"ต้องมีชื่อกลุ่มด้วยหรอเนี่ยมณี มุกดาเอ่ยพร้อมหัวเราะคิก!! คิก!!"
"งั้นเอาชื่อนี้แล้วกัน "แก๊งสาวฟ้อน" อิงอรที่นั่งเงียบมานานเอยแสดงความคิดเห็นขึ้น"
"ชื่อนี้ดีๆๆ!!!! มุกดาเอ่ยเห็นด้วย"
"อืม.....งั้นเอาชื่อนี้ก็ได้ น้าวาดเอ่ยพร้อมเอามือกุมขมับ"
"มาๆตั้งใจคิดถ้าตั้งใจซ้อมกันเถอะ บุษบงเอ่ย"
นางรำทั้ง ๒๐ ชีวิตช่วยกันคิดท่าและร่วมมือกันซ้อมและฝึกฝนในทุกๆวัน
๑๓ วันในการฝึกฝนอันเข้มข้นกำลังจะล่วงเลยไป กลุ่มนางรำ ๒๐ ชีวิต ผ่านพ้นการซ้อมรำมาได้ด้วยดีท่ารำที่เคยซับซ้อนและยากเย็นกลายเป็นท่วงท่าที่พวกเธอทำได้อย่างคล่องแคล่วและสวยงามราวกับเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน บรรยากาศตอนซ้อมเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและสนุกสนาน เสียงกลองยาวดังกังวานไปทั่วบริเวณ และมีชาวบ้านอีกหลายคนมาให้กำลังใจในการซ้อม ใบหน้าของทุกคนเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขและความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมกันสรรสร้างผลงานชิ้นนี้เหลือเวลาอีกเพียงแค่ ๒ วันก่อนถึงวันแสดงจริงแต่ความพร้อมเพรียงและความสง่างามของทุกคนก็ช่างน่าทึ่ง ทุกท่วงท่าทุกการเคลื่อนไหวของพวกเธอลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ ความสามัคคีและความทุ่มเทของกลุ่มสาวๆทำให้การแสดงครั้งนี้มีความพิเศษและน่าประทับใจอย่างแน่นอน ผู้ชมจะได้สัมผัสกับความงดงามของศิลปะการฟ้อนรำของทางภาคอีสานและความสามารถอันน่าทึ่งของสาวๆเหล่านี้!!!
"เหลือเวลาอีกแค่ ๒ วัน ฉันตื่นเต้นมากจริงๆ มณีกล่าว"
"ใช่ๆใกล้แล้วสินะใกล้ที่พวกเราจะได้ฉายแววแล้วสินะ มุกดาเอ่ยพร้อมท่าทางภาคภูมิใจ"
"บุษบงรีบเดินเข้ามาทางกลุ่มเพื่อนๆพร้อมเอ่ยขึ้นว่า มาแล้วๆๆๆ!!!!!! ทุกคนมาดูเร็วว!!! สวยมากกกก ก.ไก่ล้านตัว!!"
"บุษบงไปลองดูซิ!! น้าวาดเอ่ยบอกบุษบงให้ไปลองชุด"
"ได้เลยจ้าาา!!! บุษบงตอบรับก่อนจะหยิบชุดและเดินขึ้นไปบนบ้านโดยมณีและอิงอรตามขึ้นไปเพื่อช่วยใส่"
เมื่อแต่งเสร็จ บุษบงดูสง่างามในชุดฟ้อนรำที่สวมใส่ เสื้อแขนกระบอกสีขาวพริ้วไหวตัดกับสไบสีครามได้อย่างลงตัว ผ้าถุงสีครามลายนาคที่สวมใส่เกยเข่า และสวมใส่เครื่องประดับสีเงินที่ประดับประดาอยู่ทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ กำไลข้อมือ หรือเข็มขัดก็ยิ่งเพิ่มความงดงามให้กับชุดฟ้อนรำนี้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับผมที่เกล้าอย่างปราณีตและประดับด้วยเครื่องประดับสีเงินและดอกไม้สีขาว
"โหสวยมากกกก!!! บัวชมพูพูดพร้อมในตาที่เปล่งประกาย!! ꒰✪◡✪꒱"
:วิรามึงเห็นไหม ดูพวกมันสิดูภาคภูมิใจมากเลย สุดากล่าว"
"เออเห็นดิตากูไม่ได้บอดสักหน่อย วิราตอบหลังชักสีหน้าใส่สุดา"
"เราจะปล่อยให้พวกมันลอยหน้าลอยตาอยู่แบบนี้ไม่ได้นะ พจน์กล่าว"
"กูไม่ปล่อยพวกมันได้ฉายแววหรอก ไปกลับ!! วิราพูดพร้อมสะบัดหน้าเดินออกไป!!"
"เอิ่มมม......พวกนั้นมาทำไม คงไม่ใช่ว่าคิดเรื่องไม่ดีได้อีกแล้วนะ บุษบงกล่าว"
"อืมน้าก็มีลางสังหรณ์แปลกๆ แต่คงไม่มีอะไรหรอกกลับไปพักผ่อนกันได้แล้ว เอิมแล้วก็ ๒ วันนี้ก็พักผ่อนนะ เจอกันอีกทีวันที่ ๑๗ มาแต่งหน้าแต่งตัวซักประมาณ ๐๓:๐๐ น. นะ น้าวาดกล่าวก่อนจะหันหลังแล้วก้าวขึ้นบันไดไป"
ตกดึกของวันนั้น ทุกคนพร้อมนะ วิรากระซิบเสียงแผ่วเบาให้เพื่อนร่วมแก๊งฟังขณะที่พวกเขารอบเข้ามาในบ้านน้าวาดในยามวิกาลดวงจันทร์ส่องแสงจางๆเผยให้เห็นเงาของพวกเขาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
"ชุดของพวกมันอยู่ห้องไหนวะ สุดาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่กระวนกระวาย"
"ตามมา!!! วิราตอบพรางนำทางเพื่อนๆไปยังห้องเก็บชุดที่เห็นไว้เมื่อตอนบ่าย"
เมื่อมาถึงห้องที่ต้องการ พวกเขาก็เปิดประตูเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ดวงตาของวิรา ส่องประกายด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเห็นชุดฟ้อนรำที่สวยงามที่แขวนเรียงรายอยู่!!!
"เริ่มกันเลย!!! วิราสั่งการทันที"
วีระและอานนท์รับหน้าที่ดึงชุดออกมาจากไม้แขวนส่วนสุดาและวลัยก็หยิบกรรไกรที่เตรียมมาขึ้นมาตัดชุดฟ้อนรำจนขาดวิ่น!!
ในขณะที่พวกเขากำลังลงมือทำลายชุดอยู่นั้นเองเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากด้านนอกห้อง วิราและผองเพื่อนรีบซ่อนตัวกันอย่างวุ่นวาย
"ใครอยู่ตรงนั้น เสียงของวาดดังขึ้น"
"อย่าให้ฉันจับได้นะ!!! บุษบงตะโกนธรรมมาติดๆ!!"
วิลาและเพื่อนๆต่างก็ตกใจจนใจหายวาบ พวกเขาไม่คิดว่าจะถูกจับได้ง่ายขนาดนี้!!
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments