” เขาถามขึ้นกับชายสูงวัยที่ยืนข้าง ๆ
ท่านขุนผู้หนึ่งเอ่ยตอบด้วยท่าทีเคารพ
“ธิดาขุนไพศาลอักษร เจ้าค่ะ ชื่อว่าแม่นุชชา ว่ากันว่าบรรเลงระนาดเก่งนักตั้งแต่สิบสามปี”
รัชกรพยักหน้าเบา ๆ แต่ไม่ได้พูดต่อ
หากแต่ในใจเขานั้น...จดชื่อนางไว้แล้ว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 31
Comments
อ่านง่ายย่อยง่ายอร่อยด้วย🤍
ใช้คำดีมาก อยากให้แมสเจ้าค่ะ/Angry//Angry/
2025-04-17
0