เมืองเอเซลฟอร์ดเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตที่หลากหลายและวุ่นวาย เป็นเมืองที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นศูนย์กลางของการศึกษาพลังที่ไม่ธรรมดาในช่วงเวลานี้ ชาวเมืองที่เคยหนีจากสงครามหรือภัยธรรมชาติต่างก็เดินทางมาที่นี่เพื่อหาความหวังใหม่ ในเมืองนี้มีสถานที่สำคัญหนึ่งที่ทุกคนรู้จักดี นั่นคือ “อาคาเดมี่แห่งเฟลโน่ร์” โรงเรียนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นที่เดียวที่สามารถฝึกฝนผู้ที่มีพลังพิเศษจากเนตรแห่งเฟลโน่ร์ได้
หลังจากที่เรนได้เดินทางมาถึงเมืองเอเซลฟอร์ด เขาและลูซ่าได้เดินทางมาถึงอาคาเดมี่แห่งเฟลโน่ร์ โรงเรียนใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง มองเห็นได้จากทั่วทั้งเมือง อาคารใหญ่โตหลายชั้นมีการออกแบบที่สง่างามและเต็มไปด้วยความทันสมัย เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปในบริเวณอาคาเดมี่ก็ได้พบกับนักเรียนหลายคนที่กำลังมารวมตัวกันอยู่ในลานกลางแจ้ง
เสียงของอาจารย์ประจำอาคาเดมี่ดังขึ้นจากไมโครโฟนกลางลาน “ขอต้อนรับทุกคนที่มาถึงอาคาเดมี่แห่งเฟลโน่ร์ที่นี่เป็นสถานที่ที่จะช่วยให้คุณค้นพบพลังที่ซ่อนอยู่ภายในตัวคุณ การฝึกฝนที่นี่ไม่ได้เป็นแค่การควบคุมพลัง แต่ยังเกี่ยวกับการเข้าใจตัวตนของคุณเอง เราจะช่วยให้คุณเติบโตและรู้จักใช้พลังเหล่านั้นให้ดีที่สุด”
เรนมองไปรอบๆ และเห็นนักเรียนหลายคนที่ต่างก็มีสีหน้าจริงจัง บางคนก็มีท่าทางมั่นใจ บางคนก็ดูตื่นเต้น แต่ทุกคนก็เตรียมพร้อมที่จะเริ่มการทดสอบ
“วันนี้เราจะเริ่มการทดสอบพลังเนตรของทุกคน เพื่อให้เราสามารถจัดกลุ่มและเลือกวิธีการฝึกสอนที่เหมาะสมกับแต่ละคน” อาจารย์กล่าวต่อ “การทดสอบนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าคุณมีพลังเนตรประเภทใด และเราจะพาคุณไปยังเส้นทางที่ถูกต้องในการพัฒนามัน”
เรนยืนอยู่ในแถวพร้อมกับนักเรียนคนอื่นๆ และสังเกตเห็นนักเรียนคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา ชื่อว่า “ริน” นักเรียนหญิงที่ดูจะมีความมั่นใจในตัวเองมาก เธอมีผมสีดำยาวและดวงตาที่วาววับเหมือนกับใครบางคนที่มีพลังเนตรที่แข็งแกร่ง อีกคนคือ “โซอิ” นักเรียนชายรูปร่างสูงใหญ่ ดูจากท่าทางแล้วเขาน่าจะเป็นคนที่เคยผ่านการฝึกฝนมาก่อน
การทดสอบเริ่มต้นขึ้น เมื่อแต่ละคนเดินไปที่แท่นกลางลานทดสอบที่อาจารย์จัดเตรียมไว้ จากนั้นลำแสงจากผลึกสีฟ้าก็ส่องลงมาที่หัวของนักเรียนแต่ละคน เพื่อทำการวัดระดับพลังและประเมินประเภทของเนตรที่พวกเขามี
รินเดินขึ้นไปเป็นคนแรก เมื่อแสงส่องลงไปที่เธอ ร่างของเธอก็เริ่มส่องแสงจ้าเล็กน้อย ก่อนที่แสงจะจางลง อาจารย์กล่าวด้วยเสียงเย็น “เนตรแห่งลมพายุ… น่าสนใจทีเดียว” รินยิ้มพอใจก่อนจะเดินออกจากแท่นทดสอบ
ต่อมาถึงตาของโซอิ เมื่อแสงจากผลึกส่องลงไปที่เขา แสงที่ออกมามีความเข้มข้นและยาวนานกว่าคนอื่นๆ มันเปล่งประกายสีแดงสดใส อาจารย์มองดูด้วยความสนใจ “เนตรแห่งไฟ… ความร้อนแรงของพลังเนตรสายโจมตีจริงๆ”
เรนยืนรออยู่ในแถว ท่ามกลางเสียงพูดคุยและกระซิบของนักเรียนที่ยังไม่ได้ทดสอบ เขารู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังเต้นแรงขึ้น ทั้งที่ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร
เมื่อถึงตาของเรน เขาก้าวขึ้นไปยืนบนแท่นทดสอบ ภายในใจรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็พยายามเก็บความรู้สึกไว้ เขาหมุนมือไปมาราวกับพยายามสะกดพลังที่ไม่รู้ตัวให้สงบลง แสงจากผลึกสีฟ้าลงมาส่องที่หัวของเขาและทันใดนั้น มันก็เกิดประกายแสงสว่างจ้าขึ้นจนทุกคนต้องหันไปมอง แสงที่ออกมาจากเขาสว่างจ้ามากจนทำให้พื้นดินรอบๆ สั่นสะเทือนน้อยๆ
อาจารย์และนักเรียนคนอื่นๆ มองไปที่แสงนั้นด้วยความสนใจ แต่ในที่สุดแสงก็เริ่มจางลง และเมื่อมันหายไปก็เหลือแค่เงียบงัน อาจารย์มองเรนแล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆ “เนตรสายป้องกัน… ความสามารถในการป้องกันที่แข็งแกร่ง”
หลายคนในกลุ่มเริ่มพยักหน้าและพูดคุยกัน แต่ก็ไม่ได้ดูตกใจหรือประหลาดใจอะไร นักเรียนส่วนใหญ่ต่างก็คิดว่าเป็นแค่เนตรสายป้องกันธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษมากนัก
เรนยืนอยู่ตรงนั้น เขารู้สึกถึงความผิดหวังเล็กน้อยในใจ แต่เขาก็พยายามกลั้นอารมณ์เอาไว้ พลังของเขาอาจจะไม่เด่นเหมือนคนอื่นๆ แต่เขาก็รู้ว่าการทดสอบนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
“ถึงจะเป็นเนตรสายป้องกัน แต่ก็มีประโยชน์มากในสนามรบ” อาจารย์พูดอย่างมั่นใจ “เราจะฝึกฝนกันให้เต็มที่”
เรนยิ้มให้กับตัวเอง แม้จะรู้สึกเหมือนพลังของเขายังไม่สมบูรณ์แบบ แต่เขาก็มั่นใจว่าเขาจะเรียนรู้และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นในที่แห่งนี้
หลังจากการทดสอบพลังเสร็จสิ้น อาจารย์ได้ทำการจัดกลุ่มนักเรียนตามประเภทของเนตรที่แต่ละคนมี กลุ่มแรกคือสายโจมตี กลุ่มที่สองคือสายป้องกัน และกลุ่มที่สามคือสายสนับสนุน ซึ่งแต่ละกลุ่มจะได้รับการฝึกฝนในด้านต่างๆ ตามความเหมาะสม
“ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะเริ่มฝึกกันแล้ว ฉะนั้นขอให้ทุกคนตั้งใจฟังและทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด การจะใช้เนตรให้ได้ผลดีนั้นไม่ใช่แค่เรื่องพลัง แต่คือการควบคุมจิตใจและจิตวิญญาณให้พร้อม” อาจารย์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
นักเรียนทุกคนได้ทยอยเดินไปยังที่ฝึกตามกลุ่มที่ได้รับมอบหมาย สำหรับกลุ่มที่เรนเข้าร่วม คือนักเรียนที่มีเนตรสายป้องกัน อาจารย์จึงพาพวกเขาไปยังห้องฝึกที่เต็มไปด้วยสิ่งแวดล้อมที่อาจารย์เลือกมาให้เหมาะสมกับการฝึกพลังเนตรประเภทนี้
“นักเรียนที่มีเนตรสายป้องกัน จะต้องฝึกการใช้พลังเพื่อสร้างเกราะป้องกันทั้งตัวเองและผู้อื่น ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานของการใช้เนตรประเภทนี้” อาจารย์เริ่มอธิบายขณะยืนอยู่หน้าแผงป้ายที่แสดงเทคนิคต่างๆ ของเนตรป้องกัน
“การเบิกเนตรป้องกันนั้น คุณต้องพยายามดึงพลังภายในตัวคุณให้เกิดการปกป้อง ใช้สมาธิในการควบคุมมันให้เหมือนกับการห่อหุ้มตัวเองด้วยชั้นเกราะ หากทำได้ คุณจะสามารถสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้นได้”
เรนยืนฟังอยู่ด้านหลัง กลิ่นอายของความสงสัยลอยขึ้นมาในใจ เขาพยายามตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ แต่รู้สึกว่ามันยากเกินกว่าจะทำได้ในทันที
เมื่อทุกคนเริ่มฝึก อาจารย์ก็ยืนมองพวกเขาด้วยสายตาที่ใส่ใจ คอยแนะนำอย่างใกล้ชิด เรนเริ่มลองใช้เนตรของตัวเองตามคำแนะนำของอาจารย์ เขาหมดสมาธิลงและพยายามดึงพลังจากภายในออกมา แต่เมื่อเขาลองใช้เนตรเพื่อสร้างเกราะป้องกัน กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แสงจากเนตรของเขายังคงไม่ปรากฏออกมาเหมือนกับนักเรียนคนอื่นๆ
เรนขมวดคิ้วและพยายามอีกครั้ง แต่นั่นก็ไม่ได้ผลเช่นเคย เกราะป้องกันที่เขาพยายามสร้างยังคงไม่เกิดขึ้น
อาจารย์มองไปที่พระเอกด้วยความสงสัย “ทำไมกัน… ทำไมเนตรของเขาถึงไม่ปรากฏเหมือนคนอื่นๆ?” อาจารย์คิดในใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน
นักเรียนคนอื่นๆ ในกลุ่มต่างก็ฝึกฝนและเห็นผลเร็วขึ้น ขณะที่พระเอกยังคงไม่สามารถใช้เนตรของตัวเองได้เหมือนคนอื่น ทำให้เขารู้สึกท้อใจอย่างมาก
“ไม่เป็นไร เรนน” อาจารย์เอ่ยเบาๆ “อาจจะเป็นเพราะคุณยังไม่สามารถควบคุมมันได้เต็มที่ เราจะฝึกกันไปทีละขั้นตอน ถ้ามีอะไรที่คุณสงสัยก็ถามมาได้เลย”
เรนพยักหน้าและพยายามทำตามอีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าทำไมเนตรของตัวเองถึงไม่ปรากฏออกมา แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้และตั้งใจฝึกต่อไป
ในขณะที่เขาฝึกอยู่ มีนักเรียนคนอื่นที่เคยฝึกเสร็จแล้วเดินผ่านมาและเห็นสถานการณ์ของเขา พวกเขาจึงพูดกัน
“อ้าว เรนน ไม่ใช้เนตรของเขาเหรอ? เห็นได้ว่ามีแสงขึ้นมานะ แต่ทำไมไม่เห็นเนตรออกมาเหมือนคนอื่น?” หนึ่งในนักเรียนในกลุ่มสายป้องกันกล่าว
เรนหันไปมองและตอบด้วยเสียงที่อ่อนแอ “ใช่… ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม”
ทุกคนในกลุ่มต่างพากันมองเรนด้วยความสงสัย แต่พวกเขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติม ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าการใช้พลังเนตรไม่ใช่เรื่องง่าย และการควบคุมมันนั้นต้องอาศัยเวลาฝึกฝน
ในขณะที่อาจารย์ยังคงยืนมองเรนด้วยความสงสัยในใจ คนอื่นๆ ในกลุ่มยังคงฝึกต่อไป และเรนก็ตั้งใจที่จะพยายามอีกครั้ง เพราะเขารู้ดีว่า หากเขายังยอมแพ้ ก็ไม่มีทางที่จะเติบโตและพัฒนาตัวเองได้
การฝึกฝนของทุกคนในวันนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น และในใจของเรนก็ยังคงมีความหวังที่ว่าในวันหนึ่ง เขาจะสามารถปลดล็อกพลังเนตรของตัวเองและค้นพบสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเขา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments