แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาอาบเรือนเล็กภายในวัง ชิงหรูยังคงอยู่ในชุดเรียบง่ายผ้าไหมสีชมพูอ่อน ดวงหน้านวลยามเช้าทำให้แม้แต่ขันทีที่มาเชิญตัวก็ยังเผลอยิ้มอย่างเอ็นดู
“คุณหนูชิงหรูเจ้าคะ ท่านชายทั้งสองมีรับสั่งเชิญคุณหนูออกไปตลาดด้วยกันเจ้าค่ะ”
“หา?” นางกะพริบตาปริบ ๆ
“ทั้ง...สอง?”
...
ไม่กี่ชั่วยามถัดมา ขบวนรถม้าหรูหราแต่ไม่โอ่อ่าเกินไปก็มาหยุดอยู่หน้าประตูเมือง
เหวินอวี้ วันนี้อยู่ในชุดคลุมบางสีครามอ่อนแบบชนชั้นสูง แววตายิ้มระยับตั้งแต่เห็นนาง
“เช้าเช่นนี้ ดอกไม้ยังไม่งามเท่าเจ้าหรอก”
อวี่เหวินเจิ้ง มาถึงทีหลังในชุดนักรบลำลองเรียบง่าย แต่มีกลิ่นอายสง่างามไม่แพ้กัน เขาไม่พูดอะไร เพียงแต่ยื่นพัดไม้ไผ่ให้
“แดดแรง ระวังผิวเสีย”
...
เมื่อขบวนเดินเข้าสู่ตลาด ความคึกคักทำให้ชิงหรูเผลอยิ้มกว้าง
ทั้งเหวินอวี้และอวี่เหวินเจิ้งต่างพยายามเอาอกเอาใจนางอย่างน่าเอ็นดู
เหวินอวี้เดินนำพร้อมกับจูงนางเข้าแผงเครื่องประดับ “เจ้าลองดูสิ ปิ่นหยกดอกเหมยนี่คล้ายกับที่เจ้าชอบเมื่อตอนเด็ก”
“หรือเจ้าจะจำได้ว่าเจ้าเคยให้ข้าสร้อยด้ายแดงเส้นหนึ่ง?” เขากล่าวยิ้ม ๆ พลางหยิบสร้อยเส้นบางขึ้นมา
“红线系情,缘定三生。”
(หงเซี่ยนซีฉิง หยวนติ้งซานเซิง — ด้ายแดงผูกใจ ผูกพันสามชาติภพ)
ชิงหรูยิ้มหน้าแดงรีบเบือนหน้า “เจ้าพูดมากนัก”
...
อวี่เหวินเจิ้งไม่ได้เข้าร้านเครื่องประดับ แต่พานางไปยังร้านขนมพื้นเมืองเล็ก ๆ
“ข้าเคยได้ยินว่าเจ้าชอบเกาลัดเชื่อม” เขาว่าพลางซื้อห่อเล็กยื่นให้
เมื่อชิงหรูรับมาอย่างเก้อเขิน เขากลับพูดขึ้นเรียบ ๆ
“ข้าไม่ถนัดพูดคำหวาน...แต่ข้าทำเพื่อเจ้าทุกอย่างที่ข้าทำได้”
...
ไม่ทันไร คนขายโคมไฟก็เรียกผู้คนให้มาทดลองเขียนอักษรบนโคม ชิงหรูตาโต
“ข้าเขียนได้หรือ?”
เหวินอวี้พยักหน้าแล้วเอ่ย “เขียนสิ่งที่เจ้าปรารถนา ข้าจะเป็นผู้จุดไฟให้”
ขณะเดียวกัน อวี่เหวินเจิ้งกลับหยิบพู่กันแล้วเขียนทันที — เป็นอักษรตัวเดียว
"守" (โส่ว - ปกป้อง)
ชิงหรูยืนนิ่ง รู้สึกราวกับลมเย็นพัดเข้ามาในใจ...ไม่ใช่แค่คำที่เขาเขียน แต่เป็นน้ำเสียงจริงจังของเขาที่พูดว่า
“ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิต ข้าจะเป็นเกราะกำบังให้เจ้า”
...
เมื่อโคมลอยขึ้นสู่ฟ้า ทั้งสามยืนมองเงียบ ๆ ท่ามกลางกลุ่มผู้คน
จังหวะที่ชิงหรูจะเอ่ยขอบคุณ คนหนึ่งก็ถือโอกาสดึงนางไปชมร้านภาพวาด (เหวินอวี้)
อีกคนพาเดินลัดเข้าตรอกเพื่อไปดูหมอดูชื่อดัง (อวี่เหวินเจิ้ง)
ชิงหรูทำหน้าเหวอ
“พวกท่านจะ...ดึงกันคนละทางมิได้!”
ทั้งสองชะงัก หันมามองกันเอง แล้วหันมามองนางพร้อมกัน
ก่อนที่ เหวินอวี้จะยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วว่า
“ก็ลองให้เจ้าตัดสินสิ ว่าวันนี้จะเลือกเดินไปกับใครก่อน”
ชิงหรูเบิกตา สีหน้าแดงจัด
“ข้า...ข้าจะกลับวังเดี๋ยวนี้!”
แล้วหมุนตัววิ่งกลับ ทิ้งให้ท่านชายทั้งสองยืนหัวเราะอยู่เบื้องหลัง
...
บนทางกลับ
ขณะนั่งรถม้า ชิงหรูยกมือแตะอกตัวเอง
หัวใจเต้นรัวไม่หยุด — ไม่รู้เพราะโคมไฟ คำหวาน...หรือเพราะสายตาทั้งสองที่จ้องนางอย่างไม่ยอมละแม้แต่วินาทีเดียว
...
ท่ามกลางตลาดที่เต็มไปด้วยแสงสี ไม่มีแสงใดสว่างเท่าสายตาของชายสองคนที่มอบให้แก่สตรีหนึ่งคน...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 52
Comments