บรรยากาศในเมืองหลวงในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนของดอกไม้ที่เริ่มผลิบาน แต่สำหรับหลินชิงหรูกลับรู้สึกว่าอากาศเย็นยะเยือกกว่าทุกปี
หัวใจของนางยังว้าวุ่นกับเหตุการณ์เมื่อคืน ภาพของอวี่เหวินเจิ้งที่ยืนนิ่งใต้ต้นท้อ คำพูดที่เขากล่าวไว้ด้วยแววตาแน่วแน่ยังคงติดอยู่ในใจ
“ข้าไม่เคยยอมแพ้ในสนามรบ และข้าก็จะไม่ยอมแพ้ในหัวใจของเจ้า”
ชิงหรูส่ายหัวไล่ความคิด ก่อนจะออกเดินทางไปยังหอสมุดหลวงที่ได้รับมอบหมายให้ช่วยคัดลอกตำราในฐานะบุตรสาวขุนนาง
แต่ในระหว่างทาง เสียงฝีเท้าของใครบางคนกลับเร่งตามมาติด ๆ
“เจ้าจะหนีข้าไปได้ถึงเมื่อใดกัน ชิงหรู” เสียงทุ้มลึกดังขึ้นอย่างคุ้นหู
นางหันกลับ พบองค์ชายเหวินอวี้ยืนยิ้มบาง ทว่าสายตานั้นกลับมืดมนเล็กน้อย
“ข้าไม่ได้หนีเพคะ ข้าแค่...ไม่รู้จะตอบท่านอย่างไร”
องค์ชายขยับเข้ามาใกล้จนระยะห่างแทบจะไม่มีเหลือ เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อย แววตาแน่วแน่จ้องมอง
“ข้าไม่ได้หยอก ไม่ได้เล่น ข้ารักเจ้าอย่างที่ชายคนหนึ่งรักหญิงสาวคนหนึ่งจริง ๆ”
ชิงหรูชะงัก ริมฝีปากขยับแต่ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
“หรือเจ้าคิดว่า...ข้าจะยอมเดินทางกลับแคว้นหรง เพื่อเล่นละครหลอกลวงเจ้ารอบใหม่?”
เขายกมือขึ้นหมายจะสัมผัสแก้ม แต่ชิงหรูรีบถอยหนึ่งก้าว พร้อมดึงตัวเองให้ตื่น
“ข้าไม่เข้าใจ...ท่านแม่ทัพก็พูดอะไรทำนองเดียวกันกับท่านเมื่อคืนนี้...”
“เขาก็รักเจ้าไม่แพ้ข้า...นั่นยิ่งทำให้ข้าไม่อาจนิ่งเฉย” เหวินอวี้กล่าวเสียงแผ่วลง
...
บ่ายวันนั้นที่สนามฝึกทหาร
อวี่เหวินเจิ้งฝึกดาบอย่างบ้าคลั่ง เหงื่อไหลท่วมตัว ราวกับต้องการระบายอารมณ์บางอย่าง
รองแม่ทัพเหลียงที่เฝ้ามองอยู่เงียบ ๆ เอ่ยขึ้น
“ท่านแม่ทัพ หากมิได้โกรธศัตรูในศึกภายนอก...เหตุใดจึงลงแรงดาบหนักเยี่ยงนี้?”
อวี่เหวินเจิ้งหยุดดาบกลางอากาศ ก่อนจะกล่าวเบา ๆ
“ศัตรูของข้า...บางครั้งก็อยู่ในใจ”
เขาไม่อธิบายต่อ แต่ความคิดในใจยังตีกันวุ่นวาย
"ข้าจะพูดออกไปดีหรือไม่...? หากพูด...นางจะกลัวหรือเปล่า?"
...
คืนนั้น ชิงหรูหลบหนีออกจากตำหนักโดยไม่บอกใคร เดินลัดเลาะไปยังศาลเจ้าเก่าใกล้ชายป่า หวังหาความสงบในใจ
แต่เมื่อไปถึง กลับพบว่ามีใครอีกคนยืนอยู่ที่นั่นก่อนแล้ว
อวี่เหวินเจิ้ง
เขาหันมามองนาง ใบหน้าเงียบสงบกว่าที่เคย
“เจ้าหนีอีกแล้วหรือ?” เขาถาม
“ข้าไม่ได้หนี...” เธอตอบเบา ๆ “ข้าแค่ไม่รู้ว่า...สิ่งที่ท่านทั้งสองพูด มันจริงหรือไม่”
เขานิ่งไปครู่ ก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาใกล้
“ถ้าเจ้าไม่เชื่อใจข้า...เจ้าก็มองตาข้า”
เขาจับมือเธอแน่นในทันที
“ชิงหรู ข้ามิใช่ผู้ดีที่ใช้คำหวาน ข้าเป็นเพียงชายผู้หนึ่งที่เคยเสี่ยงชีวิตเพื่อชาติ...และตอนนี้ ข้าอยากเสี่ยงใจเพื่อเจ้า”
เธอสบตาเขา แล้วเบือนหน้าหนีเร็วเกินไป — เร็วจนเขาไม่เห็นว่าน้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงบนหลังมือของเขา
...
แต่ในเงามืดของศาลเจ้า
องค์ชายเหวินอวี้ยืนอยู่เงียบ ๆ
“ในเมื่อเจ้ากล้าพูดก่อนข้า เช่นนั้น...เรามาดูกันว่าผู้ใดจะได้หัวใจของนางไป”
...
และในคืนเดียวกันนั้น — หลินชิงหรูนอนนิ่งอยู่ในห้อง โดยไม่รู้เลยว่าในสายตาของชายทั้งสอง...
นางไม่ใช่สิ่งที่ล้อเล่น หรือแค่ของเดิมพัน แต่คือหัวใจทั้งดวงของพวกเขา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 52
Comments