การพบกับมาริก้าในป่าฝน
ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระทบใบไม้เสียงดังพร่ำพรอด, ข้ากำลังเดินทางไปยังเส้นทางที่ห่างไกลจากหมู่บ้านเมื่อก็พบกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน. มอนสเตอร์ จำนวนมากรุมล้อมสาวน้อยคนหนึ่งในป่าฝน มอนสเตอร์เหล่านั้นกำลังพุ่งเข้าหานางอย่างดุเดือด ข้าหยุดชะงักและรีบวิ่งไปช่วยทันที
ท่ามกลางฝูงมอนสเตอร์ที่รอบล้อม, สาวน้อยคนนี้ไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับใช้ เวทย์เพลิง อันร้อนแรงโจมตีมอนสเตอร์รอบตัวด้วยความสามารถที่ไม่น้อยหน้าผู้ใหญ่ แต่ยังมีการเคลื่อนไหวที่ขาดประสบการณ์เมื่อเจอศัตรูหลายตัวในคราวเดียว
ข้าไม่รอช้า ใช้ทักษะนักรบของข้าเข้าไปจัดการศัตรูอย่างรวดเร็ว ใช้ดาบของข้าตัดฟันมอนสเตอร์ที่เข้ามาใกล้ และช่วยเหลือสาวน้อยจากการถูกล้อมจนหมดสิ้น
หลังจากการต่อสู้จบลง สาวน้อยคนนั้นก็หันมามองข้าและกล่าวคำขอบคุณ
มาริก้า (Mariika), สาวน้อยผู้ใช้ เวทย์เพลิง, ดูเหมือนจะมีความรู้สึกประหลาดใจที่ข้าเข้ามาช่วยเหลือ นางสวมเสื้อผ้าเปียกโชกไปด้วยฝนและมีบาดแผลเล็กน้อยจากการต่อสู้ แต่นางกลับไม่แสดงอาการหวาดกลัวใดๆ
“ข...ขอบคุณท่านนักรบ ข้าเกือบจะไม่รอดแล้ว” มาริก้าพูดด้วยน้ำเสียงที่ยังสั่นอยู่เล็กน้อย ขณะที่นางค่อยๆ รวบรวมความกล้า
“ไม่เป็นไร, ข้าแค่ทำตามที่ควรจะทำ” ข้าตอบ นึกถึงความฝันที่จะช่วยเหลือผู้คนให้ปลอดภัยจากภัยอันตราย
มาริก้าหันไปมองข้าอย่างขอบคุณ ก่อนจะถามด้วยความสงสัย
“ท่านนักรบ...ท่านคงไม่ใช่แค่คนเดินทางธรรมดาใช่ไหม? ท่านดูเหมือนมีพลังมาก”
ข้า พยักหน้าเล็กน้อย “ข้าเป็นนักรบ...แต่ตอนนี้ข้ากำลังเดินทางเพื่อค้นหาวิธีล้างคำสาปที่ทำให้ข้า...กลายเป็นซอมบี้” ข้าพูดเบาๆ ในที่สุด หลังจากที่ได้มีโอกาสพูดถึงสภาพของตนเอง
“ซอมบี้...?!” มาริก้าทำท่าตกใจ ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้น “ถ้าอย่างนั้น...ท่านก็ต้องมีกลวิธีหรือวิธีการที่ข้าช่วยได้ใช่ไหม? ข้าจะช่วยท่านให้ได้”
ข้าเห็นแววตาของมาริก้าที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ มันทำให้ข้าอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอมีเรื่องราวอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอเต็มใจช่วยเหลือแม้จะยังไม่รู้จักกันดีนัก
“มาริก้า...เจ้าคือใคร?” ข้าถามด้วยความสงสัย
“ข้าเป็นนักเวทย์เพลิง ที่ถูกส่งมาจากเมืองไฟ” มาริก้าตอบพร้อมกับการแนะนำตัว “ข้าไม่ใช่คนธรรมดา ข้าเป็นผู้ฝึกเวทย์ที่พึ่งเริ่มต้นฝึกฝนด้วยตัวเอง ข้าใช้เวทย์เพลิงได้ในระดับหนึ่ง แต่มันยังไม่สมบูรณ์เพียงพอ”
ข้า คิดในใจว่า— การเดินทางนี้อาจไม่เหงาและยากลำบากอีกต่อไป หากข้าได้ร่วมเดินทางกับสาวน้อยผู้มีพลังเวทย์เพลิงที่ยังไม่สมบูรณ์ แต่เต็มไปด้วยความตั้งใจและความมั่นใจ ข้าจะสามารถหาแนวทางในการเอาชนะคำสาปนี้ได้
“หากเจ้ามีเวทย์เพลิง และเจ้าต้องการช่วยข้า... งั้นข้าจะขอให้เจ้าเดินทางร่วมกับข้าด้วย เราจะหาวิธีแก้คำสาปนี้ไปด้วยกัน” ข้าพูดออกไปอย่างจริงจัง
มาริก้าพยักหน้ารับด้วยท่าทีแน่วแน่ “ข้าจะไม่ยอมให้ท่านอยู่คนเดียวในเส้นทางนี้ ข้าจะช่วยท่านอย่างสุดความสามารถ!”
ตอนนี้, ข้ากับ มาริก้า ได้เป็นพันธมิตรในเส้นทางอันยากลำบากนี้—การเดินทางเพื่อหาวิธีล้างคำสาปซอมบี้และอาจจะพบเรื่องราวใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่การผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น.
___
ความสงสัยในตัวมาริก้า
ข้าได้มอง มาริก้า อย่างละเอียดอีกครั้งหลังจากที่ได้ยินคำพูดของนาง การที่นางใช้เวทย์เพลิงได้แม้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่นั่นก็ไม่อาจปิดบังสิ่งที่ข้าเพิ่งได้รู้จากพลังส่องสเตตัสของข้า
ระดับพลังของมาริก้า: SSR
นางมีพลังที่เกินขอบเขตของมนุษย์ปกติไปแล้ว ข้าไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะพบกับใครที่มีพลังระดับนี้ แม้จะเป็นเพียงแค่เด็กสาวที่ดูเหมือนจะอ่อนแอ แต่การที่มีพลังระดับ SSR นั่นไม่ธรรมดาเลย
ครึ่งปีศาจหรือไม่?
มันเป็นคำถามที่ข้าถามตัวเองอยู่ตลอดเวลา มาริก้าอาจจะเป็นเพียงแค่เด็กสาวที่หลงทางในป่า แต่ด้วยพลังที่สูงลิ่วขนาดนี้ บวกกับการที่นางใช้เวทย์เพลิง—ซึ่งเป็นเวทย์ที่บางทีจะพบได้ในเผ่าปีศาจบางชนิด—ข้าก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าอาจมีบางสิ่งที่นางซ่อนอยู่
แต่ข้าไม่ได้ถามออกไป
แม้จะมีคำถามมากมายในใจ แต่ข้าเลือกที่จะไม่ถามมันออกไปในตอนนี้ ข้ารู้ว่าการถามเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้อาจจะทำให้บรรยากาศระหว่างข้ากับมาริก้าแปลกไป ข้าจะยังคงไว้ใจในความตั้งใจของนางและเดินทางไปด้วยกันเพื่อหาทางแก้คำสาปของข้า
มาริก้า ดูเหมือนจะเป็นคนที่มีความลับซ่อนอยู่ในตัวเอง แต่จนถึงตอนนี้นางก็ยังคงเป็นเพื่อนร่วมทางที่เต็มใจช่วยข้า ข้าไม่คิดว่าจะมีอะไรน่ากลัวไปมากกว่านี้
“ข้ารู้ว่าเจ้ามีบางอย่างซ่อนอยู่... แต่ตอนนี้สิ่งที่ข้าต้องการที่สุดคือการช่วยเหลือจากเจ้าจริงๆ” ข้าพูดออกไปโดยไม่มีท่าทีสงสัย เพราะในใจข้าก็ไม่ได้อยากมองนางเป็นศัตรู
มาริก้าหันมามองข้าพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ และกล่าวออกมา “ข้าจะช่วยท่านให้ดีที่สุด... ไม่ว่าท่านจะเห็นข้าเป็นอย่างไร ข้าจะเป็นพันธมิตรที่ดีในเส้นทางนี้”
ในขณะที่เราก้าวเดินต่อไป ข้ารู้ว่าอาจจะต้องเจอกับอันตรายมากมายจากการที่มีมาริก้าอยู่ข้างกาย แต่ข้าก็ไม่สามารถปล่อยให้สงสัยครอบงำจิตใจได้ ข้าจะเดินไปตามทางของตัวเอง พร้อมกับมาริก้า—ผู้ใช้เวทย์เพลิง และมีพลังอันเกินขอบเขตที่ข้าไม่สามารถมองข้ามได้.
ใต้แสงจันทร์ในคืนที่เงียบสงัด และกองไฟที่ลุกโชติช่วง อากาศเย็นและแสงไฟทำให้บรรยากาศดูน่าอัศจรรย์ แต่ข้ากลับรู้สึกถึงความเศร้าสร้อยจากเรื่องราวที่มาริก้าเริ่มเล่าให้ฟัง ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูหนักใจและท่าทีที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
มาริก้าเริ่มต้นเล่าให้ข้าฟังถึงอดีตของนางอย่างเปิดอก โดยไม่ต้องหลบหลีกคำถามใดๆ “ข้าสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก... พ่อของข้าคือปีศาจและแม่ของข้าก็เช่นกัน ทุกคนเกลียดข้าเพราะข้าคือผลลัพธ์ของความรักระหว่างปีศาจและมนุษย์ ข้าไม่เคยรู้สึกถึงความรักจากใครนอกจากนักปราชญ์ที่รับข้าไปเลี้ยง... เขาทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและอาจารย์ให้ข้า จนกระทั่งข้าอายุ 11 ปี”
น้ำเสียงของมาริก้าแสดงให้เห็นถึงความเศร้าแต่ก็เต็มไปด้วยความเคารพในนักปราชญ์ผู้นั้น “เมื่อพ่อของข้าออกไปหาของป่า เขาก็ไม่กลับมา...เขาถูกมอนสเตอร์ฆ่าตาย ทิ้งให้ข้าและแม่ต้องประคองกันอยู่สองคน”
ข้ารู้สึกถึงความเศร้าในเรื่องราวของมาริก้า และสิ่งที่ทำให้ข้าคิดหนักก็คือช่วงเวลาที่เธอต้องเผชิญในชีวิตวัยเด็ก
“แล้วก็เกิดหน้าแล้งในหมู่บ้านนั้น... ทุกคนต่างรังเกียจข้าและแม่... พวกเขาทำให้แม่ของข้าถูกประหารชีวิต พวกเขากล่าวหาว่าแม่ของข้าคือความวิบัติของหมู่บ้าน ข้าอายุแค่ 4 ขวบตอนนั้น... แม้ข้าจะหนีรอดมาได้ แต่ข้าก็เกือบจะตายอยู่แล้ว...” มาริก้าเงียบไปสักพัก น้ำตาเกือบจะไหลออกมา แต่เธอก็พยายามกลั้นมันไว้
“หลังจากนั้นข้าได้สัมผัสไฟร้อนจากโลกันต์... และพลังของข้าก็ตื่นขึ้น ข้าใช้ชีวิตอยู่ในป่าหลายเดือนจนเจอเข้ากับนักปราชญ์ผู้ที่รับข้าไปเลี้ยง... เขาทำให้ข้ารู้จักการควบคุมพลังของตัวเอง จนกระทั่งอาทิตย์ที่แล้ว... ท่านนักปราชญ์ได้เอาสมุดเวทย์มนต์ขั้นสูงมาให้ข้าและบอกให้ข้าหนีไป” มาริก้าหยุดนิ่งและหันมามองข้าด้วยดวงตาที่มีความหมองหม่น
“แต่มันไม่ง่ายเลย... กองทัพจอมมารบุกเข้ามาและต้องการสมุดนั้น... เขาพยายามทำลายท่านนักปราชญ์และพยายามฆ่าข้า ท่านนักปราชญ์บอกให้ข้าหนีไป แม้ข้าจะฆ่ามอนสเตอร์ได้ แต่เมื่อมันมีมากเกินไป ข้าก็ไม่อาจสู้ได้เต็มที่ และมันเหมือนจะมีมือมองมาจากทางจอมมาร ท่านจอมมารรู้ว่าข้าอยู่ที่นี่แล้ว... เขาส่งพวกมอนสเตอร์มาเพื่อจับตัวข้า...” มาริก้าพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย
“จนกระทั่ง... ท่านมาช่วยข้าเอาไว้” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงขอบคุณ แม้จะเจ็บปวดจากการเล่าเรื่องราวทั้งหมด แต่ก็มีความอบอุ่นในคำพูดของเธอ
ข้าสามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดและความสูญเสียในอดีตของมาริก้า แม้เธอจะพยายามซ่อนความเศร้า แต่ข้าก็รู้ว่าเธอกำลังแบกรับความหนักหน่วงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในชีวิต นางไม่เพียงแต่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่รู้จักหยุดยั้ง แต่ยังต้องต่อสู้กับความรู้สึกที่ลึกซึ้งอยู่ในใจของตนเอง
"มาริก้า... ข้าจะช่วยเจ้าในการต่อสู้กับพวกมัน ข้าจะช่วยแก้แค้นให้พ่อแม่ของเจ้าและทุกคนที่ทำร้ายเจ้า" ข้าพูดออกไปอย่างมั่นใจ
“ขอบคุณท่าน...” มาริก้าเงยหน้าขึ้นและมองข้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ ข้ารู้สึกถึงความเชื่อมั่นที่นางมอบให้ข้า
จากนั้นเราทั้งสองคนก็ร่วมกันมุ่งหน้าต่อไปยังเส้นทางที่ท้าทาย และข้าก็รู้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะไม่ได้ง่าย แต่มันก็เป็นเส้นทางที่ข้าจะต้องเดินไปเพื่อช่วยเหลือนางและค้นหาวิธีแก้คำสาปที่ข้าถูกสาปไว้
ข้ากลับมาอีกครั้งกับมาริก้าใต้แสงจันทร์ที่เงียบสงัด หลังจากที่นางได้มอบสมุดเวทย์มนต์ให้ข้า พร้อมคำพูดที่สัญญาว่าจะไม่มีวันทรยศต่อผู้มีพระคุณ ข้าสามารถรู้สึกถึงความมั่นคงและความเชื่อใจที่นางมอบให้ข้า แม้จะมีอดีตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ข้าเปิดสมุดเวทย์ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง หน้าแรกของสมุดเขียนด้วยตัวอักษรโบราณที่ข้ารู้จักบ้างเล็กน้อยจากการเรียนรู้วิชามาจากนักปราชญ์ แต่ยังคงมีหลายคำที่ข้าต้องใช้พลังเวทย์เพื่อแปลมัน
เมื่อข้าเปิดไปยังหน้าถัดไป ข้าพบข้อความที่น่าตกใจ... จอมมารไม่ได้ต้องการสมุดเวทย์นี้เลย! สิ่งที่เขาต้องการคือ สร้อยอัญมณีล้ำค่า ที่ซ่อนอยู่ในสมุดนี้ ข้าสงสัยว่าทำไมสร้อยนี้ถึงถูกเก็บไว้ในสมุดเวทย์ และทำไมจอมมารถึงต้องการมันถึงขนาดนี้
มาริก้าพูดเสียงต่ำๆ ขณะที่ข้ามองไปที่สร้อยในสมุด “ข้าก็ไม่รู้... ข้าพบสร้อยนี้ในบ้านของท่านนักปราชญ์ตอนที่ท่านสั่งให้ข้าหนีไป... ท่านบอกว่าอย่าทิ้งมันไป และให้เก็บรักษาไว้ตลอดชีวิต แต่ข้าก็ไม่เคยรู้เลยว่ามันมีความสำคัญอะไร”
ข้าพิจารณาสร้อยที่ดูเหมือนจะเป็นอัญมณีที่ไม่ธรรมดา อัญมณีที่มีแสงระยิบระยับคล้ายกับพลังเวทย์ที่ซ่อนอยู่ภายใน แต่ทำไมจอมมารถึงต้องการมัน? สร้อยนี้มีคุณค่ามากเกินไปสำหรับแค่การตกแต่ง
“ถ้าเจ้าบอกว่าไม่รู้ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน...” ข้าพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ ให้กับมาริก้าเพื่อปลอบใจ
ข้าหันกลับมาพิจารณาเส้นทางข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ข้าเข้าใจแล้วว่าจอมมารต้องการสร้อยนี้เพื่อจุดประสงค์บางอย่างที่ยังไม่เปิดเผยออกมา การค้นหาความลับที่ซ่อนอยู่ในสร้อยนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยข้าหาทางแก้คำสาปของข้าได้
"มาริก้า..." ข้าหันไปหานาง “เราจะหาคำตอบให้ได้ ว่าทำไมจอมมารถึงต้องการสร้อยนี้ และถ้าเราสามารถหาวิธีใช้มันให้เป็นประโยชน์ เราจะหยุดแผนการของเขาได้”
มาริก้าพยักหน้ารับ ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “ข้าจะอยู่ข้างท่านเสมอ ข้าจะช่วยท่านตามหาคำตอบนี้ให้ได้ ไม่ว่ามันจะนำไปสู่ทางไหนก็ตาม”
การเดินทางของเราจะไม่ง่าย แน่นอน แต่ข้าก็รู้ดีว่าเราจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ใหญ่ขึ้นและแผนการที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แต่ในตอนนี้ ข้าจะไม่ยอมให้คำสาปหรือความมืดมิดใดๆ มาหยุดข้าได้
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 19
Comments