เสียงคำรามของมอนสเตอร์สามดาวดังก้องไปทั่วทั้งป่า กลิ่นเลือดอ่อน ๆ ยังคงลอยปะปนกับอากาศราวกับสนามรบจริง ร่างของนักเรียนหลายคนยังคงนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ในขณะที่บางคนพยายามคลานหนีอย่างสิ้นหวัง
เรน ยืนอยู่เบื้องหน้ามอนสเตอร์ร่างยักษ์ที่ยังคงส่งเสียงคำรามอย่างดุร้าย ดวงตาเย็นชาสีเทาเงินของเขาส่องประกายจาง ๆ เส้นผมปลิวไหวตามแรงลมที่พวยพุ่งออกมาจากพลังภายในร่างกาย
เขาก้าวไปข้างหน้าเพียงก้าวเดียว ก่อนจะยกมือขึ้นกลางอากาศอย่างนิ่งสงบ
ฝ่ามือของเรนแผ่ประกายแสงโปร่งใสออกมาเป็นระลอก พลังเวทอันมหาศาลปะทุขึ้นจากฝ่ามือนั้น ราวกับแรงอัดของลมหมุนที่สามารถบดขยี้ทุกสรรพสิ่ง
ตูมมม!
เสียงระเบิดของอากาศดังลั่น พลังของเขาซัดเข้าใส่ร่างหมาป่าอย่างจัง ส่งมันลอยไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่จนหักโค่นลงมา แต่… มันยังไม่ตาย
หมาป่าระดับสามดาวส่งเสียงคำรามดังกว่าเดิม ร่างของมันเปล่งพลังคลั่งออกมา ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองเรนด้วยความเกลียดชัง มันพุ่งเข้าหาด้วยความเร็วที่เกินกว่าตาเปล่าจะมองตามได้
เรนพยายามสร้างบาเรียขึ้นอีกครั้ง แต่พลังของเขาเริ่มสั่นไหว เหมือนพลังยังไม่เสถียรพอในการควบคุมอย่างเต็มที่
“เรน! ถอยออกมา!” โฮลต์ ตะโกนเสียงหลง แต่ไม่ทันไร…
ตูมมมมม!
เสียงกระแทกดังก้อง ก่อนที่ร่างของหมาป่าจะหยุดลงกลางอากาศ ราวกับถูกพันธนาการไว้ด้วยแรงลึกลับ
ชายในชุดคลุมสีดำก้าวออกมาจากเงาไม้ อาจารย์โครว ปรากฏตัวพร้อมกับดวงตาเปล่งแสงสีดำเข้ม พลังจากเขารุนแรงเกินกว่ามอนสเตอร์จะต้านทานได้
“บ้าชิบ… ฉันปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง…” เขาสบถกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเหวี่ยงแขนไปด้านข้าง
เส้นแสงสีดำ พุ่งออกจากฝ่ามือของเขา เจาะร่างหมาป่าสามดาวจนมันล้มลงแน่นิ่งไปกับพื้น กลิ่นเลือดฟุ้งกระจายไปทั่ว
จากนั้นเขาก็หันมามองนักเรียนทุกคน ก่อนจะรีบรวบรวมร่างของผู้บาดเจ็บทั้งหมด ด้วยคาถาเคลื่อนย้ายเวทระดับสูง เขาพาทุกคนกลับไปยังห้องพยาบาลของโรงเรียน
ภายในห้องสีขาวสว่าง ร่างของเด็กชายหญิงหลายคนถูกวางเรียงบนเตียงเวทที่ลอยอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย
ชายร่างผอมในเสื้อคลุมสีขาวดวงตาสีฟ้าเรืองรองปรากฏตัวขึ้น
“เนตรแห่งการฟื้นคืน…” อาจารย์โครวกล่าวด้วยน้ำเสียงโล่งอก “ช่วยพวกเขาด้วย”
ชายคนนั้นพยักหน้า ก่อนจะยกมือขึ้น ดวงตาเปล่งแสงสีฟ้าสว่างจ้า แสงนั้นไหลพุ่งไปหานักเรียนที่บาดเจ็บทั้งหมด แม้จะไม่สามารถคืนชีพได้อย่างแท้จริงโดยง่าย แต่บาดแผลและอาการใกล้ตายก็ค่อย ๆ ฟื้นฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่ไม่มีใครตาย… แค่ปางตาย
หลังจากเหตุการณ์สงบลง นักเรียนทุกคนต่างจ้องมองมาที่ เรน ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป จากคนที่ไม่สามารถปลุกเนตรได้ กลายเป็นคนที่สามารถต้านมอนสเตอร์ระดับสามดาวได้ด้วยพลังเพียงครั้งแรกที่ใช้
“เด็กคนนั้น… มันใช่แน่ๆ…” อาจารย์โครวพึมพำ
เขาเดินไปหาเรนและวางมือลงบนบ่าของเขาเบา ๆ
“เจ้านี่…คือเนตรบาเรียในตำนาน”
“ข้ารู้แล้วว่าเจ้าสืบเชื้อสายมาจากตระกูลใด…”
เรนมองอาจารย์นิ่ง ๆ ไม่เข้าใจในสิ่งที่ได้ยิน
“มาคุยกับข้าเป็นการส่วนตัวหน่อยเถอะ เรามีเรื่องต้องพูดกัน”
เรน เดินตามหลังอาจารย์โครวไปในความเงียบ ตลอดทางมีเพียงเสียงฝีเท้าที่ก้องสะท้อนกับผนังทางเดินหินของโรงเรียนเวท ราวกับโลกทั้งใบหยุดนิ่งลงชั่วขณะ
พวกเขามาหยุดที่หน้าประตูไม้บานหนึ่งซึ่งมีตราสัญลักษณ์รูปลูกตาแฝงอยู่ในวงเวทสีทองที่ประทับอยู่บนบานประตู
โครว ผลักมันเปิดออกช้า ๆ และเดินนำเข้าไปในห้องมืดที่มีเพียงแสงตะเกียงสีฟ้าส่องสว่าง
ภายในห้องไม่มีอะไรนอกจากโต๊ะไม้เก่า ๆ เก้าอี้สองตัว และชั้นวางหนังสือที่เต็มไปด้วยเล่มเวทมนตร์ต้องห้าม
เรนไม่พูดอะไร เขานั่งลงตามคำเชิญของอาจารย์ ขณะที่อีกฝ่ายทอดสายตามองเขานิ่ง ๆ ด้วยแววตาแฝงความรู้สึกบางอย่างที่อ่านไม่ออก
“เจ้ารู้ตัวไหมว่าเพิ่งทำอะไรลงไป?”
เสียงของอาจารย์โครวทุ้มต่ำแต่ไม่ใช่ตำหนิ—มันคือความตกใจและตื่นเต้นในคราเดียวกัน
“…ช่วยเพื่อน?” เรนตอบเรียบ ๆ
“ไม่ใช่แค่นั้น”
โครวเอนตัวไปข้างหน้า ดวงตาของเขาเปล่งแสงวาบ
“เจ้าปลุกเนตรบาเรียในตำนาน …พลังที่ไม่ปรากฏบนผืนโลกมานานกว่าห้าร้อยปี”
เรนขมวดคิ้ว “มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“แน่นอน… มันไม่ใช่แค่บาเรียธรรมดา มันคือพลังที่เคยใช้สร้าง ‘กำแพงศักดิ์สิทธิ์’ ที่เคยต้านกองทัพปีศาจนับแสนเอาไว้ได้ในอดีต—ด้วยแค่คนเดียว”
เรนยังคงนิ่ง สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในใจเริ่มสั่นไหว เขาไม่เคยรู้ตัวเลยว่าตัวเองมีสายเลือดหรือพลังอะไรแบบนั้น
โครวถอนหายใจ “เจ้าเป็นลูกหลานของ ‘ตระกูลวาเรนเทียร์’ ตระกูลผู้พิทักษ์แห่งบาเรีย พวกเขาหายสาบสูญไปจากหน้าประวัติศาสตร์ตั้งแต่สงครามจบสิ้น”
“ผมไม่รู้จักตระกูลนั้น” เรนพูดเบา ๆ สายตาหลบเล็กน้อย “ฉันแค่อยากมีพลังพอจะปกป้องคนอื่น… แค่นั้น”
โครวพยักหน้า “นั่นแหละ…ถึงจะเหมาะกับเนตรนี้”
เขาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาจากโต๊ะ โบราณจนฝุ่นฟุ้งกระจายเมื่อเปิด “นี่คือบันทึกของสายเนตรบาเรียทั้งหมดที่เคยมีบันทึกไว้ ข้าจะให้เจ้าศึกษามัน เพราะจากนี้… เจ้าจะถูกจับตามอง ไม่ใช่แค่จากโรงเรียน แต่จากพวกมัน—พวกที่อยู่เบื้องหลังทุกสงครามในโลกนี้”
เรนเงยหน้าขึ้น สบตาอาจารย์
“พวกมัน?”
โครวไม่ตอบ แต่ดวงตาของเขาเปลี่ยนไป—เต็มไปด้วยแววระแวงและความโกรธแค้น
“ยังมีอีกหลายเรื่องที่เจ้าต้องรู้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้… คืนนี้พักผ่อน พรุ่งนี้เราจะเริ่มฝึกอย่างจริงจัง และข้า—จะเป็นคนฝึกเจ้าเอง”
แสงแรกของวัน ลอดผ่านหน้าต่างบานเล็กในห้องพักของอาจารย์โครว สาดกระทบโต๊ะไม้เก่าและชั้นหนังสือที่เต็มไปด้วยฝุ่น
เรน ยืนอยู่กลางห้องอย่างเงียบงัน ใบหน้ายังเต็มไปด้วยความคิดและคำถามที่ไร้คำตอบ
อาจารย์โครวนั่งพิงพนักเก้าอี้ ขาข้างหนึ่งพาดบนโต๊ะ ท่าทีผ่อนคลายแต่แววตายังคงจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ข้าถามชื่อเต็มของเจ้าได้หรือยัง?” โครวถามขึ้นในความเงียบ
เรน เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบเสียงเรียบ
“เรน ดราโวลร์”
จังหวะนั้นเอง อาจารย์โครว ชะงักไปทันที รอยยิ้มจาง ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังในทันที
“…ดราโวลร์งั้นหรือ…” เขาพึมพำเบา ๆ
“มันมีอะไรเหรอครับ?” เรนถามทันทีที่เห็นปฏิกิริยาแปลก ๆ ของอาจารย์
โครวพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะพูดเสียงนิ่ง “ชื่อของเจ้าคือชื่อของตระกูลย่อยที่ถูกสร้างขึ้นหลังสงครามแห่งเงามืด—เพื่อลบตัวตนของสายเลือดหลักออกจากประวัติศาสตร์… และเพื่อซ่อนตัวจาก ‘ปีศาจแห่งเงานิล’ ที่กำลังไล่ล่าผู้ถือครองเนตรบาเรีย”
เรนเบิกตากว้าง “…หมายความว่า…”
“ใช่ เจ้าคือผู้สืบทอดสายเลือดโดยตรงจาก ‘วาเรนเทียร์’ ตระกูลหลักผู้ถือครองเนตรป้องกันระดับสูงสุด เจ้าคือคนที่พวกมันพยายามลบให้หายไปจากโลกนี้”
อาจารย์โครวลุกขึ้น เดินไปหยิบม้วนตำราเก่า ๆ จากชั้นหนังสือ ก่อนจะเปิดภาพจาง ๆ ของชายคนหนึ่งที่มีเนตรลึกลับบนหน้าผาก
“ชายคนนี้ชื่อว่า ‘เรย์วาเรน’ บรรพบุรุษของเจ้า เขาเคยใช้เนตรของเขาเพียงคนเดียว… กั้นระหว่างโลกมนุษย์กับปีศาจไม่ให้ล่มสลาย”
“เขาตายในการศึกสุดท้าย แต่ก่อนตายได้สั่งให้ลูกหลานตัดขาดจากนามสกุลเดิม และแฝงตัวอยู่ในโลกเพื่อรอเวลาที่เนตรบาเรียจะตื่นขึ้นอีกครั้ง…”
เรนก้มมองฝ่ามือตัวเอง ภาพของพลังที่ระเบิดออกจากมือเขาเมื่อวานยังฝังอยู่ในหัว มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
“แล้ว… ผมต้องทำอะไรต่อ?”
“พรุ่งนี้ ข้าจะเริ่มฝึกเจ้าด้วยตัวเอง” โครวกล่าว “เจ้าไม่สามารถอยู่ในโลกนี้แบบอ่อนแอได้อีกต่อไป เรน ดราโวลร์—เจ้าเป็น ‘กำแพงสุดท้ายของมนุษย์’”
เรนเงยหน้าขึ้น แววตานิ่งสงบแต่เต็มไปด้วยเปลวไฟ
“…ครับ อาจารย์”
-จบตอนที่ 4
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments